ข่าวการเงิน

บทเรียนการซื้อหุ้นเพราะความโมโหของปู่ Warren Buffett


โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth 24Hrs


บทเรียนการซื้อหุ้นเพราะความโมโหของปู่ Warren Buffett


การเข้าซื้อหุ้นของปู่ Buffett มักจะกลายเป็นตำนานเสมอ และปู่เองก็ย้ำเตือนอยู่บ่อย ๆ ว่า ‘อารมณ์เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อการลงทุน’ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าอาณาจักร Berkshire Hathaway ของปู่ Buffett ที่ยิ่งใหญ่ทุกวันนี้ จริง ๆ แล้วถูกซื้อเพราะ ‘ความโมโห’ ล้วน ๆ


ย้อนกลับไปในปี 2493 Benjamin Graham ผู้เป็นอาจารย์ของ Buffett เคยนำหุ้น Berkshire Hathaway มาวิเคราะห์ แล้วพบว่าราคาหุ้นของบริษัทอยู่ต่ำกว่า ‘มูลค่าสินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิ’ ซึ่งเป็นหุ้นที่ตรงกับหลักการลงทุนในแบบที่ Graham ชื่นชอบ หรือเป็น ‘หุ้นก้นบุหรี่’ ซึ่งตอนนั้น Buffett เองก็แอบเล็งหุ้น Berkshire อยู่เช่นกันครับ


ปู่ Buffett จึงทยอยซื้อหุ้น Berkshire ไปเรื่อย ๆ ผ่าน Warren Buffett Partnership ของเขาที่มีกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นราคาถูกมาก โดยไม่ได้มีความคิดที่จะซื้อกิจการ Berkshire เลยแม้แต่น้อย แต่อาจจะเป็นโชคชะตาที่ทำให้สุดท้ายปู่ Buffett ต้องมานั่งเก้าอี้บริหาร Berkshire ด้วยเหตุผลที่ตัวเขาเองก็บอกว่า “มันเป็นการตัดสินใจที่โง่ที่สุดของผม”


การผิดสัญญาซื้อหุ้นคืนของ Seabury Stanton


ในช่วงปี 2505-2507 ขณะที่ Buffett กำลังทยอยซื้อหุ้น Berkshire เรื่อย ๆ จนมีสัดส่วน 7% ของทั้งหมด คนใหญ่คนโตในบริษัทกลับเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข Seabury Stanton ผู้บริหาร Berkshire ในตอนนั้นประกาศว่าจะขอซื้อหุ้น Berkshire คืนจาก Buffett โดยทั้งคู่ตกลงราคากันได้ที่ 11.50 เหรียญ/หุ้น ในตอนแรก


Buffett ในวัยหนุ่มก็เข้าใจว่าการตกลงนี้เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว เขาคำนวณว่าจะได้กำไรจากการขายหุ้น Berkshire ประมาณ 50% แต่เรื่องดันซับซ้อนไปอีกขั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน Stanton ที่ตกลงราคากับ Buffett ไปแล้ว กลับส่งจดหมายถึงผู้ถือหุ้นทุกคนว่า ‘จะขอซื้อหุ้น Berkshire คืนที่ราคา 11.375 เหรียญ/หุ้น’ ไม่เหมือนที่คุยกันไว้


แน่นอนว่าเมื่อตกลงกันแล้วแต่ไม่ทำตามสัญญา ไม่ว่าใครก็คงโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่เว้นแม้แต่ปู่ Buffett ที่ทั้งใจเย็นและมีเหตุผลก็ยังฉุนเฉียวอย่างหนักจนควันออกหูในตอนนั้นครับ Buffett จึงตัดสินใจจะ ‘ไม่ขายหุ้นคืน’ และ ‘ซื้อหุ้นเพิ่ม’ เข้าไปอีก ถึงแม้ในตอนนั้นราคาหุ้น Berkshire จะสูงขึ้นก็ตาม Buffett ซื้อหุ้นจนมีสัดส่วนในการควบคุม Berkshire และไล่ Stanton ที่มีเล่ห์เหลี่ยมกับเขาออกจนได้ในที่สุด


เหตุผลที่ Buffett ตัดสินใจเข้าซื้อ Berkshire Hathaway และกลายเป็นเจ้าของ Berkshire ถึงทุกวันนี้ จึงเกิดขึ้นจากเหตุผลเดียว นั่นคือ ‘ความโมโห’ แน่นอนว่าตัว Buffett เองก็รู้ถึงเรื่องนี้ครับ และทุกครั้งที่ Buffett ย้อนกลับมาเล่าถึงเหตุการณ์นี้ เขามักจะพูดถึงการตัดสินใจของเขาว่า


“มันเป็นการตัดสินใจที่โง่ที่สุดของผม เพราะธุรกิจสิ่งทอในตอนนั้นไม่มีแนวโน้มจะฟื้นขึ้นมาเลย และ Berkshire จะเสียเงินไปเรื่อย ๆ จากธุรกิจนี้”


ต้องเล่าว่า หลังจากนั้น Buffett ได้พยายามพลิกฟื้นคืนธุรกิจสิ่งทอของ Berkshire ทุกทาง แต่ก็ล้มเหลว ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นคนอื่นคงปิดธุรกิจที่คอยเผาเงินสดทิ้ง แล้วไปลงทุนอย่างอื่นแทน แต่ด้วยความเป็นคนช่างเห็นใจของ Buffett ทำให้เขา ‘จบไม่ลง’ เพราะ Buffett เห็นใจพนักงานใน Berkshire และเลือกจะบริหารบริษัทต่อไป ถึงแม้ว่าธุรกิจกำลังจะจมสู่ใต้บาดาลก็ตาม


หลังจากนั้นไม่นาน Buffett ก็ได้เปลี่ยนทิศทางของ Berkshire ไปทำในสิ่งที่เขาถนัดมากที่สุด นั่นคือ ‘การลงทุน’ นั่นเองครับ  Buffett เริ่มใช้ Berkshire ลงทุนในตลาดหุ้นและทำให้ Berkshire กลายสภาพเป็นบริษัทโฮลดิ้ง โดยตัว Buffett เริ่มเปลี่ยนมาลงทุนใน ‘หุ้นคุณภาพดี’ มากขึ้น แทนที่จะเป็น ‘หุ้นราคาถูก’ เพียงอย่างเดียว


Berkshire Hathaway ได้กลายเป็นอาณาจักรลงทุนของ Buffett หลังจากที่เขาปิดตัว Warren Buffett Partnership ลง และมูลค่าของบริษัทก็เติบโตแบบทบต้นในแนวทางที่ Buffett ต้องการเพื่อให้คุณเห็นภาพว่า Berkshire เติบโตขึ้นมากแค่ไหน ผมจะพาคุณย้อนดูตั้งแต่ที่ Buffett เข้าซื้อ Berkshire แรก ๆ จนถึงทุกวันนี้ครับ


ย้อนอดีตกลับไปช่วงปี 2505


ราคาหุ้น Berkshire ประมาณ 15.00 เหรียญ/หุ้น มูลค่า Berkshire ประมาณ 17 ล้านเหรียญ กลับมาปัจจุบันในปี 2565 ราคาหุ้น Berkshire ประมาณ 430,000 เหรียญ/หุ้น มูลค่า Berkshire ประมาณ 630,000 ล้านเหรียญ


Berkshire สร้างกำไรให้กับ Buffett เป็นแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลตอบแทนอันมหาศาลและควรถูกบันทึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์การลงทุนของโลกเลยครับ แน่นอนว่าตัว Buffett เองก็ได้รับ 3 บทเรียนสำคัญจากการลงทุนใน Berkshire Hathaway ครั้งนี้เช่นกัน ประกอบไปด้วย


  1. อารมณ์เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อการลงทุน

  2. ควรให้ความสำคัญกับ ‘คุณภาพ’ ของหุ้นที่ลงทุน

  3. ไม่ควรไปเสียเวลากับธุรกิจที่ไม่ทำกำไร


ทั้งหมดนี้คือการเข้าซื้อ Berkshire Hathaway ที่โด่งดังของ Warren Buffett ซึ่งเกิดขึ้นจากความโมโหที่ผู้บริหารเก่าของบริษัทที่ผิดสัญญาซื้อหุ้นเพียงแค่ 0.125 เหรียญเท่านั้นเองครับ


เรื่องเล่าของปู่ Buffett จริง ๆ แล้วมีอีกเยอะมาก ด้วยความที่ปู่เป็นนักลงทุนมาตลอดชีวิต ทำให้พบเจอกับการเข้าซื้อหุ้นที่น่าตื่นเต้นหลายครั้ง และเต็มไปด้วยบทเรียนสำคัญที่นำมาสอนนักลงทุนรุ่นต่อ ๆ ไปเสมอ


การเข้าซื้อ Berkshire Hathaway ก็เป็นเหมือน ‘หลักกิโล’ สำคัญที่ช่วยหล่อหลอมปู่ Buffett ให้เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกจนถึงทุกวันนี้เช่นกัน หลังจากนั้น Buffett เริ่มปรับสไตล์การลงทุนของตัวเองเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปได้ว่ามาจากบทเรียนในการซื้อ Berkshire ของเขา รวมไปถึงความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทคนสำคัญอย่าง Charlie Munger ครับ


เมื่อคุณขอคำแนะนำจากปู่ Buffett ทุกคนมักจะเคยได้ยินประโยคดังที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือ “จงซื้อหุ้นที่คุณยินดีจะถือเอาไว้ แม้ว่าตลาดหุ้นจะปิดตัวไปเป็นเวลา 10 ปี”  ทำให้ทุกคนเห็นว่าสไตล์การลงทุนของปู่ Buffett เริ่มเปลี่ยนไป และเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพของธุรกิจมากที่สุด ส่วนเรื่องราคาหุ้นเป็นเรื่องสำคัญรองลงมานั่นเองครับ


และแนวทางการลงทุนในแบบ VI ตามปู่ Buffett จึงเป็นหลักการที่ผมให้ความสำคัญและนำมาสร้างแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึง ‘หุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ อย่างแท้จริง คงไม่แปลกอะไร เพราะใคร ๆ ก็อยากประสบความสำเร็จเหมือนปู่ Buffett จริงไหมละครับ


ผมหวังอย่างยิ่งว่า ทุกคนที่เข้ามาสู่โลกการลงทุนจะได้รู้จักกับปู่ Buffett และประสบความสำเร็จในการลงทุนเช่นเดียวกับปู่ Buffett นะครับ


แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์

https://www.prachachat.net/finance/news-1057040

X