พาไปรู้จักกับเมือง “ฮวาเหลียน” เมืองใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ที่เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวอันงดงาม จนได้รับฉายาว่าเป็น“สวิตเซอร์แลนด์ไต้หวัน” ซึ่งในรอบ 7 ปี เมืองนี้เกิดแผ่นดินไหวถึง 4 ครั้ง โดยล่าสุดคือแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในช่วงเช้าของวันที่ 3 เม.ย. 67 ที่มีขนาดถึง 7.4 แมกนิจูด ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ของไต้หวัน
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 เมษายน 2567 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 แมกนิจูด ขึ้นที่เมืองฮวาเหลียน ทางตะวันออกของไต้หวัน (ห่างจากไทเป 160 กม.) ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีความลึกจากพื้นดิน 20 กิโลเมตร รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ทั่วเกาะไต้หวัน โดยมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นหลายครั้งตั้งแต่ขนาด 5-6.2
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีรายงานสภาพบ้านเรือนที่เสียหาย และไฟฟ้าดับ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีของไต้หวัน นับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ.2542) ที่ไต้หวันเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.6 คร่าชีวิตผู้คนไป 2,400 คนและทำลายอาคาร 5,000 หลัง
สภาพตึกสูงในฮวาเหลียนที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวใหญ่ 7.4 ในไต้หวัน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 67 (ภาพจาก สื่อไต้หวน)
สำหรับเมืองฮวาเหลียนที่เป็นศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยแผ่นดินไหวใหญ่ 4 ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นที่เมืองฮวาเหลียนนั้น ได้แก่เมืองฮวาเหลียนนั้น ได้แก่
- 6 ก.พ. 2561 เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 6.4 แมกนิจูด
- 17 ก.ย. 2565 เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 6.4 แมกนิจูด
- 18 ก.ย. 2565 เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 7.3 แมกนิจูด
และล่าสุดวันที่ 3 เม.ย. 2567 เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 7.4 แมกนิจูด รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ของไต้หวัน ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
สำหรับเมืองฮวาเหลียน หรือ “ฮัวเหลียน”(Hualien) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ มีเนื้อที่กว่า 4,600 ตร.กม. มีประชากรราว ๆ 350,000 คน
ฮวาเหลียนเมืองใหญ่ที่สุดของไต้หวัน (แฟ้มภาพก่อนเกิดแผ่นดินไหว)
ฮวาเหลียนเป็นเมืองที่มีภูมิประเทศสวยงาม มีที่ราบไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน โดยมีภูเขาโอบล้อมถึงสามด้านในแนวเหนือ-ใต้-ตะวันตก ส่วนทางฝั่งตะวันออกเป็นแนวชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกยาวตลอดเหนือจรดใต้
ด้วยความที่เมืองนี้อุดมธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยภูเขา มีบรรยากาศชนบท ทำให้ฮวาเหลียนเป็นเมืองท่องเที่ยวอันโดดเด่นของไต้หวัน ได้รับฉายาว่าเป็น“สวิตเซอร์แลนด์ไต้หวัน” ซึ่งสำนักข่าว CNN เคยจัดให้ฮวาเหลียนเป็น 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในเอเชีย
เมืองฮวาเหลียนโดดเด่นทั้งทะเลและภูเขา (แคนยอน)
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮวาเหลียนนั้นก็มีหลากหลาย นำโดย “อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ” (Taroko National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน มีเนื้อที่ประมาณ 920 ตร.กม. ครอบคลุมพื้นที่ 3 เมืองคือ ไทจง,หนานโถว และฮวาเหลียน โดยไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เมืองฮวาเหลียนเป็นหลัก
อช.ทาโรโกะ ตั้งชื่อตามชนเผ่า Truku หรือ ชนเผ่า “ทาโรโกะ”(Taroko) ชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ คำว่าทาโรโกะเป็นคำเรียกขานในภาษาญี่ปุ่น ขณะที่คนจีนเรียกอุทยานฯแห่งนี้(และชนเผ่าทาโรโกะ) ว่า“ไท่หลู่เก๋อ”
อช.ทาโรโกะ มีลักษณะธรรมชาติเฉพาะตัวแบบแคนยอน (หุบเขาลึก) อันโดดเด่น
อช.ทาโรโกะเป็นสถานที่ธรรมชาติที่มีภูมิประเทศเป็นขุนเขา โดดเด่นไปด้วยแคนยอน (หุบเขาลึก) ช่องแคบ โตรกผาสูงชัน ซึ่งมีทั้งหุบเขาหินปูนและหินอ่อน ที่เกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำ ลม ฝน จนเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามแปลกตา
ในระหว่างช่องเขามีแม่น้ำลี่อู๋(Liwu)ไหลผ่าน จากป่าต้นน้ำบนเทือกเขาแห่งทาโรโกะไปออกยังปากอ่าวท้องทะเลแปซิฟิก โดยมีช่องแคบแคนยอนช่วงหน้าผาชิงสุ่ย(Qingshui)ไปถึงยอดเขาหนานหู (Nanhu Peak) ที่สูงถึง 3,742 เมตร ได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพอันงดงามและเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ อช.ทาโรโกะ แห่งนี้
แนวช่องแคบระหว่างภูเขาหินที่มีแม่น้ำลี่อู๋ไหลผ่าน ที่ อช.ทาโรโกะ
นอกจากนี้ อช.ทาโรโกะ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลากหลาย อาทิ จุดชมวิวผาชิงสุ่ย, สะพานพระคุณมารดา, หมู่บ้านปุโลวัน, ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อช.ทาโรโกะ ฯ รวมถึง 2 ไฮไลต์ต้องห้ามพลาดสำหรับผู้มาเยือนอุทยานแห่งนี้ คือ
- “อุโมงค์นกนางแอ่น” หรือ “อุโมงค์ 9 โค้ง”(Tunnel of Nine Turns) ที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ - ฤดูร้อน จะมีฝูงนกนางแอ่นจำนวนมากบินมาเพื่อสร้างรังตามโพรงหินที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของลำธาร และน้ำจากดินที่ผุดขึ้นมาตามโพรงหิน จนเป็นที่มาของชื่ออุโมงค์แห่งนี้
เส้นทางเดินชมอุโมงค์นกนางแอ่น
บริเวณอุโมงค์นกนางแอ่น มีเส้นทางให้เดินชมสิ่งน่าสนใจที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติดูน่าตื่นตาตื่นใจ อาทิ “หน้าผาโพรงนกนางแอ่น” เป็นบริเวณแนวทำรังของนกนางแอ่นที่เจาะแนวหินสร้างบ้านทำรังไว้จนเป็นรูพรุนดูสวยงามแปลกตา
“แนวช่องแคบระหว่างภูเขา” เป็นแนวหน้าผาหินอ่อน(บางช่วงเป็นช่องแคบระหว่างภูเขาห่างกันแค่ประมาณ 10 เมตร) เบื้องล่างมีลำธารจากแม่น้ำลี่อู๋ไหลผ่าน ในวันที่ฟ้าเปิดจะมองเห็นลำธารเป็นสีฟ้าสวยงาม และ “จุดชมวิวสะพานแขวน” ที่ในอดีตชนพื้นเมืองใช้เป็นเส้นทางสัญจรไป-มา ส่วนปัจจุบันกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต
ศาลเจ้าฉางชุน-น้ำตกฉางชุน
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์ของ อช.ทาโรโกะก็คือ “ศาลเจ้าฉางชุน” (Changchun Shrine หรือ Eteranal Spring Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อสักการะดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตกว่า 200 คน จากการทำถนนใน อช.ทาโรโกะ
ศาลเจ้าฉางชุน(ฉางชุนแปลว่าฤดูใบไม้ผลิอันยาวนาน) เป็นอีกหนึ่งภาพงามสัญลักษณ์ของ อช.ทาโรโกะ ตัวศาลเจ้าตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณเชิงเขา เบื้องล่างมีสาย“น้ำตกฉางชุน”ไหลเป็นสายฟูฟ่องลงมาสู่สายธารของแม่น้ำลี่อู๋ ซึ่งทาง อช.ทาโรโกะได้สร้างจุดชมวิวไว้ที่ฝั่งตรงข้ามของศาลเจ้าให้นักท่องเที่ยวได้มายลในความงามและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก รวมถึงมีเส้นทางเดินเท้าจะจุดชมวิวสู่ตัวศาลเจ้าฉางชุนอีกด้วย
หาดซีซิงถัน
นอกจากอุทยานแห่งชาติทาโรโกะแล้ว เมืองฮวาเหลียนยังมี สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ดังนี้
- “หาดซีซิงถัน”(Qixingtan) หรือ“ทะเลสาบเจ็ดดาว” ที่เป็นแนวชายหาดรูปวงพระจันทร์ยาวกว่า 20 กม. เป็นแนวชายหาด “ก้อนกรวด” ขนาดใหญ่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแปลกตา
- “วัดชิงซิ่วเยี่ยน”(Qing-Xiu Temple) วัดหรือศาลเจ้าญี่ปุ่นอายุเก่าแก่ร่วม 100 ปี สร้างขึ้นในสมัยญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน ภายในวัดมีไฮไลท์คือ พระพุทธรูปหิน 88 องค์ ซึ่งวันนี้วัดแห่งนี้ยังคงเปี่ยมไปด้วยความคลาสสิกและบรรยากาศเปี่ยมศรัทธาให้ผู้สนใจได้ไปสัมผัสในพลังแห่งธรรมกัน
ล่องเรือชมวาฬ-โลมาที่สือทีผิง
- “ทะเลสาบหลีหยู่” หรือ “ทะเลสาบปลาคาร์ฟ” (Liyu (Carp) Lake) ที่โดดเด่นไปด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม
- “กิจกรรมการเที่ยวชมวาฬ-โลมา” (Whale and Dolphin Watching)ที่ “สือทีผิง” ซึ่งจะมีเรือนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวออกไปเฝ้ารอชมเจ้าวาฬ-โลมา โดยเปอร์เซ็นต์การได้เห็นวาฬและโลมานั้นอยู่ที่กว่า 90% เลยทีเดียว
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ส่วนหนึ่งของเมืองฮวาเหลียน เมืองที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นที่ได้รับฉายาว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ไต้หวัน ซึ่งเพิ่งผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงมา ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ชาวเมืองฮวาเหลียน และชาวไต้หวันผ่านพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้โดยเร็ว