Everyday knowledge for you
ข่าวการเงิน
15/08/2024
หลายคนอาจคิดว่าความมั่งคั่งเป็นเรื่องไกลตัว หรือต้องรอจนถึงวัยเกษียณ แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถเริ่มสร้างความมั่งคั่งได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตาม บทความนี้จะแนะนำ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง เพื่อให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไม่ต้องรอจนถึงวัยเกษียณวิธีรวยก่อนแก่ สร้างความมั่งคั่งให้มีเงินใช้หลังเกษียณการมีชีวิตหลังเกษียณที่สุขสบายไร้กังวล ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม หากเราวางแผนและลงมือสร้างความมั่งคั่งตั้งแต่วันนี้ เส้นทางสู่ 'รวยก่อนแก่' ไม่ได้เต็มไปด้วยความซับซ้อน แต่ต้องอาศัยวินัยและความเข้าใจ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง เพื่อให้คุณสามารถเกษียณอย่างมีอิสระภาพทางการเงิน ใช้ชีวิตในแบบที่ฝันไว้ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มต้นวางแผนอนาคตที่มั่งคั่งไปด้วยกันเถอะ!1. วางแผนชีวิต สู่เป้าหมายเกษียณที่มั่นคงการวางแผนชีวิตหลังเกษียณเปรียบเสมือนการวาดภาพฝันของคุณในอนาคต คุณอยากใช้ชีวิตอย่างไร อยากทำอะไรบ้าง และทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่? การคำนวณเงินออมที่จำเป็นจะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าคุณต้องเริ่มออมเงินเท่าไหร่ตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างที่ใจต้องการสูตรคำนวณเงินออม • สูตรจากรายได้: (รายได้ก่อนเกษียณ x 70%) x 300 = เงินออมที่พึงมี สมมติว่าคุณมีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าหลังเกษียณคุณจะใช้จ่ายประมาณ 70% ของรายได้ปัจจุบัน นั่นคือ 35,000 บาทต่อเดือน หากคุณคาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณอีก 300 เดือน (หรือ 25 ปี) คุณจะต้องมีเงินออมอย่างน้อย 10.5 ล้านบาท (35,000 x 300) • สูตรจากรายจ่าย: (รายจ่ายก่อนเกษียณ x 70%) x 300 = เงินออมที่พึงมี สมมติว่าหากคุณทราบรายจ่ายปัจจุบันของคุณอยู่แล้ว คุณสามารถใช้สูตรนี้เพื่อคำนวณเงินออมที่ต้องการได้โดยตรง เช่น หากคุณมีรายจ่าย 40,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าจะลดลงเหลือ 70% หลังเกษียณ คุณจะต้องมีเงินออม 8.4 ล้านบาท (28,000 x 300)2. กำหนดเป้าหมาย ออมก่อน รวยกว่าการออมเงินเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง เริ่มต้นออมอย่างน้อย 15% ของรายได้ หรือแบ่งเป็นออม 10% และลงทุน 5% เพื่อให้เงินของคุณทำงานแทนคุณ การลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ เช่น กองทุนรวม ตราสารหนี้ หรือหุ้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาวตัวอย่างการออมและลงทุน • เงินเดือน 30,000 บาท: ออม 15% = 4,500 บาท/เดือน • เงินเดือน 30,000 บาท: ออม 10% (3,000 บาท) + ลงทุน 5% (1,500 บาท) = 4,500 บาท/เดือน3. ประเมินสถานะทางการเงิน ด้วยงบดุลชีวิตการทำงบดุลชีวิตเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพทางการเงินของคุณ ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมด ทำให้คุณสามารถประเมินสถานะทางการเงินในปัจจุบัน และวางแผนปรับปรุงแก้ไขได้อย่างเหมาะสมตัวอย่างทรัพย์สินและหนี้สิน • ทรัพย์สิน: เงินฝากออมทรัพย์ เงินลงทุนในกองทุนรวม บ้าน รถยนต์ ฯลฯ • หนี้สิน: หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน ฯลฯสถานะทางการเงิน • มั่งคั่ง: ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน • มั่งคั่งติดลบ: หนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน4. ตรวจสอบค่าใช้จ่าย ด้วยบัญชีรายรับ-รายจ่ายการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายช่วยให้คุณเห็นภาพการใช้จ่ายเงินของคุณอย่างชัดเจน คุณจะรู้ว่าเงินของคุณหายไปไหนบ้าง และสามารถระบุค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือสามารถลดได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณออมเงินได้มากขึ้นเคล็ดลับการลดค่าใช้จ่าย • ทำอาหารทานเองแทนการออกไปทานข้าวนอกบ้านบ่อยๆ • ใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว • เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ • ลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยหรือที่ไม่จำเป็นเริ่มต้นวันนี้ เพื่ออิสรภาพทางการเงินในวันข้างหน้าการสร้างความมั่งคั่งไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม หากเรามีวินัยและเริ่มต้นลงมือทำอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใด ก็สามารถวางแผนและสร้างความมั่งคั่งเพื่ออนาคตที่มั่นคงได้ 4 ขั้นตอนที่เราได้นำเสนอไป ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเกษียณ การออมและลงทุน การประเมินสถานะทางการเงิน และการควบคุมค่าใช้จ่าย ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้อย่าปล่อยให้อนาคตทางการเงินของคุณเป็นเรื่องของโชคชะตา เริ่มต้นวางแผนและลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุณสามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงิน ใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจต้องการ และมีอนาคตที่มั่งคั่งและมั่นคง "อนาคตที่มั่งคั่ง เริ่มต้นจากการลงมือทำในวันนี้"ที่มา KBank Liveแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintvhttps://www.amarintv.com/spotlight/spotlight/detail/68108
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
15/08/2024
โบรกเกอร์ประกันติดโล่ ปลอดภัย มีใบอนุญาตรับรองการดำเนินธุรกิจ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ให้ข้อมูลชัดเจนประกันติดโล่ โบรกเกอร์ประกัน ตัวแทนที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่“ประกันติดโล่ โดยเงินติดล้อ” เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ประกันภัยทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ในการซื้อประกันปัจจุบันนี้ เนื่องจากชีวิตที่เราต้องเร่งรีบและมีอะไรให้ทำมากมาย การต้องมานั่งเลือกประกันที่ดีที่สุดหรือเหมาะกับตัวเองที่สุดตั้งแต่เริ่มต้น อาจจะต้องใช้เวลานานในการเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ การเลือกโบรกเกอร์ประกันที่ไว้ใจได้ที่รวบรวมประกันที่ดีในราคาที่เหมาะสมมารวมเอาไว้แล้ว ก็เป็นการช่วยลดตัวเลือกให้กับเราและทำให้เราเลือกประกันที่เหมาะกับตัวเองได้เร็วขึ้น10 วิธีเลือกโบรกเกอร์ประกันที่ปลอดภัยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันทรัพย์สิน โบรกเกอร์ประกันจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเราและบริษัทประกันภัย ซึ่งสามารถให้คำแนะนำและช่วยหาผลิตภัณฑ์ประกันที่ตรงกับความต้องการของเราได้อย่างดี แต่ปัจจุบันมิจฉาชีพมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การเลือกโบรกเกอร์ประกันจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยเรามีวิธีการเลือกโบรกเกอร์ประกันที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือมาฝากกัน ดังนี้1. ศึกษาและเปรียบเทียบโบรกเกอร์ต่าง ๆโดยเริ่มแรกให้เราศึกษาข้อมูลของโบรกเกอร์ประกันต่าง ๆ ที่สามารถค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของบริษัทประกัน หรืออ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการได้ โดยตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ประกันนั้นมีชื่อเสียงหรือมีประสบการณ์ในการให้บริการหรือไม่ ซึ่งแม้จะต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลเปรียบเทียบเหมือนกัน แต่เราอาจจะเปรียบเทียบเพียงครั้งเดียวถ้าได้โบรกเกอร์ประกันที่ถูกใจตรงความต้องการ2. ตรวจสอบใบอนุญาตและการรับรองโบรกเกอร์ประกันควรมีใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจและการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยการมีใบอนุญาตและการรับรองดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ดีว่าโบรกเกอร์ประกันนั้นมีมาตรฐานและปฏิบัติตามกฎหมาย3. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์โบรกเกอร์ประกันที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และตรงกับความต้องการของเราได้ เราจึงควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ประกันนั้นมีประสบการณ์ในการให้บริการประเภทประกันที่ต้องการหรือไม่ การมีความรู้และความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลายจะช่วยให้โบรกเกอร์สามารถแนะนำประกันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา4. การให้บริการลูกค้าการให้บริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ประกัน โดยโบรกเกอร์ประกันที่ดีควรมีการให้บริการลูกค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เราควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ประกันนั้น ๆ มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก และสามารถให้ความช่วยเหลือได้ตลอดเวลาหรือไม่ เช่น มีบริการสายด่วน บริการออนไลน์ หรือมีสำนักงานที่สามารถติดต่อได้ง่าย5. ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของโบรกเกอร์ประกัน เราควรเลือกโบรกเกอร์ที่ให้ข้อมูลอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกัน เงื่อนไขการเคลมประกัน หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โบรกเกอร์ประกันที่ดีจะไม่มีการปกปิดข้อมูล หรือพยายามขายประกันที่ไม่เหมาะสมกับเรา6. ความยืดหยุ่นในการให้บริการความยืดหยุ่นในการให้บริการเป็นสิ่งที่เราควรพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ประกัน โดยโบรกเกอร์ประกันที่ดีควรสามารถปรับตัว และให้บริการตามความต้องการของเราได้ เช่น การปรับเปลี่ยนแผนประกัน การเพิ่มหรือลดความคุ้มครอง หรือการให้คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่อต้องการ7. การเปรียบเทียบข้อเสนอการเปรียบเทียบข้อเสนอจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่เราควรทำ เพื่อให้เราได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด ทั้งความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน และเงื่อนไขต่าง ๆ8. การให้คำปรึกษาและการสนับสนุนโบรกเกอร์ประกันที่ดีจะไม่เพียงแค่ขายประกัน แต่ยังให้คำปรึกษาและสนับสนุนเราในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกประกัน การกรอกแบบฟอร์มสมัคร การเคลมประกัน จนถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการต่ออายุประกัน เราควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีการสนับสนุนเราอย่างเต็มที่ และพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อเราต้องการ9. รีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้าคนอื่น ๆการอ่านรีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้าคนอื่น ๆ จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการให้บริการของโบรกเกอร์ประกัน ช่วยให้เรามีข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจโดยเราสามารถค้นหาความคิดเห็นจากเว็บไซต์หรือกลุ่มในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เลย10. สอบถามคำแนะนำจากคนใกล้ชิดการสอบถามคำแนะนำจากคนใกล้ชิด เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน ที่มีประสบการณ์ในการใช้บริการโบรกเกอร์ประกัน จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์และเป็นกลางได้แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintvhttps://www.amarintv.com/news/detail/226848
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
15/08/2024
เชื่อว่าคนที่ชื่นชอบการไปชมนิทรรศการศิลปะ จะต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อของ "teamLab" (ทีมแล็บ) มาบ้าง มีชื่อเสียงด้านดิจิทัลอาร์ตของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในหลายเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว ที่มีทั้ง teamLab Borderless และ teamLab Planetsในเมืองโอซากาเองก็มี teamLab Osaka ให้ชมเช่นกัน โดยใช้ชื่อเต็มๆ ว่า "teamLab Botanical Garden Osaka" มีความพิเศษตรงที่เป็นนิทรรศการศิลปะกลางแจ้งที่จัดขึ้นในสวนพฤกษศาสตร์ใกล้เมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว และมีธรรมชาติรายล้อม มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์นำภาพบรรยากาศมาฝากกันรู้จักสวนพฤกษศาสตร์ Nagai Botanical Garden โอเอซิสกลางเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่นNagai Botanical Garden เป็นสวนสาธารณะในเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1974 และได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่อีกครั้งในปี 2022 เพื่อสร้างให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งอนาคต ที่มีสภาพแวดล้อมเป็นมิตรต่อธรรมชาติ กว้างครอบคลุมพื้นที่ 240,000 ตารางเมตร โดยมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ใจกลางสวน รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และพืชพรรณต่างๆ มีนกนานาชนิดให้ชม ภายในสวนจะมีการปลูกไม้ดอกเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลต่างๆ ตลอดทั้งปีภายในสวนแห่งนี้เองเป็นที่ตั้งของ "teamLab Botanical Garden Osaka" หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "teamLab Osaka" จากสวนพฤกษศาสตร์หรือป่าขนาดย่อมในเวลากลางวัน จะถูกเนรมิตให้เปลี่ยนเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงงานศิลปะดิจิทัล ผสมผสานเทคนิคด้านแสงและสีสันต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาตินอกจากนี้ โดยรอบ teamLab Osaka ยังมีสนามกีฬา มีพื้นที่ออกกำลังกาย มีร้านอาหารและคาเฟ่ไว้คอยให้บริการ เรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่ตอบโจทย์คนหลากหลายวัย อีกทั้งมีนิทรรศการเท่ๆ ให้เข้าไปชมความงดงามของธรรมชาติในยามค่ำคืนอีกด้วย"teamLab Botanical Garden Osaka" นิทรรศการศิลปะดิจิทัลกลางป่า รวมมนุษย์และธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียวteamLab Botanical Garden Osaka คือ นิทรรศการศิลปะดิจิทัลในรูปแบบ Immersive Art ที่จัดแสดงกลางแจ้ง (Outdoor) ท่ามกลางสวนพฤกษศาสตร์เก่าแก่ของเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ภายในสวนจะมีการนำเทคนิคของหลายศาสตร์มาผสมกัน เช่น ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการสร้างบรรยากาศสุดตราตรึง ที่เชื่อมโยงมนุษย์และสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันนิทรรศการแห่งนี้เปิดให้ชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2022 โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงสวนพฤกษศาสตร์ Nagai Botanical Garden และจัดต่อเนื่องเป็นนิทรรศการถาวรมาจนถึงปัจจุบันวัตถุหลายชิ้นที่นำมาจัดแสดง เมื่อใช้มือแตะสัมผัสก็จะเปลี่ยนเป็นสีสันต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามและความน่าค้นหาของธรรมชาติในมุมมองใหม่ๆ อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการเดินถ่ายรูปสวยๆ และได้ศึกษาธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน นอกจากเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่เดตยอดฮิตของคนหนุ่มสาวด้วยสำหรับคอนเซปต์ของ teamLab Botanical Garden Osaka คือการแสดงให้เห็นว่าศิลปะกลางป่าเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เพราะมีธรรมชาติและป่าไม้รายล้อม ตลอดจนนกนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ งานศิลปะดิจิทัลภายในนิทรรศการมีความต่อเนื่องในหลายโซนที่เปิดเป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวชม บางโซนก็มีลูกเล่นให้เราหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาสแกน QR Code เพื่อเชื่อมโยงรูปแบบศิลปะดิจิทัลและสภาพแวดล้อมจริงเข้าด้วยกันเช็กให้พร้อม teamLab Osaka เปิดกี่โมง?เวลาเปิดทำการในแต่ละช่วงอาจมีความแตกต่างกัน โดยสามารถเช็กได้ที่เว็บไซต์ทางการของ teamLab Botanical Garden Osaka หรือ https://www.teamlab.art/e/botanicalgardenแต่โดยทั่วไปแล้ว teamLab Osaka จะเริ่มเปิดในเวลาประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน และจะได้ชมแสงสีของนิทรรศการภายในสวนได้อย่างเต็มที่ ปิดทำการในเวลา 21.30 น. โดยจะหยุดให้บริการในทุกวันจันทร์ที่ 2 และ 4 ของเดือนวิธีเดินทางไป teamLab Osaka ลงรถไฟสถานีไหน?teamLab Osaka ตั้งอยู่ภายในสวนพฤกษศาสตร์ Nagai Botanical Garden สามารถเดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟใต้ดินสาย Midosuji > มาลงที่สถานี Nagai > ออกทางออกที่ 3 > เดินต่อประมาณ 10 นาที ก็จะถึงจุดหมายบัตรค่าเข้า teamLab Osaka เท่าไร?• ค่าเช้าชม สำหรับเด็ก (ประถมศึกษา-มัธยมต้น) : ราคา 500 เยน• ค่าเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป) : ราคา 1,800 เยนซื้อบัตรเข้าชม teamLab Osaka ล่วงหน้าได้ที่ Klook >> บัตรเข้าชมสวนพฤกษศาสตร์ teamLab Botanical Garden Osakaเรื่องและภาพ : ตติยา แก้วจันทร์แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2802908
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
15/08/2024
ชมความงดงาม ภูเขาฟ่านจิ้ง มรดกโลกทางธรรมชาติ บ้านสัตว์ป่ากลางขุนเขาและถิ่นฐานการเจริญเติบโตของพืชพันธุ์ ภายใต้แสงอาทิตย์สีเหลืองทอง ซึ่งอาบไล้ขุนเขา ที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัว เผยภาพความงดงาม ภูเขาฟ่านจิ้ง บนเทือกเขาอู่หลิง ในเมืองถงเหริน มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ที่เต็มไปด้วยแมกไม้และมีเมฆหมอกขาวเคลื่อนผ่าน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในทำเนียบมรดกโลกทางธรรมชาติของยูเนสโก เมื่อปี 2018 โดย ภูเขาฟ่านจิ้ง นับเป็นบ้านหลังอบอุ่นของสัตว์ป่ามากกว่า 2,760 ชนิด และถิ่นฐานการเจริญเติบโตของพืชพันธุ์ 4,390 ชนิดแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกระปุก.คอมhttps://travel.kapook.com/view283058.html
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
14/08/2024
เป็นหนี้บัตรเครดิต แต่ผ่อนไม่ไหว ค้างชำระนานจนกลายเป็นหนี้เสีย ทำยังไงดีMoney Trick พามารู้จักคลินิกแก้หนี้ ทางออกสำหรับคนเป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ค้างชำระมาหลายเดือนแล้ว ผ่อนต่อไปไม่ไหว ซึ่งกรณีแบบนี้มีเยอะมากเมื่อต้นปี 2567 การผ่อนบัตรเครกดิตขั้นต่ำต้องเริ่มที่ 8% จากเดิมที่ผ่อนผันในช่วงโควิด กำหนดไว้ที่ 5% ซึ่งเครดิตบูโรเผยข้อมูลไตรมาส 1/67 พบว่า มียอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 24 ล้านใบ ในจำนวนนี้กว่า 1 ล้านใบ เป็นหนี้เสีย ค้างชำระเกิน 90 วัน นอกจากนี้ยังมีบัตรที่กำลังจะกลายเป็นหนี้เสีย คือ มีการผ่อนเลี้ยงงวด ผ่อนแบบติด ๆ ขัด ๆ อีกเกือบ 200,000 ใบคลินิกแก้หนี้ by SAMต้องบอกว่าการเป็นหนี้เสียแล้วไม่รับแก้ไข นอกจากจะทำให้เสียเครดิตแล้ว อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีด้วย วันนี้เราเลยจะพามาทำความรู้จักกับหนึ่งในช่องทางการแก้หนี้ นั่นก็คือ คลินิกแก้หนี้ by SAM คลินิกแก้หนี้ by SAM คืออะไร?อธิบายง่าย ๆ แบบนี้ คลินิกแก้หนี้ อยู่ภายใต้การกำกับของแบงก์ชาติ เป็นเหมือนคนกลางที่ช่วยรวมหนี้เสียทั้งหมดของเรา ทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน เอาไว้ในก้อนเดียว เพื่อให้สามารถกลับมาแก้ไขและชำระหนี้ได้ตามเดิม ด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน 3-5% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 10 ปีตามเงื่อนไขปรับโครงสร้างหนี้ฉบับนี้ คิดดอกเบี้ยจากเงินต้นเท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยค้าง ค่าปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ พักไว้ และเมื่อเราผ่อนครบตามเงื่อนไขแล้ว เจ้าหนี้ยกดอกเบี้ยที่เหลือให้คลินิกแก้หนี้ เป็นคนกลางในการปรับโครงสร้างหนี้เท่านั้น ไม่ได้รับโอนหนี้จากเจ้าหนี้ ไม่ได้ปิดบัญชีให้ ไม่ได้ให้สินเชื่อ เรายังคงเป็นลูกหนี้ของแบงก์เหมือนเดิม และเมื่อเราจ่ายค่างวด โครงการก็นำเงินส่งต่อไปให้เจ้าหนี้จุดเด่นของคลินิกแก้หนี้ช่วยรวมหนี้เสียไว้ในที่เดียว ในกรณีที่เรามีเจ้าหนี้หลายราย ถือบัตรหลายใบ แล้วอยากจะปิดจบหนี้ แทนที่เราจะต้องไปเจรจากับเจ้าหนี้ทีละคน ๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีหลักเกณฑ์แตกต่างกัน โครงการนี้จะช่วยหาแนวทางชำระหนี้ตามความสามารถของเรา เพื่อให้เราปิดจบหนี้ได้ง่ายและสะดวกขึ้น พูดง่าย ๆ คือ มาเจรจากับคลินิกแก้หนี้ที่เดียว ก็เหมือนได้ติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกคน แบบ One Stop Serviceด้วยอัตราดอกเบี้ย 3-5% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี เลือกแผนผ่อนได้ตามความสามารถของเรา โดยมี 3 ทางเลือกด้วยกัน1. ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี 2. ผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี 3. ผ่อนชำระ ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปีเมื่อผ่อนจบยกดอกเบี้ยค้างชำระเดิมให้ และการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นใครเข้าร่วมได้บ้าง? • บุคคลธรรมดา มีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี • เป็นหนี้เสียของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ • หนี้เสีย ค้างชำระเกิน 120 วัน • หนี้เสีย รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท • ห้ามก่อหนี้ใหม่ในช่วงแรกเอกสารที่ต้องเตรียม เพียงแค่ รายงานเครดิตบูโร สำเนาบัตรประชาชน เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือ statement เท่านั้นหากคนที่ผ่อนเป็นขั้นต่ำมันอาจจะมีผลกระทบได้ เพราะว่าสัดส่วนมันมีการเพิ่มจาก 5% เป็น 8% สำหรับคนที่ไม่พร้อมนะครับ ก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องของการชำระได้ แต่ไม่ต้องกังวล คุณสามารถติดต่อธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้หลัก เขาก็จะมีโครงการสำหรับแก้ไขปัญหาหนี้ได้ สำหรับคนที่ผ่อนไม่ไหวแล้ว กลายเป็นหนี้เสียเกิน 120 วัน เราแนะนำโครงการคลินิกแก้หนี้ มันก็จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการแก้หนี้ และยิ่งเข้ามาโครงการเร็วเท่าไร ก็สามารถแก้ปัญหาหนี้ได้เร็วเท่านั้น อย่ารอให้เป็นปัญหา เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น ทุกอย่างมีทางออก เราทำวันนี้ให้ดีขึ้นเพื่ออนาคตได้นายอุดม พลสมบัตินันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด กล่าวว่า โครงการคลินิกแก้หนี้ ดำเนินการมาเกือบ 7 ปีแล้ว มีลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการและผ่อนชำระหนี้ไปแล้วกว่า 2,700 ล้านบาท ตอนนี้มีลูกค้าที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 46,720 ราย ซึ่งคลินิกแก้หนี้ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น 25,000 ราย หรือ 55,000 บัญชี ถือเป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้ ลดปริมาณหนี้เสียในระบบสถาบันการเงิน ช่วยดูแลคนที่มีปัญหาหนี้ให้กลับมายืนได้อย่างแข็งแรงแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ pptvhd36https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/223888
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
14/08/2024
ปลายเดือนนี้ เตรียมปักหมุดเช็กอินกันที่งาน “Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น” ครั้งแรก! ของเทศกาลอาร์ตทอยที่จะชวนแพ็กกระเป๋าออกไปท่องเที่ยวเมืองไทย ผ่านของสะสมและงานศิลปะที่กำลังมาแรงอย่าง “อาร์ตทอย” โดยเป็นการรวมตัวของศิลปินไทยรุ่นใหม่และสตูดิโออาร์ตทอยไทยกว่า 80 ศิลปินและสตูดิโอ“เทศกาลอาร์ตทอย” หรือ Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น เทศกาลครั้งแรกของไทยที่พร้อมใจเล่าเรื่องเมืองไทยในแง่มุมที่แตกต่างหลากหลาย ทั้งศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ แลนด์มาร์ก ไปจนถึงเรื่องเล่าตำนานและความเชื่อผ่าน “อาร์ตทอย” สนับสนุนโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไอคอนสยาม และ DDD Collectible Art Toys ชวนเปิดประสบการณ์เที่ยวไทยผ่านอาร์ตทอยไปพร้อม ๆ กัน ที่ ICON Art & Culture Space ชั้น 8 ICONSIAM ในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.ช่วงปีที่ผ่านมากระแส “อาร์ตทอย” มาแรงมากในประเทศไทยในฐานะของสะสมและงานศิลปะอีกแขนงที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยและสามารถสื่อความหมายได้แบบไม่จำกัดภาษา ซึ่งปัจจุบันศิลปินไทยรุ่นใหม่จำนวนมากที่สนใจทำงานศิลปะอาร์ตทอย และสร้างสรรค์อาร์ตทอยถ่ายทอดเรื่องราวในประเทศไทยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นอาร์ตทอยผีตาโขน อาร์ตทอยซีรีส์ผีไทย อาร์ตทอยพระพิฆเนศ อาร์ตทอยจากขยะรีไซเคิล อาร์ตทอยวัดไทย อาร์ตทอยสะท้อนปัญหาท้องทะเลไทย เป็นต้นทว่าที่ผ่านมาศิลปินเหล่านี้ยังขาดพื้นที่ในการได้โชว์ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นที่มาของ Thai Art Toy Fest : สยาม เด็กเล่น เทศกาลที่จะเปิดพื้นที่ชวนศิลปิน สตูดิโออาร์ตทอย และนักสร้างสรรค์กว่า 80 ศิลปิน/สตูดิโอ มาร่วมเล่าเรื่องเมืองไทยในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งแหล่งท่องเที่ยว แลนด์มาร์ก ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ตำนานความเชื่อ ผ่านอาร์ตทอยรวมทั้งสินค้าหมวด Soft Power พร้อมร่วมถอดรหัสความสำเร็จของศิลปินอาร์ตทอยไทย และพบอาร์ตทอยคอลเล็กชันพิเศษภายในงานไฮไลต์ห้ามพลาด 10 กิจกรรมในงาน1. Art Toy Market สยามเด็กเล่น : ตลาดอาร์ตทอยที่ชวนศิลปินไทยกว่า 80 ศิลปิน / สตูดิโอ มาเล่าเรื่องเมืองไทยในแง่มุมต่างๆ ผ่าน “อาร์ตทอย” ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว แลนด์มาร์ก ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม ตำนานความเชื่อ ห้ามพลาดกับกับอาร์ตทอยคอลเล็คชันพิเศษที่ออกแบบมาเพื่องาน Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีสินค้าในหมวดซอฟต์พาวเวอร์จัดเต็มเรื่องดีไซน์ที่จะมาร่วมเล่าเรื่องประเทศไทยให้สนุกยิ่งขึ้น2. เปิดตัว อาร์ตทอยสัตว์วิเศษ 5 ภูมิภาค : การท่องเที่ยวเมืองไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะงานนี้จะพาไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวในเส้นทางใหม่กับ “เส้นทางเที่ยวไทยตามรอยสัตว์วิเศษ” นำเที่ยวโดย ททท. ที่จะมาเปิดตัวแผนที่เที่ยวไทยตามรอยสัตว์วิเศษประจำท้องถิ่น ไฮไลต์คือการเปิดตัว อาร์ตทอยสัตว์วิเศษประจำท้องถิ่น ตัวแทนจาก 5 ภูมิภาค พร้อมสัตว์วิเศษตัว Secret ที่จะเปิดให้หมุนกันเฉพาะในงานนี้เท่านั้น3. NFT Travel Guide “Amazing Hunt” : เปิดตัวไกด์บุ๊คฉบับใหม่ NFT Travel Guide “Amazing Hunt” โดย ททท. ที่จะชวนออกไปตามหาสัตว์วิเศษ 5 ภูมิภาคพร้อมของดีประจำท้องถิ่นในรูปแบบ NFT พร้อมตามหาสัตว์วิเศษที่ซ่อนอยู่ในงานเพื่อรับอาร์ตทอยตัว Secret ฟรี! และรับดีลส่วนลดด้านการท่องเที่ยวที่มาแจกในงานนี้4. Let’s Camping with your toy : นิทรรศการและโชว์เคสจาก DDD Collectible Art Toys ร่วมกับ Motley Party Studio ที่ต้องการแสดงศักยภาพของศิลปินอาร์ตทอยไทยสู่สายตาชาวไทยและต่างชาติ ครั้งนี้พวกเขาจะชวนเหล่าอาร์ตทอยออกเดินทางไปแคมป์ปิ้ง5. “มูเตลูทอย” จากผงธูปของวัด/ศาลเจ้าดังทั่วประเทศ : เวิร์คช็อปทำอาร์ตทอยสัตว์วิเศษจากมวลสาร “ผงธูป” นำผงธูปจริงจากวัด/ศาลเจ้าดัง จากทั่วประเทศ มารียูสด์สร้างชีวิตใหม่ให้กลายเป็นอาร์ตทอยสัตว์วิเศษ มังกร สิงห์ รวมทั้ง “พญาคันคาก” ที่อยู่ในตำนานพื้นถิ่นแดนอีสาน6. เวิร์คช็อป "Model Painting Workshop by Vallejo" : ไม่ว่าใครก็สร้างสรรค์อาร์ตทอยในฉบับตัวเองได้ Vallejo บริษัทสีอาร์ตทอยชั้นนำ เปิดเวิร์คช็อปสร้างสรรค์และลงสีอาร์ตทอยโดยมี 3 ศิลปินอาร์ตทอยไทย Kuma bear, Sloth Doll และ Kappa มาเปิดคลาส Art Toy 101 แจกเทคนิคการลงสีอาร์ตทอย พร้อมรับอาร์ตทอยที่มีตัวเดียวในโลกกลับบ้าน7. เปิดตัวฟิกเกอร์นักมวยปล้ำไทย Monomoth : ครั้งแรกกับการเปิดตัว ฟิกเกอร์ซอฟต์ไวนิลนักมวยปล้ำไทย “Monomoth” เจ้าของฉายา Smiling Angel นักมวยปล้ำชายที่สวยที่สุดในโลก ต่อสู้มาแล้วในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ Monomoth จะมาเปิดตัวอาร์ตทอยพร้อมแจกลายเซ็น8. Talk ถอดรหัสความสำเร็จศิลปินอาร์ตทอยไทย : เรื่องเบื้องหลังกว่าจะเป็นความสำเร็จของศิลปินอาร์ตทอยไทย ที่โด่งดังทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้แก่ Porin, Greenie & Elfie, MOTMO Studio และ Shew Sheep และทำให้อาร์ตทอยกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างแท้จริง9. Talk มวยปล้ำไทย Soft Power ที่มาแรงระดับโลก : ทอล์คว่าด้วยประวัติศาสตร์มวยปล้ำกับเมืองไทย รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์มวยปล้ำไทยที่โด่งดังระดับโลก โดยมี ปูมิ ประธานสมาคมมวยปล้ำ SETUP Thailand Pro Wrestling มาร่วมเปิดเวทีทอล์ค พร้อมด้วย Matcha & Jeney ไอดอลหญิงที่ผันตัวมาเป็นนักมวยปล้ำ และ Monomoth นักมวยปล้ำชายที่สวยที่สุดในโลก10. NFT Talk : ทอล์คว่าด้วยศิลปะที่ถูกเปลี่ยนถ่ายสู่โลก NFT รวมทั้งกระแส NFT ในปัจจุบัน พร้อมเปิดให้ดร็อป NFT ลิมิเต็ดเอดิชันที่พิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้นมาเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองไทยในมุมใหม่ผ่านอาร์ตทอย และสนับสนุนศิลปินอาร์ตทอยไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนกับ “Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น” ในระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ที่ ICON Art & Culture Space ชั้น 8 ICONSIAM ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไปเข้าร่วมงานฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB/IG: thaiarttoyfestแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000071556
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
14/08/2024
เกิดเหตุสาวทำคอนเทนต์ถ่ายคลิปห้อยโหนตัวออกนอกขบวนรถไฟ ทำให้เกิดเหตุหัวกระแทกเข้ากับเสาอย่างจัง จนตัวทรุดลงและร่วงลงบนพื้นสถานี เคราะห์ดีที่สมองไม่เป็นอะไรมาก เนื่องจากขบวนรถไฟเพิ่งเคลื่อนตัวออกจากสถานีภาพจากในคลิปทางเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยโดยทางเฟซบุ๊กเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การรถไฟฯ แจ้งเตือนผู้โดยสารทุกคน ให้ปฏิบัติตามระเบียบด้านความปลอดภัยในการโดยสารรถไฟอย่างเคร่งครัด ห้ามห้อยโหนหรือยื่นตัวออกนอกขบวนรถเด็ดขาดตามที่สื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งได้มีการถ่ายทำ CONTENT สุดอันตราย โดยผู้โดยสารยืนบริเวณบันไดทางขึ้นลงรถไฟ และยื่นตัวออกนอกขบวนรถ จนทำให้เกิดเหตุศีรษะของผู้โดยสารชนเข้ากับเสาอย่างรุนแรงนั้นภาพจากในคลิปทางเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยนายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 เวลา 15.15 น. ขณะที่ขบวนรถท้องถิ่นที่ 452 สถานีสุไหงโกลก-นครศรีธรรมราช เคลื่อนตัวออกจากสถานีพัทลุง มีผู้โดยสารเพศชาย อายุ 19 ปี ถ่ายทำ CONTENT โดยการห้อยโหนบริเวณบันไดรถไฟ และยื่นตัวออกนอกขบวนรถจนทำให้เกิดเหตุศีรษะชนเข้ากับเสาอย่างรุนแรง และร่วงลงสู่พื้นชานชาลาสถานีพัทลุง ผู้โดยสารท่านดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือเล็กน้อย และมีอาการปวดศรีษะ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งที่โรงพยาบาลพัทลุง ซึ่งหลังจากแพทย์ตรวจร่างกาย และเอกซเรย์สมองแล้ว พบว่า ศรีษะมีอาการบวม โน ภายในสมองปกติ แพทย์จึงให้กลับบ้านได้ภาพจากในคลิปทางเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยทั้งนี้ แม้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บไม่มาก เนื่องจากขณะเกิดเหตุ ขบวนรถเพิ่งออกจากสถานีทำให้ขบวนรถใช้ความเร็วต่ำอยู่ แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำโดยประมาท และไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง จนอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ จึงขอเตือนให้ผู้โดยสารทุกคนห้ามกระทำพฤติกรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาดนอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้สั่งการให้พนักงานบนขบวนรถเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบความเรียบร้อย พร้อมกับให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร หากพบว่ามีผู้ใช้บริการแสดงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งเตือนทันที และหากไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่จะเชิญผู้โดยสารให้ลงจากขบวนรถทันทีภาพจากในคลิปทางเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยพร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังผู้ใช้บริการรถไฟ ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยในการโดยสารบนขบวนรถไฟอย่างเคร่งครัด ดังนี้1. ห้ามโดยสารบริเวณข้อต่อ และบันไดของรถโดยสาร2. อย่าขึ้นลงขณะขบวนรถเคลื่อนออกจากสถานี โปรดรอให้ขบวนรถหยุดนิ่งเสียก่อน3. อย่ายื่นแขน ขา หรือศีรษะออกไปนอกขบวนรถ4. ห้ามปีนหรือนั่งบนขอบหน้าต่าง หรือประตูรถไฟภาพจากในคลิปทางเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยท้ายนี้ การรถไฟฯ ได้เล็งเห็นถึงความปลอดภัย ในการให้บริการผู้โดยสารเป็นสำคัญ โดยมีความใส่ใจในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ถึงที่หมายอย่างสวัสดิภาพตลอดการเดินทาง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 หรือ เฟซบุ๊ก แฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยแหล่งที่มาข่าวต้นฉบบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000074356
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
14/08/2024
เอไอเอ ประเทศไทย ส่งมอบความห่วงใยไปยังเพื่อนพนักงานและคุณแม่ของเพื่อนพนักงาน เพื่อส่งเสริมความรัก ความผูกพันภายในครอบครัวของพนักงานทุกคน จัดงาน AIA Mother’s Day 2024 เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ โดยเปิดโอกาสให้เพื่อนพนักงานได้พาคุณแม่กว่า 100 ท่านมาร่วมกิจกรรมภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจวัดค่าความดันโลหิต วัดชีพจร ตรวจปัสสาวะ ตรวจนับความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจค่าระดับน้ำตาล ตรวจระดับไขมันในเลือด ตรวจการทำงานของไต ตรวจกรดยูริก เอกซ์เรย์ปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ พร้อมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับคุณแม่ทุกท่าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ภายในงานที่ให้คุณแม่ใจฟูอีกมากมาย เช่น กิจกรรมเวิร์กชอปพิมเสนดอกไม้ เลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษเพื่อคุณแม่ บูธถ่ายภาพคู่กับคุณแม่ พร้อมมอบต้นมะลิเพื่อเป็นสื่อแทนความรักจากลูกที่มีต่อคุณแม่เป็นที่ระลึก รวมทั้งกิจกรรมตรวจสุขภาพเพื่อนพนักงานโดยโรงพยาบาลหัวเฉียว โดยภายในงานได้รับเกียรติจากคุณศรัณยา เทียนถาวร (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล คุณอรรัตน์ ชุติมิต (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์เชิงกลยุทธ์ คุณจิราภรณ์ กนิษฐรัต (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันธุรกิจองค์กร คุณอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และคุณรพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมงาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อเดินหน้าสานต่อคำมั่นสัญญาให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ‘Healthier, Longer, Better Lives’
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
13/08/2024
จุดสำคัญ คือ การมีแนวความคิดแบบการลงทุนระยะยาว คือ การเปลี่ยนเงินที่หามาได้ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเลี้ยงเราได้ตลอดไปซึ่งจะมี 3 ข้อหลักๆที่เราต้องนำไปปรับใช้ คือ1. ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่เหมาะสม ไม่แพงและไม่ตั้งอยู่ในความคาดหวังมากเกินไป2. การเติบโต3. เงินปันผลในระยะยาวแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ stock2morrowhttps://stock2morrow.com/article/5942
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
13/08/2024
เซ็นทรัล ชวนสาวก Hello Kitty มาสัมผัสกับความน่ารักของ Hello Kitty พร้อมเหล่าเพื่อนซี้จาก Sanrio ที่รอต้อนรับบรรดาแฟนคลับได้มาเก็บภาพความประทับใจ หลงใหลไปกับทุกห้วงของความสุข สนุกสนานกันแบบจุใจ และฟินไม่รู้ลืม กับการร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เปิดตัวอีเวนต์ฮอลล์ใหม่ล่าสุด centralwOrld Pulse ชั้น 7 รองรับนิทรรศการระดับนานาชาติใจกลางเมือง จุผู้เข้าชมกว่า 2,000 คน ประเดิมงานแรกชวนร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี เฮลโล คิตตี้ (Hello Kitty) ควงแขนเหล่าเพื่อนซี้จากซานริโอ้ (Sanrio) มอบความน่ารักระดับตำนานครั้งแรกในประเทศไทยร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”โดยงานนี้ทุกคนจะได้มาสัมผัสกับ 2 นิทรรศการที่มาในรูปแบบ Immersive Exhibition มอบประสบการณ์สุดพิเศษที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ มีส่วนร่วมราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูต้อนรับแฟนคลับทุกวัยให้เข้าไปผจญภัยในโลกใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม และมาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์สุดพิเศษ กับความน่ารักแบบเกินต้านของ Hello Kitty ที่จะมาในชุดไทยสุดหวาน พร้อมกับผองเพื่อนตัวกระตูนดังจาก Sanrio ที่เรียกได้ว่า ยกขบวนมาแข่งกันน่ารักให้ใจละลาย รอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกแห่งความสุข สนุกสนาน และประทับใจไม่รู้ลืม ผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ Immersive, Mapping, Interactive และ Kaleidoscope ช่วยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆ ทุกวัย รับรองได้เลยว่าจะโดนตกด้วยความน่ารักของน้อง ๆ อย่างแน่นอนร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”นอกจากนี้ ไฮไลต์ภายในงาน ประกอบด้วย• Hello Kitty Exhibition: Celebration of Friendship: ร่วมฉลองครบรอบ 50 ปีของ Hello Kitty ผ่านเรื่องราวสุดประทับใจ และโซนกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟมากมาย• Sanrio Characters Funtastic Exhibition: ตะลุยโลกแห่งความสนุกของเหล่าตัวละคร Sanrio สุดฮิต อาทิ Kuromi, My Melody, Hangyodon และอีกมากมายร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”• FUNtastic Exhibition Café: อิ่มอร่อยกับเมนูพิเศษ จากทางร้าน Casa lapin พบเมนูพิเศษที่สร้างสรรค์โดยเฉพาะสำหรับงานครั้งนี้ ทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ พร้อมกับมาสะสมปลอก สวมแก้ว (Cup sleeve) ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงานนิทรรศการนี้เท่านั้น• โซนสินค้าลิขสิทธิ์: ช้อปสินค้าสุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อ Hello Kitty ครบรอบ 50 ปี และเหล่าผองเพื่อน Sanrio ที่มีจำหน่ายเฉพาะในงานนี้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”สัมผัสความมหัศจรรย์ของ Hello Kitty และผองเพื่อน Sanrio ได้ที่ centralwOrld Pulse ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทางเข้าอยู่ระหว่างร้าน MK และ Sushiro งานจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ - 10 พฤศจิกายน 2567 แบ่งเวลาในการเข้าชมออกเป็นรอบ รอบละ 1 ชั่วโมง ได้แก่ รอบ 11.30 น. / 12.30 น. / 13.30 น./ 14.30 น./ 15.30 น./ 16.30 น./ 17.30 น./ 18.30 น./ 19.30 น. ราคาบัตรเข้าชม Hello Kitty Exhibition ราคา 590 บาท และ Sanrio Characters Funtastic Exhibition ราคา 590 บาท หรือซื้อบัตรเข้าชมทั้ง 2 นิทรรศการพร้อมกันในราคาเพียง 1,100 บาท ช่องทางการจำหน่ายบัตรที่ : www.icvticket.com หรือเค้าท์เตอร์จำหน่ายบัตรหน้างานร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ติดตามความเคลื่อนไหวของงาน และการอัพเดทกิจกรรมดีๆตลอดทั้งปี ได้ที่ Facebook, Instagram, X, Tiktok: Central Pattana หรือ https://www.centralpattana.co.th/th/ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ในงาน “Hello Kitty Exhibition”แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000073475
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
25/09/2024
30/04/2024
08/02/2025
29/04/2024
30/04/2024