ประกันชีวิต
เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จปี 2566 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์รักษาอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพของไทย
กรุงเทพฯ 5 เมษายน 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ จัดงาน “A Conversation with CEO” โดยนายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566
ด้วยส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ที่สูงเป็นอันดับ 1
ในทุกมาตรวัด(1)และมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 21
ทำลายสถิติผลการดำเนินงานที่ผ่านมากว่า 8 ทศวรรษ
ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งของเอไอเอ ประเทศไทย นอกจากนี้
นายนิคฮิลยังได้บอกเล่าทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเอไอเอ ประเทศไทย
ในปี 2567 เพื่อเป้าหมายในการยกระดับการดูแลคนไทยให้ครอบคลุมครบทุกมิติ
ทั้งมิติด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมถึงสุขภาพการเงิน
สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของเอไอเอที่มุ่งสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น
‘Healthier, Longer, Better Lives’

นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย
กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา
โดยสามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB)
เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 เป็น 24,857 ล้านบาท
จากความสามารถของพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร นอกจากนี้
เรายังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด
(Market Share)(1) ที่สูงที่สุดในทุกมิติ ได้แก่
• ร้อยละ 24 เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่(2)(ANP)
• ร้อยละ 50 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ
• ร้อยละ 57 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง
• ร้อยละ 59 ยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์)
• ร้อยละ 22 ยอดขายประกันกลุ่ม
“ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างโดดเด่นในปี 2566
มาจากการที่เรามีบุคลากรที่มีคุณภาพซึ่งทำให้เอไอเอแตกต่างจากคู่แข่ง
ตลอดจนรูปแบบการทำงานที่เน้น Agility
เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ช่องทางการขายที่แข็งแกร่งทั้งช่องทางพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร
โดยเอไอเอเป็นอันดับ 1 ในตลาด(1) ทั้งในแง่จำนวนตัวแทนที่มีมากกว่า 50,000
คนทั่วประเทศ รวมถึงจำนวนตัวแทนที่ได้รับคุณวุฒิ MDRT
มากที่สุดนับตั้งแต่เอไอเอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของพลังตัวแทนเอไอเอ
และความสำเร็จของการสร้าง AIA Financial Advisor (AIA FA)
ที่เพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 28 สำหรับช่องทางพันธมิตร เอไอเอ
ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน
ในการสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น
นอกเหนือจากนั้น เอไอเอ
ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการดำเนินงานเพื่อส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า
ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในขั้นตอนการพิจารณากรมธรรม์แบบอัตโนมัติ
(STP) ในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 87
เพิ่มศักยภาพในการอนุมัติกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยวได้มากถึง 1,500
กรมธรรม์ต่อวัน และพิจารณาเคลมได้สูงสุดถึง 9,000 เคสต่อวัน
การลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนาบริการดิจิทัลและแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและตัวแทนผ่านแอป
AIA+ และ AIA ONE
เป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้เราก้าวทันยุคดิจิทัลและสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแบบไร้รอยต่อได้อย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายคือการดำเนินธุรกิจอย่างมีวินัยเพื่อมุ่งนำเสนอความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพระยะยาวที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
รวมทั้งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

กลยุทธ์ ABCDEF
เป็นกลยุทธ์ที่เอไอเอมุ่งเน้นเพื่อยกระดับการดูแลและการบริการลูกค้า
พร้อมกับการรักษาอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย
• A – Agency Transformation
การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย
ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผลักดันการทำงานและการให้บริการลูกค้า
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า
พร้อมยกระดับการสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพ
และมุ่งพัฒนาตัวแทนใหม่อย่างต่อเนื่อง
• B – Business Partner Acceleration
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร
โดยเอไอเอมุ่งเสริมความแกร่งของช่องทางขายผ่านพันธมิตรที่มีอยู่เดิม
พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
• C – Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
และมุ่งเปลี่ยนบทบาทจากเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม (Payor) เป็นพาร์ตเนอร์
(Partner) ที่พร้อมดูแลลูกค้าในทุก ๆ วัน
• D – Digitalisation Journey
การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัลเพื่อตอกย้ำการเป็น Digital Insurer
แห่งแรกของประเทศไทย
โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรมด้านดิจิทัลเพื่อเสริมการบริการให้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นผ่าน
All-in-one Application สำหรับลูกค้าและตัวแทน
• E – Employee Wellbeing ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
โดยเอไอเอให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมในที่ทำงาน
และเปิดโอกาสให้พนักงานได้เสนอความคิดเห็น
เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
• F – Future Healthcare
การดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและยั่งยืนเพื่อคนไทย
ด้วยการนำเสนอโซลูชันด้านการดูแลและรักษาสุขภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้า
พร้อมส่งเสริมให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน
ตลอดจนได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล

“เอไอเอ
มุ่งมั่นเดินตามพันธกิจที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น
ซึ่งจากการที่ปัจจุบันเรามองเห็นแนวโน้มที่คนจะมีอายุขัยยืนยาวขึ้นเรื่อย ๆ
และมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 100 ปี
เนื่องด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำ
แต่ในขณะที่อายุสุขภาพกลับไม่ยืนยาวสอดคล้องไปตามอายุขัย
ฉะนั้นในช่วงบั้นปลายชีวิตของหลาย ๆ
คนอาจตกอยู่ในภาวะที่เงินเก็บไม่เพียงพอสำหรับใช้ในการรักษาตัวเองหากเจ็บป่วย
ด้วยเหตุนี้
เอไอเอจึงได้พัฒนาโซลูชันด้านสุขภาพให้สามารถดูแลคนไทยได้ครอบคลุมและคุ้มครองยาวนานขึ้นถึงอายุ
99 ปี(3) รวมทั้งได้ออกแคมเปญ Living to 100
ที่เราตั้งใจผลักดันให้คนไทยเตรียมวางแผนสุขภาพและการเงิน
เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น
“เอไอเอ
ยังคงเดินหน้าดูแลคนไทยในฐานะผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีนวัตกรรมและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง
เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้แก่คนไทยทุกคน” นายนิคฮิล
กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา:
(1) ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนธันวาคม 2566
(2) เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่: เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (FYP) + 10% เบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว (SP)
(3) ความคุ้มครองเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
X