กนกวรรณ แก้ววานิช เผยโจทย์การตลาดจาก ‘ลอตเต้’ เจ้าของแบรนด์ขนมยอดฮิต โคอะลา มาร์ช 'ขอให้กลับมารัก' ขนมรูปตัวโคอาลาอีกครั้งในรอบ 40 ปี สู่การปั้นนิทรรศการศิลปะสุดน่ารัก Koala’s March World
ศิลปะ มีพลังในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามองโลก ปลุกเราให้พบกับมุมมอง แนวคิด และคุณค่าใหม่ๆ ล่าสุด LOTTE (ลอตเต้) กลุ่มบริษัทธุรกิจจากความร่วมมือกันระหว่างเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น เลือกใช้ ‘พลังศิลปะ’ สร้าง แคมเปญการตลาด ให้กับขนมขบเคี้ยวอบกรอบชิ้นเล็กๆ สอดไส้ครีมรสหวาน ขวัญใจผู้คนหลากหลายวัยทั่วโลก Koala’s March (โคอะลา มาร์ช) ซึ่งมีอายุถึง 40 ปีในปีนี้
ลอตเต้ เปิดตัว โคอะลา มาร์ช ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2527 ขนมชนิดนี้นอกจากมีรูปทรงแบบตัว โคอาลา (Koala) ยังมีภาพลายเส้นโคอาลาอยู่บนตัวขนมอีกด้วย บรรจุในกล่องกระดาษรูปทรงหกเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์
โคอาลา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและมีกระเป๋าหน้าท้อง รูปร่างหน้าตาคล้ายสัตว์ตระกูลหมี แต่ไม่ใช่หมี การเคลื่อนไหวเชื่องช้าโดยธรรมชาติ ทำให้โคอาลาดูมีเสน่ห์น่ารักน่าเอ็นดู เมื่อปรากฏในรูปแบบ ขนม จึงดึงดูดความสนใจผู้คนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่แรกเห็น
ปุ้ย กนกวรรณ แก้ววานิช
แคมเปญการตลาดในรูปแบบนิทรรศการศิลปะสุดน่ารักครั้งนี้มีชื่อว่า Koala’s March World เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช สร้างสรรค์โดย ปุ้ย กนกวรรณ แก้ววานิช Executive Creative Director, CUE Digital International
นิทรรศการศิลปะ Koala’s March World เป็นการสร้างประสบการณ์ต่อแบรนด์ หรือ brand experience ผ่านการเติม ‘ความรักและความจดจำของลูกค้าต่อแบรนด์
นิทรรศการศิลปะ Koala’s March World
“เพราะความรัก ไม่สามารถสร้างได้ใน 30 วินาที” ปุ้ย กนกวรรณ ตอบคำถามว่าทำไมต้องเป็น brand experience ก่อนอธิบายเพิ่มเติมว่า
“เชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นเคยกับแบรนด์ Koala’s March เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ขนมที่อยู่กับคนไทยมานานตั้งแต่จำความกันได้ ใช่..ทุกคนรู้จัก แต่อาจหลงลืมไปเมื่อเราโตขึ้น หรือไม่ได้ซื้อเป็นประจำเหมือนเมื่อตอนเราเป็นเด็กๆ
จริงๆ แล้ว Koala’s March ไม่ใช่แค่แบรนด์ขนมสำหรับเด็กเท่านั้น เพราะมีหลายรสชาติให้เลือกตามความชอบของคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยไหนๆ ก็สามารถรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยได้ ดังนั้นเราจึงอยากแก้โจทย์ให้กับแบรนด์ว่าจะทำยังไงให้คนกลับมารักเราอีกครั้ง”
นิทรรศการ Koala’s March World เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช ซึ่ง กนกวรรณ แก้ววานิช และทีมงาน ช่วยกันสร้างสรรค์ ประกอบด้วยโซนต่างๆ ดังนี้
Zone 1 : Welcome to Koala’s March
สัมผัสความน่ารักของ Koala’s March รับประสบการณ์ความสดใสและความน่ารักผ่านการเดินทางเข้ามาในโลกของ โคอะลา มาร์ช ที่พร้อมส่งต่อความน่ารักให้ทุกคนได้ค้นพบตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
Zone 2 : Hexagon Mirror (ห้องกระจก 6 เหลี่ยม)
การเดินทางเข้าสู่โลกของ โคอะลา มาร์ช ในครั้งนี้ เริ่มต้นผ่านการเปิดฝาเดินผ่านอุโมงค์ทรง 6 เหลี่ยม ที่เปรียบเสมือนการเดินทางเข้าไปในกล่องของโคอะลา มาร์ช
พื้นที่ที่จะทำให้ทุกคนได้สำรวจความน่ารักของตัวเองในทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็จะมีภาพ โคอะลา มาร์ช ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับคุณเสมอ
Zone 3 : Lighting Room (ห้องแห่งแสงไฟ)
เมื่อผู้เข้าชมเดินทางมาถึงโซนที่ 3 แสงไฟระยิบระยับพร้อมเหล่า โคอะลา มาร์ช กำลังร้องและสนุกสนานไปกับเพลงมาร์ช รอต้อนรับผู้เข้าชมทุกคนเพื่อนำทางทุกคนเข้าไปรับความน่ารักในโลก โคอะลา มาร์ช ที่กำลังรออยู่
Zone 4 : Black & White Zone (ห้องแบล็ก แอนด์ ไวท์)
หลังม่านอีกชั้น ผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้พบเจอกับ Angle Koala และ Devil Koala ในห้องที่ความเท่และความหวานละมุนในตัวของทั้ง โคอะลา มาร์ช และผู้เข้าชมจะได้มาเจอกันในรูปแบบที่ ‘น่ารักเวรี่มาร์ช’ ที่สุด
โซนนี้ทุกคนจะได้ทำความรู้จักกับความเข้มข้นของวัตถุดิบจาก โคอะลา มาร์ช แบล็ค และ โคอะลา มาร์ช ไวท์ สองรสชาติที่ออกแบบมาเพื่อตอบรับกับความต้องการและความเป็นตัวเองของเหล่าวัยรุ่น
ศิลปะสื่อผสมในลักษณะ 'หยดช็อกโกแลตสุดเข้มข้น' ที่ไหลย้อยลงมาจากเพดานสู่ช็อกโกแลตบาร์ด้านข้าง เข้มข้นจนย้อยลงมาถึงพื้นด้านล่าง สื่อถึงความเข้มข้นของช็อกโกแลตที่ใช้ใน โคอะลา มาร์ช รสบิทเทอร์ช็อกโกแลต
ในอีกด้าน.. นมที่หยดออกมาจากถัง ไหลย้อยลงมาปะทะกับชีสที่เตรียมไว้บนกำแพงจนไปถึงพื้น คือสิ่งที่สะท้อนถึงความเข้มข้นและวัตถุดิบของรสไวท์มิลค์
สื่อความหมายที่ว่า เพราะในบางครั้งชีวิตเราอาจจะต้องการความหวานละมุนแบบรสไวท์มิลค์ แต่ในบางครั้งก็ต้องการความเท่แบบรสบิทเทอร์ช็อกโกแลต และในบางคนก็มีทั้งสองสิ่งนี้อยู่ในคนเดียวกัน
ในห้องนี้ยังมีผนังที่เห็นเป็นใบหน้าโคอะลา มาร์ช สร้างด้วยกล่องของโคอะลา มาร์ช ทั้ง 2 รสชาติ จำนวนกว่า 2,000 กล่อง
Zone 5 - Panel 5 : Fight Koala’s March
ออกจากห้องของ Black and white เดินเลี้ยวมาทางขวา จะมีโคอะลาเตรียมต้อนรับทุกคนอยู่ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้ามาทักทายกับ โคอะลา มาร์ช ก่อนที่จะเข้าไปทำความรู้จักประวัติส่วนตัวของพวกเขา
Zone 5 - Panel 5.1 และ 5.2 : Koala’s Profile & Characters
นี่คือโซนประวัติโคอะลา มาร์ช ในห้องนี้ 'มาร์ชคุง' ขอเชิญชวนให้ทุกคนทำรู้จักกับประวัติ ความเป็นมาและเรื่องราวเบื้องหลังของทั้งมาร์ชคุงและวอลซ์จัง 2 คาแรคเตอร์หลักจากโคอะลา มาร์ช ผู้เข้าชมจะได้ทำความรู้จักกับความชอบ ความฝัน และเรื่องราวของคาแรคเตอร์หลักทั้ง 2 ตัวมากขึ้น
Zone 5 - Panel 5.3 : 214 Thai Character
สมาชิกของ โคอะลา มาร์ชไม่ได้มีเพียงแค่ 'มาร์ชคุง' กับ 'วอลซ์จัง' เท่านั้น แต่ยังมีเพื่อนๆ อีก 214 ลวดลาย ที่พร้อมจะส่งต่อความน่ารักให้ทุกคนในประเทศไทยอีกด้วย
Zone 5 - Panel 5.4 : Welcome to Koala’s March 77 Provinces
ก่อนที่จะเข้าสู่โซนต่อไป ทุกคนจะได้พบกับตัวแทน โคอะลา มาร์ช ประเทศไทย ที่จะพาไปรู้จักสมาชิกโคอะลา มาร์ช ของแต่ละจังหวัด
Zone 5 - Panel 5.5 : 77 Thai Provinces
ลวดลายพิเศษได้รับการดีไซน์ออกมาเพื่อแต่ละจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัดไปพร้อมกัน โซนนี้มีกิจกรรมใน Facebook เพื่อนๆ อยู่จังหวัดไหนกันบ้าง หา โคอะลา มาร์ช ประจำจังหวัดตัวเอง ถ่ายรูปมาแชร์กัน รับไปเลย ถุงผ้าหูรูด จากโคอะลา มาร์ช สามารถสแกน QR code เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้เลย
Zone 5 - Panel 5.6
หลังจากทำความรู้จักกับสมาชิกของโคอะลา มาร์ชทั้งหมดแล้ว ถึงเวลาที่มาร์ชคุงจะแนะนำสมาชิกใหม่ล่าสุดของ โคอะลา มาร์ช ทั้งสองตัว ผ่านการเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมสนุก ร่วมทายชื่อสมาชิกใหม่ โดยใช้แผ่นแม่เหล็กที่มีชื่อสมาชิก 1 ตัวเป็นคำใบ้ไว้ก่อน หากทายได้ถูกต้อง รับไปเลยกระเป๋าผ้าสุดเอ็กคลูซีฟจากโคอะลา มาร์ช (โซนนี้มีกิจกรรม FB Activity)
Zone 6 : Koala’s Factory (โรงงานโคอะลา มาร์ช)
ห้องถัดมาจะพาให้ผู้เข้าชม ได้รับรู้ถึงวิธีการผลิต โคอะลา มาร์ช ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและพิถีพิถันจากแผ่นแป้งในจุดเริ่มต้นจนออกมาเป็นบิสกิตหอมกรุ่นสอดไส้ครีมรสชาติต่าง ๆ จนทุกคนได้ลิ้มลองความอร่อยร่วมกันผ่านสเตชั่นทั้ง 6 ขั้นตอน
Zone 7 : Packaging & Koala’s Time Change (โซนความเป็นมาของโคอะลา)
พาย้อนเวลาไปกับโคอะลา มาร์ช คาแรคเตอร์ และกล่องแพคเกจ เพื่อแสดงให้เห็นว่าโคอะลา มาร์ชมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปกับยุคสมัยอยู่เสมอ
Zone 7 - Panel 7.1
โคอะลา มาร์ชเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาหลายปี แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าแรงบันดาลใจในการออกแบบกล่องของ โคอะลา มาร์ช นั้นมาจากอาหารของโคอาลา เอง คือรูปทรงของต้นยูคาลิปตัส
นอกจากนี้โคอะลา มาร์ชเองยังรวมเป็นหนึ่งในสมาชิกของโครงการ Australian Foundation Koala องค์กรที่ร่วมสนับสนุนงานวิจัยที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยดูแลและอนุรักษ์โคอาลาจากผลกระทบต่าง ๆ
Zone 8 : Surrounded Koala (ห้องโคอะลารายล้อม)
หลังจากได้รับชมเรื่องราวและความเป็นมาของ โคอะลา มาร์ช อย่างเต็มที่แล้ว เมื่อเดินทางมาถึงที่โซนนี้ คุณจะถูกความน่ารักของ โคอะลา มาร์ช รายล้อมเอาไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โคอะลา มาร์ชที่รอต้อนรับทุกคนอยู่จะสร้างความประทับใจที่ไม่รู้ลืมให้ทุกคนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
Zone 9 : Koala’s Island (เกาะของโคอะลา มาร์ช)
หลังจากความน่ารักที่รายล้อม การเดินทางจะพาทุกคนค่อย ๆ ได้เพลิดเพลินไปกับเกาะของโคอะลา มาร์ช พร้อมน้องนางเงือกที่กระโดดขึ้นเหนือน้ำเพื่อรอต้อนรับและเชิญชวนให้ทุกคนมาพักผ่อนด้วยกันกับแก๊งโคอะลา มาร์ช
ก่อนที่ทุกคนจะผ่านโซนนี้ไป มาร์ชคุงอยากให้เลือกการ์ดคาแรคเตอร์ที่ถูกแขวนเรียงเอาไว้กว่า 214 ลวดลายมา 1 ใบ เพื่อจำลองตัวองเป็นสมาชิกของ โคอะลา มาร์ช เพื่อเตรียมตัวต้อนรับความน่ารักที่รอต้อนรับทุกคนอยู่ในโซนถัดไป
Zone 10 (Room highlight) Flower zone (สวนดอกไม้ของโคอะลา มาร์ช)
จุด Finnale ของโลกโคอะลา มาร์ชที่จะพาให้ผู้เข้าชมได้ร่วมจำลองตัวเองเป็นหนึ่งในสมาชิกแห่งโลก โคอะลา มาร์ช ท่ามกลางสวนดอกไม้ยักษ์นานาพรรณที่รังสรรค์ขึ้นจากฝีมือการออกแบบของ ปั้น นภัสชล ตั้งนุกูลกิจ ศิลปินตัดกระดาษที่คัดสรรกระดาษพิเศษที่มีกรรมวิธีการผลิตสุดพิถีพิถัน เพื่อให้สวนดอกไม้ในโลกของ โคอะลา มาร์ช ออกมาน่ารักเวรี่มาร์ชแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน
หลังจากอิ่มเอมกับความน่ารัก สดใส และได้ทำความรู้จักกับโคอะลา มาร์ชมากขึ้นแล้วก่อนออกจากโลกอันแสนสดใสของมาร์ชคุงไป มาร์ชคุงอยากเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน เขียนความรู้สึกที่ได้รับจากงานนี้ลงบนด้านหลังการ์ด แล้วนำไปแขวนที่ Flower chanderlia แล้วออกไปรับของรางวัลต่าง ๆ ได้ที่หน้างาน
ปุ้ย กนกวรรณ แก้ววานิช
เปิดใจ ปุ้ย กนกวรรณ แก้ววานิช
• ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง?
“ในวันนี้ที่เราเห็นว่าความคิดของเราเป็นรูปธรรมแล้วจริงๆ เราดีใจและมีความสุขไปกับทุกๆ รอยยิ้มของทุกคน เราได้เห็นผู้คนที่ได้ไปสัมผัสความน่ารักเวรี่มาร์ชของ Koala’s March แล้วเดินมาถามเราว่า ‘มีสินค้าขายมั้ยคะ, จะหาซื้อของที่ระลึกได้ที่ไหนบ้างคะ’ หรือจะเป็นคำชื่นชม และขอบคุณที่สร้างนิทรรศกาลน่ารักๆ ครั้งนี้ขึ้นมา…พอได้ฟังเราก็ปลื้มใจ
จากกระแสตอบรับที่ผ่านมาในนิทรรศการครั้งนี้ ทำให้ทีมงานยิ่งมีรอยยิ้มที่กว้างขึ้น เพราะไม่ว่าจะทาง Social Media ที่มีคนรีวิวมากมาย พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ เด็กๆ มาเข้าชมงานกันอย่างคับคั่ง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าทุกคนรัก และมีความสุขกับสิ่งที่เราอยากจะมอบให้ได้จริงๆ และในมุมของบริษัทฯ เอง เราเป็นเพียงเอเจนซี่เล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ทุกคนอาจจะไม่ได้รู้จัก แต่เราอยากให้ผลงานของเราพูดแทนเราว่าเราทำอะไรได้บ้าง”
• จากงานนิทรรศการ เห็นว่ามีการใช้มาสคอต Koala's March เป็นตัวเชื่อมโยงในการสร้างประสบการณ์ ในฐานะผู้จัดงานคาดหวังให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประสบการณ์ในลักษณะใดที่สร้างความประทับใจและผูกพันกับแบรนด์?
"ลวดลาย Koala’s March มีตั้ง 214 ตัว ซึ่งทั้ง 214 ลวดลายนี้คนไม่เคยรู้จัก เราก็เลยใช้คาแรคเตอร์ทั้งหมดมาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก เพราะปุ้ยเชื่อว่าทั้ง 214 ลวดลาย มันต้องมีสักตัวที่ไปแตะสักมุมหนึ่งของผู้ร่วมงาน เพราะคาแรคเตอร์ทุกตัวน่ารัก แต่คนไม่เคยรู้
เพราะฉะนั้น การเอาคาแรคเตอร์ทั้ง 214 ลวดลายเข้ามาเป็นตัวเชื่อมโยงใน brand experience ในครั้งนี้ ก็คือทำให้ทุกคนรู้จักลวดลายของ Koala’s March มากขึ้น ทำให้คนรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์อย่างที่เขาแทบไม่รู้ตัว ผ่านคาแรคเตอร์ใดคาแรคเตอร์หนึ่งที่พวกเขารู้สึกเชื่อมโยงด้วย
เช่น มีตัวที่เล่นสเก็ตบอร์ด แต่เราก็ไม่เคยรู้ มันมีตัวเล็กจิ๋ว มีบางตัวเป็น snowman คนไม่รู้ แต่ popular มาก มีบางตัวเป็นตัวนำโชค มีบางตัวใส่ชุดนักเรียน ก็คือไปตรงกับกลุ่มเด็กนักเรียน เด็กนักเรียนก็จะชอบตัวนี้ เพราะสื่อถึงตัวเอง
บางตัวเป็นแม่กับลูก Koala’s March มีคาแรคเตอร์มากมายขนาดนี้อะ มันต้อง touch ซักมุมใดมุมหนึ่งของแต่ละคนแหละ และนั่นคือเหตุผลที่เราอยากเอาตัว Koala’s March มาเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา"
• ในการจัดงานนิทรรศการที่มุ่งเน้นความทรงจำและความผูกพัน คุณคาดหวังอะไรจากการเชื่อมโยงในระยะยาวกับผู้เข้าชมหลังงานจบแล้ว?
"คาดหวังให้ Koala’s March อยู่ในใจทุกคน 'ตลอดไป' และ 'ตลอดเวลา' คือหมายความว่าผู้เข้าชมงานก้าวขาออกมาจากงาน ยกตัวอย่างเช่น วัยรุ่น หลังจากงาน เดี๋ยวต้องมีสอบละ ก็เครียดละ แต่ปุ้ยว่าอย่างน้อยในมุมหนึ่งของวัยรุ่นที่มางานนี้ เขาได้ความสุขกลับไป เขาเก็บเป็นความทรงจำว่า 'วันนี้มีความสุขมากเลยที่ได้มางาน Koala’s March'
ปุ้ยอยากจะบอกคนที่มางานทุกคนว่า 'ก็จงมีความสุขให้ได้แบบ Koala’s March สิ' ปุ้ยเลยคาดหวังให้ Koala’s March อยู่กับเขาตลอดเวลาในใจเขาเวลานึกถึงความสุข เช่น เครียดหรอ เดินไปซื้อ Koala’s March กิน แล้วให้เขามีความสุข นึกถึงตอนที่มาเดินในงาน ให้เขานึกว่า Koala’s March = ความสุข”
นิทรรศการ '"oala’s March World เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช"
• ความยากลำบากที่พบในการตั้งความคิดริเริ่มของงาน ‘Koala's March เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช’ มีอะไรบ้าง?
"ทำให้เป็นจริงท่ามกลางคำพูดว่า 'ทำไม่ได้หรอก' อันนี้ยากที่สุดเลย เพราะทำให้เป็นจริงให้ความคิดเป็นรูปธรรมว่ายากแล้ว แต่พอเราไปหาใคร (suppliers) แล้วบอกว่าทำไม่ได้อันนี้ยากกว่ามากๆ เพราะทุกคนบอกว่า ‘มันไม่มีทางทำได้’ หรือ ‘เป็นไปไม่ได้หรอก’ นั่นแหละยากสุดๆ แล้ว
เป็นที่มาว่าเราก็เลยทำกันเอง เพราะพอเราพึ่งใครไม่ได้ เราก็พึ่งตัวเอง และช่วงเวลาที่ทำกันเองนี่แหละ มันคือที่สุดแล้ว ปุ้ยรักทีมขึ้นมากๆ เพราะงานนี้เลย”
ทีมครีเอทีฟสร้างสรรค์ Koala’s March World
• สุดท้ายแล้ว มีประสบการณ์หรือเรื่องราวใดน่าจดจำที่สุดในงานนี้ไหม?
มีทั้งหมด 3 ส่วน ประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนเลยคือ
1. “ทีม” เราเริ่มต้นทำงานนี้ด้วยการที่ทั้ง supplier และ organizer บอกว่าทำไม่ได้ ปุ้ยก็เลยหันไปบอกทีมว่า... “กว่าจะขายงานผ่านไม่ง่าย เราจะยอมแพ้เพียงแค่ organizer บอกว่าทำไม่ได้หรอ?” มันก็เลยเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจที่สุดเลยคือการเห็นทีมทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ อดทนทำ และเห็นทีมรักกัน มันประทับใจที่สุดเลยนะที่เราผ่าน 9 วัน 8 คืน เต็มๆ ไม่ได้พักกันเลย เราเลยได้เห็นความทรหดของทีม ส่วนนี้ยากที่สุด และก็ประทับใจที่สุดเลยที่เราหันไปเห็นทีมอยู่ด้วยตลอด ไม่ทะเลาะกัน ไม่ทิ้งกัน นี่คือ perfect มากๆ “I finally found my dream team” จากงานนี้เลย
2. ส่วนที่สองที่ประทับใจสุดๆ คือ “แววตา และ รอยยิ้ม” ของผู้ร่วมงาน มันคือน้ำทิพย์ชโลมใจ แล้วก็ภาพคนที่ต่อคิวกันแบบไม่ย่อท้อ ไม่ออกจากคิว ไม่หงุดหงิดว่ารอนาน แล้วเป็นแบบนี้ตลอดทั้งงาน
3. สิ่งสุดท้าย “ลูกค้า” เลย เพราะไม่มีลูกค้าที่อนุมัติให้เราทำ มันจะไม่มีวันที่เราจะได้ทำอะไรแบบนี้เลย ถ้าไม่มีคำว่า “I love this idea” เราจะไม่มีวันได้ประสบการณ์ในการทำงานนี้เลย ตอนที่ลูกค้าเดินมาหามันเป็นดวงตาที่สื่อออกมาว่าเชื่อมั่นในตัวเราจริงๆ ขอบคุณเราจากใจจริงๆ แต่ปุ้ยก็ขอบคุณลูกค้าเหมือนกันที่เขาซื้อสิ่งนี้ สิ่งที่ประทับใจสุดๆ อีกอย่างของงานเลยคือลูกค้า เพราะสุดท้ายแล้วลูกค้าคือคนที่ทำให้เราได้ทำในสิ่งนี้
หมายเหตุ : นิทรรศการ "โคอะลา มาร์ช เวิลด์ เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช"
• ครั้งที่ 1 จัดที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) 12 ตุลาคม - 12 พฤศจิกายน 2566
• ครั้งที่ 2 จัดที่ Future Art Land ชั้น G โซนเซ็นทรัล สเปลล์ Future Park and Zpell ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 8-28 มกราคม 2567