Everyday knowledge for you
ห้องแสดงนิทรรศการ
30/04/2024
โรงเรียนสอนศิลปะ ห้องเรียนแห่งความสุขบ้านครูชลิต ในนาม Chalit Art Project and Gallery เปิดเวทีให้เด็กพิเศษออทิสติกซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์ชลิต นาคพะวัน ได้แสดงความสามารถผ่านผลงานศิลปะในนิทรรศการกลุ่มภายใต้คอนเซ็ปต์ “I AM SPECIAL” เพราะทุกคนมีความพิเศษในตัวเอง และสามารถถ่ายทอดความพิเศษนั้นออกมาให้โลกได้รับรู้ผ่านงานศิลปะโดยผู้ริเริ่มการเปิดพื้นที่สำหรับเด็กพิเศษออทิสติกในครั้งนี้ คืออาจารย์ชลิต นาคพะวัน ศิลปิน นักออกแบบ และผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนศิลปะ ห้องเรียนแห่งความสุขบ้านครูชลิต ในนาม Chalit Art Project and Gallery ที่ก่อตั้งขึ้นมากว่า 30 ปี เพื่อถ่ายทอดความรู้และแนวทางการสร้างงานศิลปะให้กับเด็กๆ โดยเน้นการดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละคนถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานที่ไม่ซ้ำใคร และอาจารย์ชลิตยังเป็นศิลปินอารมณ์ดี ที่เปิดบ้านให้เป็นห้องเรียนศิลปะที่แตกต่างจากที่อื่น ซึ่งเป็นทั้งการใช้ศิลปะบำบัดเพื่อสร้างความสุข ถ่ายทอดองค์ความรู้และเป็นพื้นที่ให้ผู้สนใจได้แสดงออกทางศิลปะอย่างสร้างสรรค์ด้วยสุทธิเดช ถกลศรีปีนี้ในโอกาสที่อาจารย์ชลิต นาคพะวัน ได้รับรางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคมจากกระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์ จึงได้ตั้งใจที่จะรวบรวมผลงานของเด็กๆ พิเศษออทิสติกที่เป็นลูกศิษย์ทั้งหมด 7 คน จากห้องเรียนศิลปะแห่งความสุขบ้านครูชลิต เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ ได้มีเวทีในการแสดงผลงานศิลปะของพวกเขา สามารถต่อยอดในอนาคต และส่งต่อคุณค่าของพวกเขาให้กับสังคม ซึ่งผลงานศิลปะในครั้งนี้แสดงออกมาทั้งสีสันและเรื่องราวในเชิงบวก โดยผสมผสานสไตล์การทำงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเด็กๆ แต่ละคน ได้แก่ น้องป็อป, น้องก่อกุศล, น้องแอนนา, น้องชานน, น้องลีออง, น้องเจมส์ และน้องญาญ่านิทรรศการจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “I AM SPECIAL” เพราะทุกคนมีความพิเศษในตัวเอง และสามารถถ่ายทอดความพิเศษนั้นออกมาให้โลกได้รับรู้ผ่านศิลปะ โดยได้จัดแสดงนิทรรศการครั้งแรกไปเมื่อปลายเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ร้านอาหารแซคโซโฟน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปและผู้ชื่นชอบงานศิลปะเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีนักสะสมผลงานศิลปะและผู้สนใจให้การสนับสนุนด้วยการซื้อภาพที่มีความหมายเหล่านั้น และเพื่อให้เด็กๆ ได้มีกำลังใจในการสร้างผลงานศิลปะต่อไป จึงได้จัดงาน “I AM SPECIAL” - We Are All Special Exclusive Event” เพื่อแสดงผลงานขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งมอบรายได้จากการจำหน่ายภาพหลังหักค่าใช้จ่ายให้กับน้องๆ ศิลปินแต่ละคนด้วยอู๋-ธนาธรณ์ ปาละกวงศ์ ณ อยุธยาภายในงานได้รับเกียรติจากคุณสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง ไฟน์ไลน์, ดีนี่, บีไนซ์, ทรอส, เอเวอร์เซ้นส์ ฯลฯ ในฐานะผู้สนับสนุนนิทรรศการครั้งนี้, อาจารย์ชลิต นาคพะวัน รวมถึงแขกผู้มีเกียรติในแวดวงศิลปะ เซเลบริตี้ชื่อดัง และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีกับน้องๆ ศิลปินทั้ง 7 คน ต่อด้วยช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนจะได้ทำความรู้จักกับน้องๆ ศิลปินที่ต่างก็มาแนะนำตัวเองนอกจากนี้ ยังมี Gallery Tour นำโดยอาจารย์ชลิตและตัวแทนศิลปินพาเดินชมงานและบรรยายภาพอย่างใกล้ชิด ต่อด้วย “คุณเผือก-ชาตรี ปั้นสมสกุล” แห่งร้านแซคโซโฟน เป็นตัวแทนมอบเงินรายได้จากการจำหน่ายภาพที่ได้มีการจัดงานครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาให้กับน้องๆ ศิลปินแต่ละคนอีกด้วย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการโชว์ร้องเพลงกันสดๆ จาก “น้องใบพลู-ด.ญ.ภาวิดา พรวัฒนานุกูล” สร้างความประทับใจให้กับแขกผู้เข้าร่วมงานที่ได้เห็นถึงความสามารถและความกล้าแสดงออกของเด็กๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มต้นและจบลงด้วยรอยยิ้มและความยินดีที่ได้เห็นความสามารถอันน่าทึ่งของเด็กๆ ในครั้งนี้จี๊ด-แสงทอง เกตุอู่ทองบิลลี่ โอแกนน้องใบพลูครูชลิตและเฟม-ชวินโรจน์ อดีตลูกศิษย์แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9660000109767
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
30/04/2024
เว็บไซต์ TasteAtlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลอาหารต่างๆ จากทั่วโลก เปิดเผยการจัดอันดับอาหารที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2023 (100 Best Cuisines in the World) โดย 20 อันดับอาหารที่ดีที่สุดในโลกมีรายละเอียดดังนี้ สำหรับอาหารไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 17 จาก 20 อันดับ1. อาหารอิตาลี2. อาหารญี่ปุ่น3. อาหารกรีซ4. อาหารโปรตุเกส5. อาหารจีน6. อาหารอินโดนีเซีย7. อาหารเม็กซิโก8. อาหารฝรังเศส9. อาหารสเปน10. อาหารเปรู11. อาหารอินเดีย12. อาหารบราซิล13. อาหารโปแลนด์14. อาหารอาร์เจนตินา15. อาหารตุรเคีย16. อาหารสหรัฐอเมริกา17. อาหารไทย18. อาหารเกาหลีใต้19. อาหารโครเอเชีย20. อาหารเซอร์เบียโดยทางเว็บไซต์แนะนำ 3 เมนูอาหารไทยที่ถือว่าอันดับดีที่สุดคือพะแนง ข้าวซอย และผัดกะเพรา นอกจากนั้นมีซอสพริกศรีราชา ส่วนร้านอาหารไทยที่ถูกแนะนำคือร้านป.โภชนา กรุงเทพฯ โรตีสายไหมแม่ป้อม จังหวัดอยุธยา และแตน ข้าวมันไก่ จังหวัดเชียงใหม่แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับsanook https://www.sanook.com/travel/1444411/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
30/04/2024
เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ พาตัวแทนผู้พิชิตคุณวุฒิ AIA Annual Convention 2023 จำนวนกว่า 1,500 ท่าน บินลัดฟ้าเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 8 – 14 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาด้านการเงินของเอไอเอ ซึ่งล้วนมาจากความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำงานตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยทุกท่านต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการส่งมอบความคุ้มครองและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่ลูกค้าและคนไทยทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives’สำหรับพิธีเฉลิมฉลองความสำเร็จ AIA Annual Convention 2023 ได้รับเกียรติจากผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย นำโดย คุณนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต และคุณประกิตติ บุณยเกียรติ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต ร่วมเดินทางเยือนกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อแสดงความยินดีและเชิดชูเกียรติแก่ตัวแทนทุกท่าน โดยเอไอเอ ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันสุดหรูให้กับผู้ที่ทำผลงาน FYC สูงสุดทั้งสิ้น 10 ท่าน เพื่อให้ได้มีประสบการณ์ใกล้ชิดกับผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย พร้อมร่วมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ณ ร้าน Le Clarence ร้านอาหารฝรั่งเศสระดับ Michelin 2 ดาว นอกจากนี้ ยังได้จัดงานเลี้ยงอาหารเย็นสุดพิเศษสำหรับผู้พิชิตคุณวุฒิ AIA Annual Convention 2023 ในระดับ 300% ขึ้นไป โดยพาไปสัมผัสประสบการณ์ที่เงินหาซื้อไม่ได้ที่ Salon Opera, Intercontinental Paris Le Grand พร้อมชมการแสดงโชว์สุดอลังการอย่าง Phantom of the Opera และสำหรับไฮไลท์ของงาน AIA Annual Convention 2023 เอไอเอ ได้จัดงานเลี้ยง GALA Dinner ต้อนรับเหล่าตัวแทนกว่า 1,500 ท่าน โดยเนรมิตสถานที่ Paris Nord Villepinte ยกเอาความเป็นฝรั่งเศสมาให้กับทุกท่านที่ร่วมงานได้สัมผัสแบบตื่นตาตื่นใจ ในธีม Parisian Chic Style ทั้งหอไอเฟลจำลอง ให้ได้ถ่ายรูปแบบจุใจ การจำลองถนนซ็องเซลีเซ ที่ 2 ข้างทางเล่าวิถีชีวิตชาวปารีสผ่าน Photo Wallที่สำคัญทุกท่านที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ยังได้ร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จให้กับคุณเพชรรัตน์ รงค์บัญฑิต กับการครองตำแหน่ง President of AIA Annual Convention ครั้งที่ 3 อีกด้วย นำมาซึ่งความภาคภูมิใจและพลังใจอันเปี่ยมล้นให้แก่ตัวแทนเอไอเอ พร้อมเตรียมตัวสู่ความสำเร็จในปีต่อไปกับ AIA Annual Convention 2024 ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
30/04/2024
ฮาวทูหาค่าเทอมลูกฉบับคนขี้เกียจและทำงานที่บ้าน ทำยังไงถึงจ่ายค่าเทอมลูกได้ 5 หมื่นบาทต่อเทอม สามารถส่งลูกเรียนจบเป็น 10 ปี หลายคนเอาไปทำตาม การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงภาพจาก เฟซบุ๊ก Pairtarah Chittrirat หนึ่งในค่าใช้จ่ายสำคัญของการเลี้ยงลูกและทำให้คนเป็นพ่อแม่ต้องหาเงินจนหัวหมุน นั่นคือ ค่าเทอมของลูก ซึ่งแต่ละเทอมก็เสียกันหลายหมื่น ต้องจ่ายแบบนี้เป็น 10 ปีกว่าลูกจะเรียนจบ ถือว่าหนักเอาการไม่น้อย ล่าสุด วันที่ 11 ธันวาคม 2566 เฟซบุ๊ก Pairtarah Chittrirat ซึ่งเป็นเทรนเนอร์คอร์สลดน้ำหนัก มีการเล่าประสบการณ์การหาค่าเทอมลูก แบบฉบับคนขี้เกียจและทำงานที่บ้าน ว่ามีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จ โดยการหาค่าเทอมลูกโดยทำงานที่บ้านนั้น เริ่มต้นจาก การหาโรงเรียนลูก เช็กค่าเทอมว่าเท่าไร และต้องจ่ายค่าเทอมกี่ครั้งต่อปี เมื่อรู้ตัวเลขแน่ชัด ก็คุณแม่ก็หาความรู้ หากองทุนรวมที่เหมาะสม ที่ได้เงินปันผลเพียงพอนำมาจ่ายค่าเทอมลูก โดยของเธอนั้นเป็นกองทุนที่มีปันผล 4 ครั้งต่อปี ลงทุนแล้วได้เงินปันผลไม่ต่างจากค่าเทอมลูก อยู่ที่ 50,000 บาทต่อเทอม ซึ่งเงินปันผลที่จ่ายนี้ ก็เอามาจ่ายเป็นค่าเทอมแทน แบบนี้ก็สามารถได้ค่าเทอมลูกยาว ๆ 10 ปี แบบไม่เสียต้นทุนอะไรเลยภาพจาก เฟซบุ๊ก Pairtarah Chittriratในขณะเดียวกัน ทางคุณแม่ก็ได้เผยให้เห็นสลิปการจ่ายเงินปันผลที่ส่งมาจากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ หรือ TSD ทั้งหมด 7 ใบ จนมีคนแชร์เรื่องนี้กันออกไปกว่า 1.3 หมื่นครั้ง ด้านบรรดาคุณแม่เห็นแบบนี้ก็สงสัยว่า กองทุนอะไร ทำไมให้เงินปันผลเยอะขนาดนี้ อยากให้ทางเจ้าของโพสต์แนะนำเพิ่มเติม และคุณแม่อาจจะต้องลงเงินหลักล้านหรือเปล่า ถึงจะได้ปันผลในระดับ 50,000 บาท ทุก ๆ ไตรมาส ขณะเดียวกัน บางคนก็ยอมรับว่า วิธีนี้เป็นการแนะนำที่ดี เป็นการหา Passive Income และเธอก็ใช้วิธีนี้ในการหาค่าเทอมจนลูกอายุ 16 ปี ซึ่งการลงทุนล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกระปุก.คอมhttps://hilight.kapook.com/view/237989
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
30/04/2024
เริ่มแล้ว งาน "มหกรรมศิลปะนานาชาติ ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ เชียงราย 2566" (Thailand Biennale, Chiang Rai 2023) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในหลายจุดของจังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 - 30 เมษายน 2567งานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ เชียงรายมีพิธีเปิดงานในช่วงค่ำของวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ณ หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย อ.เมือง จ.เขียงราย โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานงานนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "The Open World" หรือ "เปิดโลก" ซึ่งได้แรงบันดาลใจ มาจากพระพุทธรูป ปางเปิดโลก วัดป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงรายเพื่อเป็นการเปิดโลกศิลปะในประเทศไทยให้ชาวโลกรับรู้ เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายกลายเป็น "เมืองศิลปะระดับโลก" และเป็นจุดหมายให้นักเดินทางทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายภายในงานชวนตื่นตาตื่นใจกับผลงานการสร้างสรรค์ของ 60 ศิลปิน ร่วมด้วย กิจกรรมคู่ขนาน อาทิ การแสดงดนตรีชาติพันธุ์ ศิลปะการแสดง การฉายภาพยนตร์ กิจกรรมการศึกษา พาวิลเลี่ยน 13 พาวิลเลี่ยน และการเปิดบ้านของศิลปินเชียงรายอีกกว่า 80 หลังแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9660000110659
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
30/04/2024
เสียงเพรียกแห่ง “คลองบางกะจะ” กระซิบกระซาบผู้มาเยือนให้รับรู้ว่า ภายในผืนน้ำที่โอบอิ่มไปด้วยป่าชายเลนโบราณอายุนับร้อยปีมีความงามซุกซ่อนให้ออกไปค้นหาอีกมากมายแต่วิธีที่ดีที่สุดจะเข้าไปสัมผัสความเร้นลับของธรรมชาติงามพิสุทธิ์ ก็ควรตระหนักด้วยการอนุรักษ์ที่ปราศจากการรบกวนสรรพสิ่งในพงไพร ซึ่งคนกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ก็ค้นพบวิถีการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน นั่นคือ “การพายซับบอร์ด” จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวพายซับแนะนำ โดย ททท.สำนักงานจันทบุรีรู้จัก “บางกะจะ”“บางกะจะ” เป็นชื่อตำบลในอำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ในเรื่องการท่องเที่ยวนั้นคนส่วนมากที่เดินทางมาเยือน นิยมปักหมุดหมายไปที่ “วัดพลับ บางกะจะ” วัดเก่าแก่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ราว พ.ศ. 2300 ซึ่งได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นสถานที่ที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ใช้พักไพร่พลก่อนจะเข้าตีเมืองจันท์ในสงครามกู้เอกราช, ชมค่ายเนินวง โบราณสถานอันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญครั้งเมื่อบางกะจะเป็นเมืองหลวงจันทบุรี, แวะจับจ่ายตลาดเล็กๆร้านค้าในชุมชนที่มีอาหารถิ่นราคาย่อมเยา หรือไปทำกิจกรรมขุดพลอย เรียนรู้เรื่องพลอยแต่นอกจากการเที่ยวทางบกแล้ว ยังมี “คลองบางกะจะ” แหล่งน้ำสำคัญที่มีระบบนิเวศแบบป่าชายเลน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผืนป่าผสม เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และประมงพื้นบ้าน ซึ่งหากย้อนกลับไปราวสิบปีก่อน ก็ยังไม่มีใครรู้หรือเข้าไปสำรวจ นอกจากชาวประมงในท้องถิ่น“พายซับ” ท่องเที่ยวคลองบางกะจะไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ชาวชุมชนบางกะจะ” กลุ่มหนึ่งที่หลงใหลการพายซับบอร์ด (SUP - Stand up Paddle board) โดยพายเป็นกีฬา และงานอดิเรก ได้ใช้อุปกรณ์กีฬาโปรดพายซอกแซกสำรวจไปในลำคลองที่คุ้นเคยตั้งแต่วัยเด็ก“นุศรา กีรติโภฌานันท์” ผู้ก่อตั้ง และผู้จัดการทั่วไป SUPscribe Chanthaburi เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนที่เล่นกีฬาซับบอร์ด ซึ่งนอกจากที่บางกะจะแล้ว ยังมี ที่ตำบลหนองบัว กลุ่มที่พายในแม่น้ำจันทบุรีในตัวเมือง ที่อำเภอขลุง และพื้นที่ทะเลจันทบุรี ส่วนตนเองก็จัดกิจกรรมพายซับท่องเที่ยวที่คลองบางกะจะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง ทำให้ค้นพบว่า คลองบางกะจะยังมีความงามที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากนำมาสู่การตัดสินใจเปิดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบสร้างสรรค์-ยั่งยืน ในนาม "SUPscribe Chanthaburi” ที่ออกไปสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สัมผัสธรรมชาติ และสายน้ำในท้องถิ่น ด้วยการพายซับไปพร้อมๆกับการสร้างแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์ความโดดเด่นของเส้นทาง“คลองบางกะจะ ยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นป่าแสม บางต้นมีอายุร้อยกว่าปี ทำให้เรารู้ว่า ธรรมชาตินั้นอยู่ยาว ถ้ารักษาให้อยู่กับเราไปนานๆ” นักพายซับแห่งคลองบางกะจะ อธิบายจุดเด่นของพื้นที่ พร้อมชี้ให้เห็นว่าการท่องเที่ยวทางน้ำของบางกะจะนั้นแตกต่างจากทางบกโดยสิ้นเชิง เพราะมีความนิ่งเงียบ การพายซับเข้าไป เป็นวิธีที่พาตัวเราไปหาความสงบของธรรมชาติ ที่มีเพียงเสียงพายกระทบน้ำ เสียงลม เสียงนก และเสียงสนทนากันเบาๆของกลุ่มคนที่พายไปด้วยกันบรรยากาศรอบตัวของเส้นทางพายซับคลองบางกะจะ ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ป่าชายเลน บางช่วงให้ความรู้สึกได้ตัดขาดจากโลกภายนอก ราวกับเข้าไปอยู่ในผืนป่าเร้นลับเป็นส่วนตัว ขณะที่จุดหมายปลายทางของเส้นทางพายซับ นิยมพายไปยังเวิ้งน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตาที่โอบล้อมด้วยป่าชายเลน มีทัศนียภาพงดงามมากหากเลือกพายไปในช่วงพระอาทิตย์ตก แต่หากเลือกพายช่วงเช้ามืด ก็ได้รับพลังความสดชื่นเย็นสบายด้วยอากาศอันบริสุทธิ์ และแดดอ่อนๆยามเช้าข้อดีของซับบอร์ดกับการท่องเที่ยวเมื่อ “ซับบอร์ด” เป็นอุปกรณ์กีฬาประเภทหนึ่ง ข้อดีอย่างแรกจึงเป็นกิจกรรมที่ผู้พายได้ออกกำลังกายไปในตัว แม้ไม่เคยพายมาก่อนก็ฝึกได้ไม่ยากภายในไม่กี่นาที มีความปลอดภัยเมื่อนำมาพายในพื้นที่ไม่มีคลื่นลม โดยมีสายรัดข้อเท้า และอุปกรณ์ก็มีคุณสมบัติลอยน้ำได้ โดยเมื่อนำมาใช้ในการท่องเที่ยว สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อได้เปรียบ คือ บางร่องน้ำที่เรือไม่สามารถเข้าได้ แต่ซับบอร์ดสามารถลัดเลาะเข้าไปได้ทุกเส้นทางในพื้นที่ของคลองบางกะจะอย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของการใช้ซับบอร์ดเพื่อการท่องเที่ยวคลองบางกะจะ อยู่ที่การเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่มีเครื่องยนต์ จึงไม่ต้องเอาสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไปในธรรมชาติ แม้กระทั่งการเข้าไปเที่ยวด้วยซับบอร์ด ก็ต้องให้ธรรมชาติเป็นตัวกำหนด ด้วยการดูระดับน้ำตามวันเวลาที่เหมาะสมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนกระแสการท่องเที่ยวอย่างความยั่งยืน ถือเป็นเรื่องสำคัญระดับโลกของการท่องเที่ยวในยุคนี้ ซึ่งกิจกรรมพายซับบอร์ดเที่ยวคลองบางกะจะ ก็ถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นให้กับแขกผู้มาเยือนทุกคน “นุศรา" เล่าว่า ลูกค้าจำนวนไม่น้อยเป็นคนในสังคมเมืองไม่มีโอกาสได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติบ่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน เมื่อได้มาอยู่ในธรรมชาติต่างก็มีความสุข พ่อแม่ก็จะสอนลูกๆในเรื่องของการอนุรักษ์ไปด้วย เราก็สอดแทรกเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องไม่ทิ้งขยะ ไม่สร้างมลพิษ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่เรื่องครอบครัวแล้ว แต่กลายเป็นขยายไปถึงสังคมโดยเฉพาะปัจจุบัน พื้นที่บางส่วนของป่าชายเลนบางกะจะ ถูกทำลายเปลี่ยนไปเป็นหมู่บ้านจัดสรร รวมทั้งเริ่มมีการขายพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อวัตถุประสงค์สร้างอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ การท่องเที่ยวของคนกลุ่มเล็กๆในชุมชน จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์ให้สังคมภายนอกได้รับรู้ ว่ายังมีผืนป่าชายเลนที่มีคุณค่าของเมืองจันทบุรีที่หลงเหลืออยู่ และคู่ควรกับการช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นความใส่ใจของ SUPscribe Chanthaburi คือ ความพยายามเชื่อมโยงกิจกรรมท่องเที่ยวเข้ากับชุมชน แทรกลงไปในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น อาหาร-ของว่างต้อนรับแขก ที่เลือกซื้อมาจากพ่อค้าแม่ค้าในท้องถิ่น ภาชนะ ที่รองโต๊ะต่างๆก็ยังใช้งานคราฟต์ในชุมชนที่มีส่วนอนุรักษ์เสื่อจันทบูรของดีเมืองจันท์ เป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีความพิเศษเพิ่มเติม คือ งานภาพสวยๆะดับมืออาชีพที่ถ่ายให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นชาวบางกะจะโดยกำเนิดอย่าง “รักษ์ชาติ โสดาบัน”ช่างภาพที่ผ่านประสบการณ์งานนิตยสารดังมามากมาย ที่กลับบ้านมาร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชน และทำหน้าที่เป็นผู้กดชัตเตอร์ด้วยตัวเองเพื่อให้ผู้มาเยือนมีภาพความทรงจำอันน่าประทับใจกับสายน้ำในบ้านเกิดของตน“เราเปิดบริการเหมือนพาเพื่อนเที่ยวบ้านมากกว่าการทำธุรกิจ ดังนั้นถ้าใครมาที่นี่ก็จะไม่ได้รับการดูแลแบบนักธุรกิจ หรือกิจการท่องเที่ยวใหญ่ๆ ให้นึกภาพว่าเราเปิดประตูต้อนรับเพื่อนมาหา แล้วพาเพื่อนไปดูธรรมชาติรอบๆบ้าน หาขนมให้เพื่อนรับประทาน” นุศรา กล่าวทิ้งท้ายข้อมูลเพิ่มเติมผู้สนใจ ติดต่อได้ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กแฟนเพจไร่ตามฟาร์มสุข (facebook.com/raitamfarmsuk)หรือ SUPscribe Chanthaburi (facebook.com/Supscrib)แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9660000110712
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
12/12/2023
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางศรัณยา เทียนถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล เป็นตัวแทนรับรางวัล Thailand’s Employee Experience of the Year ประเภทธุรกิจประกันชีวิต จากงาน Asian Experience Awards 2023 ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ประเทศไทย ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยอดเยี่ยมและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่พนักงานในธุรกิจด้านการเงินและการประกันภัย ตลอดระยะเวลา 85 ปีที่ผ่านมา จึงนับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติและน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับเอไอเอ ประเทศไทย ตลอดจนยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอที่ต้องการดูแลผู้คนทั้งภายในและภายนอกองค์กรด้วยความเข้าใจและความจริงใจ สอดคล้องตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
09/12/2023
เจออีกเคส หญิงสาววัย 27 ปี ไม่มีประวัติการสูบบุหรี่ แต่ตรวจเจอมะเร็งปอด หลังมีอาการไอเหนื่อยนาน 2 สัปดาห์ – น้ำหนักลด 4 โลการจากไปของ หมอกฤตไท ด้วยโรคมะเร็งปอด ทั้งที่อายุยังน้อย โดยไม่มีประวัติการสูบบุหรี่ กลายเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 ว่าคนที่เป็นมะเร็งปอดไม่จำเป็นต้องเป็นคนแก่เสมอไปล่าสุด กรณีคล้ายกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเฟซบุ๊ก Vajira Pulmonary Medicine ได้โพสต์ถึงอาการป่วยของหญิงอายุ 27 ปีรายนึ่ง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่สูบบุหรี่ มาด้วยอาการเหนื่อย ไอ 2 สัปดาห์ น้ำหนัก ตัวลดลง 4 กก.จึงไปโรงพยาบาล แพทย์เอกซเรย์ปอดและพบความผิดปกติว่ามีน้ำในเยื่อหุ้มปอดเป็นจำนวนมาก จึงทำการเจาะปอดออกมา และผลที่ได้คือน้ำปนเลือด จากนั้น ก็ส่งคนไข้ไปเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบ CT Scan และพบว่าเยื่อหุ้มปอดหนาและปอดข้างขวาแฟบและพบก้อนเนื้อที่ปอดจากนั้นจึงมีการส่องกล้องในปอดและเนื้อเยื่อจำนวนมากในช่องปอด รวมไปถึงชิ้นเนื้อในปอด และหลังจากที่เก็บชิ้นเนื้อ(ก้อน)ในเยื่อหุ้มปอดมาตรวจ ก็พบว่า หญิงรายนี้เป็นมะเร็งปอดเป็นการยืนยันว่าแม้คนไข้จะไม่สูบบุหรี่และอายุยังน้อย ไม่ได้หมายความจะไม่เป็นมะเร็ง เพราะมีผู้ป่วยมะเร็งปอดที่อายุน้อย ประมาณ 0.6 – 13% และเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายผู้ป่วยที่อายุน้อยเช่น ต่ำกว่า 35 ปี, ต่ำกว่า 40 ปี, หรือต่ำกว่า 50 ปี สามารถพบมะเร็งปอดได้ มักไม่มีประวัติสูบบุหรี่ และผู้ป่วยมักมีอาการก่อนได้รับการวินิจฉัยค่อนข้างนาน เพราะผู้ป่วยมักจะไม่เฉลียวใจว่าจะเป็นมะเร็งปอดที่มา: Vajira Pulmonary Medicineแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับข่าวสดออนไลน์https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8000709
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
30/04/2024
“หนี้” กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย ปีหน้าจะมีหุ้นกู้ที่เตรียมครบกำหนดชำระหนี้ราว 1 ล้านล้านบาท ซึ่งประเมินกันว่า ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจยังย่ำแย่และดอกเบี้ยยังสูงกว่าอดีตอย่างมาก อาจทำให้เกิดการ “ผิดนัดชำระหนี้” จนลุกลามบานปลาย ปัญหาหนี้นับเป็นเรื่องที่กองบรรณาธิการของ “กรุงเทพธุรกิจ” ให้ความสำคัญและเป็นห่วงมาพักใหญ่ๆ แล้ว เราเห็นข้อมูลบางส่วนที่บ่งชี้ว่า “หนี้” กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ภาครัฐที่สัดส่วนต่อจีดีพีขยับขึ้นแตะ 62% และที่น่าห่วงสุด คือ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับ 91% สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก แต่ที่น่ากังวลไปกว่านั้น คือ หนี้ของภาคธุรกิจซึ่งวิ่งขึ้นมาเร็วมาก ล่าสุดเฉียดระดับ 80% ต่อจีดีพี เทียบกับช่วงก่อนโควิดที่อยู่เพียงราวๆ 70% ต่อจีดีพี สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ มีสัญญาณบางอย่างบ่งชี้ว่า หลายๆ ธุรกิจเริ่มจะแบกหนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ข้อมูลที่ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจได้รับมา พบว่า ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีที่ได้รับสินเชื่อราว 283,034 บัญชี ในจำนวนนี้เป็นหนี้เสียราว 10% หรือกว่า 2.8 หมื่นบัญชี นับเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และด้วยความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้ ธนาคารพาณิชย์ชะลอการปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มเอสเอ็มอีมาระยะหนึ่งแล้ว ข้อมูลล่าสุดของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่รายงานโดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่า สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 ส่วนหนึ่งเพราะธนาคารพาณิชย์เริ่มระมัดระวังการให้สินเชื่อ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อความสามารถในการชำระคืนสินเชื่อของผู้ประกอบการรายย่อย และมีบางส่วนที่หันไปออก “หุ้นกู้” แทน นอกจากนี้เรายังพบว่า ในปีหน้าจะมีหุ้นกู้ที่เตรียมครบกำหนดชำระหนี้ราว 1 ล้านล้านบาท แน่นอนว่าผู้ออกย่อมต้องออกหุ้นกู้ตัวใหม่เพื่อมาทดแทนหุ้นกู้เดิม (โรลโอเวอร์) แต่มีการประเมินกันว่าถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจยังย่ำแย่ ท่ามกลางดอกเบี้ยในปัจจุบันที่สูงกว่าอดีตอย่างมาก อาจทำให้มีหุ้นกู้ราว 50,000 ล้านบาท เกิดการ “ผิดนัดชำระหนี้” ขึ้นมาได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้ที่เรตติ้งต่ำหรือไม่มีเรตติ้ง ตัวเลข 5 หมื่นล้านบาทที่ว่านี้ นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าเป็นเพียงความเสี่ยง และถ้าจะเกิดขึ้นก็ไม่น่าจะสร้างปัญหาต่อระบบการเงินในภาพรวม แต่เราเชื่อว่าหากภาครัฐไม่มีมาตรการใดๆ มารองรับ ก็อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นลามไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่ยากจะคาดเดาได้ และสิ่งที่น่าห่วงไปกว่านั้น คือ ต้องติดตามดูว่าปัญหาเหล่านี้จะลามไปสู่ภาคธุรกิจขนาดใหญ่หรือไม่ เพราะเอาเข้าจริงตอนนี้หลายรายเริ่มออกอาการให้เห็นต้องวิ่งเต้นหาสภาพคล่องมาเติมให้กับธุรกิจของตัวเองกันบ้างแล้ว คำถาม คือ หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องพวกนี้อยู่เห็น “ควันไฟ” ที่เริ่มก่อตัวขึ้นจากจุดเล็กๆ เหล่านี้หรือไม่ และได้เตรียมมาตรการอะไรมารองรับเพื่อ “ดับไฟ” ให้ทันก่อนที่จะลุกลามออกไปหรือยัง? ...สถานการณ์ที่ว่านี้มีสิ่งหนึ่งที่น่ากังวลอยู่มากๆ คือ เราไม่ได้รับเสียงเตือนใดๆ จากหน่วยงานที่ว่านี้เลย มีเพียงเสียงเตือนจากชาวบ้านและภาคธุรกิจที่เริ่มเห็นควันไฟในบางจุดแล้วพากันชี้ดู ที่เหลือก็คงได้แต่เฝ้าระมัดระวังกันเอง! แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1102151
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
30/04/2024
Bangkok Illustration Fair 2023 จัดยิ่งใหญ่ใน 3 พื้นที่ของ 'หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร' ชม-ช้อปผลงาน พูดคุยกับนักวาดภาพประกอบชาวไทย 132 คน ศิลปินต่างชาติ 18 คน และ 17 Guest Artist นักวาดภาพประกอบชื่อดังระดับปกนวนิยาย 80 ปีก่อน จนถึงคนรุ่นใหม่เริ่มแล้ว Bangkok Illustration Fair 2023 หรือ BKKIF งานแฟร์สำหรับวงการนักวาดภาพประกอบไทย (Illustration) เทศกาลที่ศิลปินนักวาดไทยและนักสร้างสรรค์จากทั่วโลกจับตามองBKKIF 2023 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมและผลักดันศักยภาพของแวดวงภาพประกอบไทยให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดการทำงานในระดับประเทศและระดับนานาชาติ จัดขึ้นโดย 3 องค์กร ได้แก่ happening, DEXEMBELL และ WHAT IFBangkok Illustration Fair 2023งาน Bangkok Illustration Fair 2023 มีนักวาดภาพประกอบคนไทย จำนวน 132 คน ศิลปินต่างชาติ 18 คน จากประเทศฟิลิปปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน ยูเครน และ เมียนมาร์ จัดแสดงผลงานร่วมกับ GUEST Artist อีก 17 ท่านBKKIF 2023 จัดที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (bacc) ใน 3 พื้นที่ด้วยกัน คือ โถงนิทรรศการหลัก ชั้น 7, ชั้น 1 และ ชั้น 5 รวมพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงและกิจกรรมต่างๆ ดังนี้โถงชั้น 1 • พื้นที่เข้าฟรี • ที่ตั้ง Ticket Booth จุดจำหน่ายบัตรเข้าชมนิทรรศการหลักชั้น 7นิทรรศการ ณ โถงชั้น 1จัดแสดง นิทรรศการ ภาพ-ประกอบ-เมือง แคมเปญที่ BKKIF และ DOW (Department of Wonder) ร่วมกันจัดขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจาก UTA (อู่ตะเภาอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น)เป็นการเลือกศิลปิน BKKIF Artist 10 ราย มาร่วมเวิร์คช็อปที่จัดโดย Practical School of Design (PS±D) แล้วนำผลงานที่สร้างขึ้นมาจัดแสดงในงาน BKKIF2023เพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘ภาพประกอบ’ ได้รับการหยิบมาประกอบร่างสร้างเป็นเมืองได้อย่างไร ยกตัวอย่าง Octoboxes ผลงานวาดภาพโดย Tent Katchakulภาพประกอบ Octoboxes วาดโดย Tent Katchakulโมเดล Octoboxes สร้างจากภาพประกอบฝีมือ Tent KatchakulTent Katchakul อธิบายผลงานชิ้นนี้ว่า ด้วยความเชื่อที่ว่า 'เมืองคือคน' และ 'คนคือเมือง' คำถามที่ตามมา คือเราสามารถทำอย่างไรเพื่อสร้างสภาวะให้เกิดความเป็นเมืองขึ้นมาได้ส่วนตัวแล้ว ความเป็นเมืองอาจเกิดขึ้นมาไม่ใช่เพียงเพราะมีวัตถุ ตึกราม บ้านช่อง หากแต่เพราะมีผู้คนเข้ามาอาศัย ใช้งาน ทำความรู้จัก และแบ่งปัน เมื่อนั้นความเป็นเมืองถึงเกิดขึ้นและสมบูรณ์ขึ้นมาหมึก Octoboxes มีขาที่เกาะเกี่ยว ดึงดูด ให้ผู้คนที่แตกต่าง เข้ามาใช้ space ร่วมกันความกลมเกลียวของหมึกถูกแทนที่ด้วยความเป็นเหลี่ยมเป็นมุม เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย และ symbolize การรวมตัวกันอย่างร้ช่องว่าง และการต่อเติมขยายได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดทุกๆ ด้านของ Otoboxes เป็นด้านหน้า เพื่อเปิดรับผู้คนให้เข้ามาใช้ประโยชน์โดยไม่แบ่งแยกศิลปินนักวาดภาพประกอบ 10 ราย ใน นิทรรศการ ภาพ-ประกอบ-เมือง ได้แก่ BEYA, Buddhaandz, fahsuwaree, PAPENGPA, Uninspired by Current Events, PHAYANCHANA, Khemtit, nnene.iie, Tent Katchakul และ BlueBlurryMondayนอกจากนั้นยังมีโชว์เคสจาก 4 มหาวิทยาลัย ได้แก่ 1. คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 2. คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 3. สาขาวิชาการออกแบบสื่อสารสร้างสรรค์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 4. ครีเอทีฟมีเดีย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีสนุกกับการถ่ายภาพ BKKIF Photo Booth ดีไซน์เฉพาะสำหรับงานนี้เท่านั้น, กิจกรรมพิเศษจาก BKKIF, เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นที่ชั้น 5 • พื้นที่เข้าฟรี • ที่ตั้ง Ticket Booth จุดจำหน่ายบัตรเข้าชมนิทรรศการหลักชั้น 7จัดแสดงนิทรรศการ Sunflowers โดย BKKIF x SC Assets ที่ชวน 10 ศิลปินมาวาดภาพ ‘ดอกทานตะวัน’ ในรูปแบบของตัวเอง และมีโชว์เคสสุดสร้างสรรค์จากผู้สนับสนุน Canon, KPP Antalis, Central Tham และ Birdy Cafe ให้แวะไปเยี่ยมเยียนและร่วมทำกิจกรรมกันโถงนิทรรศการหลัก ชั้น 7งาน BKKIF 2023 โถงชั้น 7พื้นที่จัดแสดงผลงานของ 150 BKKIF Artists ผู้เข้าชมงานสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยน และรับแรงบันดาลใจจากศิลปินอย่างใกล้ชิด โดยพวกเขานำสินค้ามาจำหน่ายในงานด้วย อาทิ 111, 203 Infographics Lab, ab.bnna, ALANLERT (LERTALAN), Amy Halloween, BEYA, Bez Yodyuth Chaisuwan, BlueBlurryMondaychangheon Lee, Chatchawan, Chickenmew, chubbynida, Dani Go, DEEDEEISDEE, Emen Lo, faan.peeti, fahsuwareeภาพประกอบ วาดโดย Hongki Dongkiภาพประกอบ วาดโดย I Draw a House for My FriendHongki Dongki, I Draw a House for My Friend, ITSARA GUONG, ivan, Izary Shojo, Joninn, Kanya_Kim, KAPTOR, KawaKHwan, Khemtit, Little Putin, Little theater, Louis Sketcher, Machillux, MARC KHAN, meanleeNAONEJETTA, Narsid, Nattapon, NATTHAPHORN, OLE, P.Kulkan, palim, Panaholooya, punvacha, Pupha, RERUNN, Rin Jirajakkavan, SEP, Sungseo Yoon, taanntawanบรรยากาศงาน BKKIF 2023 บริเวณโถง ชั้น 7ภาพประกอบ วาดโดย OLEภาพประกอบ วาดโดย Tan-staRภาพประกอบ ผลงานของ YAKKUUTan-staR, taosuan, Taweechob, Tent Katchakul, Thireq Pecko, Uninspired by Current Events, Vachboy, Warhead, WARILY, WASIN, Since 2013, Wunmoon, YAKKUU, yamachen951, Yuki Uebo, Zillustationสามารถรับชมผลงานของศิลปิน BKKIF Artist 2023 ทั้งหมดได้ใน BKKIF Artist 2023 Directoryลายเส้นภาพประกอบโดย Phanom Suwanaboon (พนม สุวรรณะบุณย์)สำหรับ 17 GUEST Artists ผู้จัดได้เชิญศิลปินหลายรุ่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ Phanom Suwanaboon, Pangnual Studio, Juli Baker and Summer, May-T Noijinda, Mushroom Studio, Sorarak Tikaphanya (archive026), Benzilla, Pariwat Anatachina, Lili Tae, NatDao, Rukkit, Suzu จากประเทศไทยArdneks (อินโดนีเซีย), Tomoaki Murayama (ญี่ปุ่น), Taipei Illustration Fair (ไต้หวัน) และ Seoul Illustration Fair (เกาหลี)นำเสนอความหลากหลายของศิลปะการวาดภาพให้ชมกัน และหากต้องการเลือกซื้อของที่ระลึกของ BKKIF2023 ที่ชั้นนี้ก็มี Merchandise shop ให้บริการอยู่ภาพ Benzilla Bloom โดย Benzillaภาพประกอบ ผลงานของ Tomoaki Murayamaบรรยากาศงาน BKKIF 2023 บริเวณโถง ชั้น 7ผลงานภาพประกอบโดย AHCHEN จากไต้หวันแสดง Wristband ก่อนเข้าชมงานชั้น 7Bangkok Illustration Fair 2023 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม 2566 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เวลา 10.00 - 20.00 น. เปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้ ทาง Eventpop หรือ ซื้อบัตรราคาเดียวกันได้ที่หน้างานบริเวณชั้น 1 และ 5 บัตรเข้าชมงานมี 2 ประเภท ได้แก่ • One Day Pass เข้างานได้ 1 วัน วันใดก็ได้ ราคา 150 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมทั้งหมดแล้ว) • Four Days Pass เข้าชมได้ไม่จำกัดจำนวนวัน ราคา 250 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมทั้งหมดแล้ว) แถมฟรี เซตโปสการ์ด BKKIF2023 ชุดละ 2 ใบ จำนวนจำกัด 700 ชุด สำหรับผู้ซื้อบัตร 700 คนเท่านั้น • เด็กความสูงไม่เกิน 130 เซนติเมตร เข้างานฟรีซื้อบัตรออนไลน์ได้ที่ eventpop ช่องทางชำระเงิน: Credit/Debit Card, Alipay, QR PromptPay, KPlus สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรผ่าน Eventpop มาแล้วสามารถแสดง QR Code รับริสแบนด์ (Wristband) เพื่อเข้าพื้นที่นิทรรศการหลักชั้น 7 ได้เลยแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1102466
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
30/04/2024
29/04/2024
16/08/2024
29/04/2024
22/11/2024