หุ้น

“กลยุทธ์การซื้อหุ้น: ซื้อเมื่อไหร่ให้ได้เปรียบ”


“กลยุทธ์การซื้อหุ้น: ซื้อเมื่อไหร่ให้ได้เปรียบ” คอลัมน์: Investing Tactic โดย ศศิวรรณ พงศ์พลาญชัย (โค้ชโบลิ่ง) วิทยากรพิเศษ โครงการ SITUP


สำหรับนักลงทุนมือใหม่ คำถามเรื่อง “ซื้อหุ้นตอนไหนดี” คงถือเป็นคำถามโลกแตก เพราะใคร ๆ ก็อยากซื้อแล้วทำกำไรโดยไม่ต้องรอนาน แต่ในความเป็นจริงไม่มีวิธีที่ง่ายหรือแน่นอนเช่นนั้น การซื้อหุ้นไม่มีสูตรสำเร็จ นักลงทุนจึงต้องสร้างระบบเทรดที่ตอบสนองต่อเป้าหมายและความต้องการของตนเอง


ในบทความนี้ เราจะพูดถึงรูปแบบการซื้อหุ้นเชิงเทคนิคอล ซึ่งแต่ละรูปแบบมีข้อดี ข้อเสีย และจุดซื้อที่แตกต่างกัน ดังนี้: 


1. ซื้อเมื่อราคาย่อตัว


เหมาะสำหรับตลาดที่ไม่ Bullish หรือเป็น Sideway


  •  ข้อดี: ความเสี่ยงต่ำ และสามารถตั้งจุด Stop Loss แคบได้
  •  ข้อเสีย: อาจต้องถือรอนาน เพราะไม่แน่ใจว่าราคาจะเริ่มวิ่งเมื่อไหร่
  •  จุดซื้อ: เมื่อเกิดสัญญาณแท่งเทียนกลับตัว หรือเมื่อราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (EMA5)


2. ซื้อเมื่อราคา Break Out


เหมาะสำหรับตลาดที่มีแนวโน้ม Bullish ชัดเจน


  •  ข้อดี: หากซื้อถูกจังหวะ หุ้นมักจะวิ่งต่อทันที ทำให้เห็นกำไรเร็ว
  •  ข้อเสีย: ความเสี่ยงจาก False Break หรือการพักตัวของราคา
  •  จุดซื้อ: เมื่อราคาทะลุแนวต้านสำคัญที่เคยเป็นจุดต้านก่อนหน้า




ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกกลยุทธ์การซื้อ


1. สภาวะตลาดโดยรวม (Bullish, Sideway, Bearish)
2. พฤติกรรมของหุ้น เช่น หุ้นตัวนั้น ๆ มักเกิด False Break หรือไม่
3. บุคลิกของนักลงทุนเอง เช่น ความถี่ในการเทรด เวลาที่มีในการติดตามตลาด และลักษณะไลฟ์สไตล์


สิ่งสำคัญที่นักลงทุนทุกคนต้องมี


ไม่ว่าจะเลือกซื้อหุ้นตอนไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ “จุด Stop Loss” ไม่มีระบบเทรดหรือกลยุทธ์ใดที่ทำกำไรได้ 100% ตลอดเวลา จุด Stop Loss จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันพอร์ตโฟลิโอไม่ให้เสียหายเกินควบคุม


จากคำถามว่า “ควรซื้อหุ้นตอนไหน?” คำตอบของผู้เขียนคือ ซื้อเมื่อคุณพร้อม และความพร้อมในที่นี้หมายถึง คุณมีจุดซื้อ จุดขาย และจุด Stop Loss ที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีวินัยในการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปตามระบบเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ


แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับฐานเศรษฐกิจ
https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/612407
X