ประกันชีวิต
สร้างวินัยการออมกับ “ประกันสะสมทรัพย์”
หลายคนที่เริ่มมองหาช่องทางการออมเงินในช่วงจังหวะดอกเบี้ยขาขึ้น อีกหนึ่งรูปแบบการออมที่ไม่ควรมองข้ามทั้งมือใหม่และมือเก๋า คือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งเป็นประกันชีวิตที่มาในรูปแบบของการเก็บออมเงิน และมีความคุ้มครองด้วย โดยกรมธรรม์จะดำเนินไปตามสัญญา หากชำระเบี้ยประกันครบตามสัญญา ก็จะได้รับทุนประกันคืนพร้อมดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์ตามที่บริษัทประกันชีวิตกำหนดไว้ในสัญญากรมธรรม์ โดยผู้ทำประกันสามารถเลือกรับเงินก้อนเดียวเมื่อครบสัญญา หรือเลือกรับเป็นเงินคืนระหว่างปีกรมธรรม์ก็ได้
ทั้งนี้ หากเสียชีวิตในระหว่างปีกรมธรรม์ ผู้รับผลประโยชน์ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์จะได้รับผลประโยชน์ตามที่กรมธรรม์ได้ระบุไว้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตได้มีการพัฒนารูปแบบกรมธรรม์ที่หลากหลาย ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันสะสมทรัพย์จึงต้องทำความเข้าใจและศึกษารายละเอียดของผลประโยชน์ของกรมธรรม์ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ
“ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ แตกต่างจากการออมเงินในธนาคารที่จะไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ก่อนครบกำหนดตามสัญญา ซึ่งผลประโยชน์จะคุ้มค่าต่อเมื่ออยู่ครบตามสัญญาเท่านั้น ช่วยสร้างวินัยในการเก็บออม และการวางแผนการเงินในอนาคต และสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้”
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ดียังไง?
1. สร้างวินัยการออม เพราะสามารถเลือกชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือรายปี เป็นระยะเวลาติดต่อกันตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
2. สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ สำหรับแบบะประกันชีวิตสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
3. ผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนระหว่างปี โดยจะได้เป็นรายปีไปจนกระทั่งครบกำหนดสัญญา อย่างไรก็ตาม เงินคืนระหว่างสัญญาจะได้จำนวนเท่าไรขึ้นอยู่กับที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ขณะเดียวกันยังมีประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์แบบที่ไม่มีเงินคืนระหว่างสัญญาด้วย ซึ่งสามารถตรวจสอบเงื่อนไขจากตัวแทนประกันชีวิตของแต่ละบริษัทได้
3 ข้อมือใหม่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำประกัน
จากข้อดีที่หลากหลายของประกันสะสมทรัพย์ สำหรับมือใหม่ที่สนใจจะเลือกออมเงินกับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ควรต้องรู้ก่อนตัดสินใจ กับ 3 ข้อควรรู้ง่ายๆ คือ
ข้อที่ 1 ควรต้องรู้ก่อนว่ารายละเอียดของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์นั้นเป็นอย่างไร เพราะแบบประกันสะสมทรัพย์จะแตกต่างระหว่างการออมเงินในธนาคาร ถ้าอยู่จนครบสัญญาจะได้รับผลกำไรที่ดีกว่าการหยุดไประหว่างทาง ที่สำคัญผู้เอาประกันจะไม่สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายไปแล้วนั้นออกมาใช้ได้เหมือนกับการออมเงินแบบปกติ จึงทำให้เราสามารถออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการออมเงินผ่านธนาคารซึ่งมีสภาพคล่องมากกว่า
ข้อที่ 2 การเลือกประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ระยะสั้นไม่ได้ดีไปกว่าการฝากเงินระยะยาว เพราะไม่ว่าจะเลือกออมระยะสั้นหรือออมระยะยาวจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคนเป็นหลัก เพราะในบางครั้งการออมระยะสั้นอาจจะไม่ได้รับเงินที่คุ้มค่ากว่าระยะยาวเสมอไป ดังนั้น จึงต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ดี เช่นเดียวกันกรมธรรม์ที่มีเงินปันผล กับแบบที่ไม่มีเงินปันผล ซึ่งไม่ว่าแบบไหนจะเหมาะกว่ากันนั้นต่างก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการออมของแต่ละคนทั้งสิ้น
ข้อ 3 ประเมินความสามารถในการชำระเบี้ยประกันให้ดี เพื่อไม่ให้เงินที่ชำระค่าเบี้ยประกันไปแล้วเสียเปล่าหากจ่ายไม่ไหวและต้องหยุดส่งกลางทางได้ ซึ่งอาจจะทำให้เสียประโยชน์มากกว่าการชำระเบี้ยไปจนครบอายุสัญญา ดังนั้นในการเลือกกรมธรรม์จึงไม่ควรที่จะเลือกแบบประกันที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงเกินกว่ากำลังซื้อที่จะสามารถจ่ายได้ไปตลอดอายุสัญญากรมธรรม์
“จะเห็นได้ว่า การทำประกันสะสมทรัพย์เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของเงินออม ที่สามารถสร้างวินัยในการออมเงินได้เป็นอย่างดี เพราะจะต้องส่งค่าเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอตามสัญญา อีกทั้งรับความคุ้มครองชีวิตและสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับคนข้างหลังได้เป็นอย่างดี”
X