ห้องแสดงนิทรรศการ

พาชมงานศิลป์ เช็กอินที่ Antibes เมืองเก่าที่น่าหลงใหลของฝรั่งเศส


“พี่ม้ามังกร” ลัดฟ้าไปเกาะติดพรมแดง เทศกาลหนังเมืองคานส์ ร่วมกับคณะของ กระทรวงวัฒนธรรม มีโอกาสชะแว้บไปเสพงานศิลป์ และเช็กอินที่ เมือง Antibes (อานทีบส์) เมืองเก่าที่น่าหลงใหลของประเทศฝรั่งเศสตอนใต้ จึงนำความประทับใจมาบอกเล่าแก่น้องๆครับ


เริ่มจากที่แรกเข้าชม พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ หรือ Musee Picasso สถานที่เก็บรวบรวมผลงานที่หาชมได้ยากของ ปาโบล รุยซ์ ปิกัสโซ จิตรกรเอกของโลกชาวสเปน ตั้งอยู่ในปราสาท Chateau Grimaldi เป็นปราสาทหินตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเล็กๆ มีห้องจัดแสดง 2 ชั้น นำเสนอผลงานจิตรกรรม ภาพเขียน ภาพพิมพ์ งานแกะสลัก ประติมากรรม และเซรามิก บอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตอยู่ในอานทีบส์เป็นระยะเวลาสั้นๆในปี 1946 โดย ปิกัสโซ ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของปราสาทจัดทำเป็นสตูดิโอสร้างสรรค์ผลงาน






ขณะเดินชมนิทรรศการ จะสัมผัสได้ถึงความน่าทึ่งในความสามารถและพรสวรรค์ของศิลปินผู้นี้ ที่ผลิตผลงานได้หลากสไตล์ หลายแนวคิด ที่มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากการนำรูปทรงทางด้านเรขาคณิตมาเป็นพื้นฐานของผลงานศิลปะ


ผลงานของ ปิกัสโซ แบ่งออกเป็นหลายยุคหลักๆ คือ ยุค Blue Period นำเสนอออกมาในแนวเศร้าหม่นหมอง ตามสภาวะของชีวิตและจิตใจในช่วงนั้นที่ต้องสูญเสียเพื่อนรัก จึงถ่ายทอดออกมาด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง ไร้ชีวิตชีวา ใช้สีโทนฟ้าและน้ำเงินเป็นหลัก ขณะที่ ยุค Rose Period ถ่ายทอดความรู้สึกถึงความเบ่งบานในใจ เมื่อได้พบรักกับ แฟร์น็องด์ ออลิวีเย ซึ่งเป็นรักแรก จึงสร้างผลงานที่มีความสุข มีชีวิตชีวา เน้นสีแดง ชมพู ส้ม








ส่วน ยุค Cubism Period มีการใช้เทคนิคที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ลงในผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิวัฒนาการความเจริญทางวิทยาศาสตร์ รูปแบบหน้ากากของชนเผ่าดั้งเดิมในแอฟริกา ส่งผลให้งานศิลปะมีการนำเอารูปทรงเรขาคณิตมาประกอบกันเป็นภาพคนหรือสิ่งของต่างๆ และมีการนำหนังสือพิมพ์หรือเศษกระดาษมาตัดแปะกลายเป็นภาพศิลปะด้วย






นอกจากผลงานของ ปิกัสโซ แล้ว ยังมีคอลเลกชันศิลปะร่วมสมัยของศิลปินระดับโลก เช่น Nicolas de Stael ที่เคยอาศัยอยู่ในอานทีบส์, Hans Hartung, Anna–Eva Bergman และ Joan Miro รวมทั้งมีประติมากรรมยอดเยี่ยมจาก Joan Miro, Germaine Richier, Bernard Pages และศิลปินคนอื่นๆบนลานระเบียงปราสาท ส่วนด้านนอกอาคารยังสามารถชมวิวทิวทัศน์อันน่าประทับใจของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย














ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็แวะเดินเล่นที่ Marche Provencal ตลาดในร่มขายสินค้ามากมาย ทั้งดอกไม้ ผลไม้ ผักสด ชีส เครื่องหอม เครื่องเทศ อาหารสด สินค้าหัตถกรรม ส่วนด้านนอกเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อกันเต็มที่เลยครับ.






แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/2790017?gallery_id=6
X