ธุรกิจ

เปิดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่งปี 2568 ยังไงก็ไปรอด


มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดโผ 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง และธุรกิจดาวร่วง ปี 2568 เช็กลิสต์กันว่า กิจการไหนรอด - ใครต้องลุ้น


จากสภาพเศรษกิฐตอนนี้ดูเหมือนว่าการลงทุนทำธุรกิจต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้านั้นมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละปีจึงได้เห็นเทรนด์ธุรกิจน่าสนใจเกิดขึ้นมาใหม่มากมาย ในขณะที่ธุรกิจดั้งเดิมบางประเภทกลับต้องปิดตัวลงไปตามวัฏจักร 


ขณะที่ธุรกิจในปี 2568 จะเป็นยังไงนั้น ล่าสุด ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยผลจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง และ 10 อันดับธุรกิจดาวร่วงประจำปี 2568 ซึ่งเราสามารถนำไปใช้วางแผนในการเลือกทำธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่อได้ในอนาคต




10 อับดับธุรกิจดาวรุ่ง มีแววปัง หาเงินเข้าไม่หยุด 


  •  อันดับ 1


     1. ธุรกิจการแพทย์และความงาม เป็นผลมาจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพของไทย 
     2. ธุรกิจ Cloud Service โดยในอนาคตจะมีการใช้เทคโนโลยี AI และ IoT (Internet of Things) มากขึ้น
     3. ธุรกิจบริการ Cyber Security เนื่องจากเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การโจรกรรมข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน


  •  อันดับ 2


     1. ธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
     2. ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์, ธุรกิจ YouTube, การรีวิวสินค้า และ Influencer เนื่องจากคนใช้สื่อดิจิทัลกันมากขึ้น


  •  อันดับ 3


     1. ธุรกิจ E-commerce (ธุรกิจที่ทำการซื้อ-ขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์)
     2. ธุรกิจ Soft Power ไทย โดยเฉพาะซีรีส์ ภาพยนตร์ ที่ภาครัฐกำลังผลักดันให้เกิดกระแสความนิยมของวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ  
     3. ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์ เป็นสื่อที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ แต่สามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง




  •  อันดับ 4


     1. งานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ Event จากแคมเปญ "Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025" ของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว
     2. ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากการจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ

 

  •  อันดับ 5


     1. ธุรกิจความเชื่อ (สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย) เป็นที่พึ่งทางใจ ตามมาด้วยวิวัฒนาการใหม่ ๆ ของบริการ เช่น วอลเปเปอร์มือถือรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์, เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของวัตถุมงคล เป็นต้น
     2. ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจำนำ เป็นผลจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น
     3. ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต จากการเข้าสู่สังคมผู้อายุ




  •  อันดับ 6


     1. ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้านรายวัน การซ่อมแซมอุปกรณ์ เป็นต้น ตอบโจทย์คนในสังคมที่มีความเร่งรีบ ต้องการประหยัดเวลา
     2. ธุรกิจผับ บาร์ คาราโอเกะ เป็นผลมาจากได้รับการผ่อนปรนกฎระเบียบจากภาครัฐ


  •  อันดับ 7


     1. คลินิกกายภาพ เติบโตขึ้นจากปัญหาออฟฟิศซินโดรมของคนวัยทำงาน
     2. ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (ธุรกิจ EV Charging Station) และติดตั้งระบบ เนื่องจากคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น เพื่อประหยัดพลังงาน
     3. ธุรกิจรถยนต์ EV ค่ายรถ EV ต่างแข่งขันด้านราคา ทำให้รถมีราคาถูกลง  
     4. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ขายอาหาร อุปกรณ์และแฟชั่น และดูแลสัตว์ เกิดขึ้นจากเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เป็นสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization) ขยายตัวสูงขึ้น

 

  •  อันดับ 8


     1. ธุรกิจด้านการเงินธนาคาร Fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี จากการใช้จ่ายผ่านการทำธุรกรรมออนไลน์
     2. ธุรกิจตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่ม อาหาร และธุรกิจเครื่องสะดวกซัก เป็นระบบที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนได้ สามารถเปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
     3. ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งภาครัฐเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

 

  •  อันดับ 9


     1. ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณสื่อสารต่าง ๆ เติบโตขึ้นตามความต้องการการใช้งานของคนไทย
     2. ธุรกิจโลจิสติกส์ (Delivery) และคลังสินค้า จากพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ รวมถึงการสั่งอาหาร, รับ-ส่งเอกสารที่มีความต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้น
     3. ทนายความและตรวจสอบบัญชี โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจระหว่างประเทศ การลงทุน และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งการให้คำปรึกษากฎหมายต่าง ๆ
     4. ธุรกิจ Street Food และตลาดนัดกลางคืน ได้รับปัจจัยหนุนจากกระแส Soft Power ในด้านอาหาร อีกทั้งการมีรีวิวจาก Influencer ทำให้คนออกไปท่องเที่ยวตาม

 

  •  อันดับ 10


     1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (ที่ไม่มีแอลกอฮอล์) มาตามเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ เช่น Plant based, เครื่องดื่ม Functional Drink รวมถึงการออกไปรับประทานอาหารตามรีวิว
     2. ธุรกิจพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์ เพื่อทดแทนพลังงานทั้งก๊าซและน้ำมันที่ราคาค่อนข้างผันผวน
     3. โรงพยาบาล คลินิกเกี่ยวกับสัตว์ เป็นผลมาจากคนโสดและผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น จึงมีความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น




ส่วน 10 อันดับธุรกิจดาวร่วง มีดังนี้


  •  อันดับ 1


     1. ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่า CD และ VDO

 

  •  อันดับ 2


     1. ธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีแพลตฟอร์มออนไลน์

 

  •  อันดับ 3


     1. ธุรกิจผลิต-จำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น Thumb Drive

 

  •  อันดับ 4


     1. บริการส่งหนังสือพิมพ์


  •  อันดับ 5


     1. ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม


  •  อันดับ 6


     1. ธุรกิจถ่ายเอกสาร


  •  อันดับ 7


     1. ธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิมที่ไม่มีการดีไซน์ใหม่

 

  •  อันดับ 8


     1. ธุรกิจรถยนต์มือสอง


  •  อันดับ 9


     1. ธุรกิจร้านขายเครื่องเล่นเกม


  •  อันดับ 10


     1. ธุรกิจผลิตกระดาษ
     2. ธุรกิจร้านโชห่วย


อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567 จะพบว่ามีธุรกิจดาวรุ่งในปี 2567 ที่ไม่ติด 10 อันดับแรกของปี 2568 อยู่หลายประเภท ได้แก่ ธุรกิจ E-Sports เกม, ธุรกิจตลาดเพื่อการท่องเที่ยว, ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง


อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 ยังมีธุรกิจใหม่ๆ ติดอันดับเข้ามาแทน เช่น ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม , ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า , คลินิกกายภาพ , โรงพยาบาล คลินิกรักษาสัตว์ เป็นต้น ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเพื่อตอบโต้กับไลฟ์สไตล์ของผู้คน




ข้อมูลจาก ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย


แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจ
https://www.thainewsonline.co/news/879163
X