ข่าวทั่วไป
สายเทคก็ไม่เว้น ผวา AI แย่งงาน
สื่อนอกเผยตัวเลขการว่างงานด้านไอทีในสหรัฐ
พุ่งสูง 4.3% แซงหน้าการว่างงานโดยรวม เหตุเพราะหลายบริษัทใช้ AI
เข้ามาทดแทนแรงงานคนมากขึ้น
วันที่ 9 ตุลาคม 2566 เดอะวอลล์สตรีตเจอร์นัล (The
Wall Street Journal) รายงานว่า การว่างงานด้านไอทีในสหรัฐอเมริกา
เมื่อเดือนกันยายน 2566 สูงถึง 4.3%
แซงหน้าอัตราการว่างงานโดยรวมในประเทศที่ 3.8%
ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการจ้างงานด้านไอทีอาจชะลอตัว
เนื่องจากหลายบริษัทเริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาแทนที่
ทั้งนี้ ในเดือนที่ผ่านมามีผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีว่างงาน 117,000 คน
เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2566 ที่ 106,000 คน โดยรายงานจาก Janco
Associates บริษัทที่ปรึกษาในสหรัฐ
ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
การลดตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมไอที ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ โทรคมนาคม
บริการข้อมูล และการประมวลผลข้อมูล มีจำนวนทั้งสิ้น 14,300 อัตรา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ในเดือนกันยายน 2566
นายจ้างในสหรัฐเพิ่มการจ้างงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำนวน 336,000 ตำแหน่ง
ถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งนับจากเดือนมกราคม 2566
แม้ว่าการจ้างงานในอุตสาหกรรมไอทีจะซบเซา
แต่อัตราการว่างงานโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ผ่านมา
นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุว่า ในปีที่ผ่านมา
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศและผู้นำด้านเทคโนโลยีขององค์กรอื่น ๆ
ถูกบีบให้ลดการจัดทำโครงการด้านไอทีที่มีค่าใช้จ่ายสูง
ในขณะเดียวกันก็ลดการใช้จ่ายบนคลาวด์และซอฟต์แวร์ รวมถึงได้รับแรงกดดันจาก
CEO ให้ขยายการใช้ generative AI ในองค์กรด้วย
จากข้อมูลของ Janulaitis ระบุว่า AI
สามารถลดการเติบโตของตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในอุตสาหกรรมไอที เช่น
การบริการลูกค้าและโทรคมนาคม ในขณะที่พนักงานอีกหลายคนกลัวตกงานเพราะ AI
แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีการ reskill
มาสู่บทบาทใหม่ที่เข้ากับความต้องการในอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น prompt
engineer หรือวิศวกรที่ควบคุมการพัฒนา AI เป็นต้น
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/ict/news-1411343
X