ห้องแสดงนิทรรศการ
“Lost in DOMLAND” ท่องดินแดนลับ “อุดม แต้พานิช” ชีวิตที่ขาดการเล่น คือชีวิตที่ขาดรสอูมามิ
คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก “อุดม แต้พานิช” ในฐานะนักแสดงเดี่ยวไมโครโฟนอันดับต้นของประเทศ ที่ใช้คำพูดสร้างเสียงหัวเราะผ่านทัศนคติส่วนตัวมานานหลาย ทศวรรษ แต่เบื้องหลังม่านนั้นยังมีอีกด้านที่เงียบกว่า, ลึกกว่า และจริงจังยิ่งกว่า “เทรนดี้ แกลเลอรี่” พาไปเปิดจักรวาล “Lost in DOMLAND” นิทรรศการที่จะพาก้าวเข้าสู่ดินแดนลับๆของ “น้าดม” ซึ่งความอึกทึกของวัยเด็กและความเงียบงันของใจผู้ใหญ่ ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเมียดละไม ผ่านสีสัน, พื้นผิว และจินตนาการ




นิทรรศการ “Lost in DOM LAND” คือประตูบานเล็กๆที่อนุญาตให้เข้าไปสู่โลกภายในของ “อุดม แต้พานิช” งานศิลปะนับ 1,000 ชิ้น ที่ปรากฏในนิทรรศการนี้ มิได้ถูกสร้างเพื่ออธิบายอะไร แต่ทำขึ้นเพื่อเข้าไปอยู่กับความ รู้สึกที่บางครั้งก็ไม่มีคำอธิบายใดจำแนกได้ เขาแค่ทำงานศิลปะสม่ำเสมอ ต่อเนื่องยืนระยะมากว่า 30 ปี ทำในวันปกติธรรมดาที่ไม่มีใครดู ไม่มีใครเห็น ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีเวที ไม่มีสปอตไลต์ ไม่มีบทพูด เหมือนคนเขียนบันทึกประจำวัน โดยไม่หวังให้ใครมาอ่าน แต่เขาก็ยังเขียน มันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้รู้ว่ายังรู้สึก



การทำงานศิลปะเหล่านี้ไม่ใช่การสร้างผลงาน มันคือการหายใจอีกแบบ เป็นการเยียวยา ในวันที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เป็นเพื่อนสนิทที่สามารถแชร์เรื่องราวในส่วนลึกของจิตใจ เป็นการเล่นในวันที่โลกจริงอาจจะหนักเกินไป นี่ไม่ใช่การหลบหนี เดินทางออกไปข้างนอก แต่เป็นการเดินทางเข้าไปในความคิดคำนึง ความทรงจำ หรือความเวิ้งว้างของตัวเอง บางวันมันคือสมุดบันทึก บางวันมันคือสนามเด็กเล่น และหลายวันมันเป็นถ้ำหลบภัยเล็กๆ ที่เขาไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจ ไม่จำเป็นต้องตลก ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามอะไร




การเดินทางในจักรวาล “Lost in DOMLAND” เริ่มต้นจาก “น้าดม” ประติมากรรมสูง 6 เมตร ที่ยืนต้อนรับอยู่กลางห้อง รายล้อมด้วยลูกโป่งนับร้อย ชวนให้นึกถึงวัยเด็ก ที่ทั้งคึกคักและอ่อนโยน จากนั้นเข้าสู่ห้องสเกตช์ที่เต็มไปด้วยภาพร่างนับพันแผ่น กระจายจากพื้นจรดเพดาน เหมือนเดินเข้าไปในหัวของศิลปิน เห็นกระบวน การคิด จินตนาการ และเสียงเล็กๆก่อนจะก้าวสู่ห้องผลงานที่เสมือนห้องแห่งกาลเวลา เรียงร้อยผลงานตลอด 3 ทศวรรษของ “อุดม แต้พานิช” เมื่อความรู้สึกถูกแปรเป็นรูปทรง จึงก่อเกิดเป็น “สัตว์ประหลาดบนสายพาน” ประติมากรรมเหล็กที่เคลื่อนตัวช้าๆออกจากอุโมงค์ราวกับมาจากอีกมิติ เลื่อนผ่านหน้าผู้ชมอย่างเงียบงัน อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ ห้องประติมากรรมไฟเบอร์ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหน้าตาประหลาดพิกลพิการจำนวนมหาศาล จากเวทีเดี่ยว 13 ครั้งนี้ไม่ได้แอบอยู่ฉากหลัง แต่มาโผล่ให้เราสบตา ทบทวน และค้นพบว่าในความไม่สมบูรณ์แบบของพวกเขา ก็คือเงาสะท้อนของเราเอง


เชื่อมต่อกันคือห้องที่เปรียบเสมือน “มอนสเตอร์โชว์” นำเสนอผลงานด้วยแท่นหมุนคล้ายในงานมอเตอร์โชว์ เป็นการโชว์นวัตกรรมทางความรู้สึก รอบข้างคือ “ไม้ปิงปอง” ที่เปิดให้ผู้ชมโต้ตอบกับงานศิลปะได้อย่างสนุก ถัดไปเป็น ห้อง Kaleidoscope ซึ่ง “Dom Dog” ตัวแทนความรู้สึกของการเป็นอันเดอร์ด็อก ถูกตีความใหม่ในโลกของแสงสะท้อนและภาพซ้อนซ้ำ เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ราวกับจะถามว่าเราจะยืนอยู่อย่างไรในโลกยุคใหม่นี้ พลาดไม่ได้คือ “เทพทำใจ” ประติมากรรมหัวกล้วยสูง 3 เมตรอันโด่งดัง ที่ไม่ได้มีไว้ขอพร แต่เตือนสติว่าชีวิตเป็นของเรา จะเลือกให้มันซับซ้อน หรือปล่อยให้มันง่าย? ยังมีสารคดีบทสนทนา 20 นาที ระหว่าง “อุดม” กับ “นิ้วกลม-สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์” ที่จะเปิดมุมมองใหม่ให้เข้าใจอุดมลึกซึ้งกว่าเคย แถมท้ายด้วย “ห้องพรมสีชมพูละมุน” และห้องจัดแสดงภาพวาดขนาด 4×9 เมตร ที่ศิลปินตั้งใจกระโดดลงไปเล่นบนผืนผ้าใบขนาดยักษ์
ปลุกความเป็นเด็กให้คึกคักอีกครั้ง กับนิทรรศการ “Lost in DOMLAND” ณ The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันนี้ ถึง 3 ส.ค.2568 ซื้อบัตรเข้าชมที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือ www.allticket.com/event/lostindomland
X