ประกันชีวิต
6 ขั้นตอนพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อประกันชีวิต
หนึ่งในคำถามในใจของใครหลายๆ เมื่อถูกชักชวนให้ทำประกันชีวิต ว่า “ทำไมเราต้องทำประกัน” ไม่เห็นจำเป็นเลย แถมยังเป็นเรื่องไกลตัว แต่รู้หรือไม่ว่า การทำประกันชีวิตสามารถสร้างวินัยทางการออมเงิน เพื่อเป็นทุนในการดูแลชีวิตของเราได้ในอนาคตได้เป็นอย่างดี หรือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ก็ยังสามารถเป็นทุนหรือมรดกให้กับคนที่อยู่ข้างหลังสามารถนำไปต่อชีวิตหรือเป็นทุนในการดำรงชีวิตต่อไปได้โดยแม้จะไม่มีเสาหลักของบ้านคอยดูแลอยู่ก็ตาม
เมื่อประกันชีวิต สำคัญอย่างนี้ แล้วจะเลือกยังไงเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน โดยที่ไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำวัน และยังสามารถเก็บออม สร้างผลตอบแทนเพื่อดูแลชีวิตในอนาคตกันได้ เรามาดูคำตอบกัน ….
รู้จัก “ประกันชีวิต”
เรื่องของประกันชีวิต ประกอบไปด้วย “ผู้เอาประกัน” ซึ่งได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งที่เรียกว่า “เบี้ยประกันภัย” ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ให้กับบริษัทประกันชีวิต เพื่อซื้อความคุ้มครองหากเสียชีวิต ภายในเวลาที่กำหนด หรือมีอายุยืนยาวไปจนครบกำหนดตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง ที่เรียกว่า “จำนวนเงินเอาประกัน” หรือ “ทุนประกัน” ให้กับ “ผู้รับผลประโยชน์” หรือผู้เอาประกันภัย ซึ่งปัจจุบันจะมีเงื่อนไขความคุ้มครองให้ผู้เอาประกันภัยหรือผู้ทำประกันได้เลือกซื้อตามความต้องการ ซึ่งปัจจุบันกรมธรรม์ประกันชีวิตมีด้วยกัน 4 รูปแบบคือ
1. แบบสะสมทรัพย์ ซึ่งเป็นสัญญาประกันชีวิต ที่บริษัทประกันชีวิต จะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผุ้รับประโยชน์ใน 2 เงื่อนไข คือ
1.1 เมื่อผู้เอาประกันภัย มีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา
1.2 เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาเอาประกันภัยก่อนวันครบกำหนดสัญญา
2. แบบตลอดชีพ โดยเป็นสัญญาประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันตลอดชีวิต ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัย ให้ผู้เอาประกันภัยกรณีมีชีวิตยืนยาวจนถึงอายุ 99 ปี
3. แบบชั่วระยะเวลา เป็นสัญญาประกันชีวิตที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ในระยะเวลาเอาประกันภัย
4. แบบบำนาญ เป็นสัญญาประกันชีวิตที่บริษัทประกันจะจ่ายเงินงวดอย่างสม่ำเสมอ แก่ผู้เอาประกันภัยตลอดชีพ หรือเริ่มตั้งแต่ผู้เอาประกันภัยมีอายุตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
6 ขั้นตอนก่อนซื้อประกันชีวิต
1. เลือกแบบประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครอง ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันกรมธรรม์ประกันชีวิตสามารถเลือกความคุ้มครองได้หลากหลาย ตามความต้องการของแต่ละคนมากขึ้น
2. วางแผนและประมาณการณ์ จำนวนเงิน ที่จะชำระเบี้ยประกันได้ตลอดระยะเวลาชำระ หากไม่สามารถชำระเบี้ยประกันอาจจะทำให้กรมธรรม์ขาดผลบังคับ และสิ้นสุดความคุ้มครองและเสียผลประโยชน์ที่ผู้ทำประกันควรจะได้รับ
3. กรอกใบคำขอเอาประกันภัย ตามความเป็นจริง
4. เมื่อกรอกใบคำขอเอาประกันภัย แล้ว การชำระเบี้ย งวดแรก ต้องเรียกใบเสร็จรับเงินชำระเบี้ย ประกันภัยชั่วคราว จากตัวแทนประกันชีวิตเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย
5. เมื่อได้รับกรมธรรม์พร้อมกับใบเสร็จรับเงิน แล้วให้ตรวจสอบข้อมูลที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ว่าถูกต้องตรงตามที่แจ้งไว้ในใบคำขอประกันภัยหรือไม่ หากพบความผิดพลาด ต้องรีบแจ้งให้บริษัทประกันเพื่อแก้ไขทันที
6. อ่านกรมธรรม์ให้ละเอียด เพื่อศึกษาเงื่อนไข ของกรมธรรม์ทั้งหน้าที่และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับตามเงื่อนไขกรมธรรม์และขอยกเว้นที่กรมธรรม์จะไม่ให้ความคุ้มครอง
“เห็นกันหรือไม่ เรื่องของประกันชีวิตไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายๆคน คิดกันแล้ว แต่กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรจะมองข้าม โดยในการชำระเบี้ยประกันชีวิต ควรจะเริ่มต้นด้วยการจ่ายเบี้ยประกันประมาณ 10-20% ของรายได้ปัจจุบันของผู้ทำประกัน หากในอนาคตมีรายได้เพิ่มขึ้นก็สามารถปรับเพิ่มเบี้ยประกันที่จ่ายเพื่อซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ แต่ต้องไม่กระทบต่อกำลังซื้อของตนเองและสามารถจ่ายเบี้ยไปจนกว่าจะครบอายุสัญญาได้โดยไม่มีการยกเลิกกรมธรรม์ระหว่างทาง ที่สำคัญ ควรจะเริ่มต้นทำประกันตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะจะจ่ายเบี้ยถูก รับทุนประกันสูงกว่า เมื่อตัดสินใจเริ่มต้นทำประกันชีวิตในช่วงที่มีอายุมากเพราะต้องจ่ายเบี้ยที่แพงกว่า เพื่อรับความคุ้มครองที่เท่ากับช่วงที่อายุยังน้อย”
X