ข่าวการเงิน

วิธีรวยก่อนแก่ สร้างความมั่งคั่งให้มีเงินใช้หลังเกษียณ



หลายคนอาจคิดว่าความมั่งคั่งเป็นเรื่องไกลตัว หรือต้องรอจนถึงวัยเกษียณ แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถเริ่มสร้างความมั่งคั่งได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตาม บทความนี้จะแนะนำ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง เพื่อให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไม่ต้องรอจนถึงวัยเกษียณ


วิธีรวยก่อนแก่ สร้างความมั่งคั่งให้มีเงินใช้หลังเกษียณ




การมีชีวิตหลังเกษียณที่สุขสบายไร้กังวล ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม หากเราวางแผนและลงมือสร้างความมั่งคั่งตั้งแต่วันนี้ เส้นทางสู่ 'รวยก่อนแก่' ไม่ได้เต็มไปด้วยความซับซ้อน แต่ต้องอาศัยวินัยและความเข้าใจ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง เพื่อให้คุณสามารถเกษียณอย่างมีอิสระภาพทางการเงิน ใช้ชีวิตในแบบที่ฝันไว้ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มต้นวางแผนอนาคตที่มั่งคั่งไปด้วยกันเถอะ!


1. วางแผนชีวิต สู่เป้าหมายเกษียณที่มั่นคง


การวางแผนชีวิตหลังเกษียณเปรียบเสมือนการวาดภาพฝันของคุณในอนาคต คุณอยากใช้ชีวิตอย่างไร อยากทำอะไรบ้าง และทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่? การคำนวณเงินออมที่จำเป็นจะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าคุณต้องเริ่มออมเงินเท่าไหร่ตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างที่ใจต้องการ


สูตรคำนวณเงินออม


 • สูตรจากรายได้: (รายได้ก่อนเกษียณ x 70%) x 300 = เงินออมที่พึงมี สมมติว่าคุณมีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าหลังเกษียณคุณจะใช้จ่ายประมาณ 70% ของรายได้ปัจจุบัน นั่นคือ 35,000 บาทต่อเดือน หากคุณคาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณอีก 300 เดือน (หรือ 25 ปี) คุณจะต้องมีเงินออมอย่างน้อย 10.5 ล้านบาท (35,000 x 300)
 • สูตรจากรายจ่าย: (รายจ่ายก่อนเกษียณ x 70%) x 300 = เงินออมที่พึงมี สมมติว่าหากคุณทราบรายจ่ายปัจจุบันของคุณอยู่แล้ว คุณสามารถใช้สูตรนี้เพื่อคำนวณเงินออมที่ต้องการได้โดยตรง เช่น หากคุณมีรายจ่าย 40,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าจะลดลงเหลือ 70% หลังเกษียณ คุณจะต้องมีเงินออม 8.4 ล้านบาท (28,000 x 300)


2. กำหนดเป้าหมาย ออมก่อน รวยกว่า


การออมเงินเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง เริ่มต้นออมอย่างน้อย 15% ของรายได้ หรือแบ่งเป็นออม 10% และลงทุน 5% เพื่อให้เงินของคุณทำงานแทนคุณ การลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ เช่น กองทุนรวม ตราสารหนี้ หรือหุ้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว


ตัวอย่างการออมและลงทุน


 • เงินเดือน 30,000 บาท: ออม 15% = 4,500 บาท/เดือน
 • เงินเดือน 30,000 บาท: ออม 10% (3,000 บาท) + ลงทุน 5% (1,500 บาท) = 4,500 บาท/เดือน


3. ประเมินสถานะทางการเงิน ด้วยงบดุลชีวิต


การทำงบดุลชีวิตเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพทางการเงินของคุณ ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมด ทำให้คุณสามารถประเมินสถานะทางการเงินในปัจจุบัน และวางแผนปรับปรุงแก้ไขได้อย่างเหมาะสม


ตัวอย่างทรัพย์สินและหนี้สิน


 • ทรัพย์สิน: เงินฝากออมทรัพย์ เงินลงทุนในกองทุนรวม บ้าน รถยนต์ ฯลฯ
 • หนี้สิน: หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน ฯลฯ


สถานะทางการเงิน


 • มั่งคั่ง: ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน
 • มั่งคั่งติดลบ: หนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน


4. ตรวจสอบค่าใช้จ่าย ด้วยบัญชีรายรับ-รายจ่าย


การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายช่วยให้คุณเห็นภาพการใช้จ่ายเงินของคุณอย่างชัดเจน คุณจะรู้ว่าเงินของคุณหายไปไหนบ้าง และสามารถระบุค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือสามารถลดได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณออมเงินได้มากขึ้น


เคล็ดลับการลดค่าใช้จ่าย


 • ทำอาหารทานเองแทนการออกไปทานข้าวนอกบ้านบ่อยๆ
 • ใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว
 • เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
 • ลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยหรือที่ไม่จำเป็น


เริ่มต้นวันนี้ เพื่ออิสรภาพทางการเงินในวันข้างหน้า


การสร้างความมั่งคั่งไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม หากเรามีวินัยและเริ่มต้นลงมือทำอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใด ก็สามารถวางแผนและสร้างความมั่งคั่งเพื่ออนาคตที่มั่นคงได้ 4 ขั้นตอนที่เราได้นำเสนอไป ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเกษียณ การออมและลงทุน การประเมินสถานะทางการเงิน และการควบคุมค่าใช้จ่าย ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้


อย่าปล่อยให้อนาคตทางการเงินของคุณเป็นเรื่องของโชคชะตา เริ่มต้นวางแผนและลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุณสามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงิน ใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจต้องการ และมีอนาคตที่มั่งคั่งและมั่นคง "อนาคตที่มั่งคั่ง เริ่มต้นจากการลงมือทำในวันนี้"


ที่มา KBank Live


แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintv
https://www.amarintv.com/spotlight/spotlight/detail/68108
X