คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ห้องแสดงนิทรรศการ

ไอคอนสยาม ตั้งเป้าเป็น “ศูนย์กลางศิลปะระดับโลก” เพื่อส่งเสริมผลงานศิลปินไทย และต่างประเทศ

29/04/2024

ไอคอนสยาม จัดงาน ICONSIAM ART & CULTURE งานส่งเสริมผลงานศิลปินไทย และศิลปินต่างประเทศ ด้วยการเปิดเป็นพื้นที่รองรับการจัดงานศิลปวัฒนธรรมมาตรฐานระดับโลกที่ให้คนรักงานอาร์ตต้องมาเยือน ด้วยแนวคิด “นำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก” โดยจับมือองค์กรพันธมิตร นำไฮไลต์ผลงานศิลปะชั้นเลิศ สุดเอ็กซ์คลูซีฟหาชมได้ยาก สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดปี 2567ไอคอนสยาม ประเทศไทย เป็นแลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อหลอมรวมเอกลักษณ์วิถีไทย และถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของความวิจิตรล้ำสมัย พร้อมคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดของโลกมารวบรวมไว้ที่เดียวกัน เพื่อให้สถานที่แห่งนี้นำเสนอความเป็นไทยสู่เวทีโลกอย่างสวยงามหัวใจสำคัญของที่นี่ คือ การถ่ายทอดเอกลักษณ์ไทยในทุกมิติ (Embrace The Power Of Thaines) เราจึงได้เห็นการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของความเป็นไทยผ่านการออกแบบโครงการทั้งภายใน และภายนอกที่วิจิตรบรรจง ผสมผสานความร่วมสมัยอย่างลงตัว รวมไปถึงการทำงานร่วมกับศิลปินแห่งชาติ ศิลปินระดับโลก รวมไปถึงศิลปินท้องถิ่น หลายท่าน เพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะชิ้นเอก ซึ่งมีอยู่ทั่วอาคาร ทำให้ไอคอนสยาม มีความโดดเด่น และได้รับการยอมรับ จนกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด“เพื่อต่อยอดแนวคิดดังกล่าว ไอคอนสยามมุ่งมั่นยกระดับผลงาน ‘ด้านศิลปะและวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลก’ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมผลงานศิลปินไทย และนำงานศิลปวัฒนธรรมมาตรฐานระดับโลกมาจัดแสดงให้คนไทยได้ชื่นชม และมีประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกัน โดยเปิดพื้นที่ “ICONSIAM ART & CULTURE” เป็นหมุดหมายให้ทุกคนเข้าถึงงานศิลปะทั้งจากศิลปินไทย และศิลปินต่างประเทศได้ทุกวัน พร้อมตอกย้ำแนวคิดหลัก ‘นำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก’ สอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล อันเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าทางสังคม เชิดชูภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก” สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัดปี 2567 นี้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมกับไอคอนสยาม เตรียมจัดงาน “Bangkok Art Festival 2024 ครั้งที่ 9” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 มีนาคม 2567 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม โดยโครงการนี้จะเป็นโครงการสำคัญที่เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้งานศิลปะร่วมสมัย อีกทั้งยังทำให้ศิลปินในทุกๆ แขนง มารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ จนก่อเกิดพลังขับเคลื่อน ต่อยอด ส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยและความเป็นไทย พัฒนาผลงานสู่ระดับอาเซียนและนานาชาติต่อไปไอคอนสยาม ได้มีแผนงานร่วมกับสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เพื่อเตรียมจัดงานเทศกาลงานศิลปะประจำปีสุดยิ่งใหญ่ Winter Art Fair Festival ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่จัดแสดง และจำหน่ายงานศิลปะทุกรูปแบบจากศิลปินต่างๆ มากมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงใหลในงานศิลปะได้มาแลกเปลี่ยนผลงานและเก็บสะสมผลงานจากศิลปินที่ชื่นชอบ ในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาในงาน ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยามโดยตลอดทั้งปี 2567 จะมีงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ มาหมุนเวียนให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมตลอดปีรวมงานศิลปวัฒนธรรม มาตรฐานระดับโลก ไอคอนสยาม  •  Da Vinci Alive Bangkok นิทรรศการที่รวบรวมผลงานของเลโอนาร์โด ดา วินชี ผู้รอบรู้ในสรรพวิทยาการ อัจฉริยะชาวอิตาลี ที่มีบทบาทเป็นทั้งศิลปิน ประติมากร นักดนตรี นอกจากนั้นยังเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ นักคณิตศาสตร์ วิศวกร และสถาปนิกที่หาตัวจับได้ยาก เปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 15 มีนาคม - 31 กรกฎาคม 2567 ณ Attraction Hall ชั้น 6  •  งานหัตถศิลป์ งานช่างสิบหมู่ กับ Thai Craft Studio เป็นการนำประติมากรรมพระพุทธรูปและองค์เทพตามความเชื่อของไทยที่หาชมได้ยาก จัดแสดงให้ชม ระหว่างวันที่ 1 - 30 เมษายน และหลังจากนั้นจะเปลี่ยนผลงานให้ทุกได้ชมอย่างต่อเนื่อง ณ Arts Way ชั้น M    •  งาน Art Scape ที่นำเสนอผลงานที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบงานเพนติ้ง ประติมากรรม ของเล่นสะสม ภาพพิมพ์ ภาพวาด ครอบคลุมไปถึงผลงานศิลปะออนไลน์ NFT จากศิลปินชั้นนำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงศิลปินรุ่นใหม่มาจัดแสดงผลงานนิทรรศการหมุนเวียนกันไปในแต่ละเดือน ท่ามกลางความงดงามของทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้ ถึง 30 เมษายน 2567 ณ นภาลัย เทอร์เรซ ชั้น 7 ไอคอนสยาม   •  งาน Across the Centuries ข้ามศตวรรษ นิทัศนศิลปะ 2567 รวมผลงานจากศิลปินระดับ “บรมครู” ที่ผ่านการทำงานศิลปะระดับคุณภาพมาอย่างยาวนานครอบคลุมไปถึงศิลปิน “รุ่นกลาง” ที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางศิลปะ และศิลปินรุ่นเล็ก ที่เริ่มแจ้งเกิดในวงการศิลปะในศตวรรษที่ 21 โดยจะเปิดให้ชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 มีนาคม 2567 ณ ICONLUXE Pop Up Space ชั้น 1  •  จัดนิทรรศการ CARVENTURE เตรียมพบกับครั้งแรกของการจัดแสดงนิทรรศการรถคลาสสิกที่จับคู่กับคาแรกเตอร์อาร์ตทอยสุดน่ารักจากศิลปินไทยที่มีผู้ติดตามจากทั่วโลก เช่น คาแรกเตอร์น้องไดลีย์ กับรถ CADILLAC 1967 หรือ WORLD BOY กับรถ CADILLAC 1952 ซึ่งทุกคนสามารถร่วมชม และเก็บสะสมผลงาน โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 24 มีนาคมนี้ ณ ริเวอร์ พาร์ค   •  นิทรรศการ tokidoki ICONIC Bangkok Experience จากผลงานสร้างสรรค์ของ ซิโมเน่ เล็กจ์โน่ (Simone Legno) โดยบริษัท อาส์ค มี จำกัด ซึ่งจัดแสดงอยู่ ณ ICONSIAM Art & Culture Space ชั้น 8 ถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ขณะเดียวกันไอคอนสยามยังได้ร่วมกับศิลปินแห่งชาติ และศิลปินรุ่นใหม่จัดแสดงผลงานศิลปะอีกมากมาย อาทิ ศิลปินระดับตำนาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สิทธิชัย ปรัชญารัติกุล ศิลปินรุ่นใหม่ เช่น Peachful, Kiwtum, Nutped, Toddyinthemood, Plulalin รวมถึงผลงานจากนักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง และคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่จะนำผลงานศิลปะมาให้ทุกท่านได้ชมในเร็วๆ นี้ อีกด้วย คุณสุพจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เกษร กำเหนิดเพ็ชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรมแนวคิดการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมนี้ เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นในการปรับบทบาทของกระทรวงวัฒนธรรมสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ โดยขับเคลื่อนงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม ด้วยการสร้างรายได้ เสริมคุณค่า และพัฒนาสังคม ผลักดันศิลปวัฒนธรรมให้มีบทบาทในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและสังคมไทย และยังทำให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สามารถนำไปปรับในการดำรงชีวิตและสร้างอาชีพต่อไปได้” เกษร กำเหนิดเพ็ชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้ายนักท่องเที่ยวทุกคน สามารถมาเปิดประสบการณ์ของงานศิลปะที่ปรากฏอยู่ ณ ไอคอนสยามพร้อมดื่มด่ำกับงานศิลปะที่น่าหลงใหลในพื้นที่ต่างๆ ได้ตลอดทั้งปีที่ไอคอนสยาม (ICONSIAM)แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/thaitravel/2767850

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

แม่บ้านโรงแรมร้องขอ รวม 9 พฤติกรรมควรทำ ไม่ควรทำ เมื่อเข้าพักในโรงแรม

06/03/2024

ใครๆ ก็ชอบความสะดวกสบายเวลาเข้าพักโรงแรม มีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ทุกวัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยปละละเลยเรื่องความสะอาดได้ Diane Gottsman ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาท จาก The Protocol School of Texas ย้ำว่า "แม่บ้านยินดีทำความสะอาดห้องให้" แต่เราควรมีมารยาทและคำนึงถึงมาตรฐานความสะอาดด้วย และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเวลาเข้าพักในโรงแรม1. จัดระเบียบของใช้ส่วนตัว ช่วยให้แม่บ้านทำความสะอาดง่ายDiane Gottsman ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาท แนะนำให้แขกจัดห้องให้เป็นระเบียบ เพื่อให้แม่บ้านสามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง โดยไม่ต้อง "ขยับสิ่งของส่วนตัวบนพื้นหรือตู้เสื้อผ้า"เธอแนะนำให้จัดพื้นที่สำหรับของใช้ต่างๆ เช่น "ผ้าเช็ดตัวเปื้อนไว้ที่มุมหนึ่ง รองเท้าวางรวมกันไว้ที่มุมหนึ่ง และเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทาง ไม่วางบนเตียง" เพื่อที่แม่บ้านจะไม่ต้องขยับอะไรให้เสียเวลาทำความสะอาด2. ไม่ต้องปูที่นอนก่อนเช็กเอาท์แม้ว่าเราควรพยายามรักษาความสะอาดห้องพัก เพื่อเป็นการเคารพพนักงานทำความสะอาด แต่ไม่จำเป็นต้องปูที่นอนก่อนเช็คเอาท์ Myka Meier ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทในยุคปัจจุบัน บอกกับ T+L ว่า "ที่นอนจะถูกรื้อใหม่ทั้งหมด คุณไม่ต้องกังวลเรื่องปูที่นอน"3. เก็บกวาดของเสียจากสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นสิ่งที่ควรทำโดยไม่ต้องบอก แต่ก็ควรย้ำอยู่เสมอ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ และโรงแรมที่รองรับสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดจะเข้าใจเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามอย่าลืมนำถุงเก็บมูลสัตว์เลี้ยงมาด้วย และทิ้งอย่างถูกต้อง (ไม่ควรทิ้งลงในโถส้วม เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตัน)4. เสื้อคลุมอาบน้ำไม่ใช่ทิชชู่Diane Gottsman ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทบอกเราตรงๆ ว่าเสื้อคลุมอาบน้ำไม่ใช่ทิชชู่ และไม่ควรใช้แทนผ้าเช็ดเครื่องสำอางด้วย "แม้จะซักได้" เธอกล่าว "แต่คราบหนักๆ นั้นลบออกยาก" เนื่องจากเสื้อคลุมอาบน้ำผลิตจากผ้าเนื้อหนา คราบจากเครื่องสำอาง ซอสอาหาร หรือน้ำผลไม้อาจฝังแน่น การซักอาจไม่สามารถขจัดคราบออกได้หมด เสื้อคลุมอาบน้ำมีไว้สำหรับเช็ดตัวหลังอาบน้ำ การใช้ผิดวัตถุประสงค์อาจทำให้เสื้อคลุมอาบน้ำดูเก่าได้ง่าย5. เก็บขยะให้เรียบร้อยลองถามตัวเองว่าเวลาไปพักบ้านเพื่อน คุณจะทิ้งขยะเกลื่อนกลาดหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ เช่นเดียวกันกับในห้องพักโรงแรม Myka Meier ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาท แนะนำให้ทิ้งขยะลงในถังที่จัดเตรียมไว้ให้ หากมีถังรีไซเคิลในห้องก็ควรแยกขยะรีไซเคิลให้เรียบร้อย6. ห้ามวางผ้าเช็ดตัวเปียกบนพื้นหรือเฟอร์นิเจอร์Myka Meier ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาท อธิบายว่า "ห้ามวางผ้าเช็ดตัวเปียกบนพื้นพรมหรือเฟอร์นิเจอร์ เพราะอาจทำให้ไม้หรือผ้าเสียหาย และอาจทิ้งคราบน้ำ (หรือรา) บนพรม ซึ่งอาจไม่แห้งทันสำหรับแขกคนถัดไป" เธอแนะนำให้แขวนผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว หรือวางไว้ "เรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบในห้องน้ำ" แทน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อพื้นพรม และเฟอร์นิเจอร์ ป้องกันคราบน้ำและรา รักษาความสะอาดและสุขอนามัย และยังแสดงความมีวัฒนธรรมกับความรับผิดชอบ7. เก็บกวาดสิ่งของที่แตกDiane Gottsman ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาท กล่าวว่า "อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แต่หากคุณทำแก้วหรือขวดแตก ให้เก็บเศษแก้วและเศษที่แตกออกให้มากที่สุด" ทั้งนี้เพื่อป้องกันอันตรายต่อตัวคุณเองและพนักงานทำความสะอาด แสดงความรับผิดชอบ รักษาความสะอาดของห้องพัก และเป็นการเคารพต่อผู้อื่น8. ห้ามวางจานที่ใช้แล้วไว้ที่โถงทางเดินMyka Meier ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาท กล่าวว่า "เมื่อคุณสั่งรูมเซอร์วิส ห้ามวางถาดที่ใช้แล้วไว้ที่โถงทางเดิน" การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่ ไม่สุภาพเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดอันตรายกับผู้อื่น และส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย วิธีที่ถูกต้องคือโทรแจ้งพนักงานทำความสะอาดหรือรูมเซอร์วิส เพื่อมารับจานที่ใช้แล้วจากห้องของคุณโดยตรง9. จัดเรียงเฟอร์นิเจอร์ใหม่ให้เหมือนเดิมและจัดวางทุกอย่างกลับเข้าที่หากคุณจัดเรียงเฟอร์นิเจอร์ในห้องพักในโรงแรมใหม่ ไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ป้องกันเด็กหรือเพียงเพื่อให้ที่พักสะดวกสบายยิ่งขึ้น พยายามย้ายทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิมก่อนเช็กเอาท์ คำแนะนำเดียวกันนี้ใช้ได้กับสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ แต่จำเป็น เช่น โทรศัพท์หรือรีโมทโทรทัศน์ สุดท้ายนี้ หากคุณถอดปลั๊กบางอย่าง เช่น โคมไฟหรือนาฬิกาปลุก อย่าลืมเสียบกลับเข้าไปใหม่ก่อนออกเดินทางแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446955/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

ต้องรวยแค่ไหนถึงจะได้เป็น Top 1% !! เปิดรายชื่อ 10 ประเทศที่เข้าสมาคม “คนรวย” ยากที่สุดในโลก

29/04/2024

รายงาน Wealth Report 2024 จากไนท์แฟรงค์เปิดรายชื่อประเทศที่ต้องมีสินทรัพย์ส่วนตัวสูงที่สุดเพื่อจะได้เข้าสมาคม “คนรวย” ระดับ Top 1% ของประเทศ โดยแชมป์ปีนี้ตกเป็นของเจ้าเก่า “โมนาโก” ขณะที่ในเอเชียคือ “สิงคโปร์”Wealth Report 2024 จัดทำโดยบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ “ไนท์แฟรงค์” มีการประเมินสินทรัพย์ของประชากรใน 17 เขตการปกครอง และมูลค่าสินทรัพย์ที่ประชากรในประเทศนั้นๆ จะต้องมีเพื่อจะเป็น “คนรวย” ในระดับยอดปีรามิด Top 1% ของประเทศการประเมินนี้พบว่าประเทศที่เข้าสู่สมาคมคนรวยได้ยากที่สุดในโลกคือ “โมนาโก” ประเทศขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป ส่วนในทวีปเอเชียของเรามี “สิงคโปร์” เป็นประเทศที่การขึ้นสู่ยอดปีรามิดต้องมีสินทรัพย์สูง (*ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในการสำรวจตามรายงานชิ้นนี้)สำหรับ 10 อันดับแรกประเทศ/เขตการปกครองที่ต้องใช้สินทรัพย์สูงสุดเพื่อเข้าสู่ Top 1% ได้แก่  •  อันดับ 1 โมนาโก ต้องมีสินทรัพย์ 12.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 460 ล้านบาท)  •  อันดับ 2 ลักเซมเบิร์ก ต้องมีสินทรัพย์ 10.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 385 ล้านบาท)  •  อันดับ 3 สวิตเซอร์แลนด์ ต้องมีสินทรัพย์ 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 303 ล้านบาท)  •  อันดับ 4 สหรัฐอเมริกา ต้องมีสินทรัพย์ 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 207 ล้านบาท)  •  อันดับ 5 สิงคโปร์ ต้องมีสินทรัพย์ 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 185 ล้านบาท)  •  อันดับ 6 สวีเดน ต้องมีสินทรัพย์ 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 171 ล้านบาท)  •  อันดับ 7 ออสเตรเลีย ต้องมีสินทรัพย์ 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 168 ล้านบาท)  •  อันดับ 8 นิวซีแลนด์ ต้องมีสินทรัพย์ 4.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 164 ล้านบาท)  •  อันดับ 9 ไอร์แลนด์ ต้องมีสินทรัพย์ 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 153 ล้านบาท)  •  อันดับ 10 เยอรมนี ต้องมีสินทรัพย์ 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 121 ล้านบาท)สินทรัพย์ที่ใช้ในการประเมินของไนท์แฟรงค์นั้นรวมทุกประเภท ได้แก่ เงินสด การลงทุน และอสังหาริมทรัพย์ประเทศโมนาโก (Photo: Ty DG / Pexels)รายงานชิ้นนี้ยังบอกด้วยว่า การเข้าสู่สมาคมคนรวย Top 1% ของประเทศนั้นยังง่ายกว่าการเป็นมหาเศรษฐีระดับ “UHNWI” หรือ ultra-high net worth individual ซึ่งไนท์แฟรงค์หมายถึงการเป็นเศรษฐีที่มีสินทรัพย์อย่างน้อย 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,070 ล้านบาท)ปี 2023 ที่ผ่านมาจำนวนมหาเศรษฐี UHNWI ทั่วโลกมีทั้งหมด 627,000 คน เพิ่มขึ้น 4.2% จากปีก่อนหน้า โดยปีก่อนนั้นทวีปที่น่าจับตามองคือ “อเมริกาเหนือ” ซึ่งมีจำนวนมหาเศรษฐี UHNWI เพิ่มขึ้น 7.2% เกินค่าเฉลี่ยโลก ทั้งนี้ ไนท์แฟรงค์มีการคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จำนวนมหาเศรษฐีระดับนี้ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นสะสม 28% โดยมีประเทศที่มีคนรวยเพิ่มสูงขึ้นมากคือ “จีน” และ “อินเดีย”อีกประเด็นที่น่าจับตาเกี่ยวกับสังคม “คนรวย” คือ ไนท์แฟรงค์คาดว่า “เจนเนอเรชันวาย” จะกลายเป็นเจนที่ร่ำรวยที่สุดที่เคยมีมา เพราะสินทรัพย์มูลค่ารวม 90 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,210 ล้านล้านบาท) ทั่วโลกจะถูกส่งต่อจากรุ่นพ่อแม่เจนเบบี้บูมเมอร์และรุ่นปู่ย่าจากไซเลนต์เจนเนอเรชันมาสู่ลูกหลานคนเจนวายภายใน 2 ทศวรรษข้างหน้านี้ข้อมูลจากธนาคารโลกยังคาดการณ์ด้วยว่า “ความเหลื่อมล้ำ” ก็จะยังคงเกิดขึ้นต่อไประหว่างประเทศที่ร่ำรวยกับประเทศที่ยากจน ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดอย่างโมนาโกจะยังดึงดูดให้คนรวยเข้าไปอาศัยอยู่เพิ่มขึ้นเพราะสิทธิประโยชน์ทางภาษีSourceแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ positioningmaghttps://positioningmag.com/1464850

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

สาวก “One Piece” ห้ามพลาด! ชวนมาร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”

29/04/2024

ชวนทุกคนมาพบกับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ไปกับลูฟี่และกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง กับ นิทรรศการ วันพีซ “The GREAT ERA of PIRACY” Exhibition Asia Tour เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศจากฉากต่างๆ ของ One Piece มากกว่า 20 ฉาก และยังมีโซนสุดพิเศษ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่นโดยงานจะจัดขึ้นที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์กลางของคนไทยและนักท่องเที่ยวทุกเชื้อชาติ อีกทั้งยังเดินทางมาได้สะดวก จึงเหมาะสำหรับการเป็นพื้นที่จัดงานนิทรรศการระดับโลก อย่าง One Piece "The GREAT ERA of PIRACY" Exhibition Asia Tour (Thailand) ณ ชั้น 8 โซน CentralWorld Live ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 12 พฤษภาคม 2567ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”เหล่าแฟนๆ ของวันพีซและกลุ่มผู้รักการผจญภัยจะได้พบทั้งความบันเทิงและความสนุกสนานมากมาย กับการร่วมผจญภัย ภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น วันพีซในธีมคาเฟ่ (One Piece Theme Cafe) และโซนจําหน่ายสินค้าที่ระลึก ท่านจะได้พบกับ การจําหน่าย สินค้าสุดพิเศษที่ผลิตขึ้นมาจำนวนจํากัด การแจกของรางวัล หรือเมื่อซื้อเครื่องดื่มก็สามารถร่วมลุ้นของสะสมได้ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”สาวกของกลุ่มหมวกฟาง สามารถซื้อบัตรได้จากช่องทางเหล่านี้1. ตั้งแต่วันนี้ - 12 พฤษภาคม 2567 สามารถสั่งซื้อได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ (https://www.thaiticketmajor.com/performance/one-piece-the-great-era-of-piracy-exhibition-asia-tour.html)2. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 12 พฤษภาคม 2567 บริเวณจุดขายบัตรที่นิทรรศการวันพีช ในโซนเซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ ชั้น 8ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”โดยตั๋วเข้าชมนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 3 ราคาดังนี้1. ตั๋ว Fast Track Tickets (สิทธิเข้างานแบบช่องทางพิเศษ) จะได้รับตั๋วโฮโลแกรมที่ออกแบบมาพิเศษ (สุ่มจับ 1 แบบต่อตัว 1 ใบ) สินค้าที่ระลึกอะคริลิคที่ออกแบบมาเพื่อประเทศไทยเท่านั้น และช่องทางการเข้าชมแบบพิเศษ (Fast Track)ในราคาเพียง 1,990 บาท2. ตั๋วสำหรับบุคคลทั่วไป ที่จะได้ลุ้นจับตัวโฮโลแกรมสุดพิเศษ (สุ่มจับ 1 แบบต่อตั๋ว 1 ใบ) ในราคา 749 บาท3. ตั๋วนักศึกษา (อายุไม่เกิน 24 ปี) และผู้สูงวัย (อายุเกิน 60 ปี) ที่จะได้ลุ้นจับตั๋วโฮโลแกรมสุดพิเศษ (สุ่มจับ 1 แบบต่อตั๋ว 1 ใบ) ในราคา 428 บาทร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ภายในงานทุกคนจะได้มาสัมผัสกับประสบการณ์สุดประทับใจ เริ่มตั้งแต่การติดตั้งแอปพลิเคชั่น One Piece GREAT ERA of PIRACY จาก QR Code ที่มีอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในงาน แอปพลิเคชั่นจะเก็บเงินรางวัลเป็นสกุล BERRY ทั้งหมดที่คุณได้รับในระหว่างการผจญภัยภายในโซนต่าง ๆ เช่น• We are Straw Hat’s Crew – Motion Sensor Game• Break Through Enies Lobby – Technical Skill Game• Defending Fish-Man Island – AR Game• The Colosseum Tournament – AR Game• Battle of the Mirror World – AR Gameร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”นักผจญภัยที่เดินทางไปในโซนต่างๆ ภายในนิทรรศการ One Piece "The GREAT ERA of PIRACY" Exhibition Asia Tour (Thailand) จะได้พบกับโมเดลหุ่นตัวละคร FRP, ร่วมสัมผัสบรรยากาศและถ่ายภาพไปกับฉากต่างๆ จาก อนิเมะ One Piece, ประสบการณ์ พิเศษในการชมภาพยนตร์ ตอนพิเศษที่ทำขึ้นมาเพื่อนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ, Interactive เกมส์ และเข้าถึงความรู้สึกไปกับนิทรรศการ “GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ในโซนสุดท้ายที่ไม่ท้ายสุด ทุกคนจะได้เดินเข้าไปพบกับความคึกคักของ ถนน WANO เพื่อเข้าร่วมไปกับ ฉากการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใครระหว่าง ลูฟี่และไคโต ขณะที่ใช้ทักษะและโชคของท่านไปกับบูธเกมต่างๆ ภายในโซนนี้ เพื่อเพิ่มคะแนนเบรีของคุณ ด้วยการซื้อโทเค็นเกมในราคา 30 บาท สำหรับ 1 โทเค็น หรือ 100 บาท สำหรับ 4 โทเค็นร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”พิเศษสุดๆ นักผจญภัยทุกท่านต้องไม่พลาดที่จะแวะถ่ายรูปกับ ลูฟี่ในร่างเกียร์ 5 ขนาด 7 เมตร ที่ยังไม่เคยนําออกนอกประเทศญี่ปุ่นมาก่อน วันพีชธีมคาเฟ่ และโซนสินค้าที่ระลึก ที่เต็มไปด้วยสินค้ามากมาย และกิจกรรมต่างๆ ภายในงานมีการจําหน่ายสินค้าที่ผลิตมาจำนวนจํากัด รวมไปถึงสินค้าต่างๆของ One Piece ในราคาพิเศษ เหมาะกับทุกท่าน พร้อมพบกับถุง Shopping Bag ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทางเราผลิตมาแบบจำนวนจํากัด ร่วมลุ้นไปกับแก้ว เครื่องดื่มที่ในทุกใบจะมีเซอร์ไพรส์ให้ลุ้นของสะสมแบบจำนวนจํากัดจากวันพีซธีมคาเฟ่ในขณะที่ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่น สูตรอาหารธีมวันพีช และของว่างมากมายหลายชนิดร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”สำหรับงานนิทรรศการ One Piece The GREAT ERA of PIRACY Exhibition Asia Tour (Thailand) จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 12 พฤษภาคม 2567 ณ ชั้น 8 โซน CentralWorld Live ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”ร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ใน “The GREAT ERA of PIRACY”แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000013447

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

"11 ที่นั่งบนเครื่องบิน" ไม่แนะนำ เลี่ยงได้ควรเลี่ยง

29/04/2024

เมื่อต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน การเลือกที่นั่งบนเครื่องบินถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่เราควรใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากเราต้องเดินทางเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง บางคนเลี่ยงนั่งใกล้ห้องน้ำเพราะไม่อยากได้กลิ่นห้องน้ำ บางคนเลี่ยงที่นั่งที่ไม่มีที่วางขา ซึ่งเรามีคำแนะนำเกี่ยวกับที่นั่งที่ควรเลี่ยงหากต้องเดินทางด้วยเครื่องบินที่นั่งบนเครื่องบินควรเลี่ยง1. ที่นั่งที่มีอุปกรณ์บันเทิงเต็มพื้นที่เก็บสัมภาระคุณมาถึงที่นั่งแล้ว และกำลังตัดสินใจว่าจะใส่สิ่งของใดลงในที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ (หากคุณโชคดีพอที่จะหาที่ว่างในที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะได้) และสิ่งของชิ้นใดที่จะเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้า แต่เมื่อคุณมองลงไปแล้วพบว่ามันไม่มีที่ว่างสำหรับเก็บสิ่งของ (หรือเหยียดขา) ไว้ใต้เบาะที่นั่งด้านหน้าคุณ แต่มีกล่องโลหะซึ่งเป็น "กล่องอุปกรณ์ความบันเทิง" ซึ่งกินพื้นที่เก็บของใต้เบาะทั้งหมด และนี่น่าจะเป็นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวถ้าคุณจะเลือกที่นั่งบนเครื่องบินแบบนี้2. ที่นั่งด้านท้ายของทุกโซนเบาะนั่งด้านท้ายของทุกโซน ซึ่งมักอยู่หน้าห้องน้ำหรือห้องครัว เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ยืนกรานว่าจะไม่เอนเบาะ ไม่ชอบให้คนนั่งหลังเตะเบาะ หรือไม่รู้สึกอะไรมากกับความอึดอัด สำหรับคนทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงเบาะเหล่านี้เพราะพื้นที่จำกัด มักมีห้องขาสั้น อยู่ใกล้ห้องน้ำหรือห้องครัว อาจมีเสียงรบกวน มักอยู่ใกล้จุดขึ้นลง อาจมีผู้คนพลุกพล่าน และมักไม่มีช่องเก็บของเหนือศีรษะ3. ที่นั่งติดประตูทางออกหลักถ้าคุณให้ความสำคัญกับพื้นที่วางขา เบาะนั่งติดประตูทางออกหลักอาจเป็นตัวเลือกที่ดีของคุณ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีความสูงทั่วไป คุณอาจต้องพิจารณาใหม่ เพราะเหตุใด? เหตุผลก็คือ ไม่มีที่เก็บของใต้เบาะ เนื่องจากไม่มีเบาะด้านหน้า ดังนั้นคุณจึงไม่มีที่เก็บของใต้เบาะ เวลาเครื่องขึ้นและลงจอด คุณจะต้องเก็บของทั้งหมดไว้ในช่องเก็บสัมภาระด้านบน เบาะแคบ เบาะนั่งติดประตูมีที่วางแขนเป็นโลหะแข็ง เนื่องจากต้องใช้สำหรับเก็บโต๊ะอาหาร ทำให้เบาะมีขนาดแคบกว่าเบาะอื่นๆ อากาศหนาว: อากาศบริเวณประตูมักจะเย็นกว่าส่วนอื่นของเครื่องบิน เนื่องจากประตูมีกลไกด้านในแทนที่จะมีฉนวนกันความร้อนดังนั้น แม้เบาะนั่งติดประตูทางออกหลักจะมีพื้นที่วางขาเยอะ แต่ก็มีข้อเสียหลายประการ หากคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่วางขาเป็นอันดับหนึ่ง อาจควรพิจารณาเลือกเบาะนั่งตำแหน่งอื่นจะดีกว่า4. ที่นั่งชำรุดหากคุณเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยครั้ง บางทีคุณนั่งแล้วจะรู้สึกว่าเบาะนั่งเอียงแปลกๆ หรือมันกระตุกอย่างหลวม ๆ ในสลักเกลียว บางทีกลไกการปรับเอนอาจติดขัด หรือดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่ควรจะเป็น ในบรรดาที่นั่งแย่ๆ ที่นั่งนี้อาจจะเป็นที่นั่งที่แย่ที่สุดเพราะเป็นที่นั่งที่คุณไม่สามารถวางแผนได้5. ที่นั่งใกล้ห้องน้ำนอกจากปัญหาเรื่องกลิ่นแล้ว ที่นั่งที่อยู่ใกล้ห้องน้ำที่สุดยังเป็นหนึ่งในที่นั่งที่แย่ที่สุดในห้องโดยสาร นั่นเป็นเพราะว่ามีการต่อแถวเข้าห้องน้ำเกือบตลอดเวลา และมีบางอย่างเกี่ยวกับการต่อแถวเข้าห้องน้ำที่ดูเหมือนจะทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินละทิ้งมารยาทพื้นฐานของตน ซึ่งหากเลือกที่นั่งตรงนี้คุณอาจต้องเตรียมพร้อมสำหรับการแนบส่วนต่างๆ ของร่างกายเข้ากับไหล่ของคุณในขณะที่ผู้คนพยายามเข้าแถวเข้าห้องน้ำที่บริเวณทางเดิน นอกจากนั้นยังอาจมีเสียงบทสนทนาที่ดังบริเวณนั้น6. ที่นั่งริมหน้าต่างแบบแคบๆด้านหลังของเครื่องบินบางลำ อาจมีแถวเบาะแบบสองที่นั่ง ซึ่งดูเหมือนมีพื้นที่กว้างขวาง ไม่มีเบาะตรงกลาง แต่มีข้อเสียอยู่เหมือนกันเพราะช่องว่างระหว่างเบาะที่นั่งกับผนังเครื่องบินทำให้เอนนอนไม่สะดวก แต่หากใครชอบความโล่งก็ถือเป็นข้อดีเพราะมีที่วางของข้างตัวแทนที่จะต้องเก็บไว้ใต้เบาะหน้า แต่ผู้โดยสารด้านหลังอาจอ้างพื้นที่นี้เป็นที่วางขาเพิ่มขึ้นของพวกเขา ซึ่งอาจหมายถึงการเผชิญกับกลิ่นเท้าตลอดการเดินทาง และเชื่อเถอะว่า มันจะทำให้เที่ยวบินของคุณยาวนานขึ้นเป็นสองเท่า7. ที่นั่งริมหน้าต่างที่ไม่ได้ตรงกับหน้าต่าง"เบาะนั่งริมหน้าต่าง" ชื่อชวนให้นึกถึงการได้ชมวิวทิวทัศน์นอกเครื่องบิน แต่ความจริงแล้วเครื่องบินหลายลำมีการจัดวางที่นั่งที่ทำให้บางเบาะไม่ได้อยู่ตรงกับหน้าต่างเลย เรื่องนี้ไม่เพียงสร้างความผิดหวังให้คนชอบชมวิว แต่ยังสร้างปัญหาเรื่องแสงไฟด้วย เนื่องจากหน้าต่างของเบาะข้างหน้าและข้างหลังอาจส่องกระทบแถวของคุณ แต่คุณไม่สามารถควบคุมได้8. ที่นั่งแถวสุดท้ายหากคุณนั่งเบาะแถวสุดท้ายของเครื่องบิน เตรียมตัวรับประสบการณ์พิเศษทั้งกลิ่นจากห้องน้ำ เบาะแถวสุดท้ายมักเอนหลังไม่ได้ ซึ่งทำให้ต้องนั่งตรงตลอดการเดินทาง อีกทั้งผู้คนยังพลุกพล่านอยู่เสมอ และคุณจะได้ลงจากเครื่องบินช้าหลังจากสัญญาณไฟปลดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้น แนะนำให้นั่งรอสัก 10 นาที รอให้ผู้คนทยอยลงจากเครื่อง เมื่อทางเดินโล่งแล้ว ค่อยลุกออกจากที่นั่ง9. ที่นั่งที่อยู่ระหว่างการจัดเรียงที่นั่งแบบต่างๆควรระวังการนั่งเบาะแถวแรกบนเครื่องบินที่มีการเปลี่ยนจำนวนที่นั่งต่อแถวจาก 4 ที่นั่ง เหลือ 3 ที่นั่ง หรือจาก 3 ที่นั่ง เหลือ 2 ที่นั่ง เพราะเมื่อจำนวนที่นั่งเปลี่ยน พื้นที่วางขาอาจยุ่งยาก เพราะจุดวางขาที่สะดวกที่สุดจะถูกบดบังด้วยฐานของที่นั่ง อีกทั้งเวลาเอื้อมตัวไปไกลเพื่อวางหรือหยิบของใต้เบาะก็ทำได้ยากลำบากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้เมื่อยได้ง่ายกว่า10. ที่นั่งแถวหน้าทางออกฉุกเฉินเคยสังเกตไหมว่าเบาะแถวทางออกฉุกเฉินมีพื้นที่วางขากว้างขวางกว่าปกติ แต่รู้หรือไม่ว่า พื้นที่ส่วนหนึ่งมาจากเบาะแถวหน้าซึ่งถูกออกแบบให้ไม่เอน หรือเอนได้น้อยมาก เพื่อให้พื้นที่ทางออกฉุกเฉินโล่ง11. เบาะกลางนรกเบาะกลางนรกคือตัวจริงเสียงจริงของสนามรบแย่งเก้าอี้นั่งบนเครื่องบิน สำหรับสายการบินที่มีระบบเลือกที่นั่ง เบาะกลางมักเป็นที่นั่งล็อตสุดท้ายที่เหลืออยู่ หมายความว่า ยิ่งจองช้า โอกาสที่คุณต้องยอมสละสุขภาพจิตเพื่อแย่งพื้นที่วางแขนไม่กี่เซนติเมตรกับเพื่อนร่วมทางฝั่งหน้าต่างและฝั่งทางเดินก็ยิ่งมากขึ้นแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446883/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

‘Last Photo’ ภาพถ่ายระลึกชีวิต รอยยิ้มที่มีเรื่องเล่าของช่างภาพธำรงรัตน์

29/04/2024

ช่างภาพมืออาชีพกับเรื่องราว Last Photo การถ่ายภาพคนกลุ่มต่างๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขอแค่รอยยิ้มและความสุขเล็กๆวิธีการถ่ายภาพของช่างภาพคนนี้ พี่ตุ่ย-ธำรงรัตน์ บุญประยูร แม้ไม่แปลก แต่แตกต่าง ก่อนจะถ่ายภาพ(ขาวดำ) เขาจะชวนคุยมากกว่าสั่งให้แอ็คชั่น และเมื่อเห็นว่า ภาพตรงหน้าสื่ออารมณ์ความรู้สึกดีแล้ว ก็กดชัตเตอร์นี่คือเรื่องราวในโครงการ  Last Photo ที่หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือเคยร่วมกิจกรรม รวมถึงเคยชมนิทรรศการ ...   •  ก่อนจะเป็น Last Photoในช่วงวัย 30 กว่าๆ  ธำรงรัตน์ ยอมรับว่าถูกเพื่อนรอบข้างเรียกว่า ลุง แต่ปัจจุบันวัย 64 เขาใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า พี่ตุ่ย เพราะเวลาถ่ายภาพให้คนทุกช่วงอายุ ทุกอาชีพ หรือไม่มีอาชีพ ทำให้รู้สึกกลมกลืนโครงการ Last Photo ของช่างภาพธำรงรัตน์ บุญประยูรนั่นเป็นวิธีการทำงานของพี่ตุ่ย ช่างภาพมืออาชีพที่เป็นมิตรกับทุกคน จนเป็นที่มาของโครงการ Last Photo นิทรรศการภาพถ่ายที่ชวนผู้คนมาถ่ายภาพสำหรับงานสุดท้ายของชีวิต โดยได้รับการสนับสนุนทุนจาก สสส.พี่ตุ่ย บอกว่า เวลาถ่ายภาพต้องสร้างความไว้วางใจ ชวนคุย ถ้าโมเมนต์นั้นได้แล้ว ก็กดชัตเตอร์รัวๆ "ผมจะไม่บอกว่าหันซ้าย หันขวา แค่หลอกล่อให้สบายใจ รู้สึกดีแล้วก็กดชัตเตอร์ ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว โครงการ Last Photo จัดนิทรรศการไปสองครั้ง ใช้เวลา 15 เดือนถ่ายภาพระลึกชีวิตคนกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจเลย เริ่มจาก กลุ่มแรกๆ ผู้ป่วยระยะท้าย แพทย์พยาบาล ล่าสุดกลุ่มคนไร้บ้าน“พวกเขาก็อยากได้รูปภาพดีๆ เก็บไว้ในงานสุดท้ายของชีวิต  เวลาเราพูดถึง Last Photo คงไม่ได้พูดถึงความตาย แต่พูดถึงคุณค่าและความหมายในการมีชีวิตอยู่ความตายเป็นสิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้ ไม่รู้เวลาไหน อดีตแก้ไขไม่ได้ อนาคตไม่แน่นอน พรุ่งนี้จะมีไหม...ไม่รู้ สิ่งที่มีก็คือ เดี๋ยวนี้ การถ่ายภาพนิ่งก็คือ การเก็บความทรงจำ ตัวตน ความรู้สึกในช่วงอายุนั้นๆ เอาไว้”   •  ความทรงจำบนภาพถ่ายเวลาหยิบภาพถ่ายขึ้นมาดู คุณจำสถานที่ ความรู้สึก ห้วงเวลาตอนนั้นได้ไหม...และรู้ไหมใครถ่ายภาพนั้นพี่ตุ่ย เล่าว่า ช่วงเวลาสั้นๆ ในการถ่ายภาพ 10-15 นาที เราจะชวนคุยเรื่องงาน ชีวิต เราสร้างความไว้วางใจ  และเมื่อเห็นว่า ภาพนั้นสื่อความรู้สึกในแบบที่ใช่แล้ว ก็จะกดชัตเตอร์ 10-25 รูป“ระหว่างเขากับเราไม่มีอะไรเลย นอกจากความไว้วางใจ เหมือนเพื่อนที่กำลังเล่าทุกข์สุขกัน จะบอกให้เขายิ้มก็ไม่ได้ มันต้องเกิดจากความรู้สึกภายใน”ช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา พี่ตุ่ยถ่ายภาพคนกว่า 700 คน ตั้งแต่อายุ 18-83 ปี และถ่ายเป็นกลุ่มเล็กๆ  มีเพื่อนรออยู่ด้านหลัง“ระหว่างถ่ายภาพ มีน้องคนหนึ่งเล่าว่า ชอบทำกับข้าวให้แม่และพ่อกิน ดูเขามีความสุขมาก คนที่นั่งฟังอยู่ด้านหลังได้ยินก็ร้องไห้ เพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้ให้พ่อแม่เลย แม้พวกเขาจะไม่รู้จักกัน แต่พูดคุยกันได้”กลุ่มเล็กๆ ที่พี่ตุ่ยเล่าให้ฟัง ถ้ามา 20 คนจะถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มๆ ละ 5 คน บางทีก็ทำกิจกรรมร่วมกัน เปิดพื้นที่รับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ต้องตั้งคำถาม ไม่ต้องตัดสิน และไม่ต้องให้คำปรึกษาและนีี่คือส่วนหนึ่งของ Last Photo ที่กิจกรรมเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ เหมือนเพื่อนกำลังนั่งคุยกัน พี่ตุ่ย บอกว่า กิจกรรมของเราทำอย่างเดียวคือ สร้างความไว้วางใจ เรื่องไหนทำแล้วไม่สบายใจ ไม่ทำ เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันธำรงรัตน์ บุญประยูร ช่างภาพมืออาชีพ เจ้าของโครงการ Last Photo   •  ภาพถ่ายในโลกดิจิทัลในช่วงวัยหนึ่งพี่ตุ่ยยอมรับว่า ถ้าไม่ได้เงิน ไม่กดชัตเตอร์ แต่ตอนนี้ถ้านางแบบนายแบบไม่สื่ออารมณ์ความรู้สึก ไม่กดชัตเตอร์ เรื่องนี้อดีตช่างภาพโฆษณา เล่าว่า สิ่งที่ระบบดิจิทัลทำไม่ได้ ก็คือ ภาพที่สื่ออารมณ์ความรู้สึกของคนๆ นั้นออกมา"7-8 ปีที่แล้ว ตอนที่งานโฆษณาน้อยลง ก็หันมาเป็นช่างภาพให้นิตยสารเครือรักลูก เวลาถ่ายสัมภาษณ์คน เขาก็เอาเรื่องที่สัมภาษณ์เสร็จให้อ่านแล้วตามไปถ่ายภาพ แต่เราคิดว่า ช่างภาพควรไปนั่งฟังด้วย จะได้เห็นเรื่องราว หน้าตา และความรู้สึกคนที่เราจะถ่ายภาพให้หลังจากนั้นผมหันมาถ่ายภาพงานการกุศลคนในโรงพยาบาล เด็กกำพร้า ทำไปทำมา มีหลายคนอยากถ่ายแบบนี้บ้าง ก็คิดคนละ 500 บาท ถ้าวันเสาร์อาทิตย์ ผมถ่ายสัก 20 คนก็ได้หมื่นหนึ่งจนมาทำพิพิธภัณฑ์แม่ เพื่อนอยากให้ช่วยเป็นแอดมิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่กลับมาดูแลความรู้สึกภายใน ตอนนั้นก็ขอทุนสสส.ทำนิทรรศการจนมาทำเรื่อง Last Photo ได้ทุนไม่เยอะ ปีนี้ตั้งใจว่าขยายไปสู่กลุ่มเปราะบาง  ทั้งกลุ่มคนพิการ คนไร้บ้าน กลุ่มคนตาบอด กลุ่มหลากหลายทางเพศและทุกคนที่ถ่ายให้จะได้ไฟล์รูปถ่ายกลับบ้าน  อย่างกลุ่มคนไร้บ้าน ทำงานร่วมกับมูลนิธิอิสรชนเข้าไปที่ชุมชนตรอกสาเก คนกลุ่มนี้ถ่ายในสตูดิโอไม่ได้“กลุ่มคนไร้บ้านจะเรียกตัวเองว่า ผี เขารู้สึกเหมือนตายไปแล้ว ไม่รู้สึกว่าตัวเองมีศักดิ์ศรี ไม่รู้สึกว่าเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่เราคิดว่า เขามีสิทธิที่จะมีรูปภาพของตัวเอง”    •  Last Photo ภาพถ่ายระลึกชีวิตก่อนหน้านี้เคยมีคนทักพี่ตุ่ยว่า Last Photo มีความหมายเชิงลบ แต่พี่ตุ่ย บอกว่า ใครสงสัยก็เดินเข้ามา คำตอบที่ได้อาจไม่เหมือนกัน“ภาพระลึกชีวิตมีสองเรื่องคือ ความตายกับงานศพ ความตายเป็นเรื่องของเรา งานศพไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ว่าเราจะถ่ายรูปออกมายังไง ถ้าคนจัดงานศพไม่ใช้รูปที่ถ่ายไว้...เราก็ไม่มีสิทธิเท่าที่เห็นในงานนิทรรศการภาพถ่าย 300-400 รูป ไม่มีใครหน้าตาไม่มีความสุขเลย ก็ยิ้มทุกคน ทั้งๆ ที่เป็นงาน Last Photo”คุณลุงพิชัยกับการถ่ายภาพ Last Photoเมื่อถามว่า กลุ่มที่ถ่ายยากที่สุดกลุ่มไหน... พี่ตุ่ย บอกว่า พวกหมอ"เคยมีหมอคนหนึ่งเพิ่งออกจากห้องผ่าตัด มาถ่ายรูปกับเรา เราก็บอกไปว่า ให้ทิ้งอาชีพไปก่อน คุยกันแบบพี่น้อง 5 นาที อยู่กับผมแบบมีความสุขได้ไหม เขาก็ผ่อนคลาย หรือเจอลุงพิชัย คนป่วยระยะสุดท้ายที่โรงพยาบาลในขอนแก่น รอเพื่อนที่เหมารถมาด้วยกันกลับบ้าน  หมอก็เลยชวนมาถ่ายภาพ ตอนถ่ายภาพแกยิ้ม หน้าตามีความหวัง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า มีชีวิตอยู่อีกไม่นาน ลูกที่มาด้วยเห็นภาพพ่อในจอยิ้มก็เดินมาบอกว่า ขอถ่ายรูปกับพ่อได้ไหม ภาพลุงพิชัยจะเป็น 1 ใน 12 ภาพใหญ่ที่ผมเลือกไว้ ในงานศพลุงพิชัยก็ไม่ได้ใช้รูปนี้"ตั้งแต่เดือนมีนาคม-ธันวาคม ปี 2567 พี่ตุ่ยวางเป้าหมายไว้ว่า จะถ่ายรูปให้คนกลุ่มเปราะบางอีกหลายกลุ่ม ล่าสุดเป็นกลุ่มคนไร้บ้าน และวันที่ 3 มีนาคม ชวนเพื่อนๆ หลากหลายทางเพศ LGBTQ ถ่ายภาพที่ร้านบ้านเพื่ิอน Cafe&Space ปากซอยจรัญ 36 ปิ่นเกล้า“มีคนบอกว่า ถ้าจะทำความดีไม่ต้องขออนุญาตใคร แค่ขอความร่วมมือ เจ้าของร้านวัย 24 ปีที่เราติดต่อไป ไม่คิดค่าเช่าสถานที่ในการถ่ายภาพกลุ่มหลากหลายทางเพศ แต่ผมก็อยากช่วยอุดหนุน”นี่คือเรื่องเล่าจากพี่ตุ่ย ซึ่งชีวิตตอนนี้ เขาบอกว่า อยู่ก็ได้ ตายก็ไม่เสียใจ ถ้าตื่นมายังหายใจ ก็ออกไปทำงาน...แหล่งที่มาต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1114522

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

ทำไมจึงไม่แนะนำให้นอนหลับระหว่างเครื่องบินขึ้นลง

05/03/2024

ใครที่ต้องเดินทางตอนเช้า และรีบตื่นเพื่อไปสนามบิน โดยหวังว่าจะไปหลับต่อบนเครื่องบิน แต่เราอยากบอกว่าการนอนหลับบนเครื่องบินระหว่างเครื่องบินขึ้น และลงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำ จะเป็นเพราะสาเหตุใดเรามาทราบไปพร้อมๆ กันผลกระทบต่อร่างกายหากเรานอนหลับระหว่างเครื่องบินขึ้นลง1. อาการปวดหูบนเครื่องบิน เกิดจากความแตกต่างของความดันอากาศระหว่างสภาพแวดล้อมและหูชั้นในของคุณ ความไม่สมดุลนี้ทำให้แก้วหูของคุณโป่งพองอย่างเจ็บปวด (คล้ายกับอาการที่รู้สึกเมื่อว่ายน้ำจมไปก้นสระแล้วรู้สึกเจ็บหู แต่กรณีนี้เป็นความดันอากาศแทนความดันน้ำ)ระหว่างการขึ้นและลงของเครื่องบิน จากความกดอากาศในห้องโดยสารเครื่องบินเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แก้วหูของเราปรับตัวตามไม่ทัน นักเดินทางหลายคนประสบปัญหาปวดหูตอนอยู่บนเครื่องบิน ทำให้รู้สึกเจ็บหรืออึดอัดในหู นอกจากนี้อาจทำให้สูญเสียการได้ยินเล็กน้อยหรือวิธีปรับความดันอากาศในชั้นหูโชคดีที่การปรับความดันภายในหูด้วยตัวเองนั้นทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กลืนน้ำลาย หรือเคี้ยวอาหาร กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเปิดท่ออากาศยูสตาเคียน (eustachian tube) ในหู ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความดันภายในหู บางคนสามารถควบคุมกล้ามเนื้อเยื่อเยื่อกระดูกขมับ (tensor tympani) ภายในหู ซึ่งมีหน้าที่เปิดท่ออากาศยูสตาเคียนได้ตามใจชอบสำหรับผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีเทคนิคเหล่านี้มักจะได้ผล แต่ก็มีบางปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะการปวดหู เช่น อาการคัดจมูก นอกจากนี้ ผู้ที่มีท่ออากาศยูสตาเคียนขนาดเล็ก เช่น ทารกและเด็กเล็ก อาจมีปัญหาในการปรับความดันภายในหูเช่นกันนอกจากนี้การใช้  "EarPlanes" ที่อุดหูชนิดนี้ทำจากซิลิโคน มีตัวกรองเซรามิกขนาดเล็ก ช่วยปรับความดันภายในหูอย่างช้าๆ ลดโอกาสการเกิดภาวะการปวดหู2. ความปลอดภัยการงีบหลับระหว่างเครื่องขึ้นและลงจอด ยังส่งผลต่อความปลอดภัยด้วย ช่วงเครื่องขึ้นและลงเป็นช่วงวิกฤติของการบิน รายงานจาก Boeing และ Airbus ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า ช่วงเวลานี้มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางอากาศมากกว่าช่วงอื่นๆ "อีกเหตุผลสำคัญที่ไม่ควรนอนระหว่างเครื่องขึ้นและลงคือ การรับรู้สถานการณ์อย่างเต็มที่ กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้โดยสารและลูกเรือจำเป็นต้องอพยพออกจากเครื่องบิน" ดร.แดน บับ กล่าว หากคุณหลับอยู่ตอนเกิดเหตุ อาจใช้เวลานานกว่าจะตั้งสติและตอบสนองได้เหมาะสม ซึ่งนั่นอาจเป็นปัญหาได้ดังนั้นการตื่นอยู่ระหว่างเครื่องขึ้นและลงจอดเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากเหนื่อยล้ามากๆ วิธีแก้ไขคือ งีบสั้นๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง จากนั้นตื่นก่อนเครื่องขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นถึงจะงีบต่อยาวๆ จนใกล้ลงจอดขอขอบคุณข้อมูล :travelandleisureแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446811/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

สุขภาพ

สาววัย 21 เอะใจ นอนวันละ 14 ชม. หมอบอกเป็น วัยรุ่นขี้เกียจ สุดท้ายตรวจพบมะเร็ง

29/04/2024

สาววัย 21 สงสัยนอนมากผิดปกติ วันละ 14 ชม. หมอบอกเป็นแค่อาการ วัยรุ่นขี้เกียจ ก่อนไปตรวจอีกครั้งถึงรู้ว่าเป็นมะเร็งว่ากันว่าสิ่งที่ไม่ควรผิดพลาดเลยก็คือการทำงานของหมอ เพราะบางทีอาจจะหมายถึงชีวิตของคน เช่นเดียวกับเคสล่าสุดของ คอร์ทนีย์ เน็ตเลตัน (Courtney Nettleton) สาววัย 21 ปีจากสหราชอาณาจักร พบว่าตัวเองรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างควบคุมไม่ได้ และนอนหลับยาวถึง 14 ชั่วโมงทุกวัน ตลอดฤดูร้อนปี 2021 เธอกังวลว่าจะมีบางอย่างผิดปกติกับสุขภาพคอร์ทนีย์ ตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบตั้งแต่เนิ่นๆ แต่แพทย์กลับไม่ค่อยที่จะใส่ใจต่ออาการป่วยของเธอมากนัก และให้คำตอบเพียงว่า "หมอบอกฉันว่าเป็นเพียงความขี้เกียจของวัยรุ่น"จากนั้นมาอาการของเธอก็ยังเหมือนเดิม จนต่อมาในเดือนมกราคม 2022 เพื่อนร่วมงานสังเกตเห็น ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ยื่นออกมาจากบริเวณลำคอเธอ เธอตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลอีกครั้ง และผู้เชี่ยวชาญก็ได้เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการเจ็บป่วยเรื้อรังของเธอ   กระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ คอร์ทนีย์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ และแพทย์บอกกับเธอว่ามะเร็งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แน่นอนมันทำให้ คอร์ทนีย์ รู้สึกเสียใจและเป็นกังวลมากทั้งนี้หญิงสาวบอกด้วยว่า เมื่อครั้งที่มาโรงพยาบาลครั้งแรก นอกจากอาการนอนนานผิดปกติแล้ว ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเธอมีอาการผิดปกติหลายอย่าง เช่น เหนื่อยล้า หายใจไม่ออก ร้อนวูบวาบ ไม่มั่นคง คอเคล็ด มีสิว และอารมณ์แปรปรวนคอร์ทนีย์ ตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบตั้งแต่เนิ่นๆ แต่แพทย์กลับไม่ค่อยที่จะใส่ใจต่ออาการป่วยของเธอมากนัก และให้คำตอบเพียงว่า "หมอบอกฉันว่าเป็นเพียงความขี้เกียจของวัยรุ่น"จากนั้นมาอาการของเธอก็ยังเหมือนเดิม จนต่อมาในเดือนมกราคม 2022 เพื่อนร่วมงานสังเกตเห็น ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ยื่นออกมาจากบริเวณลำคอเธอ เธอตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลอีกครั้ง และผู้เชี่ยวชาญก็ได้เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการเจ็บป่วยเรื้อรังของเธอกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ คอร์ทนีย์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ และแพทย์บอกกับเธอว่ามะเร็งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แน่นอนมันทำให้ คอร์ทนีย์ รู้สึกเสียใจและเป็นกังวลมากทั้งนี้หญิงสาวบอกด้วยว่า เมื่อครั้งที่มาโรงพยาบาลครั้งแรก นอกจากอาการนอนนานผิดปกติแล้ว ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเธอมีอาการผิดปกติหลายอย่าง เช่น เหนื่อยล้า หายใจไม่ออก ร้อนวูบวาบ ไม่มั่นคง คอเคล็ด มีสิว และอารมณ์แปรปรวน"ที่ปรึกษาของฉันโทรหาฉัน เพียง 3 วันหลังจากนั้น เพื่อบอกฉันว่าเซลล์มะเร็งถูกพบในช่องน้ำเหลืองและหลอดเลือดในต่อมไทรอยด์ของฉัน และฉันจะต้องได้รับการผ่าตัดและฉายแสงเพิ่มเติม"คอร์ทนีย์ ยอมรับว่าผิดหวังกับแพทย์มากๆ ตั้งแต่นั้นมาเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกสองครั้ง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอ่อนแอและวิตกกังวล ในเวลานี้ยังดีที่มีเพื่อนและครอบครัวของเธอ คอยเป็นที่พึ่งพา เพื่อขอความช่วยเหลือในระหว่างการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด"ฉันจะทราบผลลัพธ์ภายในประมาณหกสัปดาห์เพื่อดูว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่… และถึงแม้ว่าการรักษามะเร็งจะเป็นไปได้ดีมาก แต่ฉันก็ยังมีความกังวลอยู่เสมอว่ามะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังที่อื่น… ฉันมีอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรง ดังนั้นฉันจึงกังวลอยู่ตลอดเวลาทุกคนรู้จักร่างกายของตัวเองมากกว่าใครๆ… การเชื่อในสัญชาตญาณและทำตามสัญชาตญาณของตนเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เราต้องยืนหยัดเพื่อตัวเองเมื่อรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง" คอร์ทนีย์ ระบุทิ้งท้ายข้อมูลจาก New York Postแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทนนิวส์https://www.thainewsonline.co/news/foreign/867421

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จัดงาน Recruitment Kickoff 2024 มุ่งยกระดับการสร้างตัวแทน สู่การเป็น AIA Financial Advisor (AIA FA) ที่ปรึกษามืออาชีพ ด้านประกันชีวิต การเงินและสุขภาพ

29/04/2024

กรุงเทพฯ, 4 มีนาคม 2567 – เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ จัดงาน Recruitment Kickoff 2024 “ยกระดับการสร้างตัวแทนอย่างไร ให้เท่าเทรนด์อายุยืนยาว” เดินหน้าสร้างตัวแทนคุณภาพเพื่อส่งมอบการดูแลและการบริการเหนือระดับให้แก่คนไทยทั่วประเทศ พร้อมยกระดับตัวแทนประกันชีวิตของไทย ให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาอย่างมืออาชีพ ด้านประกันชีวิต การเงินและสุขภาพ หรือ AIA Financial Advisor (AIA FA) เพื่อมอบคำปรึกษาและการวางแผนทางการเงินให้คนไทยได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ เตรียมความพร้อมเพื่อการมีอายุที่ยืนยาวอย่างมั่นคงและมั่งคั่ง ในงาน Recruitment Kickoff 2024 ยังได้ผู้ทรงคุณวุฒิ และที่ปรึกษาด้านการเงินมืออาชีพ ร่วมบรรยายพร้อมแบ่งปันประสบการณ์เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจและติดอาวุธความรู้ให้แก่เหล่าที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงินและสุขภาพของเอไอเอ เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จในสายอาชีพ ตลอดจนยังมีพิธีมอบรางวัล Career Achievement Bonus ประจำปี 2566 ให้แก่ AIA FA ที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่บริษัทกำหนด ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นกำลังใจในการปฎิบัติงานของเหล่า AIA FA ให้มีพลังในการออกไปช่วยผลักดัน ให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’นายณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับโปรแกรม AIA FA มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เราเริ่มโปรแกรมนี้ขึ้นมาในปี 2552 โดยมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพตัวแทนให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงินและสุขภาพมืออาชีพ เพื่อพร้อมส่งมอบบริการ คำปรึกษา และการเป็นพาร์ทเนอร์ในด้านการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพการเงินให้กับคนไทย ให้คนไทยทั่วประเทศได้มีความพร้อมในการที่จะมีอายุยืนยาวขึ้นในอนาคต ซึ่งจากการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติและข้อมูลจากนักวิชาการ ได้แสดงให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่คนไทยจะมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 100 ปี ดังนั้น การเตรียมตัววางแผนเพื่อให้ช่วงชีวิต 10 ปีสุดท้ายไม่ต้องลำบากหรือเป็นภาระของลูกหลานนั้น ถือเป็นเรื่องจำเป็นและเร่งด่วนอย่างยิ่ง เพราะด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อของค่ารักษาพยาบาล ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่เบียดเบียนความสุขในชีวิตของเรา หากต้องมีอายุที่ยืนยาวไปถึง 100 ปี เอไอเอ ในฐานะที่เราเป็นผู้นำในด้านประกันชีวิตและสุขภาพ อีกทั้งเรายังมีพลังตัวแทนที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย เราจึงไม่นิ่งนอนใจที่จะพัฒนาคุณภาพและความสามารถของตัวแทนเอไอเอ ให้พร้อมสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน ที่จะสามารถช่วยคนไทยวางแผนชีวิตได้อย่างรอบด้าน ด้วยโปรแกรมการอบรมและพัฒนา AIA FA ที่เข้มข้น ตลอดจนทีมฝึกอบรมมืออาชีพของเอไอเอ และรุ่นพี่ที่จะคอยให้คำแนะนำไปตลอดเส้นทางในอาชีพ และที่สำคัญเรามี Career Achievement Bonus ที่เสมือนเป็นแรงกระตุ้นให้ AIA FA ทุกคนพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ ซึ่งเอไอเอ เรามีพันธกิจใหญ่ที่ชัดเจน คือการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวทั่วไป

ลองทำสิ่งที่คู่แข่ง “ยังไม่ได้ทำ หรือ ไม่คิดจะทำ” !?

01/03/2024

ถ้า คู่แข่ง คิดและทำ ในสิ่งที่ท่าน ไม่ได้คิด ไม่ได้ทำ …..สิ่งที่ท่านจะทำได้ คงเหลือแต่เพียง ทำใจ….ดูลูกค้าของท่าน จากไปอยู่กับธุรกิจของคู่แข่งของท่าน ! Part.1. เมื่อแต่ละธุรกิจทำเหมือนๆกัน !? ธุรกิจทุกขนาด ที่ทำเหมือนๆหรือคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็น สินค้า-บริการ คล้ายกันหรือแทบไม่เห็นความแตกต่าง ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น ธุรกิจตัวแทนจัดจำหน่าย ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้าเอง นอกจากจะต้องแข่งกับคู่แข่งแล้ว ยังต้องแข่งกับตัวแทนจัดจำหน่ายด้วยกันเอง ยังไม่รวมสินค้าจากจีน ที่ทะลุทะลวงจนทำให้หลายธุรกิจของไทยในปัจจุบัน วงแตก ทยอยล้มหายตายจาก! ไม่ใช่แค่ธุรกิจตัวแทนจัดจำหน่ายเท่านั้น ธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำเหมือนๆคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งปัจจุบันและคู่แข่งใหม่ๆที่กำลังเข้ามาทุกวัน ถ้าสายป่านเงินทุนไม่ยาว รอดยาก แต่ถึงแม้สายป่านยาว กำไรก็น้อยลงทุกวัน! Part.2. เพราะ Full Force Strategy ที่เหมือนกัน….? ธุรกิจที่ไม่มีอะไรแตกต่าง ที่ใช้ Full Force Strategy ที่เหมือนกัน และส่วนมากเป็นกลยุทธ์ที่ไม่แตกต่างกันก็คือ การลดราคา การจัดPromotionตลอดทั้งปี บางธุรกิจยิ่งขายยิ่งขาดทุน! Full Force คือการทุ่มสรรพกำลังทั้งหมด แต่เมื่อการทุ่มทั้งหมดไปที่กลยุทธ์ ราคา เป็นหลัก ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะ การใช้กลยุทธ์ราคา เช่น ลด แลก แจก แถม เป็นกลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดในการคิดและทำ แต่เป็นกลยุทธ์ที่เจ็บตัวมากที่สุดเช่นกัน! ลองปรับเปลี่ยน จาก Full Force Strategy ที่เน้นไปที่การลดราคาอย่างเดียว เป็นกลยุทธ์อื่นๆ อย่างน้อย จะไม่เจ็บตัวเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมก็คือ อาจค้นพบโอกาสใหม่ๆ ลูกค้าใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ ที่สร้างผลกำไรได้ดีกว่าวิธีเดิมๆที่กับคู่แข่งใช้เหมือนกัน Part.3. ลองเปลี่ยนวิธีคิด ปรับวิธีการในเรื่อง กลยุทธ์ ! เป็นเรื่องยากมาก ที่เราจะชนะด้วยวิธีคิด วิธีการที่ไม่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่เป็นเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไป ถ้าจะลอง ลองเปลี่ยนวิธีคิด ปรับวิธีการในเรื่อง กลยุทธ์ ลองทำสิ่งที่คู่แข่ง “ยังไม่ได้ทำ หรือ ไม่คิดจะทำ” !? โดยเลิกคิดเลิกทำตามคู่แข่ง แต่ให้คิดใน “มุมของลูกค้า”! Part.4.ธุรกิจเรา จะช่วยแก้ปัญหา Pain Point ในเรื่องใดของลูกค้าได้บ้าง!? ลูกค้าของทุกธุรกิจ ทุกคนต่างก็มี Pain Point ที่เรามักจะมองไม่เห็น หรือ มองข้าม มีอะไรหลายอย่างที่ยังไม่สามารถ ตอบสนองความต้องการ และ แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ที่ผ่านมาหลายธุรกิจ มักจะคิดแต่ ขายในสิ่งที่อยากขาย แต่อาจไม่ตรงความต้องการของลูกค้า แล้วจะรู้ปัญหา และ ความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร? เริ่มต้นที่ วิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า และ ลองคุยกับลูกค้าแต่ละประเภทอย่างจริงจัง เพื่อหาCustomer Insight (ข้อมูลเชิงลึก ของลูกค้า) ท่านจะค่อยๆ ค้นพบ Pain Point ที่ลูกค้าพบเจอในปัจจุบัน จากสินค้า บริการของคู่แข่งและของท่าน ข้อมูลตรงส่วนนี้มีค่ามหาศาลมาก เพราะท่านจะมองเห็นโอกาส ที่คู่แข่งมองไม่เห็น และท่านก็ไม่เคยมองเห็นเช่นกัน Part5. ถึงเวลาลองทำสิ่งที่คู่แข่ง “ยังไม่ได้ทำ หรือ ไม่คิดจะทำ” เมื่อมาถึงตรงนี้ ก็เป็นเรื่องไม่ยาก ที่ท่านจะนำ ปัญหาและความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน มาเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ใหม่ของท่าน ที่เป็นกลยุทธ์ วิธีการที่คู่แข่ง และท่าน ยังไม่ได้ทำ หรือไม่เคยคิดจะทำ Key Point ก็คือ สิ่งที่ท่านคิดจะทำนี้ “ต้องแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน”! ตัวอย่างเช่น Pain Point ของลูกค้าในยุคปัจจุบันคือ สินค้า/บริการ ที่ลูกค้าเคยซื้อจากคู่แข่งหรือเคยซื้อจากท่าน ใช้แล้วพบปัญหาบางอย่าง เพราะขาดการแนะนำที่ดีก่อนการใช้ “โอกาสที่ท่านค้นพบ” ก็คือ การเพิ่ม ยกระดับความสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากสินค้า/บริการของท่าน ภักดีกับบริษัทของท่าน ด้วยการ ให้คำแนะนำก่อนใช้-ระหว่างใช้-และช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าหลังการใช้ เป็นต้น หรือ ลองใช้กลยุทธ์ใหม่ที่คู่แข่งและท่านไม่เคยทำ เช่น คู่แข่งเน้นลดราคา (และมักจะแอบลดคุณภาพ หรือ ปริมาณลงแบบเนียนๆ โดยที่ลูกค้าอาจไม่รู้) แต่ท่าน ไม่ลดราคา แต่ยกระดับคุณภาพสินค้า และยกระดับคุณภาพ การให้บริการเชิงรุก (ในระยะสั้น ต้นทุนเหมือนอาจจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ในระยะกลางและระยะยาว ท่านจะได้ครองใจลูกค้า และได้ลูกค้าใหม่เพิ่มจากคู่แข่ง) Part6.บทสรุป ไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะคิดจะทำ ในการลองคิด ลองทำ สิ่งที่คู่แข่ง ไม่ได้คิด ไม่ได้ทำ เพราะถ้า คู่แข่ง คิดและทำ ในสิ่งที่ท่าน ไม่ได้คิด ไม่ได้ทำ …..สิ่งที่ท่านจะทำได้ คงเหลือแต่เพียง ทำใจ….ดูลูกค้าของท่าน จากไปอยู่กับธุรกิจของคู่แข่งของท่าน! แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/business/biz-bizweek/1114681

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X