ข่าวการเงิน

ปิดกับดักลงทุนออนไลน์! คนไทยหวังรวยแต่ไม่มีความรู้ - ได้เงินง่ายยิ่งลงเยอะ




อย่าหลอกGURU ​- คนไทยลงทุนออนไลน์พุ่ง แต่ส่วนใหญ่ “ไม่มีความรู้” เน้นตามเพื่อน เชื่ออินฟลูเอนเซอร์ชีวิตหรู เปิดช่องมิจฉาชีพล่อลวงง่าย ดันยอดคดีออนไลน์ ส.ค. เสียหายทะลุ 3.3 พันล้าน


▪️ แห่แจ้งความคดีออนไลน์ ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ 17,254 คดี 


ในยุคที่ใครๆ ต่างก็หันมาสนใจ “ลงทุนออนไลน์” โดยเฉพาะในสินทรัพย์ดิจิทัล จากกระแสสังคมและภาพลักษณ์นักลงทุน ที่มักประสบความสำเร็จอย่างมาก ภายใต้ภาพใช้ชีวิตหรูหราในโลกโซเชียล ได้กลายเป็นช่องโหว่ที่เปิดให้ “มิจฉาชีพ” หลอกลวงเหยื่อได้ง่ายขึ้น เช่น คดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ที่ยิ่งขุดมูลค่าความเสียหายยิ่งมหาศาล


สถิติล่าสุดเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) รายงานยอดแจ้งความออนไลน์สูงถึง 17,254 คดี ได้ดำเนินการอายัดบัญชี ที่ใช้ในการกระทำความผิด 4,066 บัญชี รวมมูลค่าความเสียหาย มากกว่า 3.3 พันล้านบาท 


ประเภทคดีออนไลน์ในเดือน ส.ค. ที่ได้รับการแจ้งความมากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า (34.09%) 2. หลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ (19.21%) 3. หลอกให้ทำงานออนไลน์ (13.20%) 4. หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน (12.48%) และ 5. ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว หรือ Call Center (6.08%)


▪️ ปี 65 คนไทยลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล พุ่ง 10 เท่า แต่ส่วนใหญ่ “ไม่ค่อยมีความรู้” 


‘นายพงศธร ปริญญาวุฒิชัย’ ฝ่ายวิจัยสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่าปัจจุบันจํานวนบัญชีผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย เมื่อเดือน ก.พ. 2565 เติบโตมากกว่า 10 เท่าจากปี 2563 เพิ่มขึ้นจาก 1.7 แสนบัญชี เป็น 2.5 ล้านบัญชี 


จากผลสํารวจพบประเด็นที่น่าสนใจ ในด้านเป้าหมายและแรงจูงใจในการลงทุน พบว่า ร้อยละ 46% มองว่าสินทรัพย์ดิจิทัล มีความผันผวนสูงจึง เลือกเข้ามาเก็งกําไรระยะสั้น ร้อยละ 33 มองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ร้อยละ 11 เห็นว่าเป็นแหล่งออมเงิน และ ร้อยละ 10 มองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ทําเงิน ได้ง่ายกว่างานประจําที่ทําอยู่


อย่างไรก็ดี ภาพรวมผู้ลงทุนส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยมีความรู้ในสินทรัพย์ดิจิทัลมากนัก จึงมักลงทุนตามคําแนะนําของเพื่อน Influencer  Youtuber หรือกูรูที่เป็นคนดัง ที่มองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มแรก คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุน เพราะหวังว่าจะเป็น Passive Income “แต่พอเห็นว่ากําไรดี ได้เงินง่ายจึงเริ่มลงทุนมากขึ้น แม้รู้ว่าสินทรัพย์ที่ลงทุนไปนั้น มีความเสี่ยงสูง”


▪️ “ผลตอบแทนสูง - ความเสี่ยงต่ำ” ถ้อยคำคลาสสิค ยังหลอกได้เสมอ


ความไม่รู้ ความโลภ ประกอบกับความไว้ใจผู้ชักชวน จากภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้เหล่ามิจฉาชีพ สามารถดูดเงินจากนักลงทุนมือใหม่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในประเด็นนี้ Krungsri The COACH เตือนว่าหากใครมาชวนลงทุน และจะให้ผลตอบแทนที่สูงมาก ๆ โดยใช้เวลาสั้น ๆ เช่น มีคนลงทุนใน Cryptocurrency แค่ 10,000 บาท แต่จะได้ผลตอบแทน 20,000 ภายใน 1 เดือน 


หรือบางครั้งอาจได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผล 10-20% ต่อสัปดาห์ ที่ตัวเลขผลตอบแทนเยอะแบบนี้ เป็นกลลวงของมิจฉาชีพทำให้หลงกล บางคนอาจจะได้เงินปันผลจริงในช่วงแรก แต่ระยะหลัง ๆ จะเริ่มได้เงินช้าลง และในที่สุดจะไม่ได้เลย และอีกหนึ่งคำพูดที่มักจะได้ยิน จากการชวนลงทุนประเภทนี้ คือ มีความเสี่ยงต่ำ ใคร ๆ ก็ทำกัน 


ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แนะนำวิธีป้องกันการตกเป็นเหยื่อ ขบวนการแชร์ลูกโซ่ - หลอกลงทุนเทรดคริปโต


1. หลีกเลี่ยงการนำเงินไปฝากให้ผู้อื่นเทรด แนะนำให้เทรดด้วยตนเอง


2. อย่าหลงเชื่อการอวดอ้างความร่ำรวยของมิจฉาชีพ


3. จำไว้เสมอว่า “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง” หากมีการการันตีผลตอบแทนที่แน่นอน มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่


4. ควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง


#ลงทุนออนไลน์ #สินทรัพย์ดิจิทัล #เทรดคริปโต #Forex3D #แชร์ลูกโซ่ #มิจฉาชีพ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

X