คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ข่าวการเงิน

บอย ท่าพระจันทร์ ในวัย 44 เล่าเรื่องลงทุนเสียหาย 100 ล้าน จากอะไร?

29/04/2024

อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ “บอย ท่าพระจันทร์” โพสต์เฟซบุ๊กวันนี้ วันคล้ายวันเกิดครบ 44 ปี 10 กุมภาพันธ์ 2523 เล่าบทเรียนลงทุน “ทำสนามบอล” เสียหาย 100 ล้าน ขายทิ้งเหลือเงินติดตัว 5 ล้าน นับเป็นการลงทุนที่สร้างความเสียหายให้กับตัวผมเองมากที่สุด วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ “บอย ท่าพระจันทร์” เซียนพระและเซียนหุ้นชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววันนี้ระบุข้อความว่า วันคล้ายวันเกิดครบ 44 ปี 10 กุมภาพันธ์ 2523 ตอน 4 ขวบ พ่อแม่เลิกกัน ผมอยู่กับแม่ วัยเด็ก เรียนโรงเรียนวัดราชสิทธิธาราม (วัดพลับ) มัธยม โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม ปวช. พณิชยการราชดำเนิน (พรธ.) ปวส. พณิชยการราชดำเนิน (รอบค่ำ) มหาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (รอบค่ำ) ถ้าผมมีเงิน ผมก็อยากเรียนเมืองนอก (แต่ไม่มี ได้แต่เรียนรอบค่ำ กลางวันทำงาน) เข้าวงการพระตอนอายุ 13 ขวบ ด้วยเงินเพียง 1,800 บาท จากเงินตรุษจีน ( 31 ปี พอดีในวันนี้) ตอนอายุ 18 บอกกับตัวเองและเพื่อนที่สนิทกันว่า ความฝันอันสูงสุดของผม คือ มีบ้าน 2 หลัง รถ 2 คัน เงินสดอีก 5,000,000 บาท นี่คือที่สุดของผมแล้ว คนเริ่มรู้จัก “บอยท่าพระจันทร์” มากขึ้น ตอนเช่าพระองค์ละล้านกว่า เมื่ออายุ 20 ปี (เด็กคนแรกและคนเดียวในยุคนั้น) อายุ 23 (ซื้อบ้านหลังละเกือบ 10 ล้าน และผ่อนหมด ในเวลา 13 เดือน) อายุ 27 แข่งขันเกมส์ อัจฉริยะข้ามคืน ได้ที่ 1 และทำหนังสือ “เหรียญยอดนิยมอมตะแดนสยาม” เล่ม 1 ปัจจุบันเล่มละ 30,000 บาท อายุ 29 ออกรายการเจาะใจ “เซียนพระร้อยล้าน” ยิ่งทำให้คนรู้จักเด็กคนนี้มากขึ้น ทำสนามบอลและลงทุน 100 ล้าน สุดท้ายขายทิ้ง เหลือเงิน 5 ล้านบาท นับเป็นการลงทุนที่สร้างความเสียหายให้กับตัวผมเองเป็นอย่างมาก บทเรียนนี้ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นเยอะมากครับอายุ 33 เข้าสู่การลงทุน (ตลาดหุ้น) เรียนรู้อยู่หลายปี (กำไรขาดทุน วนอยู่ 6 ปี) และสุดท้ายได้กำไรมหาศาล อายุ 40 เรียนรู้เรื่องของเก่า (เครื่องกระเบื้องและงานถมทอง) กระเพาะปลาเก่า เรียนรู้ 3 เดือน จนแตกฉาน และเข้าใจว่าของสิ่งนี้คือของที่มีมูลค่ามากมาย แต่คนไม่รู้ค่า และทำให้ผมได้กำไรเยอะมาก มันคือของกินที่แพงที่สุดในโลก)และนี่คือเรื่องราวของผม ตั้งแต่เด็กจนโต ตลอดระยะเวลา 44 ปี ในชีวิตของเด็กคนนึงที่ไม่มีโอกาสและไม่มีเงิน แต่มีความทะเยอทะยานที่จะเสาะแสวงหาโอกาส บนเส้นทางความถูกต้อง โดยไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุขต่าง ๆ ด้วยความสามารถเท่าที่มี และกลายเป็น “บอยท่าพระจันทร์” ด้วยวัยเพียง 44 ปี ในวันนี้ ผมทำได้ ทุก ๆ คนก็ทำได้ ผมโชคดีที่ผมเองรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ก่อนคนอื่น ขอบคุณแม่ของผมที่สอนให้ผมเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว และสอนให้ผมเป็นคนดีมีน้ำใจ ขอบคุณภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ และเป็นกำลังใจให้ทุกเรื่อง ขอบคุณลูก ๆ ทั้ง 4 คนของผม ที่จะคอยถามว่าคุณพ่อกลับบ้านดึกจริง ๆ ไม่มาเล่นและกล่อมเด็ก ๆ เข้านอนเลย ขอบคุณทุก ๆ อุปสรรคที่เข้ามา เพราะมันทำให้ผมยิ่งแข็งแกร่งขึ้น #อยากชนะต้องไม่กลัวแพ้ แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1499120

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

สร้างภูมิคุ้มกันการเงิน ด้วยวัคซีนประกันชีวิต

29/04/2024

บทความโดย "วิริทธิ์พล กีรติวิชุกร" ที่ปรึกษาการเงิน AFPTTMวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาพูดถึงประกันชีวิต คงเคยได้ยินบางคนบอกว่ามีเยอะแล้ว เข้าแบงก์ทีก็มีเพิ่มมาเล่มนึง เราเคยมานั่งคิดจริง ๆ ไหมครับว่า ประกันชีวิตสำหรับตัวเราเองมีไว้ทำอะไร และมีเท่าไรเรียกว่าพอ วันนี้จะมาชวนคิดกันเรื่องนี้ครับคนเราทำประกันชีวิตด้วยหลากหลายความต้องการ บ้างก็ทำเพื่อลดภาษี พยายามให้ได้ครบ 1 แสน พอดีแบบไม่ขาด ไม่เกิน พอส่งครบก็หาเติมอย่างนี้อยู่เรื่อย ๆ ทุกปี อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ทางภาษีที่เราได้จากการทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ทางรัฐเปิดสิทธิให้ แต่เราเคยมาย้อนดูไหมครับว่าจริง ๆ เราทำประกันชีวิตเพระต้องการความคุ้มครองจากประกันชีวิตจริง ๆ รึเปล่า ก่อนจะทำประกันชีวิตอยากให้ทุกคนลองพิจารณาจากคำถามเหล่านี้กับตัวเองก่อน1. ถ้าเราไม่อยู่ ในวันนี้มีใครเดือดร้อนบ้าง หรือได้รับผลกระทบจากที่เราไม่สามารถหาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูเขาเหล่านั้นได้ หรือต้องชดใช้หนี้สินที่เราก่อไว้แทนเรา2. ประเมินมูลค่าออกมาเป็นตัวเงินจากการที่เราไม่อยู่ แล้วรายได้ขาดหายไป ตามระยะเวลาที่เหลือถ้าเรายังทำงานได้ต่อทั้งสองคำถาม จะนำมาสู่การคำนวณว่าเราควรมีประกันชีวิตหรือค่าตัวเท่าไรในวันนี้และอนาคต ซึ่งอาจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 ข้อ เป็นเกณฑ์หรือนำมารวมกันก็ได้ครับถ้าเรามีกำลังมากพอ เพราะโดยปกติตัวเลขของข้อ 2 มักจะมากกว่าข้อ 1 โดยเฉพาะคนที่มีเวลาทำงานเหลืออยู่ยาว ๆ และรายได้สูง ๆเมื่อเราได้ตัวเลขที่ต้องการแล้ว ข้อสำคัญคือการนำตัวเลขดังกล่าวมาหักลบกับทรัพย์สินที่เราเตรียมไว้แล้ว ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเลือกคำนวณทุนประกันชีวิตแบบข้อ 1 ของผู้ชายวัย 43 ปี เป็นหัวหน้าครอบครัว   •  ภาระค่าเทอมลูกที่ต้องดูแล จนจบปริญญาตรี ทั้งสองคน 2 ล้านบาท   •  ภาระดูแลคุณพ่อคุณแม่จนอายุ 85 ปี 3 ล้านบาท   •  ภาระผ่อนบ้าน สินเชื่อคงค้าง 3 ล้านบาท   •  เงินกู้เพื่อการลงทุนในธุรกิจ วงเงิน 5 ล้านบาทหัก ทรัพย์สินที่เตรียมไว้แล้ว มูลค่า 5 ล้านบาท (ไม่รวมที่อยู่อาศัย)คงเหลือ มูลค่าทุนประกันที่ขาดอยู่ 8 ล้านบาทเมื่อได้ตัวเลขเป้าหมายแล้ว จึงนำไปเลือกแบบประกันและเบี้ยประกันที่ตอบโจทย์กับความต้องการต่อไป ซึ่งในที่นี้จะขอเปรียบเทียบแบบประกันชีวิต 2 แบบหลัก ๆ ที่นิยมนำมาใช้เพื่อการวางแผนค่าตัวหรือประกันชีวิต ระหว่างแบบตลอดชีพและยูนิตลิงก์ โดยมีใจความสำคัญของแต่ละแบบดังนี้ในขณะที่แบบประกันประเภทยูนิตลิงก์ จะมีมิติความแตกต่างกันในอีกรูปแบบ คือเมื่อเทียบกัน 2 แบบ ระหว่าง ประกันชีวิตแบบตลอดชีพและยูนิตลิงก์ จะพบได้ว่าเราสามารถเลือกให้สอดรับกับความต้องการทุนประกันชีวิตที่แตกต่างของเราได้ โดยคนที่ชอบความแน่นอน คือกำหนดระยะเวลาส่งเบี้ยและความคุ้มครองที่คงที่ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของชีวิตอาจตัดสินใจเลือกแบบประกันตลอดชีพทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะต้องนำมาพิจารณาคือค่าเบี้ยประกัน ซึ่งมักสูงกว่าเบี้ยประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์กว่า 2 เท่า โดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับอายุและเพศ) จากกรณีที่ยกตัวอย่างข้างต้น ชายอายุ 43 ปี มีความต้องการทุนประกัน ส่วนขาดอยู่ 8 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากเบี้ยประกันด้วยทุนประกันที่เท่ากันจะพบว่า เบี้ยประกันแบบตลอดชีพ ตกอยู่ราว 2 แสนสองหมื่นกว่าบาท ในขณะที่ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์ มีค่าเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1 แสนสองหมื่นบาท ถ้าเปรียบเทียบโดยมองมุมนี้ดูเหมือนว่ายูนิตลิงก์ จะได้เปรียบและมีความน่าสนใจสำหรับคนที่มีข้อจำกัดเรื่องกำลังในการส่งเบี้ย แต่เราต้องมองมุมอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น   •  ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมของยูนิตลิงก์ ซึ่งปรับขึ้นตามความเสี่ยงของอายุและเพศ   •  อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพอร์ตกองทุนรวมที่ผันผวนซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้ทุนประกันชีวิตในยูนิตลิงก์ไม่สามารถคงระดับความคุ้มครองให้สูงอยู่ตั้งแต่แรกจนตลอดไปได้ โดยเฉพาะในช่วงอายุสูง ๆ ต้นทุนค่าใช้จ่ายการประกันภัย ที่จัดเก็บจากลูกค้าจะสูงมาก หากมูลค่ากองทุนที่ซื้อไว้ไม่ได้เติบโตจนมีมูลค่ามากพอ ก็จะถูกหักค่าใช้จ่ายจนหมดเสียก่อนดังนั้นการใช้ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์เพื่อปกป้องความเสี่ยงภัยกับหัวหน้าครอบครัวหรือผู้ที่มีรายได้หรือค่าความสามารถสูง ๆ จึงนิยมทำทุนประกันสูงเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่มีความจำเป็นหรือมีส่วนขาดระหว่างเป้าหมายและทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อเติมเต็มช่องว่างดังกล่าวหากประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่เมื่อหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลานั้นแล้วเช่น สะสมทรัพย์สินได้ใกล้เคียงเป้าหมายทางการเงินและภาระความจำเป็นแล้ว หรือภาระหนี้สินลดลงจนสามารถจัดการได้คล่องตัวขึ้นมีส่วนต่างไม่มากนัก ก็สามารถปรับลดทุนประกันลงมา เพื่อให้เงินค่าเบี้ยที่ชำระเข้ามาแต่ละปีไปลงในสัดส่วนของการลงทุนเพิ่มมากขึ้นอันจะส่งผลให้กองทุนในยูนิตลิงก์เติบโตได้อย่างแข็งแรงและรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเงินทุนที่จะออกแบบเพื่อใช้งานด้านอื่น ๆ ได้เช่น การเกษียณ เป็นต้นทางเลือกของประกันชีวิต จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้มีแค่สองทางที่เขียนมาข้างต้น ทางเลือกใช้ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาก็สามารถทำได้ คือยอมเสียค่าเบี้ยเหมือนกับประกันรถยนตร์ที่จ่ายทิ้งไปปีต่อปี โดยไม่ต้องนำเรื่องมูลค่าของกรมธรรม์มาเป็นปัจจัยหลัก เพราะจุดประสงค์คือความคุ้มครองที่ต้องการซึ่งทางเลือกแบบนี้ข้อดีคือค่าเบี้ยประกันจะน้อยกว่าสองแบบแรก และกำหนดระยะเวลาคุ้มครองตามที่ต้องการได้ตามความจำเป็น ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกทางไหนลองประเมินดูตัวเองกันก่อนนะครับว่าเรามีความจำเป็นที่ต้องมีประกันชีวิตมูลค่าเท่าไร และเรามีงบฯที่จะจ่ายค่าเบี้ยได้เท่าไร“การทำประกันชีวิตก็เหมือนการเลือกรับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคร้าย วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เหมาะกับเราในปริมาณที่เหมาะสม และสามารถป้องกันโรคร้ายนั้นได้นะครับ” ด้วยหวังว่าเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว ก็จะสามารถหาแนวทางในการเลือกวัคซีนการเงินที่รองรับความเสี่ยงภัยได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1495393

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ฉลองตรุษจีน ด้วยงานศิลป์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ

29/04/2024

ศูนย์การค้าเมกาบางนา เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน รับปีมังกรมงคลอย่างยิ่งใหญ่ สร้างสรรค์งานศิลปะต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ด้วยการจับมือศิลปินระดับโลก ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ร่วมออกแบบผลงานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในงาน Megabangna Chinese New Year 2024 : Glory of The Dragon จัดเต็มด้วยหลากหลายกิจกรรมที่จะทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษและตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ ตระการตาไปกับแลนด์มาร์คและบรรยากาศมหามงคลรับศักราชใหม่ พร้อมอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหารจีนจากร้านดังกับเทศกาลอาหารในงาน Mega Chinese New Year พร้อมเอาใจขาช้อป ชิล กิน ดื่ม ได้ลุ้นรับของสมนาคุณ Special Limited Edition ที่ออกแบบโดยคุณยูน - ปัณพัทเตชเมธากุล ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567วรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวว่า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ เมกาบางนา ได้จัดงาน Megabangna Chinese New Year 2024 (เมกาบางนา ไชนีส นิวเยียร์ 2024) โดยความพิเศษในครั้งนี้คือการได้ร่วมมือกับคุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ศิลปินระดับโลก มาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Glory of The Dragon (กลอรี่ ออฟ เดอะ ดรากอน) กับการออกแบบลวดลายมังกรและส่วนประกอบอื่นๆ เอ็กซ์คลูชีฟเฉพาะที่เมกาบางนา เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของปีมังกรมงคล ซึ่งได้นำมาต่อยอดบรรยากาศ การเฉลิมฉลองและเสริมประสบการณ์การช้อปปิ้ง ตั้งแต่การตกแต่งบรรยากาศของศูนย์การค้า การสร้างแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าศูนย์การค้าให้ลูกค้าได้เช็คอินถ่ายภาพ รวมถึงของสมนาคุณ Special Limited Edition ที่ออกแบบโดยคุณยูน อาทิ กระเป๋า หมอน ผ้าพันคอ ซองอั่งเปา สติ๊กเกอร์เพื่อมอบเป็นของสมนาคุณสำหรับนักช้อป และยังได้จัดทำ ภาพหน้าจอมือถือให้ดาวน์โหลดได้ฟรีอีกด้วย นอกจากการร่วมสร้างสรรค์งานศิลป์ร่วมกับศิลปินระดับโลกแล้ว ในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ เพื่อให้ทุกท่านได้ก้าวสู่ปีมังกรมงคล ด้วยการแสดงสุดอลังการนำโดย นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ ที่จะสวมบทพญามังกร ผู้เปิดประตูแห่งโชค ส่งมอบพลังความมงคล ความโชคดี ให้กับทุกคน และยังได้จัดงาน Megabangna Chinese New Year ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 - 19 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนด้วยความอิ่มอร่อยจากหลากหลายเมนูคาวหวานจากร้านอาหารชั้นนำ ทั้งอาหารไทย อาหารจีน สตรีทฟู้ดเจ้าดัง ขนมและเครื่องดื่ม ที่จัดเต็มมาให้ทุกคน ทุกวัย ได้เลือกช้อป เลือกชิมกันอย่างจุใจ“การจัดงาน Megabangna Chinese New Year 2024 : Glory of The Dragon เป็นอีกหนึ่งการต่อยอดการจัดกิจกรรมของเมกาบางนาที่ได้นำงานศิลปะเข้ามาผสมผสานในการจัดงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ครั้งพิเศษให้กับลูกค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในครั้งนี้ ตอกย้ำการเป็น YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ของเมกาบางนา ที่พร้อมจะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเราจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมที่จะตอบโจทย์กับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”ทางด้าน ปัณพัท เตชเมธากุล หรือ ยูน ได้กล่าวถึง การสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ ว่า “เนื่องจากปี 2567 นี้ เป็นปีมังกรธาตุไม้ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมงคลและพลังอำนาจ นอกจากความมงคลแล้ว ยังสื่อถึงการเจริญเติบโตงอกงาม ความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการหว่านเมล็ดพันธุ์ เพื่อรอความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ดังนั้น การออกแบบลวดลายมังกรและส่วนประกอบอื่นๆ ในงานครั้งนี้ ยูน ได้จำลอง สวนสวรรค์แห่งปกรณัมจีนหรือเทพมงคลของจีน ที่มีทั้งพืชพรรณและสัตว์มงคลต่างๆ และไฮไลท์อยู่ที่ตัวมังกรก็ถูกประดับด้วยดอกไม้และเมล็ดพันธุ์ต่างๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของมังกรธาตุไม้สำหรับเมกาบางนาโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังขอใช้โอกาสนี้เป็นตัวแทนส่งคำอวยพรให้สิ่งที่ลูกค้าของศูนย์การค้าเมกาบางนา ทุกท่านได้ตั้งใจ และลงมือทำในปีนี้ประสบความสำเร็จ” ปัณพัท กล่าวร่วมสัมผัสกับประสบการณ์งานศิลป์ที่สุดของความเอ็กซ์คลูชีฟ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมังกร ในงาน Megabangna Chinese New Year 2024 : Glory of The Dragon ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชันเมกาบางนา หรือ WWW.MEGA-BANGNA.COM#เมกาบางนา #Megabangna #MegaSmileRewards #MegabangnaChineseNewYear2024 #วันตรุษจีน #YourEverydayMeetingPlaceแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000012659

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

ทำไมต้องปรับพนักพิงบนเครื่องบินให้ตั้งตรงระหว่างการขึ้นลง

29/04/2024

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมลูกเรือบนเครื่องบินถึงขอให้เราปรับพนักเก้าอี้ให้ตั้งตรงทุกครั้งที่เครื่องบินขึ้นลง จริงๆ แล้วมีเหตุผลหลักๆ ด้านความปลอดภัยอยู่ 3 ประการ ดังนี้1. เพื่อความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉินหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น เครื่องบินตกหรือเบรกกระทันหัน การปรับพนักเก้าอี้ให้ตรงจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ศีรษะ คอ และกระดูกสันหลัง ท่าทางการนั่งตัวตรงช่วยกระจายแรงกระแทกไปทั่วร่างกาย แทนที่จะรับแรงทั้งหมดที่ศีรษะและคอ เมื่อพนักเก้าอี้ตั้งตรง เก้าอี้จะถูกล็อคอยู่กับที่ สามารถรับแรงกระแทกได้มั่นคงที่สุด หากเกิดเหตุฉุกเฉินและมีแรงกระแทก จู่ๆ เก้าอี้ที่เอนอาจดีดตัวไปข้างหน้า ทำให้ผู้โดยสารกระเด็นไปด้วย ในทางกลับกัน ขณะเครื่องบินเร่งความเร็ว เก้าอี้ที่เอนอาจกระแทกไปข้างหลัง ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังได้รับอันตรายถึงเข่าได้"2. เพื่อการอพยพฉุกเฉินในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินและจำเป็นต้องอพยพผู้โดยสาร การปรับเบาะตั้งตรงยังช่วยให้ทางเดินโล่งสะดวกที่สุด ซึ่งสำคัญมากในการอพยพฉุกเฉิน นั่นเป็นเหตุผลที่เบาะรอบทางออกฉุกเฉินมักจะเอนได้น้อยหรือเอนไม่ได้เลย เพราะในกรณีฉุกเฉิน ผู้โดยสารอาจลืมหรือไม่สามารถปรับเบาะกลับมาตั้งได้ทัน ถ้าเบาะเอนอยู่ มันอาจทำให้คนที่นั่งด้านหลังออกจากเครื่องช้าลงในกรณีฉุกเฉิน3. เพื่อความปลอดภัยของลูกเรือลูกเรือจำเป็นต้องเคลื่อนที่ไปมาในห้องโดยสารเพื่อดูแลผู้โดยสารและจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การปรับพนักเก้าอี้ให้ตรงช่วยให้ลูกเรือมีพื้นที่ทำงานมากขึ้น และสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกการปรับพนักเก้าอี้ให้ตรงในระหว่างการขึ้นลงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้โดยสารและลูกเรือ ถึงแม้ว่าอาจจะรู้สึกไม่สบายสบาย แต่การปฏิบัติตามคำแนะนำของลูกเรือจะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากการปรับเบาะให้ตั้งตรงระหว่างขึ้น-ลงแล้ว พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินยังแนะนำให้เก็บโต๊ะอาหาร ปิดล็อค เก็บสัมภาระใต้เบาะหน้าหรือช่องเก็บของด้านบน รวมถึงเก็บจอภาพบันเทิงภายในเครื่อง (แบบดึงออกจากที่วางแขนหรือติดกับเบาะแถวฉุกเฉิน) เหตุผลสำคัญก็เพื่อความปลอดภัยอีกเช่นกันแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446763/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

แบงก์ปิดสาขาทั่วประเทศ 196 แห่ง ลดต้นทุน-ลุยดิจิทัลเต็มสูบ

29/04/2024

แบงก์เดินหน้าลดสาขา-จุดให้บริการต่อเนื่องในปี 2567 หวังบริหารจัดการต้นทุน-ลุยช่องทางโมบายแบงกิ้งเต็มสูบ เปิดข้อมูลปี’66 ปิดสาขาเกือบ 200 แห่ง ขณะที่ค่าใช้จ่ายพนักงานยังเพิ่ม ทั้งระบบกว่า 1.24 แสนคน “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ชี้สัญญาณแบงก์ลดสาขาต่อแต่ไม่รุนแรง ตอบโจทย์ลดต้นทุน-พฤติกรรมเปลี่ยน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯปิดมากสุด “ทีทีบี” ปรับรูปแบบ-ไซซ์เล็กลง จ่อเพิ่มในพื้นที่ EEC หลังปริมาณธุรกรรมพุ่ง “CIMBT” ส่อง 3 ปัจจัยหนุนแบงก์ลดสาขา “ลดต้นทุน-เทรนด์ดิจิทัลโต-โรดแมป ธปท.” ปี’66 ปิดสาขาเกือบ 200 แห่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานสรุปจำนวนสาขาและจุดให้บริการของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ณ เดือนธันวาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,489 แห่ง ลดลง 196 แห่ง จากเดือนธันวาคม 2565 ที่มีจำนวน 5,685 แห่ง โดยกลุ่ม 6 ธนาคารใหญ่ ณ สิ้นปี 2566 พบว่า ธนาคารกรุงไทย มีสาขาและจุดให้บริการมากที่สุดจำนวน 966 แห่ง มีการปรับลดลง 29 แห่ง จากปีก่อนหน้า, ตามมาด้วยธนาคารกรุงเทพ มีจำนวน 882 แห่ง ปรับลดลง 9 แห่ง, ธนาคารกสิกรไทย มีจำนวน 814 แห่ง ปรับลดลงไป 16 แห่ง, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 729 แห่ง ปี 2566 ที่ผ่านมามีการปรับลดสาขาและจุดให้บริการ 72 แห่ง อันดับ 5 คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 604 แห่ง ปรับลดลง 28 สาขา และธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี มีจำนวน 532 แห่ง ปรับลดลง 37 แห่ง อย่างไรก็ดี ในส่วนของธนาคารไทยเครดิต ที่เป็นธนาคารน้องใหม่ เป็นแห่งเดียวที่มีสาขาและจุดให้บริการเพิ่มขึ้น โดย ณ เดือนธันวาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 525 แห่ง เพิ่มขึ้น 3 แห่ง จากเดือนธันวาคม 2565 ที่มีอยู่ 523 แห่ง ค่าใช้จ่ายพนักงานยังเพิ่ม สำหรับข้อมูลค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ของไตรมาสที่ 3/2566 อยู่ที่ 39,843 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2566 ที่อยู่ 39,536 ล้านบาท และไตรมาสที่ 3/2565 ที่อยู่ 39,671 ล้านบาท ขณะที่จำนวนพนักงาน ณ ไตรมาสที่ 3/2566 อยู่ที่ 124,271 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2566 ที่อยู่ 124,033 คน แต่ลดลงจากไตรมาสที่ 3/2565 อยู่ที่ 125,242 คน ลดสาขาตอบโจทย์ลดต้นทุน นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมสาขาธนาคารพาณิชย์ในระบบของปี 2567 มองว่า นโยบายยังคงทิศทางปรับลดลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคและความคุ้นชินในการทำธุรกรรม Digital Payment อย่างไรก็ดี อัตราการลดลงของสาขาจะชะลอลงเมื่อเทียบช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารได้ปิดและปรับรูปแบบไปก่อนหน้านี้ค่อนข้างมากแล้ว ภาพการปรับลดลงจะเห็นทั้งในส่วนของสาขาและจุดให้บริการ จากเดิมจะเห็นการลดเฉพาะสาขา และเพิ่มจุดให้บริการแทน ทั้งนี้ เป็นการลดลงในทุกภาคของประเทศ แต่จุดที่มีการปรับสาขาลงเยอะสุด คือ กรุงเทพฯ สอดคล้องกับพฤติกรรมและปริมาณการทำธุรกรรมในการใช้บริการด้านออนไลน์มากขึ้น โจทย์เรื่องสาขาของธนาคารยังเป็นภาพเดิมของการบริหารต้นทุน ซึ่งแนวโน้มอาจเห็นการพิจารณายุบสาขาในห้างมากขึ้น เนื่องจาก 1 ธนาคาร อาจจะไม่ได้มีอยู่ในทุกห้างสรรพสินค้า หากพื้นที่อยู่บริเวณใกล้กัน โดยรูปแบบอาจมีการปิดสาขา ควบรวม หรือย้ายพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนให้คนใช้ช่องทางบริการอื่น เช่น โมบายแบงกิ้ง และทำให้ช่องทางการขายที่มีอยู่มีประสิทธิภาพมากขึ้น “ภายใต้แนวคิดของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เรื่อง Open Data คือการเปิดให้มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลของลูกค้าระหว่างธนาคารได้ ซึ่งจะทำให้บริบทของสาขาและจุดให้บริการของธนาคารแตกต่างไปจากเดิม ทำให้การทำธุรกรรมง่ายขึ้น ทำให้ความจำเป็นของสาขาและจุดให้บริการจะลดลง จะเหลือแต่สาขาที่ไว้ทำธุรกรรมซับซ้อน และที่เหลือจะถูกโอนไปบนแอปพลิเคชั่นโมบายแบงกิ้ง” ttb ปรับรูปแบบ-ลดไซซ์ ด้านนายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทิศทางสาขาของธนาคารยังคงปรับลดลง แต่อัตราการปรับลดลงคงไม่ได้เร่งมากเมื่อเทียบกับในอดีต เพราะมีการปรับลดลงไปพอสมควรแล้ว ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณธุรกรรมสาขามีน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ หรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน อาจจะใช้วิธีการควบรวมสาขา หรือย้ายไปในพื้นที่ไม่ทับซ้อนกัน เป็นต้น ขณะดียวกันรูปแบบสาขาอาจจะเห็นการปรับเปลี่ยนไป โดยมีการปรับลดขนาดพื้นที่สาขาให้เล็กลง ลดจำนวนพนักงานเฉลี่ยต่อสาขาลง เนื่องจากไม่เน้นพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยจะปรับการทำธุรกรรมที่ไม่ซับซ้อนประมาณ 90% โยกไปอยู่บนโมบายแอปพลิเคชั่น “ttb touch” หรือออนไลน์ทั้งหมด รวมถึงเรื่องการขอ Statement เพื่อทำวีซ่า แม้กระทั่งการขอหนังสือค้ำประกัน (L/G) หรือการนำเช็คเข้าบัญชี เป็นต้น เพิ่มสาขาพื้นที่ EEC ธุรกรรมพุ่ง อย่างไรก็ดี นายฐากรกล่าวว่า ธนาคารยังมีแผนการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น ในจังหวัดฉะเชิงเทรา และระยอง พบมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจค่อนข้างดี เห็นสัญญาณของปริมาณธุรกรรมการเงินที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องตามการเติบโตของสังคมเมือง จึงอยู่ระหว่างศึกษาพื้นที่และการเปิดสาขาเพิ่มเติม เพราะเป็นโอกาสขยายธุรกิจของธนาคาร คาดว่าภายใน 6 เดือนน่าจะสามารถสรุปได้ อย่างไรก็ดี คาดว่าในปี 2567 ทีทีบีจะมีการปรับลดสาขาลงราว 10 แห่ง “สาขาคงปรับลดลงอีก แต่อัตราลดลงคงไม่เยอะ เพราะถือว่าช่วงก่อนหน้านี้ก็ปรับลดลงไปค่อนข้างเยอะแล้ว ซึ่งปีนี้เราคาดว่าจะลดลงอีก 10 แห่ง แต่ก็มีเปิดเพิ่มด้วย ซึ่งเรากำลังศึกษาในพื้นที่ EEC เราเห็นธุรกรรมเยอะขึ้น ซึ่งสาขาที่มีอยู่ไม่เพียงพอ เพราะมีการเกิดขึ้นของคอมมิวนิตี้ บ้านและชุมชน จึงเป็นโอกาสที่จะเปิดสาขารองรับ” กรุงศรีฯสาขาเริ่ม “จุดสมดุล” นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การลดสาขาในปี 2567 ทิศทางน่าจะเห็นการปิดสาขาเริ่มลดลงและเข้าจุดสมดุลมากขึ้น เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าธนาคารปรับลดจำนวนสาขากันเยอะพอสมควรแล้ว รวมถึงมีการปรับรูปแบบสาขาให้สอดคล้องตามพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และตามกลุ่มเป้าหมาย เช่น สาขา Smart Branch ที่เน้นเครื่องอัตโนมัติ และสามารถทำธุรกรรมได้ด้วยตัวเอง รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านช่องทางโมบายแบงกิ้ง ทำให้เทรนด์การปิดสาขาเริ่มชะลอลง 3 ปัจจัยหนุนแบงก์ลดสาขา นายเอกสิทธิ์ พฤฒิพลากร ผู้บริหารผลิตภัณฑ์และธนาคารดิจิทัล และรักษาการผู้บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมสาขาของธนาคารยังคงเห็นการลดลงต่อเนื่อง แต่จะเห็นการปรับลดลงจำนวนไม่มากเหมือนช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่มีการปรับลดทั้งสาขา และเครื่องเอทีเอ็มลงค่อนข้างมาก โดยมาจาก 2-3 ปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ 1.ธนาคารต้องการบริหารจัดการต้นทุน เนื่องจากสาขามีต้นทุนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับช่องทางบริการอื่น ๆ เช่น ดิจิทัล เนื่องจากสาขามีต้นทุนทั้งในส่วนของคน ค่าเช่าพื้นที่ ทำให้ธนาคารลดจำนวนสาขาลง โดยเฉพาะในส่วนของสาขา Stand Alone ที่มีปริมาณธุรกรรมน้อยลง ไม่คุ้มกับต้นทุนบริหารจัดการ อาจจะมีการควบรวมในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงหันไปเปิดบนศูนย์การค้ามากขึ้น 2.ทิศทางดิจิทัล ปัจจุบันธนาคารส่วนใหญ่มีระบบยืนยันตัวตน (e-KYC) และสามารถเปิดบัญชีออนไลน์โดยไม่จำเป็นต้องไปสาขา หรือการทำธุรกรรมพื้นฐานผ่านแอปพลิเคชั่นโมบายแบงกิ้งได้เช่นกัน ทำให้ความจำเป็นของสาขาธนาคารลดลงตามพฤติกรรมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป และ 3.สอดคล้องกับแผนการผลักดันของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเรื่องของภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ต้องการเพิ่มปริมาณการใช้ Digital Payment เป็น 2.5 เท่าภายใน 3 ปี และลดการใช้เงินสดด้วยอัตราเร่งเป็น 2 เท่า ภายใน 3 ปี (2565-2567) จะเห็นว่า ธปท.พยายามผลักดันเรื่องการชำระเงินระหว่างประเทศ (QR Cross Border) หลังจากพร้อมเพย์ในประเทศประสบความสำเร็จ รวมถึงแผนการอนุมัติจัดตั้งธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) เพื่อให้เจาะกลุ่มที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Under Bank) และยังมีอีกหลายแผน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนคนไทยใช้ดิจิทัลมากขึ้น “จาก 3-4 ปัจจัยเป็นเหตุผลที่ทำให้สาขาธนาคารลดลง เพราะแบงก์ต้องการลดต้นทุนเรื่องสาขา พฤติกรรมและเทรนด์ดิจิทัล และโรดแมปของ ธปท. ดังนั้นภาพเรายังคงเห็นสาขาและตู้เอทีเอ็มลดลงอยู่ ซึ่งโดยปกติทั้งระบบจะลดลงเฉลี่ย 10% ต่อปี แต่ภาพการลดลงคงไม่ได้ลดรุนแรงเหมือนในอดีต” แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1496196

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันภัย

รวมเทคนิคลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ปลอดภัยสบายกระเป๋า

29/04/2024

ถึงแม้ว่าคุณจะขับรถด้วยความระมัดระวังมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเลย เพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่เกิดขึ้นจากตัวเราเองก็เกิดขึ้นกับผู้ขับรถคันอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้คนเลือกจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีความคุ้มครองมากที่สุด ซึ่งการเคลมประกันบ่อย ๆ จะส่งผลทำให้ประวัติเสียและเบี้ยแพงขึ้นหรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความนี้ปัจจัยที่ทำให้ค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นโดยหน้าที่หลักของกรมธรรม์ประกันรถยนต์ คือการกระจายความเสี่ยง ซึ่งการเคลมประกันรถยนต์จะสามารถตอบความเสี่ยงที่กล่าวไปได้เป็นอย่างดี แต่บริษัทประกันภัยก็ต่างมีเหตุผลในการเพิ่มค่าเบี้ยประกันรถยนต์ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทประกันรถยนต์เพิ่มค่าเบี้ยประกัน ได้แก่   •  ประวัติการขับขี่ไม่ดี การขับรถไม่ดี เป็นฝ่ายผิดอยู่ทุกครั้งเมื่อมีการเคลมประกันรถยนต์    •  เคลมบ่อยเกินขีดจำกัดของวงเงิน การเคลมบ่อยจนทำให้เกินขีดจำกัดของวงเงินสูงสุดที่ถูกระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อไม่ให้ขาดทุน บริษัทมักจะเพิ่มค่าเบี้ยประกันในปีถัดไปเทคนิคลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์หลายคนอาจเกิดความกังวลว่าในระหว่างที่ใช้รถอยู่ก็กลัวที่จะโดนเก็บค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น หรือจะโดนยกเลิกกรมธรรม์กลางคันตอนไหน และที่หนักไปกว่านั้นคือการติดแบล็กลิสต์จากบริษัทประกันภัย ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมเทคนิคลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้สร้างประวัติการขับขี่ที่ดีถ้าประวัติการขับขี่รถของคุณไม่ดี รถชนบ่อย เคลมบ่อย  ก็จะยิ่งทำให้เบี้ยประกันเพิ่มขึ้นได้ง่าย แต่ถ้าไม่อยากให้ค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น การขับขี่ด้วยความระมัดระวัง สร้างประวัติการขับขี่ที่ดี พยายามเคลมให้น้อยที่สุด เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันการขับขี่ที่ดีในครั้งถัดไปเปลี่ยนแผนประกันที่เหมาะกับการขับขี่ถ้ารู้ตัวอยู่แล้วว่าคุณเป็นคนที่ไม่ระมัดระวังสักเท่าไรในการขับรถ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอยู่บ่อยครั้ง การเปลี่ยนแผนประกันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและเหมาะสมกับคุณ โดยอาจเปลี่ยนจากประเภทกรมธรรม์ที่ใช้อยู่ให้จ่ายค่าเบี้ยประกันถูกลง เช่น เปลี่ยนจากประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นต้นศึกษาเงื่อนไขการลดค่าเบี้ยให้ดีสำหรับวิธีลดค่าเบี้ยประกันประกอบไปด้วยหลากหลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีที่อยากแนะนำคือการติดกล้องรถยนต์ เพราะจะช่วยลดค่าเบี้ยประกันไปได้ประมาณร้อยละ 5-10 ของเบี้ยประกันภัยสุทธิ ซึ่งมาตรการนี้หากบริษัทประกันภัยไม่ยอมลดค่าเบี้ยให้จะมีโทษปรับไม่เกิน 300,000 บาทสรุปเทคนิคการลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับเทคนิคการลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถึงแม้ว่าจะมีหลายวิธีด้วยกันที่จะช่วยลดค่าเบี้ยให้คุณได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ประมาท เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียได้เป็นอย่างดีแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://siamrath.co.th/n/510437

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

“ณ สัทธา อุทยานไทย” อลังการ งานไฟใกล้กรุงฯ ในสวนป่าเนรมิต

29/04/2024

ณ สัทธา อุทยานไทย จ.ราชบุรี ชวนชมงานแสดงไฟใกล้กรุงฯ “Nasatta Light Festival Winter Illumination” ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ 28 เม.ย. 67 ภายในงานตื่นตาตื่นใจไปกับไฟประดับในบรรยากาศสวนป่าเนรมิตอันอลังการ“ณ สัทธา อุทยานไทย” ร่วมกับ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี" และพันธมิตร จัดงานแสดงไฟประจำปี "Nasatta “Light Festival Winter Illumination 2024” ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 – 28 เมษายน 2567Nasatta Light Festival Winter Illumination 2024 เป็นงานแสดงไฟประจำปีครั้งที่ 6 ภายในงานตื่นตื่นใจไปกับการประดับตกแต่งไฟในบรรยากาศสวนป่าเนรมิตหลากสีสันผสานความเป็นไทย ที่สร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคการออกแบบแสงไฟ ผสมผสานกับศิลปสถาปัตยกรรมไทย โดยทีมงานไลท์ติ้งดีไซน์เนอร์, วิศวกร, โปรแกรมเมอร์, สถาปนิกและศิลปินมืออาชีพที่รังสรรค์งานแสดงไฟแต่ละจุดให้ดูสวยงามตระการตา และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกภายในงานมีการแบ่งเป็น 20 โซน รวมถึงมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ มากมาย เริ่มจากโซนแรก (ยุคทอง) ที่เมื่อเดินเข้ามา จะพบกับพระบรมรูปสามกษัตริย์ จากนั้นเดินเข้ามาในส่วนข้างในนี้ก็จะเป็นโซน Season Change ที่จะมีประดับไฟ ทั้งต้นไม้และสีของไฟด้านล่างก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆถัดไปเป็นโซน Milky Way หรือสีสันแห่งดอกไม้ แล้วต่อด้วยโซน “จิตวิญญาณแห่งสยาม” ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีคลื่นศักดิ์สิทธิ์ของจิตวิญญาณแห่งสยามอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของงานที่คนนิยมมาถ่ายรูปเป็นจำนวนมากนอกจากนี้ก็ยังมีโซนต่าง ๆ ให้ถ่ายรูปกันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แสงเกสร, ถ้ำเวทมนต์และต้นไม้เรืองแสง, ลานแสงแห่งความสุข, ระบำแสงไฟ, ภูติแห่งป่า และภูติแห่งแสง เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและเลือกจุดถ่ายรูปกันได้ตามใจชอบ รวมถึงมีโซนให้เล่นกิจกรรมกรรมและซื้อหากินภายในงานอีกมากมายณ สัทธา อุทยานไทย อ.บางแพ จ.ราชบุรี เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 18:00-22:00 น. โดยมีค่าบริการดังนี้-ราคาบัตรทั้งวัน : ผู้ใหญ่ 350 เด็ก 250 (9:00 -22:00 น.), ราคาบัตรงานไฟ : ผู้ใหญ่ 300 เด็ก 200 (18:00-22:00 น.)-บริการเช่าชุดไทยราคาเริ่มต้นที่ 400 บ. สามารถมาเลือกเช่าได้ที่หน้างาน รวมถึงมีบริการช่างภาพ ในราคา 1,605บ. สามารถถ่ายได้ 1-4 คน/1 ชม. โดยถ่ายได้ไม่จำกัดภาพผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมที่ โทร.032 383 333, 081 527 2782 หรือที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ ณ สัทธา อุทยานไทย06แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000011421

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

ส่อง 8 พิกัด ที่เที่ยวเทศกาลตรุษจีน จัดยิ่งใหญ่รับปีมังกร

29/04/2024

ส่องพิกัด ที่เที่ยวตรุษจีน 2567 วางแผนต้อนรับวันเที่ยวในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 วันนี้ได้คัดสรรที่จัดงานมาชวนทุกคนออกไปท่องเที่ยว กับ 8 สถานที่ ทั้งในกรุงเทพ และจังหวัดอื่น ๆ จะมีที่ไหน จัดงานอะไรบ้าง หลังจากอ่านข้อมูลแล้ว เตรียมวางแผนและออกเดินทางกันได้เลยถนนเยาวราช กรุงเทพฯถนนเยาวราช กำหนดจัดงานเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่วันนี้ - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ภายในงานมีกิจกรรมและการแสดงต่าง ๆ ได้แก่ พิธีกล่าวสารอวยพรระหว่างตัวแทนจากประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พร้อมแลกเปลี่ยนของที่ระลึก และการแสดงชุดพิเศษจากฉวนโจว และเขตการปกครองตนเองซีจ้าง รวมถึงศิลปินชาวไทยเชื้อสายจีน ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567และ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จะเสด็จเป็นองค์ประธานงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช และทอดพระเนตรการแสดงพิเศษของนักแสดงไทยและจากสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ททท. ยังได้สร้างอุโมงค์มังกรทองที่ประดับและตกแต่งไฟฟ้าอย่างสวยงาม ภายใต้แนวคิด “เฉลิมฉลอง ปีทองแห่งความรุ่งเรือง” บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนเยาวราช วันนี้ 1-29 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมจัดการแสดง Projection Mapping ภายใต้เรื่องราวแห่งความเชื่อ ความศรัทธา ของคนไทยเชื้อสายจีน ชื่อชุดการแสดง “เทพเจ้าราชันย์มังกร” บริเวณถนนเยาวราช วันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2567และการแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนจัดทำบูธในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช นำเสนอศาสตร์พยากรณ์หลากหลายรูปแบบ อาทิ อักษรมงคลพยากรณ์ ศาสตร์โหงวเฮ้ง เป็นต้น รวมถึงจัดกิจกรรมเสริมมงคลชีวิตรับปีมังกรทอง กับ 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นำโดยซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร ซินแสชื่อดัง ของเมืองไทย วันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567ภาพ : ททท.สำนักงานนครสวรรค์-พิจิตรนครสวรรค์พบกับงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปของจังหวัดนครสวรรค์ “เทศกาลตรุษจีน หรืองานประเพณีแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพ” งานประเพณีที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ปีนี้เป็นที่ 108 ภายใต้แนวคิด “108 ปี มหัศจรรย์สีสันแห่งศรัทธา” วันนี้ - 14 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา และบริเวณถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์พลาดไม่ได้กับการจัดอุโมงค์มังกรปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย มังกรน้ำเต้าเรียกทรัพย์ รอต้อนรับอยู่บริเวณหอนาฬิกา ด้วยความยาวตัวมังกร คือ 108 เมตร และส่วนหัว มีความสูงถึง 8 เมตร การแสดงมังกรทองประกอบเลเซอร์ ในโอกาสครบรอบ 60 ปี มังกรทอง และ มีขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งกลางวันและกลางคืน การแสดงขบวนนางฟ้าจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ การแสดงสิงโต 5 ชาติพันธุ์ 5 คณะ สิงโตปักกิ่ง สิงโตกว๋องสิว สิงโตไหหนำ สิงโตฮกเกี๊ยน สิงโตฮากกา ดนตรีจีนล่อโก้ว รำถ้วยไหหนำ เอ็งกอ - พะบู๊ องค์สมมติเจ้าแม่กวนอิม และลูกศิษย์ กิมท้ง - เง็กนึ่ง และอื่น ๆ อีกมากมายภาพ : ททท.สำนักงานนครสวรรค์-พิจิตรสำหรับไฮไลต์ของประเพณีแห่เจ้าพ่อ - เจ้าแม่ปากน้ำโพ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ ในคอนเซปงาน "108 ปี มหัศจรรย์สีสันแห่งศรัทธา" ได้แก่ ที่สุดของความเฮง ปัง ดัง โป๊ะ กับลานบุญสีสันแห่งศรัทธา ขนาดที่กว่า 1,000 ตรม. พร้อมเสริมดวงเฮง ๆ ปัง ๆ รับปีมังกรทอง, ที่สุดของขบวน ประเพณีแห่เจ้าพ่อ - เจ้าแม่ปากน้ำโพทั้ง ขบวนแห่กลางคืน และ ขบวนแห่กลางวันที่ยาวที่สุดในประเทศภาพ : เพจศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานีอุดรธานีททท.สำนักงานอุดรธานี ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเฉลิมฉลองปีมังกรทอง กับ 4 พิกัด เฉลิมฉลอง “มหัศจรรย์ปีมังกรทอง 2567” @อุดรธานี สุดยิ่งใหญ่ Amazing Year of Dragon Udon Thani 2024 ตั้งแต่ 5 - 12 ก.พ. 67 ได้ทั้งกินอาหารมงคล อยู่ดีมีสุขเที่ยวงานเฉลิมฉลอง และกิจกรรมดี ๆ ตลอดทั้งเดือน ไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมมงคงรับปีมังกรทองภาพ : เพจศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานีภาพ : เพจศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานีโดยสถานที่การจัดงานทั้ง 4 แห่งได้แก่ วันที่ 5-9 ก.พ. 67 งานเทศกาลตรุษจีน’ 67 ณ ศาลเจ้าปู่ย่า อุดรธานี, วันที่ 10-12 ก.พ. 67 เทศกาลตรุษจีน ถนนอาหารอุดรธานี 2567 ณ บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา อุดรธานี, วันที่ 10-11 ก.พ. 67 Best of Luck Year of Dragon ณ ศูนย์การค้า UD Town, วันที่ 6-11 ก.พ. 67 The Great Chinese New Year 2024 ศูนย์การค้า Central Udonภาพ : ททท. สำนักงานสุพรรณบุรีสุพรรณบุรีงานมหัศจรรย์ 16 ปี มังกรสวรรค์ ประจำปี 2567 วันที่ 10 - 21 กุมภาพันธ์ 2567 ณ อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี โดยกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ สักการะเจ้าพ่อหลักเมือง, จำหน่ายสินค้าและอาหารในราคาประหยัด, การแสดงชุด ลูกหลานพันธุ์มังกร ประกอบด้วย สิงโตวูซู กลองศึก มังกร 9 เซียน กังฟู เอ็งกอบู๊ กวนอิมพันมือ งิ้วเปลี่ยนหน้ากาก การแสดงจากศิลปินชื่อดังททท. สำนักงานหาดใหญ่หาดใหญ่ สงขลาพบกับเทศกาลตรุษจีนหาดใหญ่สุดยิ่งใหญ่อลังการรับปีมังกรทอง วันที่ 9 - 13 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เตรียมพบกับกิจกรรมที่จะมามอบความปังต้อนรับปีมังกรทอง ได้แก่ สักการะขอพรพระโพธิสัตว์กวนอิม, มังกรทองพ่นไฟ สิงโตเล่นจานดอกเหมย, ประติมากรรมหุ่นโคมไฟ, โชว์คาบาเร่ต์สุดอลังการ, การประกวด Miss Chinese Hatyai 2024 และลุ้นรางวัลจากกิจกรรมไข่มังกรนำโชคภาพ : ททท.สำนักงานลำปางลำปางเทศบาลนครลำปาง ชวนเที่ยวเทศกาลตรุษจีนในงาน "มังกรทองนครลำปาง"Chinatown@Lampang 2024 ระหว่างวันที่ 10 - 11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณถนนประสานไมตรี อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยมีการจัดกิจกรรมทั้ง 2 วัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พบกับ 2 กิจกรรมรับโชคภายในงาน ณ บูธ ททท.มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้ ถ่ายภาพเช็คอินสีสันโคมจีนมังกรทองนครลำปาง Chinatown@Lampang, ชมนิทรรศการองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรมจีน, กิจกรรม DIY สไตล์จีน, การจำหน่ายสินค้าและอาหารสไตล์วัฒนธรรมจีนวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 มีกิจกรรม ได้แก่ พิธีเปิดงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567, การประกวดหนูน้อย Chinese Nakhon Lampang 2024, การแสดงดนตรีจีน จากโรงเรียนประชาวิทย์ลำปาง, การแสดงจากโรงเรียนมัธยมวิทยา, การแสดง “งิ้วเปลี่ยนชุด”วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 มีกิจกรรม ดังนี้ การแสดงชุด “มังกรทองนครลำปาง Chinatown@Lampang” และการแสดงต้อนรับตรุษจีนอีกมากมายภาพ : เพจตรุษจีน เล่งเกียฉู่ สืบสานตำนานมังกร 2567สมุทรสาครตรุษจีน “เล่ง เกีย ฉู่” สืบสานตำนานมังกร 2567 ขอเชิญชวนทุกท่านลงทะเบียนเข้าร่วมทริปท่องเที่ยวนั่งรถรางยลวิถีชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ชมถนนหวาย ถ่ายภาพ Street Art ไหว้เจ้าขอพรรับปีมังกรทอง และกิจกรรมอีกมากมายตลอดเส้นทาง "ย่านชุมชนเก่าตำบลท่าฉลอม" และเข้าร่วมงานตรุษจีน “เล่ง เกีย ฉู่” สืบสานตำนานมังกร 2567 จังหวัดสมุทรสาคร วันที่ 7 – 11 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครภายในงานพบกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง, ร้านค้าและกิจกรรมสาธิตมากถึง 50 ร้านค้า, การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน แสง สี - เสียง พลุไฟตระการตา, การประกวดเชิดสิงโต, นิศรรศการ Intractive, กิจกรรมทำนายอนาคต เสริมสิริมงคล ไหว้ขอพนเทพเจ้าไช้ซิ่งเอี๊ยะ รับปีมังกรทอง, ช้อปจุใจกับกิจกรรมช้อปลุ้นโชค และกิจกรรมสอยดาวต้นไม้มงคลภาพ : ททท.สำนักงานราชบุรีราชบุรีเทศกาลตรุษจีน “ราชบุรี” ดินแดนมังกร ร่ำรวย เสริมบารมี ปีมังกรทอง วันที่ 9 - 11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ ริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา-ตลาดโคยกี่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ภายในงานจะพบกับความสวยงามอลังการตระการตากับนำเสนอเอกลักษณ์ของเมืองมังกร ในการจำลองบรรยากาศแบบจีนของปีมังกรทอง อุโมงค์มังกร ที่ชาวจีนเชื่อกันว่ามังกรจะนำมาซึ่งอายุยืนยาว ความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภวาสนา และการเดินผ่านลอดท้องมังกรนั่นเชื่อว่าจะเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ที่จะให้โชคลาภตลอดทั้งปี อุโมงค์โคมจีน สัญลักษณ์มงคล ที่ช่วยเสริมสิริมงคลให้แสงสว่างแก่มนุษย์ ประติมากรรมกับจุดถ่ายรูปต่างๆ เช่น จุดถ่ายรูปมังกรทอง, โคมไฟ 8 เซียน, โคมไฟกิเลน และการตกแต่งประดับไฟทั่วบริเวณงานและพบกับ “การแสดงฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง”แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000010279

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

วงการคริปโต เฮ! คลัง ไฟเขียว ยกเว้น VAT ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล ดันไทยสู่ฮับ

07/02/2024

วงการคริปโต เฮ! “เผ่าภูมิ” เผย ก.คลัง ประกาศยกเว้น VAT ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล เตรียมดันไทยสู่ Digital Asset Hub มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องการยกระดับการระดมทุนของประเทศผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล คู่ขนานกับเครื่องมือระดมทุนเดิม เดินหน้าพัฒนาและสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อส่งเสริมการระดมทุนในเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลตั้งเป้าไทยเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ของภูมิภาค โดยกระทรวงการคลังออกมาตรการใหม่ ดังนี้ 1. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการโอน (ขาย) สินทรัพย์ดิจิทัล คือ คริปโตเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility token) ที่ซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นไปแบบไม่กำหนดเวลาสิ้นสุด รวมถึงโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment token) ให้ได้รับยกเว้น VAT ตามเดิม 2. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ซื้อขายผ่านทั้ง 3 ช่องทาง ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker) และ ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากเดิมที่ได้ยกเว้นเฉพาะ Exchange และ 3. กระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.ล.ต. กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีการกำหนดให้โทเคนดิจิทัลบางลักษณะเป็นหลักทรัพย์ “ท่านนายกฯ ได้กำหนดแนวทางในภาพใหญ่ว่า รัฐบาลนี้สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และการระดมทุนของประเทศ โดยต้องคำนึงเสถียรภาพของระบบการเงิน แต่ต้องไม่สูญเสียศักยภาพการพัฒนา” นายเผ่าภูมิ กล่าว แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับข่าวสดออนไลน์https://www.khaosod.co.th/economics/news_8084450

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

สุขภาพ

หญิงปวดหัว 1 เดือน ก่อนเจอมะเร็งปอดลามขึ้นสมอง บุหรี่ไม่สูบ รู้ต้นเหตุใกล้ตัว

29/04/2024

หมอเล่าเคสคนไข้ปวดหัว 1 เดือน ก่อนพบเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายลามขึ้นสมอง ไม่ได้สูบบุหรี่แต่รับควันจากคนใกล้ชิด พิษบุหรี่มือสองภาพจาก TikTok  @doctor.pracha_neuro_surgวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 หมอประชาผ่าตัดสมอง หรือ นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ โพสต์คลิปผ่าน TikTok  @doctor.pracha_neuro_surg เล่าอุทาหรณ์เตือนภัยใกล้ตัว หลังเจอเคส หญิงวัย 42 ปี เดินทางมารับการรักษาด้วยอาการปวดหัวนาน 1 เดือน ก่อนจะตรวจพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ในสมอง จึงเร่งทำการผ่าตัดออก พร้อมกับนำชิ้นเนื้อดังกล่าวไปตรวจ ผลออกมาพบว่าเป็นชิ้นเนื้อที่เกิดจากการลามของมะเร็งปอดเมื่อให้คนไข้เข้ารับการสแกนอย่างละเอียดพบว่าเป็นมะเร็งปอดในระยะสุดท้าย แต่ยังถือว่าโชคดีที่ไม่ได้ลุกลามไปยัง ตับ ไต และม้าม มีเพียงแค่สมองที่มะเร็งกระจายไป เบื้องต้นได้ทำการซักประวัติคนไข้จนทราบว่า พ่อสูบบุหรี่จัด พอแต่งงานอยู่กับสามีก็สูบบุหรี่จัดเช่นกัน จึงได้รับบุหรี่มือสองไปเต็ม ๆ ทั้งชีวิตภาพจาก TikTok  @doctor.pracha_neuro_surgหลังจากการผ่าตัด ผู้ป่วยรายนี้ยังต้องเข้ารับการรักษาด้วยการฉายแสงและเคมีบำบัด แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีเพราะเซลล์มะเร็งดังกล่าวตอบสนองต่อการรักษาได้ดี หลังเข้าสู่ขั้นตอนรักษาก้อนเนื้อที่ปอดก็หาย ส่วนที่สมองนั้นไม่ได้เป็นในส่วนที่มีความพิการตามมา มีเพียงรางสายตาข้างขวาที่หายไปเล็กน้อย ได้ให้เคมีบำบัดสุดท้ายนี้ หมอประชา ฝากว่าหากรักใครสักคนแล้วเขาสูบบุหรี่ อยากให้ช่วยบอกให้เขาเลิกสูบ เพราะมันเป็นพิษกับคนรอบข้าง คุณไม่ได้เป็นมะเร็งคนเดียว แต่คนรอบข้างได้รับกับคุณด้วย แม้บุหรี่ช่วยคลายเครียดได้ก็จริง แต่สิ่งที่ทิ้งไว้เสี่ยงมะเร็ง เส้นเลือดสมองเสียสภาพ ตีบ ตัน แตกง่าย เสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต พร้อมแนะนำว่าหากมีความเครียดควรเลือกออกกำลังกายแทนการสูบบุหรี่จะดีกว่าแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกระปุก.คอมhttps://hilight.kapook.com/view/239012

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X