คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ห้องแสดงนิทรรศการ

“Bangkok Design Week 2024” สัมผัสกรุงเทพฯ มุมใหม่ในธีม “คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี”

29/04/2024

ชวนสัมผัสกรุงเทพฯ มุมใหม่ ใน “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2567” ที่จัดขึ้นในวันที่ 27 ม.ค.-4 ก.พ.67 ภายใต้ธีม “Livable Scape คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี” ภายในงานพบกับงานออกแบบสุดครีเอตและกิจกรรมน่าสนใจต่าง ๆ ใน 15 พื้นที่ทั่วกรุงเทพฯกลับมาอีกครั้งสำหรับ “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ” หรือ “Bangkok Design Week” อีกหนึ่งอีเวนต์ใหญ่แห่งปี ที่จัดขึ้นโดย “สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)” หรือ CEA และพันธมิตร เพื่อผลักดันกรุงเทพมหานครให้เติบโตและโดดเด่นในฐานะเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก (UNESCO Creative City Network: UCCN) สาขาการออกแบบ (Bangkok City of Design)นายกฯร่วมงานวันเปิด Bangkok Design Week 2024สำหรับ “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2567” หรือ “Bangkok Design Week 2024” (BKKDW2024) ปีนี้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2567 ภายใต้แนวคิด “Livable Scape คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี” ภายในงานพบกับงานออกแบบสุดครีเอตใน 15 พื้นที่หลักทั่วกรุงเทพฯ โดยมีกิจกรรมน่าสนใจต่าง ๆ รวมกว่า 500 โปรแกรมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ในปีที่ 7 นี้ ทำให้เราได้เห็นภาพของการใช้เทศกาลงานออกแบบสร้างสรรค์ เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมอุตสาหกรรมและผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เติบโตและขยายไปสู่ต่างประเทศ อันจะช่วยสนับสนุนกระบวนการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ทำให้ผู้บริโภคในตลาดโลกมีความสนใจและต้องการซื้อสินค้าและบริการสร้างสรรค์ของไทยมากขึ้น ฉะนั้นงานนี้จะเป็นพลังให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยต่อไปสีสัน Siam piwat ไปรษณีย์กลาง (ภาพ : เพจ Bangkok Design Week)ดร. อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ทำหน้าที่เป็น 'แพลตฟอร์ม' ที่สื่อสารเรื่อง ‘คน ธุรกิจ ย่าน และเมืองสร้างสรรค์ ไม่ใช่ 'อีเวนต์' ที่จัดขึ้นแล้วจบไป แต่มีการนำเสนอความคิดและการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยรวมไอเดียจากนักสร้างสรรค์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในปีนี้ CEA ได้พัฒนาขึ้นร่วมกับกรุงเทพมหานคร กับการมอบโจทย์จริง ‘HACK BKK’ เพื่อให้กลุ่มนักสร้างสรรค์ได้ทดลองออกไอเดียแก้ปัญหาเมืองจากโจทย์ที่มีอยู่จริง โดยหวังว่าแนวทางแก้ปัญหาเหล่านี้จะถูกนำไปต่อยอดและปรับใช้งานจริงในเมืองต่อไปสำหรับไฮไลต์เด่น ๆ ในพื้นที่จัดงานทั้ง 15 แห่งมีดังนี้งานออกแบบย่านพระนคร (ภาพ : เพจ Bangkok Design Week)1. “เจริญกรุง – ตลาดน้อย” ปีนี้มีการเปิดพื้นที่ให้ผลงานใหม่ได้เข้ามาจัดแสดง อย่างเช่น Pocket Oasis Garden งานออกแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดเล็ก และ Street Furniture ที่เคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะกับพื้นที่ย่านที่มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างน้อย และโปรเจ็กต์ที่ตอบโจทย์ HACK BKK เช่น ระบบป้ายนำทางจักรยานและจุดจอดที่อาจจะนำมาสู่โมเดลทดลองที่ถูกนำไปมาใช้งานจริงในอนาคต2. “พระนคร” ผสานความเก่าเข้ากับความล้ำสมัย เพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของย่านเมืองเก่า อย่างเช่น การเพิ่มประสบการณ์การใช้งานและการเดินทางในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ย่านยังนำเสนอกิจกรรม Projection Mapping และ Moving Image ที่จะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์งานออกแบบย่านปากคลองตลาด (ภาพ : เพจ Bangkok Design Week)3. “ปากคลองตลาด” ต่อยอดอัตลักษณ์ “ตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ผ่านการสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยงานออกแบบ เช่น ต้นแบบขยายพื้นที่ Display หน้าร้านของแม่ค้าปากคลองฯ บนทางเท้าให้ดูมีเสน่ห์น่าเดิน การปรับอาคารเก่าที่เป็นโรงงานน้ำตาลปี๊บ ‘โล้วเฮียบเส็ง’ ให้กลายเป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะ เป็นต้น4. “นางเลิ้ง” ต่อยอดภูมิปัญญาในย่านวัฒนธรรมมีชีวิต ผ่านความร่วมมือระหว่างผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมกับนักออกแบบผู้ย้ายเข้ามาใหม่ ที่สื่อสารความเป็นนางเลิ้งในมุมมองใหม่ผ่านงานออกแบบ ให้นางเลิ้งเป็นย่านที่ ‘บันเทิงทุกวัน’ ย่านมีพื้นที่จัดแสดงหลักคือ ‘โรงเรียนสตรีจุลนาค’ และ ‘บ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี’ (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)กิจกรรมที่ย่านนางเลิ้ง (ภาพ : เพจ Bangkok Design Week)5. “เยาวราช” สานต่อตำนานย่านสตรีทฟู้ดระดับโลกที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมจีนจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมขยายเรื่องราวไปสู่เจเนอเรชันที่หลากหลาย ร่วมด้วยโปรเจ็กต์ Go Go Bus! ที่พัฒนาระบบขนส่งขนาดเล็กเพื่อเชื่อมต่อย่าน และเพื่อลดภาระของการจราจรบนถนนเส้นหลัก จากโจทย์ HACK BKK ที่มีแผนจะปรับใช้กับพื้นที่ของทางกรุงเทพมหานคร6. “หัวลำโพง” มีโครงการ ‘Made in Hua Lamphong’ ที่สร้าง Branding ภาพจำใหม่ของหัวลำโพง โปรแกรมทัวร์สำรวจย่าน และนิทรรศการปาจื้อ: คน/ดวง/เมือง การสื่อสารเรื่องธาตุประจำตัวจากโหราศาสตร์จีน เพื่อให้เกิดการรับรู้ของผู้ชมและทดลองสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ฯลฯงานออกแบบสร้างสีสันให้อาคาร (ภาพ : เพจ Bangkok Design Week)7. “อารีย์ – ประดิพัทธ์” ถักทอสายสัมพันธ์ในย่าน ผ่านพื้นที่สาธารณะที่ทําให้ผู้คนได้มาอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออารี8. “บางโพ – เกียกกาย” สร้างคุณค่าใหม่ให้ถนนสายไม้กลายเป็นย่านสร้างสรรค์ ผ่านการออกแบบและไอเดียของคนในพื้นที่ พร้อมขยายพื้นที่ไปยัง ‘เกียกกาย’ โดยทดลองเปิดพื้นที่กองทัพบกให้เป็นพื้นที่สันทนาการและจำหน่ายสินค้าสำหรับชุมชน9. “วงเวียนใหญ่ - ตลาดพลู” เชื่อมโยงคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่เพื่อต่อยอดวัฒนธรรมฝั่งธนฯ บนพื้นที่สองย่านที่เชื่อมโยงกันโดยเส้นทางรถไฟ พร้อมนำสินทรัพย์ในพื้นที่มานำเสนอในรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทั้งการจัดแสดง ทัวร์ลงรถไฟ เป็นต้นงานออกหลากสีสัน (ภาพ : เพจ Bangkok Design Week10. “เกษตรฯ – บางบัว” มีการสร้างสรรค์ย่านให้น่าอยู่และเป็นมิตรต่อคนทุกกลุ่ม นอกจากนี้พื้นที่บริเวณคลองบางบัวและริมถนนพหลโยธิน จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับฉายภาพยนตร์ ตลาด การแสดงดนตรี Projection Mapping ฯลฯ11. “พร้อมพงษ์” พัฒนาย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองให้กลายเป็นพื้นที่ที่ดีต่อกายดีต่อใจ สําหรับผู้มาอยู่และผู้มาเยือน โดยในซอยสุขุมวิท 26 ที่เป็นแหล่งรวมนักสร้างสรรค์สาขาสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน บริษัทเฟอร์นิเจอร์ และวัสดุ แบบครบวงจร โดยมีไฮไลต์เป็น ‘บ้านนก บ้านกระรอก’ ส่วนหนึ่งของระบบนิเวศบนต้นไม้ริมทาง ที่นักออกแบบในย่านต้องการให้เกิดความรื่นรมย์ในระหว่างการเดินเท้างานออกแบบสร้างสีสันให้อาคาร (ภาพ : เพจ Bangkok Design Week)12. “สยาม – ราชเทวี” เปิดประตูสู่การรับรู้เรื่องราวของชุมชนประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ที่ถูกซุกซ่อนไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ผ่านการส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารในชุมชนบ้านครัว ชุมชนมุสลิมเก่าแก่ โดยนักสร้างสรรค์นำเสนอเรื่องราวผ่านสำรับอาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ13. “บางกอกใหญ่ – วังเดิม” มีการหยิบต้นทุนทางวัฒนธรรมเดิมมาเพิ่มเติมความหมายใหม่ เพื่อฟื้นคืนชีวิตให้พื้นที่ประวัติศาสตร์ริมคลองบางกอกใหญ่ เช่น แลนด์มาร์กสำคัญอย่างวัดอรุณและชุมชนรอบด้านงานออกแบบโมเดล14. “พระโขนง – บางนา” ผสานความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ผ่านการรวมกลุ่มของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และสตูดิโอนักสร้างสรรค์ในพื้นที่ โปรแกรมที่น่าสนใจ เช่น การทดลองพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะภายในย่านให้เป็น ‘สวนเคลื่อนที่’ (Pop-Up Park) และแหล่งการเรียนรู้15. “บางมด” นำเสนอเรื่องราวการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลของธรรมชาติ ผู้คน ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่ไหลไปพร้อมกับกระแสน้ำของคลองบางมดจุดจอดจักรยานนอกจากนี้ยังมีพื้นที่อื่น ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ที่ ‘คน’ ในย่านได้เริ่มลงมือ ‘ทำ’เพื่อสร้างสรรค์ให้เมืองยิ่งดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ศรีนครรินทร์ - ห้างซีคอนสแควร์ ที่ร่วมกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) และ Happening เปิดพื้นที่สำหรับการแสดงและตลาดนัดศิลปะ และบางกะปิ ซอยโยธินพัฒนา ที่เริ่มต้นรวมกลุ่มผู้ประกอบการด้านคอนเทนต์ โดยมีทีวีบูรพาเป็นผู้ริเริ่ม ฯลฯแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000008244

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

เช็กเงื่อนไขฟรีวีซ่าไทย-จีน ท่องเที่ยวไทย-จีนเตรียมคึกคัก เริ่ม 1 มี.ค. 67

29/04/2024

ฟรีวีซ่าไทย-จีน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป คนไทยและชาวจีนสามารถเดินทางเข้าประเทศอีกฝ่ายหนึ่งได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยสามารถพำนักในประเทศอีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นเวลาไม่เกิน 30 วันการยกเว้นวีซ่าระหว่างไทยและจีนมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยคาดว่าจะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศเดินทางเข้าเยี่ยมชมกันมากขึ้น ซึ่งมาตรการนี้ ประกาศใช้อย่างแน่ชัดเมื่อ ​นายหวัง อี้ (Wang Yi) สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านการต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 26 - 29 มกราคม 2567 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ อาทิ การค้า การลงทุน ความมั่นคง วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศที่อยู่ในความสนใจร่วมกันหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของการเยือนประเทศครั้งนี้ คือการลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย - จีน ถาวร กระชับสัมพันธ์ 50 ปี การยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการโดยความตกลงดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไปเงื่อนไขฟรีวีซ่าไทยจีนอยู่ได้กี่วันเงื่อนไขฟรีวีซ่าไทย-จีน ที่จะเริ่มเปิดใช้ในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป นั้นมีเงื่อนไขสำหรับประเทศไทยมีสิทธิ์เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังประเทศจีนนาน 30 วัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา และหนังสือเดินทางกึ่งราชการ และกำหนดด้วยว่า ระยะเวลาพำนักแต่ละครั้งไม่เกิน 30 วัน โดยภายในช่วงเวลา 180 วัน สามารถพำนักรวมระยะเวลาไม่เกิน 90 วันเท่านั้น มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 นี้จีนประกาศให้ฟรีวีซ่าประเทศไหนบ้างช่วงปี 2566 จีนได้ประกาศทดลองใช้การเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่า ขยายไปถึงพลเมืองจากฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และมาเลเซีย เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 บุคคลที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาจากประเทศเหล่านี้สามารถดำเนินธุรกิจหรือสำรวจจีนได้โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า โดยสามารถพำนักได้สูงสุด 15 วัน​ทั้งนี้ บางประเทศมีสิทธิ์เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังประเทศจีน สำหรับพลเมืองที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดา พลเมืองจากประเทศเหล่านี้ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้นานถึง 30 วัน เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยว การเดินทาง ธุรกิจ และการเยี่ยมครอบครัวหรือเพื่อนประโยชน์ของฟรีวีซ่าไทย-จีน   •  ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน   •  กระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ   •  ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนฟรีวีซ่าไทย-จีน ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน โดยคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446731/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

เปิด 8 ประเภทกองทุนรวม แบบไหนเหมาะกับเราที่สุด ?

29/04/2024

เปิด 8 ประเภทกองทุนรวม แบบไหนเหมาะกับเรา ในระดับความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากที่สุด วันที่ 25 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงทุนมีหลากหลายประเภทให้นักลงทุนที่สนใจได้เลือกลงทุนกัน ทั้งลงทุนในหุ้น ทอง อสังหาริมทรัพย์ และกองทุน ซึ่งหลายคนที่สนใจจะลงทุนในกองทุนแต่ไม่รู้ว่าเหมาะกับกองทุนประเภทไหน จึงควรรู้จัก “ประเภทของกองทุน” ก่อนเริ่มต้นลงทุน เพื่อเป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสม สอดคล้องกับสไตล์การลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง โดย “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวม ประเภทของกองทุนรวม ข้อมูลจาก SET invest now ที่จะไล่ลำดับจาก ระดับความเสี่ยงต่ำไปจนถึงเสี่ยงสูง ดังนี้ กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ โดยจะลงทุนในเงินฝาก ตั๋วเงินคลัง ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ มีสภาพคล่อง มีอายุสัญญาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุน ซึ่งจะมีความผันผวนด้านราคาที่ต่ำ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง และต้องการความคล่องตัวในการถอนเงินลงทุนคืน นอกจากนี้ ยังเหมาะเป็นที่พักเงินลงทุนของนักลงทุนที่ยังไม่แน่ใจและต้องการรอดูทิศทางการลงทุนให้แน่นอนก่อน กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก ตั๋วเงิน รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี โดยจะลงทุนในต่างประเทศ จึงทำให้มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นมา เหมาะกับคนที่ต้องการพักเงินและรับความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนได้ กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยมากกว่า 1 ปีขึ้นไป จึงมีความผันผวนมากกว่ากองทุนรวมตลาดเงิน เหมาะกับคนที่ไม่อยากรับความเสี่ยงมาก และไม่ได้หวังผลตอบแทนที่สูง กองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตั๋วเงินคลัง และหุ้นกู้เอกชน ซึ่งมีทั้งกองที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี) และตราสารหนี้ระยะยาว (อายุเฉลี่ยมากกว่า 1 ปี)  เหมาะกับผู้ที่ลงทุนได้ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก คาดหวังผลตอบแทนที่แน่นอน สม่ำเสมอ รวมถึงผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน กองทุนรวมผสม เป็นกองทุนที่สามารถลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น หรืออื่น ๆ ซึ่งสัดส่วนการลงทุนจะลงทุนในอะไรมากกว่ากัน ก็ต้องไปดูในนโยบายการลงทุนของกองทุน เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง และผู้ที่ไม่มีเวลาในการปรับสัดส่วนกองทุนหรือหุ้น หากตลาดมีความผันผวนมาก กองทุนรวมตราสารทุน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกองทุนประเภทนี้หมายความรวมไปถึงกองทุน SSF และ RMF ที่เราคุ้นเคยกันดีด้วย เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงได้สูง หรือผู้ที่ชอบการลงทุนในหุ้น แต่ไม่มีเวลาบริหารการลงทุน กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น แต่เจาะจงอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น หุ้นธนาคาร หุ้นสื่อสาร หุ้นโรงพยาบาล ฯลฯ แต่กองทุนประเภทนี้จะมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมตราสารทุนทั่วไป เนื่องจากมีการลงทุนแบบกระจุกตัว จึงเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และมีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมนั้น ๆ อย่างดี กองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในทางเลือกอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากสินทรัพย์พื้นฐาน เช่น ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม แต่อาจต้องศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับทางเลือกนั้น ๆ มากยิ่งขึ้น แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1487193

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

นิทรรศการภาพถ่าย "ง่าย-งาม : Simply the best" รวมช็อตทรงพลังของสัตว์ป่าเมืองไทย

29/04/2024

ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในโลกแห่งการถ่ายภาพสัตว์ป่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งความงดงามโดยธรรมชาติของสัตว์ มุมมองที่น่าสนใจของช่างภาพ และเสริมด้วยกล้องและเลนส์คุณภาพเยี่ยมที่สามารถเก็บรายละเอียดของภาพถ่าย ทั้งความคมชัด แสง สี กระทั่งอารมณ์ที่แฝงอยู่ในโมเมนต์นั้นได้อย่างครบถ้วน เพื่อถ่ายทอดช่วงเวลาอันเงียบสงบของสัตว์ป่าท่ามกลางธรรมชาติ ให้ออกมาเป็นภาพถ่ายที่เรียบง่ายทว่างดงามและทรงพลังจนไม่อาจละสายตา แคนนอน ร่วมสนับสนุนการจัดนิทรรศการ 'ง่าย-งาม: Simply the Best' รวบรวมผลงานภาพถ่ายอันน่าทึ่งที่ถ่ายทอดความเป็นไปของชีวิตในธรรมชาติผ่านสายตาของช่างภาพฝีมือดี โดยร่วมสนับสนุนอุปกรณ์ถ่ายภาพและภาพพิมพ์คุณภาพสูงที่ช่วยสะท้อนอารมณ์และมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละช็อตได้อย่างสมบูรณ์พาส่องผลงานสุดปังของ 4 ช่างภาพมากฝีมือผ่านกล้องและเลนส์แคนนอนจอมทัพ เจริญลาภนำชัย เยาวชนรุ่นใหม่กับการถ่ายทอดธรรมชาติในมุมที่แปลกใหม่จอมทัพเป็นนักเรียนชั้นม.3 ผู้หลงใหลความงามของสัตว์ป่าและการดูแมลงตั้งแต่ยังเด็ก จึงได้เริ่มถ่ายภาพตามผืนป่าอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบัน จอมทัพ กล่าวว่า "ผมชอบการดูและถ่ายภาพนกมาก และก็โชคดีที่ได้เพื่อน ๆ พี่ๆ ช่างภาพมาช่วยให้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพสิ่งรอบตัวให้ออกมาสวยและแปลกใหม่" ส่วนหนึ่งของผลงานพิเศษของจอมทัพในนิทรรศการ “ง่าย-งาม” ได้แก่ ภาพ "ลิงกับไฟ" (ถ่ายด้วย Canon EOS R6 เลนส์ RF 400mm f/2.8L IS USM) ที่แสดงการปรับตัวของลิงท่ามกลางเสียงรถราที่สัญจรไปมาและไฟเมืองที่ส่องสว่างทั้งคืน โดยจอมทัพเล่าว่า "ปกติเวลานี้ฝูงลิงจะซุกตัวนอนบนต้นไม้ แต่ลิงในเมืองก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตเมือง ต้องนอนให้น้อยลงและออกไปเที่ยวช่วงกลางคืนมากขึ้น เหมือนกับคน" ส่วนภาพ "นกยาง" (ถ่ายด้วย Canon EOS R6 เลนส์ RF 100-500mm f/4.5-7.1L IS USM) ภาพนกยางสีขาวที่กลมกลืนไปกับเมฆขาว "ผมคิดว่าถ้าถ่ายนกยางสีขาวในฉากสีขาวคงจะแปลกน่าดู วันนั้นผมคลานเข้าบังไพรลอยน้ำ ทุกอย่างเงียบมาก เหมือนมีแค่ผมกับมันในโลก กลายเป็นรูปนกยางที่ผมชอบที่สุดเลย"ภาพซ้าย-ขวา: ลิงกับไฟ และ นกยาง ด้วยกล้อง Canon EOS R6 โดย นายจอมทัพ เจริญลาภนำชัยธรรมบุญ อุยยานนวาระ ช่างภาพวัย 16 ปีกับผลงานอันเรียบง่ายทรงพลังธรรมบุญชื่นชอบการถ่ายภาพธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก "ผมเริ่มดูนกตอน 8 ขวบและเริ่มถ่ายรูปตอน 9 ขวบ  ตอนนี้ผมถ่ายทุกอย่างในธรรมชาติ เพราะความงามของธรรมชาติมันซุกซ่อนอยู่ในทุกที่ของผืนป่า" ผลงานไฮไลต์ที่จัดแสดงที่งานครั้งนี้ของธรรมบุญ รวมถึง "Headless Heron" (ถ่ายด้วย Canon EOS R5 เลนส์ RF 400mm f/2.8L IS USM) ที่ได้รับรางวัล WildArt Young Photographer of the Year ในหัวข้อ “Light” โดยความไม่เต็มตัวในภาพนี้นอกจากจะแปลกตาแล้วยังมีเรื่องราวซ่อนอยู่ "ปกตินกกระสานวลเป็นนกที่ตกใจง่าย แต่การที่ผมได้เห็นมันใกล้ขนาดนี้ที่บึงริมถนนพร้อมฉากหลังที่มีไฟเป็นดวง ๆ ก็นับว่าสุดยอดมากครับ" อีกหนึ่งภาพไฮไลต์ของนิทรรศการนี้ คือ “Time Line” (ถ่ายด้วย Canon EOS R5 เลนส์ EF 100-400mm f/4.5-5.6L IS USM) จับภาพนกนางนวลที่บินด้วยความเร็วสูงบนฉากหลังที่เป็นเส้นอันโดดเด่น "ตอนเด็ก ๆ ผมจินตนาการว่าถ้าเราเดินทางด้วยความเร็วมาก ๆ จะสามารถเดินทางข้ามเวลาได้ ซึ่งภาพนี้สะท้อนสิ่งที่ผมคิดไว้ตอนนั้นเลยครับ"ภาพซ้าย-ขวา: Headless Heron และ Time Line ด้วยกล้อง Canon EOS R5 โดย นายธรรมบุญ อุยยานนวาระกตัญญู วุฒิชัยธนากร เยาวชนไทยคนเก่งกับภาพวาฬชื่อดังระดับโลกกตัญญู ผู้หลงใหลความงดงามของธรรมชาติและเริ่มศึกษาชีวิตสัตว์มาตั้งแต่เด็ก เคยได้รางวัลจากการประกวดภาพถ่ายสัตว์ป่ามากมาย ทั้งยังเป็นเยาวชนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล Young Grand Title Winner จากเวที Wildlife Photographer of the Year จากภาพ "The Beauty of Baleen" (ถ่ายด้วย Canon EOS 90D) ที่นำมาจัดแสดงที่งานนี้ด้วย ภาพนี้เก็บรายละเอียดที่คมชัดของปลากะตักที่ติดอยู่บนบาลีน โดยกตัญญูเล่าว่า "ในปากของวาฬมีสิ่งที่เรียกว่า 'บาลีน' ซึ่งคนไม่ค่อยรู้จัก มันช่วยกรองอาหารออกจากน้ำทะเล เป็นภาพที่ดูธรรมดาแต่น่าค้นหา และได้นำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ทั่วโลกมาแล้วครับ” อีกหนึ่งภาพถ่ายพิเศษคือ "Reflection - ภาพสะท้อน" (ถ่ายด้วย Canon EOS R7 เลนส์ RF 70-200mm f/4L IS USM) ภาพนี้เก็บโมเมนต์ที่นกนางนวลบินดิ่งลงจับลูกปลา "เย็นวันนั้นผิวน้ำเรียบใสเหมือนกระจกเงาสะท้อนเห็นนกนางนวลบนผืนน้ำ กลายเป็นภาพที่เหมือนนกสองตัวพุ่งเข้าหากัน" กตัญญู เล่าถึงภาพภาพซ้าย-ขวา: The Beauty of Baleen ด้วยกล้อง Canon EOS 90D และ Reflection - ภาพสะท้อน ด้วยกล้อง Canon EOS R7โดย นายกตัญญู วุฒิชัยธนากรณรงค์สุวรรณรงค์ กับช่วงเวลาในป่าที่สะกดทุกสายตาช่างภาพจากจังหวัดสกลนครผู้เริ่มอาชีพวิศวกรพร้อมกับออกเดินทางท่องธรรมชาติ และสร้างสรรค์งานเพื่อให้เรารู้จักและเข้าใจชีวิตป่ามากขึ้นกับผลงานอย่าง "สบตา" (ถ่ายด้วย Canon EOS 5D mark II เลนส์ EF 70-200mm f/4L IS USM) ภาพนี้ถ่ายในระยะ 10 เมตร เสียงกลไกของกล้องทำให้แมวลายหินอ่อนหยุดชะงักแล้วมองมาที่กล้องอย่างนิ่งงันเสมือนได้สบตากับมันอยู่ครู่หนึ่ง "ตอนนั้นแมวกำลังไล่ล่าไก่ฟ้า แล้วมุมที่ผมยืนอยู่มันแคบมาก แต่ก็ไม่มีทางเลือกจึงกดชัตเตอร์ถ่าย มันได้ยินเสียงกลไกของกล้องก็หันมามอง เราทั้งคู่สบตากันและได้เป็นภาพนี้ออกมา เป็นหนึ่งในภาพที่ผมชอบมากที่สุดในชีวิต" ส่วนภาพ "หยินหยางในสวนเซน" (ถ่ายด้วย Canon EOS R6 เลนส์ EF 300mm f/2.8L IS II USM) ถ่ายทอดความโดดเด่นของสมเสร็จที่มีลวดลายสีขาวดำ ตัดกับฉากหลังสวนหินราวกับว่าเหมือนมีหยินหยางอยู่ในสวนเซนแห่งนี้ ณรงค์เล่าถึงภาพนี้ว่า "จริง ๆ ผมเจอสมเสร็จหลายครั้งแล้วแต่ไม่ค่อยเห็นในสวนหินนี้ จนบ่ายวันหนึ่งมันก็เดินเข้ามา ท่าทางของมันสบายๆ ในสวน ผมเลยเก็บภาพช็อตนี้ได้"ภาพซ้าย-ขวา: สบตา ด้วยกล้อง Canon EOS 5D mark II และ หยินหยางในสวนเซน ด้วยกล้อง Canon EOS R6โดย นายณรงค์ สุวรรณรงค์นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพถ่ายที่เรียบง่ายแต่งดงามที่จะสร้างความประทับใจให้ทุกคนที่ได้สัมผัส แคนนอน ชวนชมนิทรรศการง่าย-งาม: Simply the Best ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม - 11 กุมภาพันธ์ 2567 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายภาพที่งานจะนำไปมอบให้แก่ มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าเมืองไทยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟสบุ๊คทางการของงานนิทรรศการ: ง่าย-งาม : Simply the Best Wildlife Photography Exhibition. หรือติดตามชมผลงานได้ที่ Instagram: simplythebestexhibitionแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446683/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

ดอยหัวหมด แหล่งชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นสุดอันซีนของจังหวัดตาก

29/04/2024

อัปเดต ดอยหัวหมด 2567 ในช่วงปลายฝนต้นหนาวเช่นนี้ นักท่องเที่ยวคึกคัก เดินทางไปชม ทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเริ่มตั้งแต่ตี 5 นักท่องเที่ยว เดินทางไปที่ ดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก เพื่อขึ้นดอยไปเฝ้ารอชม ทะเลหมอก และชมแสงแรกของเช้าวันใหม่ เป็นช่วงฤดู ปลายฝนต้นหนาว นักท่องเที่ยวก็เริ่มเยอะ มากคึกคัก คาดว่า ช่วงวันหยุดนี้ มีนักท่องเที่ยวมาจำนวนมากแน่นอนซึ่งในวันนี้ เป็นนักท่องเที่ยว จาก. จังหวัดปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี พิษณุโลก ชัยนาท นครสวรรค์ เชียงราย และนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตากนางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานตาก กล่าวว่า ดอยหัวหมดเป็น 1 ใน 10 จุดชมทะเลหมอกที่สวยงามของจังหวัดตาก ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องห้ามพลาด โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม (ขึ้นอยู่กับปริมาณฝนในแต่ละปี) ก็จะพบกันทุ่งดอกเทียนปีกผีเสื้อสีชมพูสวยงาม และในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ก็จะพบกับพันธุ์ไม้แปลกตา "พิศวงตานกฮูก หรือพิศวงไทยทอง"ช่วงต้นฤดูหนาวนี้ ผมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่าน มาร่วมสนุก มาหาความสุข มาเติมเต็มประสบการณ์กันที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก กันนะครับ "#มาเที่ยวจังหวัดตาก #ยากที่จะจากลา   •  รู้จัก "ดอยหัวหมด" ที่เที่ยวกำลังเป็นประเด็นจากช่อง Cullen HateBerryสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ ดอยหัวหมด จ.ตาก เพิ่มเติมได้ที่   •  ททท.สำนักงานตาก : 193 ถ.ตากสิน ต.หนองหลวง อ.เมือง จ.ตาก 63000   •  โทรศัพท์ 055-514-3413   •  อีเมล์ tattak@tat.or.th   •  FB taktravelแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1423549/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จัดโครงการ AIA Step to Strong 30 days – Start for Better เริ่มต้นดูแลสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

29/04/2024

เอไอเอ ประเทศไทย จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพรับต้นปี กับ “AIA Step to Strong 30 days – Start for Better” โดยได้เชิญกูรูตัวจริงด้านสุขภาพ โภชนาการ และการออกกำลังกาย อย่างโค้ชมิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร มาแบ่งปันประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม พร้อมให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่ดี เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สามารถทำให้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์และมีสุขภาพที่ดีได้อย่างยั่งยืน โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ AIA Step to Strong 30 days – Start for Better ทั้งสิ้น 40 ท่าน ได้ร่วมกิจกรรมพรีเวิร์คช็อปกับโค้ชมิกกี้ ทั้งรับฟัง Nutrition Talk และออกกำลังกายสไตล์โค้ชมิกกี้ ตลอดจนทุกท่านยังได้รับ E-Book ที่จัดทำขึ้นพิเศษ เพื่อสนับสนุนให้สามารถดูแลตนเองด้านโภชนาการ และการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีตลอดทั้ง 30 วัน นอกจากนี้ ทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการ ยังได้รับการวัดดัชนีมวลกายก่อนการเริ่มกิจกรรมโดยมีผู้เชี่ยวชาญ TANITA คอยแนะนำและวัดผล และพิเศษสุดสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ สามารถเข้าใช้บริการที่วี ฟิตเนส โซไซตี้ ได้ทุกสาขา ตลอดระยะเวลาโครงการ 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม ถึง 17 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งนับว่า AIA Step to Strong 30 days – Start for Better เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ต่อยอดพันธกิจของเอไอเอ ที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้คนไทยและผู้คนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives โดยกิจกรรมพรีเวิร์คช็อปจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2567 ณ วี ฟิตเนส โซไซตี้ สาขาเอสพลานาด รัชดา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

เตรียม “เกษียณ”...เมื่อไหร่ดี?

29/04/2024

“เตรียมเกษียณ” เป็นเรื่องที่สังคมไทยในปัจจุบันให้ความสำคัญมากขึ้น เหตุเพราะสังคมไทยได้เข้าสู่ “สังคมผู้สูงวัย” แล้วในปี2564 ประชากรมากกว่า20% มีอายุมากกว่า 60 ปี แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ คนวัยเกษียณมีจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่สามารถเกษียณได้อย่างแท้จริง เพราะเงินออมเกษียณที่เตรียมไว้ มีไม่มากพอ “อีกทั้ง หลายคนหวังพึ่งพาลูกหลานหรือคนในครอบครัว ซึ่งในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านวัฒนธรรมการใช้ชีวิต คือ เป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ทำให้การหวังพึ่งพิงยามเกษียณ อาจเป็นปัญหาทางการเงินของหลายๆ ครอบครัวในอนาคต”“เงินออมเกษียณ” เป็นเงินออมก้อนใหญ่ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการสะสมเงิน โดยใช้ช่วงชีวิตการทำงานหารายได้ เพื่อรายจ่ายในการดำรงชีวิตแล้ว เงินออม คือ ส่วนสำคัญที่ต้องมีวินัยในการเก็บให้มีความต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยปัจจัยสำคัญ 4 ประการในการออมเงินเพื่อเกษียณ ได้แก่ 1. ระยะเวลาในการออม ออมก่อนรวยกว่า พูดง่ายๆ เริ่มต้นเร็วย่อมดีกว่าเริ่มต้นช้า 2. เงินออมแต่ละงวด จำนวนมากเท่าไรยิ่งดี แต่ทั้งนี้ขึ้นกับรายได้และรายจ่ายของแต่ละบุคคล 3. อัตราผลตอบแทน ยิ่งมากยิ่งเป็นที่ต้องการ แต่ High Risk High Return ยิ่งผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงของเงินต้นก็สูงด้วยเช่นกัน  ดังนั้น การจะนำเงินไปสะสมที่แหล่งออมหรือลงทุนใดๆ ต้องมีความรู้ในสิ่งนั้น และยิ่งเป็นเงินออมเกษียณยิ่งต้องมั่นใจว่าเงินต้นจะไม่สูญหาย เพราะเงินเกษียณ คือ เงินรับรองคุณภาพชีวิตของตัวเรายามเกษียณ 4. เงินเฟ้อ เป็นปัจจัยที่คาดคะเนไม่ได้ ซึ่งจะส่งผลต่อมูลค่าเงินที่แท้จริง และทำให้อำนาจการใช้จ่ายลดน้อยลง โดยเงินเฟ้อ ทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมากขึ้นซื้อสินค้าและบริการได้เท่าเดิม เช่น ค่าโดยสารรถเมล์จากเดิม 2.50 บาท เพิ่มเป็น 8.50 บาท หรือหมูปิ้งจากไม้ละ 3 บาท เป็น 10 บาท “เงินเฟ้อ คือ ศัตรูสำคัญของเงินออมเกษียณอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะเงินออมที่ตั้งใจเตรียมไว้ใช้ยามเกษียณ แปลว่า กว่าจะถึงวันเกษียณ เงินที่ตั้งใจสะสมไว้ใช้เกษียณจะมีมูลค่าลดลง จึงต้องคิดวางแผนเก็บออมเงินเกษียณเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาดไว้ ณ  ปัจจุบัน ด้วยการปรับมูลค่าเงินเฟ้อไว้ด้วยจะเป็นการดี”ตัวอย่าง นายเอ อายุ 35 ปี ตั้งใจเกษียณอายุ 60 ปี เหลือเวลาทำงาน 25 ปี ตัวคูณเงินเฟ้อของนายเอคือ 1.80  หากนายเอ ต้องการเก็บเงินเกษียณ 5,000,000 บาท นายเอต้องเก็บเงินด้วยตัวเลข 5,000,000 *1.80 เท่ากับ 9,000,000 บาท “เมื่อนายเอ เห็นตัวเลขนี้แล้ว ย่อมทำให้นายเอ ตระหนักถึงความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการออมเงินเกษียณว่าต้องวางแผนการเก็บออมและเริ่มออมอย่างจริงจังเพื่อเป้าหมายในการเกษียณอย่างที่ตนเองต้องการ” “เงินเฟ้อ” อาจทำให้คุณภาพชีวิตหลังเกษียณต้องลดน้อยลง หาก “เงินออมเกษียณ” ไม่เพียงพอต่อระยะเวลาในการดำรงชีพเพื่อการเกษียณในปลายทางของชีวิต “การเกษียณ” ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนเพื่อให้ “เกษียณอย่างมีความสุข” คุณพร้อม “ออมเงินเกษียณ” กันเมื่อไรดี? แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ wealthythaihttps://www.wealthythai.com/en/updates/wealth-management/wealth-ez/20340

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันภัย

รวมวิธีเลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ให้คุ้มค่า ฉบับอัปเดต 2024

29/04/2024

มื่อเข้าสู่ปีใหม่ทั้งที การต่ออายุ หรือเลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ใหม่ น่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนกำลังเริ่มวางแผนอยู่แน่นอน เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกทำประกันเจ้าไหนดี หรือจะเลือกอย่างให้คุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้งานรถยนต์คู่ใจมากที่สุด แต่ไม่ต้องกังวลกันไป เพราะเรามีวิธีเลือกซื้อแบบง่ายๆ มาฝากกัน เลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ต้องดูที่อะไรบ้างเลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ต้องดูที่อะไรบ้างจะเลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ทั้งที จะต้องดูที่อะไรบ้าง คำถามนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ผุดขึ้นในความคิดของทุกคน เพราะเมื่อนึกถึงคำว่าทำประกัน ภาพจำส่วนใหญ่ก็คือความยุ่งยาก ซับซ้อน และมีรายละเอียดให้ต้องคิดเยอะแยะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถดูได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่จุดนี้เท่านั้นความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัยสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือกซื้อประกันออนไลน์มากที่สุด จะต้องเป็นเรื่องความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย เพราะจุดนี้ไม่เพียงแต่หมายถึงความมั่นคงในด้านเงินทุน ที่ทำให้เรามั่นใจในการเคลมประกันเท่านั้น แต่ยังหมายถึงคุณภาพในการบริการที่ทำให้อยู่มาอย่างยาวนานด้วยความคุ้มครองที่ตอบโจทย์เรื่องต่อมาที่ต้องให้ความสำคัญ ก็คือความตอบโจทย์ของประกันที่ต้องการ หากเป็นคนใช้บ่อย หรือต้องเดินทางไกลอยู่เป็นประจำ การเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็อาจจะตอบโจทย์ในส่วนนี้ แต่หากเป็นคนที่ใช้รถไม่บ่อย หรือใช้ในการเดินทางเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมาก ก็อาจจะเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือชั้น 3 แทนก็ได้ แต่ก็จะมีเงื่อนไขในการคุ้มครองที่น้อยกว่านั่นเองเงื่อนไขในการซ่อมและเคลมประกันอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ก็คือการซ่อมแซมรถเมื่อเกิดอุบัติเฉี่ยวชน ตรงจุดนี้จะต้องเช็กให้ดีว่าเงื่อนไขของประกันนั้นเป็นการซ่อมอู่ หรือเป็นการซ่อมห้าง ซึ่งจะมีความแตกต่างในเรื่องของค่าเบี้ยประกัน รวมไปถึงอะไหล่ในการใช้ซ่อมที่อาจจะมีคุณภาพแตกต่างกันไป จึงเป็นอีกจุดที่เราต้องตัดสินใจให้ดีเช่นกันค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไหวนอกจากเงื่อนไขต่างๆ แล้ว ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไหว คืออีกเรื่องสำคัญที่ทำให้ภาระทางการเงินนั้นไม่ตึงจนเกินไป จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องใช้พิจารณาร่วมด้วยกันเงื่อนไขความคุ้มครอง เพราะจะได้ตอบโจทย์การใช้รถได้อย่างคุ้มค่า โดยมีเงินเหลือไปใช้ในการดูแลรถส่วนอื่นแบบสบายใจแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://siamrath.co.th/n/508751

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

สัปดาห์ศิลปะสิงคโปร์ 2024 สุดยอดงานศิลป์กว่า 130 ชิ้นจากศิลปินทั่วอาเซียน

29/04/2024

กลับมาอีกครั้งกับงานเทศกาลศิลปะแนวหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Singapore Art Week (SAW) หรืองานสัปดาห์ศิลปะสิงคโปร์ โดยในปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 28 มกราคม 2567 และจัดแสดงงานทัศนศิลป์กว่า 130 ชิ้นทั่วทั้งสิงคโปร์ ตั้งแต่บริเวณใจกลางเมืองตลอดจนพื้นที่ชานเมืองโดยรอบเทศกาลงานทัศนศิลป์ Singapore Art Week ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นงานสัปดาห์ศิลปะที่จัดขึ้นมาอย่างยาวนานที่สุดในภูมิภาค โดยตลอดเดือนมกราคมนี้ สิงคโปร์พร้อมต้อนรับผู้หลงใหลในงานศิลปะและนักสะสมจากทั่วทุกมุมโลกมาทำความรู้จักชุมชนแห่งศิลปะที่หลากหลายและมีชีวิตชีวาในสิงคโปร์ และมาร่วมเปิดประสบการณ์และมุมมองใหม่ ๆ ผ่านงานศิลปะจากศิลปินทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้Singapore Art Week จัดขึ้นโดยสภาศิลปกรรมแห่งชาติ หรือ National Arts Council (NAC) โดยการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board) โดยได้รวบรวมผลงานทัศนศิลป์ของสิงค์โปร์ทั้งหมดไว้ภายในงานนี้ ไม่ว่าคุณจะมีความสนใจด้านไหน ตั้งแต่เทศกาลงานศิลปะนานาชาติ นิทรรศการจากพิพิธภัณฑ์แนวหน้า ตลอดจนถึงงานแสดงไพรเวทคอลเลกชันระดับโลก และแกลเลอรี สตรีทอาร์ต นิทรรศการจากแบรนด์รวมถึงกิจกรรมด้านคอมมูนิตี้อาร์ตหรือพื้นที่สำหรับการสร้างสรรค์ศิลปะให้กับผู้คนทั่วไป ที่เปิดให้เข้าร่วมได้ทั่วทั้งสิงค์โปร์ ครั้งนี้ Singapore Art Week 2024 จะเปลี่ยนนิยามของคำว่าทัศนศิลป์สำหรับสิงคโปร์และทั้งภูมิภาค รวบรวมและพาผู้คนจากหลากหลายช่วงอายุ ต่างวัฒนธรรม ให้ใกล้ชิดงานศิลป์และการสร้างสรรค์ศิลปะมากยิ่งกว่าที่เคยไฮไลต์ของเทศกาล Singapore Art Week เช่นImmortal Words ผลงานจาก Boedi Widjaja ศิลปินร่วมสมัยชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินโดนีเซีย ภายใต้ความร่วมมือกับรองศาสตราจารย์ด้านพันธุศาสตร์ Eric Yap จัดแสดงความเชื่อมโยงอันละเอียดอ่อนระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์ได้อย่างสนุกสนาน นอกจากผลงานที่จะจัดแสดงแล้ว ยังมีศิลปะรูปแบบใหม่ที่เป็นการนำข้อความทั้งที่เป็นคำพูดและเป็นลายลักษณ์อักษรจากภาษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเข้ารหัสและแปลงคำเหล่านั้นให้กลายเป็นโครงสร้างโมเลกุล DNA ที่บรรจุในขวดด้วยน้ำหมึกที่เป็นสารแขวนลอย DNA ด้วยเช่นกัน โดยผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถรับของที่ระลึกดังกล่าวได้ผ่านตู้กาชาปอง[] ที่จะจ่ายคำที่อนุรักษ์ไว้เป็นพิเศษในภาษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรำลึกถึงรากวัฒนธรรมอันงดงามOpen studio sessions กิจกรรมที่เปิดให้ผู้ชมได้ทำความรู้จักกับศิลปินแนวหน้า และนำเสนอประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในการพบศิลปินตัวจริงผ่านกิจกรรมอย่างการเข้าชมสตูดิโอ การจัดแสดงผลงาน รวมไปถึงการพูดคุยผ่านงานเสวนา โดยมีศิลปินผู้บุกเบิกวงการศิลปะในสิงคโปร์ อย่างศิลปินโมเดิร์นอาร์ต Teo Eng Seng และนักกวีและช่างอักษรวิจิตรอย่าง Tan Swie Hian ผู้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ศิลปะของสิงคโปร์เข้าร่วมกิจกรรมด้วยเช่นกันLight to Night Singapore 2024 หนึ่งในอีเวนต์สำคัญของ SAW และถือเป็นไฮไลท์ประจำปีของสิงคโปร์ ที่จะทำให้ย่าน Civic District (ซีวิค ดิสทริคท์) สว่างไสวด้วยการฉายภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ การแสดงงานศิลปะจัดวางและกิจกรรมให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ภายใต้ธีม "Reimagine" งาน Light to Night Singapore 2024 จัดแสดงโดย National Gallery Singapore โดยร่วมมือกับสถาบันทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นที่สุด 5 แห่งของ Civic District ได้แก่ พิพิธภัณฑ์อารยธรรมเอเชีย (Asian Civilisations Museum) ดิอาร์ตเฮาส์ (The Arts House) โรงละครวิคตอเรียและคอนเสิร์ตฮอลล์ (Victoria Theatre & Victoria Concert Hall) และ ศูนย์แสดงศิลปะ เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์ (Esplanade Theatres on the Bay) นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่เป็นที่จับตามองอย่าง Tropical: Stories from Southeast Asia and Latin America ซึ่งเป็นนิทรรศการแรกของโลกที่นำเสนอผ่านแนวทางการเล่าเปรียบเทียบระหว่างทั้งสองภูมิภาค โดยเป็นเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการต่อต้านการครอบครองในยุคอาณานิคม แสดงผลงานมากกว่า 200 ชิ้น จากกว่า 70 ศิลปิน รวมถึงศิลปินแนวหน้าอย่าง Latiff Mohidin, Frida Kahlo และ Diego Rivera ให้ทุกคนร่วมชมสีหมึกแห่งการท้าทายและฝีแปรงแห่งความสามัคคี ผลงานที่เป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวจากศิลปินในยุคล่าอาณานิคมจากทั้งสองภูมิภาคHo Tzu Nyen: Time & the Tiger เป็นนิทรรศการจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะสิงคโปร์ หรือ Singapore Art Museum (SAM) โดยจะพาผู้ชมไปสำรวจงานศิลปะอันเป็นผลงานจากศิลปินชาวสิงคโปร์ที่ได้รับการยกย่องอย่าง Ho Tzu Nyen ในระหว่างการเป็นศิลปินระดับ Mid-career ที่ครอบคลุมหลากหลายประเภทงาน ทั้งภาพวาด ภาพยนตร์ ละครเวที และวิดีโอจัดวาง ที่เกิดขึ้นในช่วงกว่า 2 ทศวรรษของเส้นทางการเป็นศิลปิน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงผลงานใหม่ของ Ho Tzu Nyen ที่จัดร่วมกับ Art Sonje Center จากกรุงโซล อันได้แก่ T for Time ซึ่งเป็นการนำเสนองานศิลปะผ่านการฉายวิดีโอซ้อนทับจากสองช่องทาง เพื่อสื่อถึงเสน่ห์ของช่วงเวลาและการรับรู้เวลาที่แตกต่างกัน และสร้างมุมมองใหม่ให้กับผู้เข้าชมทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ศิลปะสิงคโปร์ (SAM) ยังมีการจัดแสดงผลงาน Simryn Gill and Charles Lim Yi Yong: The Sea is a Field ซึ่งเป็นผลงานร่วมกันระหว่างภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสิงคโปร์และศิลปิน ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางสำรวจพื้นที่ซึ่งคั่นกลางระหว่างบ้านเกิดของศิลปินทั้งสามที่อยู่ใน Port Dickson ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งก็คือทะเลนั่นเอง โดยศิลปินจะมีวิธีในการอธิบายเรื่องราวของการข้าม การอพยพ และเขตแดนในชีวิตประจำวันที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและการเมืองอันลึกซึ้งของภูมิภาครายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานสัปดาห์ศิลปะสิงคโปร์ หรือ Singapore Art Week (SAW) 2024 สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.artweek.sg หรือกดติดตาม @sgartweek บน Facebook, Instagram และ Telegramแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000006614

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

8 เคล็ดลับ เที่ยวคนเดียวให้มีความสุขและปลอดภัย แชร์ขั้นตอนการเตรียมตัวจากนักเดินทาง

29/04/2024

8 เคล็ดลับ เที่ยวคนเดียวให้มีความสุขและปลอดภัย พร้อมแชร์ขั้นตอนการเตรียมตัวจากผู้มีประสบการณ์ตรงการเที่ยวคนเดียว อาจเป็นฝันร้ายร้ายสำหรับหลายคน เพราะไม่มั่นใจและกลัวการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย แต่สำหรับคนอีกกลุ่ม การเที่ยวคนเดียว เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น ช่วยให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเองและสถานที่ใหม่ ๆ โดยไม่ต้องรอความเห็นจากคนอื่นจริงอยู่ที่การเที่ยวคนเดียวก็อาจทำให้บางคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ด้วยตัวเอง แต่หากคุณได้ลองเปิดใจก้าวข้ามความกลัวสักครั้ง อาจทำให้คุณสนุกกับเรื่องใหม่ ๆ ได้มากขึ้น Sanook travel มี 8 เคล็ดลับการเที่ยวคนเดียวให้มีความสุขและปลอดภัย ลองนำไปใช้กันได้เลย8 เคล็ดลับ เที่ยวคนเดียวให้มีความสุขและปลอดภัย  1. วางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบก่อนออกเดินทาง ควรวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว สภาพอากาศ การเดินทาง และค่าใช้จ่ายต่างๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีแผนสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน  2. เตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจการเที่ยวคนเดียวอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง และเผื่อเวลาให้ตัวเองได้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ  3. เตรียมเงินสดและบัตรเครดิตให้เพียงพอควรเตรียมเงินสดและบัตรเครดิตให้เพียงพอสำหรับการเดินทางและใช้จ่ายระหว่างวัน เผื่อเหลือดีกว่าขาดยังเป็นทางออกที่ดีเสมอ หลีกเลี่ยงการพกเงินสดจำนวนมากติดตัวเพื่อป้องกันการโจรกรรม อาจแบ่งเก็บเงินไว้หลาย ๆ จุด เพื่อความปลอดภัย  4. พกอุปกรณ์ที่จำเป็นติดตัวควรพกอุปกรณ์ที่จำเป็นติดตัว นอกจากโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป เช่น ยาสามัญ อุปกรณ์ปฐมพยาบาล หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยวในสถานที่นั้นๆ เช่น ที่ชำระล้างพกพา กรณีไปประเทศที่ไม่ใช้สายชำระแบบที่คนไทยคุ้นเคย หรือหากเที่ยวป่าปีนเขา ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม  5. เรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองควรเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเอง เช่น การระมัดระวังตัวจากอาชญากรรม การหลีกเลี่ยงอันตรายจากสภาพแวดล้อม เช็กสภาพอากาศให้ดี และการป้องกันตนเองจากโรคภัยไข้เจ็บ เบื้องต้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางยาววิกาลในที่เปลี่ยว เสี่ยงอาชญากรรม หรือศึกษาวิธีเอาตัวรอดเบื้องต้นจากเหตุฉุกเฉิน  6. เปิดใจกว้างและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆการอยู่ในคอมฟอร์ตโซนทำให้อุ่นใจ แต่ให้คิดเสมอว่าการเที่ยวคนเดียวเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ใช่แค่โลกกว้างที่เรายังเข้าใจได้ไม่มากพอ แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง คุณอาจเห็นศักยภาพของตัวเองอีกด้านที่คุณไม่เคยคิดว่าคุณจะสามารถทำได้มากก่อนก็ได้ นั่นเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมาก ๆ เลยล่ะ  7. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น หลงทาง เจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ ควรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หรือนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ โดยไม่ต้องกังวล หรือเขินอาย เพียงยอมรับว่าเรามือใหม่หัดเดินทางคนเดียว ผู้คนย่อมยินดีให้ความช่วยเหลือ  8. สนุกกับการเดินทางการเที่ยวคนเดียวเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น ดังนั้นควรสนุกกับการเดินทางและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ไว้ มองโลกในแง่มากกว่าการตำหนิติเตียน เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีจำกัดให้มีความสุขเข้าไว้นอกจากการเตรียมตัวตาม 8 เคล็ดลับตามที่กล่าวไปแล้ว  เราขอแนะนำให้คุณเพิ่มความปลอดภัยให้อุ่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการบอกคนที่คุณไว้ใจว่าคุณกำลังจะเดินทางไปไหนเมื่อไหร่ หากเกิดกรณีฉุกเฉินจะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงเพิ่มรายละเอียดในการเตรียมตัวจากผู้มีประสบการณ์ตรง คุณแบงค์ หนุ่มนักเดินทางเจ้าของเพจ ตัวคนเดียวก็เที่ยวได้ แนะนำขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับมือใหม่ลองเที่ยวอุทยานแบบสันโดษไว้ด้วยเที่ยวคนเดียวต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง  1. เลือกสถานที่อยากไป พร้อมตั้งงบค่าใช้จ่าย  2. หาข้อมูลสถานที่นั้นๆ เช่นการเดินทาง จุดห้ามพลาด กิจกรรมที่ต้องทำ เป็นต้น  3. กำหนดวันเดินทาง-จองตั๋ว-จองที่พัก    ***กรณีเดินป่าที่มีเต็นท์ไปกางเอง เช็กอุปกรณ์ให้แน่ใจว่าไม้ได้ลืมอะไร ปล.ผมเคยลืมเสาเต็นท์มาแล้ว สรุปคือแบกเต็นท์ 3 กก. เพื่อไปเช่าเต็นท์ครับ 55  4. หมั่นตรวจเช็คสภาพอากาศ โดยเฉพาะ 3 วันสุดท้ายก่อนเดินทาง จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ  5. เตรียมแผนสำรองเผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน อย่างเช่น หาข้อมูลสถานที่เที่ยวใกล้เคียง เวลาเกิด accident เปลี่ยนแพลนกระทันหัน จะได้ไม่รน ***อันนี้ผมว่าจำเป็นมากนะ  6. จดรายชื่อสิ่งของจำเป็นเอาไว้ เวลาจัดเป้จะได้ไม่ลืม  7. ก่อนวันเดินทาง ตรวจสอบ-เช็คดูเป้อีกรอบเพื่อกันลืม ***ตั๋วเดินทาง กระเป๋าตังค์ สายชาร์จ+โทรศัพท์ อุปกรณ์ถ่ายภาพ ยา และ "กางเกงใน" ให้ Remark ไว้เลยว่า #ห้ามลืมเด็ดขาด  8. วันเดินทาง ให้เอาความไม่สบายใจไปด้วย แต่ขากลับไม่ต้องพากลับมา สะดวกทิ้งตรงไหนก็ทิ้งไว้ตรงนั้น แล้วกักตุนความสุขในทริปนั้น ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้***ปล.การที่เราเลือกออกเดินทางตัวคนเดียวนั้น แปลว่า.....  เราต้องดูแลตัวเองได้ดีพอสมควร ต้องเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ ต้องสามารถพึ่งตัวเองได้ เพราะฉะนั้นสิ่งของจำเป็นทุกอย่าง ห้ามลืมเด็ดขาด และที่สำคัญ  ต้องไม่อ่อนไหวกับความเหงา"คิดถึงเขาได้.....แต่เราต้องมีความสุขให้มากกว่าตอนที่มีเขาอยู่"หวังว่าทริกเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ในการเดินทางตัวคนเดียวของหลายๆ คนนะครับ ขอให้มีความสุขในทุกๆ ทริปแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับsanookhttps://www.sanook.com/travel/1446667/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X