คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ท่องเที่ยว

ชวนชม "ป่าเปลี่ยนสี" ความงามจากธรรมชาติที่ "อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว"

29/04/2024

"อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว" เผยภาพความงามของ "ป่าเปลี่ยนสี" ในช่วงนี้ ที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ โดยสามารถชมป่าเปลี่ยนสีได้บริเวณ กิโลเมตรที่ 419 ของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายหล่มสัก-ชุมแพ(ภาพ : นายวรินทร ค้อท้อง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว)เพจ "อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว" โพสต์ภาพความสวยงามของปรากฏการณ์ "ป่าเปลี่ยนสี" ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมของทุกปี โดยได้ให้ข้อมูลไว้ว่า "ป่าเปลี่ยนสี Fall Foliage Forest : ทางเข้าอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 419 ของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายหล่มสัก-ชุมแพ ประมาณเดือนธันวาคม-มกราคมของทุกปี ผืนป่าบริเวณนี้ซึ่งเป็นป่าผสมผลัดใบ ก่อนที่พันธุ์ไม้จะผลัดใบจะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ใบไม้ในป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและแดงทั่วทั้งป่าในช่วงหน้าแล้ง เกิดเป็นสีสันของธรรมชาติที่แปลกตาน่าชมมาก โดยเฉพาะที่ภูหลังกงเกวียน จุดที่มองป่าเปลี่ยนสีได้ชัดเจนที่สุดคือ บริเวณกิโลเมตรที่ 419 นอกจากนี้ยังสามารถชมความงามของป่าเปลี่ยนสีได้ที่ยอดภูกุ่มข้าว และบนเส้นทางไปน้ำตกเหวทรายอีกด้วย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว โทร. 061-042-8234(ภาพ : นายวรินทร ค้อท้อง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว)(ภาพ : นายวรินทร ค้อท้อง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว)(ภาพ : นายวรินทร ค้อท้อง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว)แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000001428

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จับมือ เอส เอฟ เปิดให้บริการ AIA LOUNGE สร้างประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับลูกค้าเอไอเอ พร้อมชวนตรวจสุขภาพเบื้องต้น ผ่านแอปพลิเคชัน AIA+ เพื่อรับตั๋วหนังฟรี

29/04/2024

กรุงเทพฯ 8 มกราคม 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย และ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัวความร่วมมือเพื่อมุ่งต่อยอดการดูแลลูกค้าเอไอเอและลูกค้า เอส เอฟ แบบครบวงจร กับบริการ “AIA LOUNGE” ซึ่งเป็นพื้นที่พักคอยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าเอไอเอ ไวทัลลิตี้ เมื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้นผ่านแอปพลิเคชัน AIA+ มีสิทธิรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 2 ที่นั่ง (สำหรับที่นั่ง Deluxe Seat ในระบบปกติ) ณ โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทุกสาขา อีกทั้งยังได้รับคะแนนไวทัลลิตี้ เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายจากพันธมิตรชั้นนำของเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ มุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนั้นยังต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ซึ่งความร่วมมือกับ เอส เอฟ ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการต่อยอดการดูแลลูกค้าคนสำคัญของเอไอเอและเอส เอฟโดยเอไอเอ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ที่สามารถสร้างความบันเทิงให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์สนใจด้านความบันเทิงและชื่นชอบการชมภาพยนตร์ ซึ่งจากวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน ทำให้วันนี้เราได้เปิดบริการ ‘AIA LOUNGE’ เพื่อแทนความห่วงใยที่ต้องการดูแลลูกค้าทุกคน ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า นอกจากนี้ เรายังได้จัดแคมเปญสำหรับลูกค้าเอไอเอ ไวทัลลิตี้ เพียงตรวจสุขภาพเบื้องต้นครบ 4 รายการผ่านแอปพลิเคชัน AIA+ สามารถรับคะแนนไวทัลลิตี้ พร้อมมีสิทธิแลกรับบัตรชมภาพยนตร์ 2 ที่นั่งฟรี ณ โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทุกสาขา อีกด้วย”นายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “เอส เอฟ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราผ่านรูปแบบและกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองต่อคนทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์ โดยครั้งนี้เราได้ร่วมกับ เอไอเอ จัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อมอบ Customer Experience และสร้าง Brand Engagement ผ่าน AIA LOUNGE เลาจน์พักคอยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงยังมีโปรโมชั่น และสิทธิพิเศษอื่น ๆ สำหรับลูกค้าของเอไอเอ ซึ่งจะช่วยสร้างสีสันและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เอส เอฟ และ เอไอเอ ได้อย่างแน่นอน”สำหรับลูกค้าเอไอเอ ไวทัลลิตี้ สามารถใช้สิทธิที่ท่านได้รับผ่านแอปพลิเคชัน SF Cinema และเว็บไซต์ www.sfcinema.com หรือจุดจำหน่ายบัตรหน้าโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทุกสาขา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

ทำอย่างไรถึงจะเป็นเศรษฐีก่อนอายุ 30 ปี ลองทำตามนี้รับรองความรวยมาหาคุณแน่

29/04/2024

เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนย่อมอยากมีฐานะทางการเงินที่ดีเยี่ยม เพื่อชีวิตที่สุขสบาย ไม่ต้องลำบากคอยเดือดร้อนผู้อื่น และคนยุคนี้มักมีความคิดที่อยากจะรวยเร็ว รวยตอนอายุยังน้อย ยิ่งบอกว่าจะเป็นเศรษฐีก่อนอายุ 30 ปี คงมีคนบอกว่าเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน ดูจินตนาการเกินจริงไป แม้ว่าจะเป็นเรื่องไกลเกินตัว แต่คนที่เป็นเศรษฐีก็เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ของชีวิตก่อน โดยเฉพาะลักษณะของนิสัยการใช้ชีวิตที่มักจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน และนี่คือขั้นตอนที่จะพาคุณไปถึงฝั่งฝันของการเป็นเศรษฐี 1. สร้างรายได้เพิ่ม การประหยัดไม่ใช่หนทางที่จะพาคุณไปสู่คำว่า “เศรษฐี” ได้ ดังนั้นขั้นตอนแรกคือต้องโฟกัสไปกับการเพิ่มรายได้แบบทีละน้อย ค่อยเป็นค่อยไป มองให้เห็นภาพง่าย ๆ คือเดือนนี้คุณอาจจะมีรายได้ 20,000 บาท แต่หลังจากนั้นสัก 3-4 เดือนคุณอาจจะมีรายได้เพิ่มเป็น 50,000 บาท ต่อเดือนจากการทำงานเพิ่ม มีอาชีพเสริม 2. อย่าเป็นคนขี้อวด ให้คำมั่นกับตัวเองว่าจะไม่ซื้อสินค้าหรู หรือรถยนต์จนกว่าจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และการมองหาการลงทุนก็จะทำให้เกิดกระแสรายได้ที่ปลอดภัยหลายทาง อย่าอายที่ไม่ได้ขับรถหรู แต่ให้มองว่ารถที่เราขับก็สามารถพาไปยังจุดหมายได้เหมือนกับรถอื่น ๆ เหมือนกัน 3. ออมเงินเพื่อลงทุน ไม่ใช่ออมอย่างเดียว เหตุผลเดียวของการออมเงินคือนำไปสู่การลงทุน แต่สิ่งสำคัญคือควรแยกบัญชีระหว่างเงินออมกับเงินลงทุนออกจากกัน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยการลงทุนที่ดีควรทยอยลงเงินอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งวินัยตรงนี้จะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจกลับคืนมาในอนาคต ขอแค่มีความอดทน 4. หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ ตั้งเป็นกฎเลยว่าอย่าใช้หนี้ที่ไม่ทำเงินให้กับตัวคุณเอง คนรวยมักใช้หนี้เพื่อยกระดับการลงทุน และเพิ่มกระแสเงินสด ส่วนคนใช้หนี้เพื่อซื้อสิ่งของที่ทำให้คนรวยรวยยิ่งขึ้น 5. จัดการเงินเหมือนกับคนรัก คนนับล้านปรารถนาที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ การจะได้รวยได้นั้นคุณต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเป็นอันดับแรก เปรียบเงินก็เหมือนกับคนรัก หากคุณเพิกเฉย มองข้าม สุดท้ายคุณก็จะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว และคนรักของคุณจะหนีไปอยู่กับคนอื่นที่รักเขามากกว่า 6. ยากจนไม่มีคำว่าสมเหตุสมผล ความยากจนเป็นสิ่งที่แย่ แต่ไม่ใช่ว่ามันจะอยู่กับเราตลอดไป หากมองในอีกมุมหนึ่งจะเป็นแรงผลักดัน และมองความยากจนเป็นเรื่องปกติ มีความกล่าวไว้ว่า “ความสำเร็จเป็นหนทางที่ทำให้คุณกระโดดออกจากจุดตกต่ำ” 7. ดูว่าเศรษฐีเขาคิดอย่างไร บางครั้งเราถูกเลี้ยงมาให้ครอบครัวชนชั้นกลางก็จะพบว่าตัวเองติดอยู่ในขอบเขต และแนวความคิดของคนกลุ่มนั้น การเรียนรู้จากกรณีของเหล่ามหาเศรษฐีจะทำให้คุณได้รับแนวคิด และหลักการ รวมถึงสิ่งที่พวกเขาทำอยู่เป็นประจำ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ให้ความสำคัญ คือความรู้ และทรัพยากรที่มีอยู่ 8. ตั้งเป้าไว้ 10 ล้าน ไม่ใช่ 1 ล้าน ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่จะละเลยที่จะตั้งเป้าหมายไว้สูง ๆ แนะนำให้เกิน 1 ล้านบาท เพราะในโลกไม่มีใครขาดแคลน มีแต่ขาดแคลนความคิดที่ใหญ่มากพอ การตั้งเป้าไว้สูงที่เป็นแรงผลักดันที่จะทำให้ไปถึง เหล่านี้คือขั้นตอนที่จะทำให้คุณก้าวไปสู่ความเป็น “เศรษฐี” สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีความอดทน อย่ายอมแพ้ และเต็มใจที่จะทำเพื่อทำให้สถานะทางการเงินของคุณดีขึ้น ที่มา: entrepreneur แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับsmartsmehttps://www.smartsme.co.th/content/251660

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

สวยแบบไม่เหมือน ‘ลุงเปิ้ล’ ศิลปินที่ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เปิดนิทรรศการ

29/04/2024

‘ลุงเปิ้ล’ ศิลปินวาดภาพเหมือน .. แต่ไม่เหมือน? ที่ศิลปินแห่งชาติ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ บอกให้สเก็ตช์ภาพมาอีก 20 เล่ม แล้วจะกล่าวเปิดนิทรรศการศิลปะให้ เป็นจริงแล้วกับ Happleness นิทรรศการศิลปะถ่ายทอดเรื่องราวความสุขแสนเรียบง่ายนิทรรศการศิลปะนี้ชื่อแปลกไม่เหมือนใคร Happleness สะกดไม่ผิดแน่นอน และเป็นนิทรรศการศิลปะที่ศิลปินออกตัวชวนผู้มาเยี่ยมชมว่า “ไม่อนุญาตให้ทุกข์ เพราะความสุขนั้นง่ายนิดเดียว”นิทรรศการ Happleness จัดแสดงผลงานภาพวาดของศิลปินซึ่งใช้นามว่า ลุงเปิ้ล ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความน่ารัก มีความสนุกความสุขของสุพรทิพย์ ช่วงรังษี (ภาพซ้าย) และ ลินดา เชง (ภาพขวา)ลุงเปิ้ล นำธรรรมชาติของบุคคลมาถ่ายทอด บอกเล่าเรื่องความสุขสุดง่ายของเหล่าคนดัง กล่าวได้ว่าเป็นการแชร์ความสุขง่ายๆ สไตล์เซเลบริตี้สายอาร์ต อาทิ   •  สุพรทิพย์ ช่วงรังษี กับภาพ “พะโล้ ห่านขาวแสนสวย สื่อสารได้ อ้อนเก่ง”   •  ฤาชุตา บุญสูง กับภาพหญิงแต่งหน้าในตอนเช้าที่ “ถูกจริต”   •  ลินดา เชง CEO ริเวอร์ซิตี้ กับภาพ “แค่ดอกไม้ดอกเดียว”   •  พรภัทร์ วิฑูรชาติ กับภาพ "ความสุขเล็กๆ รอบตัว”   •  อินทิรา ธนวิสุทธิ์ ถึงแม้ตัวไม่ได้มาแต่ก็มีภาพความสุขกับแหวนวงแรกที่ซื้อด้วยเงินตัวเองความสุขของ ฤาชุตา บุญสูง (ภาพซ้าย) และ อินทิรา ธนวิสุทธิ์ (ภาพขวา)นิทรรศการนี้ ลุงเปิ้ล อยากให้ทุกคนที่มาร่วมชมผลงานได้สามารถแชร์ความสุขง่าย ๆ ของตัวเองกัน จะกินไอศกรีม จิบไวน์ นั่งนิ่งๆ นอน แต่งหน้า จัดดอกไม้ ชงกาแฟ เม้าท์เรื่องชาวบ้าน สุขอะไรก็ได้ เอาที่สบายใจละกันลุงเปิ้ล เป็นชื่อเล่นของ จาริณี เมธีกุล ชื่อ 'ลุงเปิ้ล' เกิดจากเหตุผลสั้น ๆ เพราะเธอบอกว่า ไม่อยากเป็น “ป้า”ลุงเปิ้ลจบการศึกษาระดับอุดมศึกษา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้เริ่มทำงานในวงการโทรทัศน์มาตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบันกับการเปิดบริษัทรับผลิตรายการโทรทัศน์ภายใต้ชื่อ “บริษัท 3344 จำกัด”ครูโต ม.ล.จิราธร จิรประวัติ มาร่วมให้กำลังใจลูกศิษย์วันเปิดนิทรรศการวันหนึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ‘ลุงเปิ้ล’ หลงเข้าไปเรียนศิลปะกับ ครูโต - ม.ล.จิราธร จิรประวัติ และ ครูปาน สมนึก คลังนอก ด้วยคำพูดประโยคเดียวของครูโต คือ “ถ้าเปิ้ลอยากถ่ายรูปสวย เปิ้ลต้องมาเรียนศิลปะ”อย่างไรก็ตาม ลุงเปิ้ลเริ่มต้นเรียนศิลปะไปด้วยความอึดอัด เพราะวาดอย่างไรก็ไม่สวย ไม่เหมือนสักที จนกระทั่งครูโตได้สอนว่า“ไม่ต้องสวย ไม่ต้องเหมือนก็ได้ เอาที่เปิ้ลวาดแล้วมีความสุข”นับแต่นั้นมา ต่อมอาร์ตของลุงเปิ้ลก็เริ่มแตก เธอวาดรูปทุกวัน วาดเพื่อนทุกคนที่รู้จักจนหมด ลามไปถึงวาดบุคคลสำคัญของโลกเกือบทุกคน แล้วตั้งฉายาเองเรียกตัวเองว่า “ลุงเปิ้ล วาดภาพไม่เหมือน”อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ กับ ลุงเปิ้ล - จาริณีลุงเปิ้ลทำใจกล้า นำสมุดสเก็ตซ์ของตัวเองให้ ศิลปินแห่งชาติ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ดูเมื่อ 4 ปีก่อน อาจารย์เฉลิมชัยชื่นชมลุงเปิ้ลที่มีพลังวาดรูปได้ทุกวัน พร้อมทั้งสั่งว่า “ห้ามเอาสมุดสเก็ตซ์ให้ใครดู เดี๋ยวเค้าวิจารณ์ว่าไม่สวย ก็ไปเชื่อเขาอีก! กลับไปวาดมาอีก 20 เล่ม!”วันนี้ลุงเปิ้ลวาดครบ 20 เล่มแล้ว เมื่อเจออาจารย์เฉลิมชัยอีกครั้ง อาจารย์แนะนำให้เธอจัดนิทรรศการศิลปะได้แล้ว โดยอาจารย์จะมาพูดเปิดงานให้แล้วประวัติชีวิตสุด Happy ของ “ลุงเปิ้ล ภาพไม่เหมือน” ก็ดำเนินมาถึงบรรทัดนี้กับการแสดงนิทรรศการศิลปะชื่อ Happleness และได้รับเกียรติจาก เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) พ.ศ.2554 เดินทางมาเป็นประธานกล่าวเปิดนิทรรศการแทน - ณภัส และ กนกวัลย์ โฆษิตพิพัฒน์ กับภาพเจ้าพอร์ชอ.เฉลิมชัย ควงคู่ภรรยาสุดที่รัก กนกวัลย์ โฆษิตพิพัฒน์ และลูกชาย แทน - ณภัส โฆษิตพิพัฒน์ มาร่วมให้กำลังใจศิลปินที่เรียกได้ว่าอาจารย์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการตัดสายสะดือให้จัดงานนิทรรศการครั้งแรกในชีวิตครั้งนี้ นอกจากนี้ยังควักกระเป๋าซื้อรูป 2 รูป คือรูป หมารัก เจ้าพอร์ช ซึ่งเป็นหนึ่งในความสุขของภรรยาและรูป ความสุขไม่ต้องเหมือนใคร ที่ลุงเปิ้ลนำมาจัดแสดงอีกด้วยพื้นที่แสดงนิทรรศการ Happleness Solo Exhibitionร่วมเติมความสุขง่ายๆ แบบเรียบง่ายรับปีใหม่ 2567 หรือจะสะสมภาพผลงาน ‘ลุงเปิ้ล’ ได้ในนิทรรศการ Happleness Solo Exhibition ที่ชั้น 2 ห้อง 249 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก วันนี้– 14 มกราคม 2567ความสุขของ ปรางณี ไชยพิเดช (ภาพซ้าย) และ พรภัทร์ วิฑูรชาติ (ภาพขวา)ครูโต - ม.ล.จิราธร จิรประวัติลุงเปิ้ล กับ สุพรทิพย์ ช่วงรังษีวิวัฒน์, อติรุจ,จาริณี, นฑาห์แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับbangkokbiznewshttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1106952

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน ดินแดนในฝันของนักเดินทาง

29/04/2024

บ้านรักไทย เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนดอยสูงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร ในช่วงใกล้หน้าหนาวแบบนี้ หากจะถามถึงหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางอยากจะไปเยือนกันมากที่สุด หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน อยู่แน่นอน หมู่บ้านชาวไทยเชื้อสายจีนยูนนานแห่งนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำไมใครๆ ต่างก็อยากมาที่นี่ วันนี้ Sanook Travel เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับหมู่บ้านรักไทย ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ในเขตอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้คือมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลยในช่วงเช้านั้น จะมีสายหมอกที่ลอยละล่องอยู่เหนือผิวน้ำ เป็นภาพบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ซึ่งถือเป็นภาพในฝันของหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ภายในหมู่บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน จะมีทั้งที่พักและร้านอาหาร รวมถึงร้านขายของมากมาย ในสไตล์จีนยูนนาน เรียกได้ว่าเข้าไปที่นี่จะเหมือนคุณหลุดเข้าไปในเมืองจีนเลยก็ว่าได้ เป็นเสน่ห์ของหมู่บ้านรักไทยที่ทำให้หลายคนชื่นชอบกิจกรรมห้ามพลาด หากมาที่นี่ บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน ก็คือการล่องเรือไม้โบราณ ชมวิวรอบทะเลสาบ ได้เห็นภาพบรรยากาศของหมู่บ้านที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาสวยงามมากๆ ใครมาที่นี่ห้ามพลาดครับและทั้งหมดนี้ก็คือความประทับใจที่คุณจะได้พบและสัมผัสที่หมู่บ้านรักไทย ก่อนลมหนาวจะหมดไปลองหาเวลาไปสัมผัสด้วยตัวเองกันครับการเดินทาง ไปยังบ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้   •  รถส่วนตัว: บ้านรักไทยตั้งอยู่บนถนนสาย 1095 เส้นทางสายเหนือ (ไปปาย) จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนให้ขับไปตามถนนสายนี้ประมาณ 44 กิโลเมตร จนถึงแยกบ้านรักไทย ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1219 อีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านรักไทย ระยะทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ไปบ้านรักไทย ประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที   •  รถทัวร์: มีรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปแม่ฮ่องสอนหลายบริษัท เมื่อถึงแม่ฮ่องสอนแล้ว สามารถต่อรถบัสท้องถิ่นไปบ้านรักไทยได้ รถบัสจะออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง   •  แท็กซี่: แท็กซี่จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปบ้านรักไทยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที อัตราค่าโดยสารประมาณ 1,000 บาท   •  เหมารถ: นักท่องเที่ยวสามารถเหมารถจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปบ้านรักไทยได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที อัตราค่าโดยสารประมาณ 1,500 บาทบ้านรักไทย เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขา ชิมอาหารพื้นเมือง และล่องเรือชมทะเลสาบได้ บ้านรักไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนข้อมูลเพิ่มเติม  บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน ที่ตั้ง :  ตำบล หมอกจำแป่ อำเภอ เมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอนพิกัด : https://goo.gl/maps/6fpyehrWZ2eD4d6b8แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับsanookhttps://www.sanook.com/travel/1435997/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ เวลเนส ปฏิวัติการดูแลสุขภาพ เปิดตัวนวัตกรรมด้านดิจิทัลทันสมัย เสริมสร้างสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทย ตามคำมั่นสัญญาของกลุ่มบริษัทเอไอเอ Healthier, Longer, Better Lives

29/04/2024

กรุงเทพฯ, 5 มกราคม 2567 - เอไอเอ เวลเนส (AIA Wellness) ยินดีที่จะประกาศถึงความสำเร็จในการเปิดตัวนวัตกรรมด้านดิจิทัลที่ก้าวล้ำโดยมุ่งตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพที่หลากหลายของทุกคนแบบครบวงจรผ่านการพัฒนา 3 แอปพลิเคชัน คือ แอปพลิเคชัน เอ ไลฟ์ พาวเวอร์ บาย เอไอเอ (ALive Powered by AIA) แอปพลิเคชัน เอไอเอ พลัส (AIA+) และแอปพลิเคชัน เอไอเอ วัน (AIA One) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของ เอไอเอ เวลเนส และวงการสุขภาพ ในประเทศไทย นวัตกรรมด้านดิจิทัลของ เอไอเอ เวลเนส เป็นโซลูชันที่ครอบคลุมและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้บริการทางด้านสุขภาพที่เข้าใจทุกรายละเอียด ซึ่งส่วนประกอบหลักของนวัตกรรมด้านดิจิทัลนี้คือ แอปพลิเคชัน เอไอเอ พลัส เปิดให้ใช้งานเมื่อเดือนตุลาคม 2565 และแอปพลิเคชัน เอไอเอ วัน ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน ถูกก่อตั้งขึ้นโดย เอไอเอ ประเทศไทย ตามด้วยแอปพลิเคชัน เอไลฟ์ พาวเวอร์ บาย เอไอเอ ที่เปิดให้ใช้งานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยทั้ง 3 แอปพลิเคชัน ถูกพัฒนาโดย เอไอเอ เวลเนส ภายใต้ กลุ่มบริษัท เอไอเอ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการให้บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจรและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานในทุกด้าน เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของกลุ่มบริษัทเอไอเอ Healthier, Longer, Better Lives  สำหรับ เอ ไลฟ์ พาวเวอร์ บาย เอไอเอ เป็นโมบายแอปพลิเคชันครบวงจรด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่ออกแบบสำหรับทุกคน ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัว ให้คำแนะนำได้อย่างครอบคลุมในทุกช่วงเวลาของครอบครัวโดยเชื่อมกับสังคมออนไลน์ ตอบรับเทรนด์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ที่มีคุณสมบัติด้านสุขภาพที่หลากหลาย ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมเพื่อเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้าน แอปพลิเคชัน เอไอเอ วัน เป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ตัวแทนเอไอเอ สามารถเข้าถึงบริการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างตัวแทนและลูกค้า  และแอปพลิเคชัน เอไอเอ พลัส การรวมฟีเจอร์ของเอไอเอ ทั้ง เอไอเอ ไอเซอร์วิส (AIA iService) และเอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) มาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการจากเอไอเอแบบไร้รอยต่อ อาทิ บริการกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบดิจิทัล ระบบติดตามสุขภาพ รวมถึงรางวัลพิเศษสำหรับผู้ใช้งานที่มีไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น "เอไอเอ เวลเนส มีความยินดีที่จะได้แนะนำนวัตกรรมด้านดิจิทัลที่ทันสมัยของเรา ซึ่งประกอบด้วย แอปพลิเคชัน เอ ไลฟ์ พาวเวอร์ บาย เอไอเอ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับทุกเรื่องสุขภาพของผู้ใช้งาน แอปพลิเคชัน เอไอเอ วัน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างประสิทธิภาพในการสื่อสารให้ดีขึ้นระหว่างตัวแทนเอไอเอ และลูกค้า และแอปพลิเคชัน เอไอเอ พลัส ตัวช่วยสำหรับการจัดการกรมธรรม์ลูกค้าเอไอเอ ให้มีประสิทธิภาพและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้ง 3 แอปพลิเคชันนี้ นับเป็นส่วนสำคัญในภารกิจของเราในการเปลี่ยนแปลงทิศทางด้านสุขภาพ เรามีเป้าหมายที่จะให้บริการสุขภาพอย่างครอบคลุมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการที่ไม่เหมือนใคร" นายจุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ดิจิทัล โซลูชันส์ แอนด์ ดีไซน์ เอไอเอ เวลเนส กล่าวเอไอเอ เวลเนส มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมด้านสุขภาพโดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น การเปิดตัวนวัตกรรมด้านดิจิทัลนี้ถือเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของ เอไอเอ เวลเนส ที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทั่วประเทศ เพื่อเติมเต็มตามคำมั่นสัญญาของเอไอเอ “Healthier, Longer, Better Lives - เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

แค่เราพยายาม "อย่าโง่" มากกว่าที่จะ "พยายามฉลาด"

29/04/2024

วิธีที่จะร่ำรวยจากการลงทุนเพราะคนส่วนมากมักทำเรื่องโง่ๆ เราควรไปซื้อธุรกิจที่ยอดเยี่ยม เวลาคนส่วนมากตื่นตกใจแห่กันขายราคาถูกๆและไปขายคืนให้คนส่วนมากอีกที ตอนที่พวกเขาแย่งกันซื้อแพงๆในช่วงฟองสบู่ Charlie Munger กล่าวไว้  แต่ในทางปฏิบัติ มันไม่ง่ายเลย เหมือนเราจะต้องเดินทาง "ในทางสายเปลี่ยว" มันเหงา มันน่ากลัว มันไม่มีเพื่อน มันเดินเคว้งอยู่คนเดียว  ภาวะการลงทุนในตอนนี้ - กราฟระยะยาว ยังไม่สวย - พื้นฐาน ตอนนี้ไม่เเพงแต่ก็ไม่ถูก - ระยะทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล หุ้นบางตัวแค่ยืนได้ เเต่มีบางตัวยังลงต่ออีก - ดอกเบี้ย หยุดขึ้น มีเเต่ยืนกับลง - ตอนนี้หลายบริษัทต้องเตรียมหาเงิน "หุ้นกู้" เมื่อครบกำหนด บริษัทที่ดีไม่น่าห่วงอะไร แต่บริษัทที่ไม่แข็งเเรง น่าเป็นห่วงมาก - เจอเเม่ค้าขายของบ่น ไม่เคยเจอ "เศรษฐกิจ" แบบนี้ มีเเต่คนเดินไม่มีคนซื้อ เขียนมาถึงตอนนี้ สรุปเลยนะครับ ให้เอามือกอดอกอยู่นิ่งๆ เอาเรือขึ้นฝั่ง ซ่อมเเห ซ่อมอวน (อ่านหนังสือ ศึกษา เตรียมพร้อม)  รอจังหวะข้างหน้าครับ แค่เราพยายาม "อย่าโง่" มากกว่าที่จะ "พยายามฉลาด" แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับstock2morrowhttps://stock2morrow.com/article/5820

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันภัย

ต้องรู้! เปิดไส้ใน ‘ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า’ บังคับใช้แล้ว 1 ม.ค. 67

29/04/2024

เปิดไส้ในกรมธรรม์ ‘ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า’ เลขาธิการ คปภ. ลงนามคำสั่ง มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 จ่ายสินไหมแบตเตอรี่ หักค่าเสื่อมปีละ 10% วางกรอบปรับเบี้ย “ขั้นต่ำ-ขั้นสูง” ตามพฤติกรรมความเสี่ยงผู้ขับขี่ สูงสุด 40%วันที่ 2 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ลงนามคำสั่งนายทะเบียนที่ 47/2566 เรื่องให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เท่านั้น (Battery Eletric Vehicle-BEV) โดยไม่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถยนต์สันดาปเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งมีความเหมาะสมสอดคล้องกับการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีขึ้น อันจะส่งผลให้อุบัติเหตุทางถนนลดลง และเป็นประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัยและสังคมโดยรวมคำสั่งนี้ให้มีผลบังคับใช้สำหรับการทำสัญญาประกันภัยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 เป็นต้นไปชูฉัตร ประมูลผลเว้นแต่ในกรณีบริษัทยังไม่สามารถออกกรมธรรม์ประกันภัยให้เป็นไปตามคำสั่งนี้ได้ ให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เดิม ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปพลางก่อนได้ ทั้งนี้ต้องไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. 2567และในการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เท่านั้น (Battery Electric Vehicle: BEV) โดยไม่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถยนต์สันดาป ให้บริษัทใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามที่แนบท้ายคำสั่งนี้เท่านั้นในกรณีผู้เอาประกันภัยได้ทำประกันภัยรถยนต์ก่อนวันที่คำสั่งมีผลบังคับ โดยมีสิทธิได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดีตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เดิม ให้บริษัทปฏิบัติดังนี้1. กรณีผู้เอาประกันภัยทำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามคำสั่งนี้กับบริษัทเดิม ให้บริษัทคำนวณเบี้ยประกันภัยโดยให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดีตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เดิมร่วมด้วย แต่ไม่เกินลำดับขั้นส่วนลดสูงสุดตามที่กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามคำสั่งนี้กำหนด2. กรณีผู้เอาประกันภัยทำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามคำสั่งนี้กับบริษัทอื่นที่ไม่ใช่บริษัทเดิม บริษัทอาจคำนวณเบี้ยประกันภัยโดยให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดีตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เดิมร่วมด้วย แต่ไม่เกินลำดับขั้นส่วนลดสูงสุดตามที่กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามคำสั่งนี้กำหนดและในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้ทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับ บริษัทอาจกำหนดระดับพฤติกรรมการขับขี่เทียบเคียงประวัติการขับขี่ตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เดิมได้ โดยอนุโลม ทั้งนี้ต้องไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. 2567วันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า สรุปได้ดังนี้    •  ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้บริษัทประกันภัย และ คปภ. สามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่ได้ ระบุชื่อได้สูงสุด 5 คนจ่ายสินไหมแบตเตอรี่ หักค่าเสื่อมปีละ 10%กรณีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าตามปีอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ตามตารางอัตราการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ระบุไว้ข้างล่างนี้โดยการนับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เริ่มนับจากวันที่รับมอบรถยนต์จากผู้จำหน่ายรถยนต์ หรือวันที่ตามเอกสารการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายรถยนต์ แล้วแต่วันใดเกิดขึ้นก่อนผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อความคุ้มครองการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ซึ่งบริษัทต้องจัดทำเอกสารแนบท้ายแสดงความคุ้มครอง ทั้งนี้ให้ใช้สำหรับกรมธรรม์ประกันภัย ประเภท 1 หรือประเภท 2 หรือประเภท 3 เท่านั้นในกรณีมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในระหว่างระยะเวลาประกันภัย(1) กรณีรถยนต์ได้รับความเสียหายและบริษัทมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ใหม่ บริษัทต้องแจ้งให้ผู้เอาประกันภัยทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ และยินยอมให้ผู้เอาประกันภัยใช้สิทธิ(1.1) ปรับเพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยตามมูลค่ารถยนต์และมูลค่าของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนใหม่ และบริษัทจะให้ความคุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่เปลี่ยนใหม่เมื่อผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นแล้ว โดยบริษัทจะออกเอกสารแนบท้ายเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินเอาประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัย หรือ(1.2) สละสิทธิไม่ปรับเพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยตามมูลค่าของรถยนต์และมูลค่าของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนใหม่ และบริษัทจะให้ความคุ้มครองเป็นไปตามจำนวนเงินเอาประกันภัยและตามปีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเดิมก่อนการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ตามตารางอัตราการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าข้างต้นทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งการใช้สิทธิให้บริษัททราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากบริษัท ในระหว่าง 30 วันนั้น หากมีเหตุเกิดขึ้นบริษัทจะให้ความคุ้มครองตาม (1.1) โดยผู้เอาประกันภัยต้องชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่ม เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยจะเลือกความคุ้มครองตาม (1.2)ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่แจ้งขอใช้สิทธิภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้เอาประกันภัยประสงค์จะได้รับความคุ้มครอง เป็นไปตามจำนวนเงินเอาประกันภัยและตามปีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเดิมก่อนการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ตามตารางอัตราการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าข้างต้น(2) กรณีผู้เอาประกันภัยเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ บริษัทจะให้ความคุ้มครองตามมูลค่าของรถยนต์ และมูลค่าของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนใหม่ เมื่อผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบถึงความประสงค์ในการปรับเพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยตามมูลค่าของรถยนต์และมูลค่าของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนใหม่และชำระเบี้ยประกันภัยตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นก่อนเกิดความเสียหายต่อแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยบริษัทจะออกเอกสารแนบท้ายเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินเอาประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยทั้งนี้ หากผู้เอาประกันภัยไม่แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบและไม่ชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติม ให้ถือว่าผู้เอาประกันภัยประสงค์ได้รับความคุ้มครองเป็นไปตามจำนวนเงินเอาประกันภัยและตามปีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเดิมก่อนการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าตามตารางอัตราการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและในกรณีที่มีความจำเป็นต้องสั่งอะไหล่จากต่างประเทศ บริษัทรับผิดไม่เกินกว่าราคานำเข้าที่ส่งมาทางเรือลดเบี้ยประวัติดี ได้สูงสุด 40%1. การลดเบี้ยประกันภัยประวัติดีสำหรับลักษณะการใช้ส่วนบุคคล ในกรณีผู้เอาประกันภัยมีรถยนต์เอาประกันภัยไว้กับบริษัท บริษัทจะลดเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยเป็นลำดับขั้นดังนี้    •  ขั้นที่ 1 : 20% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท ในการประกันภัยปีแรก    •  ขั้นที่ 2 : 30% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท ในการประกันภัย 2 ปีติดต่อกัน หรือกว่านั้น    •  ขั้นที่ 3 : 40% ของอัตราเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ ในกรณีมีค่าเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นต่อบริษัท 3 ปีติดต่อกัน หรือกว่านั้น2. การลดเบี้ยประกันภัยประวัติดีสำหรับลักษณะการใช้อื่น ๆ นอกเหนือจากการใช้ส่วนบุคคล ในกรณีผู้เอาประกันภัยได้ต่ออายุการประกันภัยกับบริษัท บริษัทจะลดเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยเป็นลำดับขั้นดังนี้    •  ขั้นที่ 1 : 20% ของเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท ในการประกันภัยปีแรก    •  ขั้นที่ 2 : 30% ของเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท ในการประกันภัย 2 ปีติดต่อกัน    •  ขั้นที่ 3 : 40% ของเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท ในการประกันภัย 3 ปีติดต่อกัน    •  ขั้นที่ 4 : 50% ของเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท ในการประกันภัย 4 ปีติดต่อกัน หรือกว่านั้นทั้งนี้ บริษัทจะลดเบี้ยประกันภัยให้ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยได้ต่ออายุการประกันภัยกับบริษัท และเฉพาะข้อตกลงคุ้มครองที่ต่ออายุเท่านั้นสำหรับคำว่า “รถยนต์คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย” ให้หมายความรวมถึงรถยนต์คันที่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ค่าเสียหายนั้นเกิดจากความประมาทของบุคคลภายนอกและรู้ตัวผู้ต้องรับผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีผลทำให้บริษัทมีสิทธิที่จะเรียกค่าเสียหายที่บริษัทได้จ่ายไปคืนจากบุคคลภายนอกได้หากในระหว่างปีกรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัทแล้ว ในการต่ออายุการประกันภัยปีต่อไป บริษัทจะลดเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยดังนี้    •  ลดลงหนึ่งลำดับขั้นจากเดิม หากการเรียกร้องนั้นเกิดจากความประมาทของรถยนต์คันเอาประกันภัยหรือผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้    •  ลดลงสองลำดับขั้นจากเดิมแต่ไม่เกินอัตราปกติ หากมีการเรียกร้องที่รถยนต์คันเอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท หรือไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป รวมกันมีจำนวนเงินเกิน 200% ของเบี้ยประกันภัยกรณีผู้เอาประกันภัยทำประกันภัยกับผู้รับประกันภัยอื่น และมาต่ออายุการประกันภัยกับบริษัท บริษัทจะนำเงื่อนไขข้อ 1 และ 2 มาใช้บังคับโดยอนุโลมก็ได้เพิ่มเบี้ยประวัติไม่ดี ได้สูงสุด 40%1.การเพิ่มเบี้ยประกันภัยประวัติไม่ดีสำหรับลักษณะการใช้ส่วนบุคคล ในกรณีผู้เอาประกันภัยมีรถยนต์เอาประกันภัยไว้กับบริษัท และมีการเรียกร้องค่าเสียหายระหว่างปีที่เอาประกันภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุซึ่งรถยนต์คันที่เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท หรือไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ อย่างน้อยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไปรวมกันมีจำนวนเงินเกิน 200% ของเบี้ยประกันภัย บริษัทจะเพิ่มเบี้ยประกันภัยเป็นขั้น ๆ ดังนี้    •  ขั้นที่ 1 : 20% ของอัตราเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ    •  ขั้นที่ 2 : 30% ของอัตราเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ ในกรณีมีค่าเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นต่อบริษัท 2 ปีติดต่อกัน หรือกว่านั้น    •  ขั้นที่ 3 : 40% ของอัตราเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ ในกรณีมีค่าเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นต่อบริษัท 3 ปีติดต่อกัน หรือกว่านั้น2. การเพิ่มเบี้ยประกันภัยประวัติไม่ดี สำหรับลักษณะการใช้อื่น ๆ นอกเหนือจากการใช้ส่วนบุคคล ในกรณีผู้เอาประกันภัยมีรถยนต์เอาประกันภัยไว้กับบริษัท และมีการเรียกร้องค่าเสียหายระหว่างปีที่เอาประกันภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุซึ่งรถยนต์คันที่เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาทหรือไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ อย่างน้อยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไปรวมกันมีจำนวนเงินเกิน 200% ของเบี้ยประกันภัย บริษัทจะเพิ่มเบี้ยประกันภัยเป็นขั้น ๆ ดังนี้    •  ขั้นที่ 1 : 20% ของอัตราเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ    •  ขั้นที่ 2 : 30% ของอัตราเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ ในกรณีมีค่าเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นต่อบริษัท 2 ปีติดต่อกัน    •  ขั้นที่ 3 : 40% ของอัตราเบี้ยประกันภัย ในปีที่ต่ออายุ ในกรณีมีค่าเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นต่อบริษัท 3 ปีติดต่อกัน    •  ขั้นที่ 4 : 50% ของอัตราเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ ในกรณีมีค่าเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นต่อบริษัท 4 ปีติดต่อกัน หรือกว่านั้นในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยถูกเพิ่มเบี้ยประกันภัยประวัติไม่ดีไม่ว่าลำดับขั้นใด และในปีกรมธรรม์ประกันภัยนั้นมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ที่รถยนต์คันเอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท หรือไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ไม่ถึง 2 ครั้ง หรือถึง 2 ครั้ง แต่มีค่าเสียหายไม่เกิน 200% ของเบี้ยประกันภัยแล้ว ในการต่ออายุการประกันภัยบริษัทจะใช้เบี้ยประกันภัยในลำดับขั้นเดิม เช่นในปีที่ผ่านมา แต่หากไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือมีการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดจากความประมาทของรถยนต์คันเอาประกันภัย และผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้แล้ว ในการต่ออายุการประกันภัยในปีต่อไป บริษัทจะใช้เบี้ยประกันภัยในอัตราปกติกรมธรรม์ไม่คุ้มครองอะไรบ้างกรมธรรม์ประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองความเสียหาย หรือความเสียหายต่อเนื่อง อันเป็นผลโดยตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งเกิดขึ้นจากการถูกทำลาย หรือการถูกลบ จากปัจจัยภายนอก (Cyber Breach) ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ผลิตรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อนั้นส่งผลให้เกิดความผิดปกติหรือขัดข้องของคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือระบบปฏิบัติการที่ใช้ควบคุมการทำงานของรถยนต์ (Software) ได้แก่ การขับเคลื่อนรถ การหยุดรถอัตโนมัติ และการควบคุมการทำงานในส่วนต่าง ๆ การปฏิเสธไม่คุ้มครองตามข้อยกเว้น บริษัทจะต้องมีหลักฐานการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญ หรือหน่วยงานที่ได้รับการรับรองส่วนกรณีรถยนต์สูญหาย บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ไม่รวมการสูญหายจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง และกรณีรถยนต์ไฟไหม้บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสาเหตุใด ๆ ก็ตามแต่ไม่คุ้มครองความสูญหายหรือไฟไหม้ของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับไฟไหม้อันเป็นผลจากการซ่อมหรือการดัดแปลงสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความคุ้มครองก็ต่อเมื่อเป็นการซ่อมหรือการดัดแปลงที่ได้ดำเนินการโดยช่างของผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อนั้น หรือช่างที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการซ่อมจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือช่างที่ได้รับความยินยอมจากบริษัทความเสียหายส่วนแรกส่วนเงื่อนไขของความเสียหายส่วนแรก ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง แบ่งเป็นค่าเสียหายส่วนแรก ที่เกิดขึ้นจากความตกลงระหว่างบริษัทกับผู้เอาประกันภัย โดยอาจตกลงให้ผู้เอาประกันภัยรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก สำหรับความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์หรือความเสียหายส่วนแรก สำหรับความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งในกรณีนี้บริษัทจะต้องลดเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย ดังนี้(1) ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์    •  5,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 100% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก    •  ส่วนที่เกิน 5,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 10% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก2) ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความคุ้มครองความเสียหายต่อรถจักรยานยนต์    •  1,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 100% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก    •  ส่วนที่เกิน 1,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 20% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก(3) ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก    •  5,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 10% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก    •  ส่วนเกิน 5,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 1% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรกความเสียหายส่วนแรก เนื่องจากผู้เอาประกันภัยผิดสัญญา เช่น รถยนต์คันเอาประกันภัยไปเกิดความเสียหาย ในขณะที่มีบุคคลอื่นซึ่งมิใช่บุคคลที่ระบุชื่อในกรมธรรม์ประกันภัยเป็นผู้ขับขี่ เป็นต้นความเสียหายส่วนแรกสำหรับกรณีที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย เช่น กำหนดให้ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง จำนวน 1,000 บาทแรกของความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือกรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นต้นเปิดช่องซื้อคุ้มครองเพิ่ม ‘เครื่องชาร์จรถอีวี’สำหรับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล เป็นที่ตกลงกันว่ากรมธรรม์ประกันภัยนี้ได้มีการขยายเพิ่มเติมเอกสารแนบท้ายดังต่อไปนี้บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลอันเกิดจากอุบัติเหตุ ขณะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทและผู้เอาประกันภัยอาจตกลงกันให้มีการเปลี่ยนเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล ซึ่งมีสภาพเดียวกันแทนได้หรือจะชดใช้เงินเพื่อทดแทนความเสียหายนั้นก็ได้ ความคุ้มครองเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลจะมีขึ้นต่อเมื่อได้รับการติดตั้งตามมาตรฐานการติดตั้งความรับผิดชอบของบริษัท จะมีไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ทั้งนี้จะไม่คุ้มครองการใช้งานในทางที่ผิดหรือการใช้งานที่ขัดต่อคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้จัดจำหน่ายรถยนต์หรือผู้ผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าการเปลี่ยนแปลง แก้ไข ซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาใด ๆ ที่ขัดต่อคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าหรือผู้ผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าข้อบกพร่องในการผลิตหรือการออกแบบที่ผิดพลาดโดยผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้ผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าการอัปเดตซอฟต์แวร์ทางออนไลน์ หรือทางออฟไลน์ ที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากทางผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้จัดจำหน่ายรถยนต์หรือผู้ผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าความล้มเหลวในการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือการอัปเดตที่เกี่ยวข้องกับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน หรือซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยอื่น ตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้จัดจำหน่ายรถยนต์หรือผู้ผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอัตราเบี้ย ขั้นต่ำ-ขั้นสูงอัตราเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะวางอยู่ในกรอบ “เบี้ยประกันภัยพื้นฐานขั้นต่ำ-ขั้นสูง” ดังตารางด้านล่างรหัส E11 คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รหัส E12 คือ รถยนต์นั่งเพื่อการพาณิชย์ตัวอย่างที่ 1 การคำนวณเบี้ยประกันภัย นาย ก. ต้องการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 กับบริษัท A ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีรายละเอียดดังนี้ราคารถยนต์ใหม่ 1,500,000 บาท ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 175 แรงม้า ลักษณะการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล กำหนดผู้ขับขี่ 2 ราย ซึ่งเป็นคนเดิมตั้งแต่ปีแรกที่ทำประกันภัยคือ นาย ก. และ นาย ข. ใน 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการเรียกร้องให้บริษัทจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากผู้ขับขี่รายใด วันที่จดทะเบียนรถยนต์ 31 ตุลาคม 2567 รายละเอียดที่ขอทำประกันภัยมีดังนี้– ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก จำนวน 1,000,000 บาท/คน และ 10,000,000 บาท/ครั้ง– ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก จำนวน 1,000,000 บาท/ครั้ง– ความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์จำนวน 880,000 บาท– ความคุ้มครองความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์จำนวน 880,000 บาท– ความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 7 คน จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท/คน– ความคุ้มครองประกันภัยค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรวม 7 คน จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท/คน– ความคุ้มครองประกันตัวผู้ขับขี่ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท– ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย 1,000 บาท สำหรับความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 1,000 บาททั้งนี้ตามตัวอย่างข้างต้น บริษัทสามารถเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยได้ตั้งแต่จำนวน 11,786.72 บาท ถึงจำนวน 23,170.26 บาท (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)ตัวอย่างที่ 2 นาย ก. ต้องการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ตามข้อมูลแบบเดียวกันกับตัวอย่างที่ 1 แต่ในปีที่ 3 นาย ก. มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน 3 ครั้ง แต่ไม่เกิน 200% โดย นาย ก. เป็นฝ่ายประมาทบริษัทสามารถเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยได้ตั้งแต่ 19,615.62 บาท ถึงจำนวน 37,800.19 บาท (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)ตัวอย่างที่ 3 นาย ก. ต้องการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ตามข้อมูลแบบเดียวกันกับตัวอย่างที่ 1 แต่ในการต่ออายุปีที่ 3 ได้มีการเปลี่ยนชื่อผู้ขับขี่จากนาย ข. เป็น นาย ค. โดย นาย ค. นั้น ไม่เคยทำประกันภัยรถยนต์คันใดมาก่อนบริษัทสามารถเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยได้ตั้งแต่ 17,163.67 บาท ถึงจำนวน 33,075.17 บาท (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)ตัวอย่างที่ 4 นาย ก. ต้องการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ตามข้อมูลแบบเดียวกันกับตัวอย่างที่ 1 แต่ทั้งนาย ก. และ นาย ข. มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนระหว่างปีที่ทำประกันภัยทุกปี รวมเกิน 2 ครั้ง และมีอตราค่าสินไหมทดแทนเกิน 200% ทุกปี– ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก จำนวน 1,000,000 บาท/คน และ 10,000,000 บาท/ครั้ง– ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก จำนวน 874,800 บาท/ครั้ง– ความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์จำนวน 874,800 บาท– ความคุ้มครองความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์จำนวน 874,800 บาท– ความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 7 คน จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท/คน– ความคุ้มครองประกันภัยค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรวม 7 คน จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท/คน– ความคุ้มครองประกันตัวผู้ขับขี่ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท– ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย 1,000 บาท สำหรับความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 1,000 บาททั้งนี้ตามตัวอย่างข้างต้น บริษัทสามารถเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยได้ตั้งแต่จำนวน 31,875.39 บาท ถึงจำนวน 61,425.31 บาท (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)ตัวอย่างที่ 5 นาย ก. ทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 กับบริษัท A มาแล้ว 3 ปี ต้องการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ปีที่ 4 กับบริษัท B ซึ่งใน 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการเรียกร้องให้บริษัทจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากผู้ขับขี่รายใด ข้อมูลความคุ้มครองแบบเดียวกันกับตัวอย่างที่ 1ทั้งนี้ตามตัวอย่างข้างต้น บริษัทสามารถเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยได้ตั้งแต่จำนวน 11,786.72 บาท ถึงจำนวน 23,170.26 บาท (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1468589

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

นิค แมคเกรท พาชมเสน่ห์ของไชน่าทาวน์ผ่านเลนส์ ในนิทรรศภาพถ่าย

29/04/2024

โรงแรมอาศัย กรุงเทพ ไชน่าทาวน์ ร่วมกับ NMCPHOTO จัดนิทรรศการ ‘Through the Lens of a Local: Chinatown Chronicles’ โดยไม่เสียค่าเข้าชม นำเสนอภาพถ่ายย่านไชน่าทาวน์โดยช่างภาพชาวออสเตรเลียชื่อดัง นิค แมคเกรท (Nick McGrath) ที่จะพาชมเสน่ห์ของไชน่าทาวน์ผ่านเลนส์ในมุมที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ในวันที่ 27 มกราคม 2567 เวลา 17.00 น. ถึง 20.00 น. ที่ลานกิจกรรมของโรงแรมบริเวณชั้น 4ภายในงานจะได้พบกับนิทรรศการภาพถ่ายย่านไชน่าทาวน์ นำเสนอภาพของตลาดที่พลุกพล่าน ตรอกซอกซอย และรายละเอียดมุมมองผ่านเลนส์ที่จะสะกดสายตาด้วยความสวยงามแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของย่านนี้ และการบรรยายของนิคถึงแรงบันดาลใจในการสร้างแต่ละชิ้นงาน พร้อมอิ่มอร่อยกับของว่างและเครื่องดื่มนิคมีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพมากกว่า 14 ปี ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ในปี 2554 เคยทำงานร่วมกับนิตยสาร Asia Life และ Getty News Images มีผลงานตีพิมพ์ในนิตยสาร Time, Huffington Post, The Daily Mail และ The Washington Post โดยในปี 2555 นิคได้ปรับปรุงอาคารพาณิชย์อายุนับร้อยปีในไชน่าทาวน์ และกลายมาเป็นสมาชิกของวงการศิลปะเชิงสร้างสรรค์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพื้นที่ศิลปะชุมชน Cho Why ซึ่งในปี 2557 เขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบาร์และร้านกาแฟทันสมัยในพื้นที่ นิคเป็นผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาชุมชนวัฒนธรรม เขาเชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องมีรากฐานมาจากชุมชนที่เข้มแข็ง นอกจากนี้เขายังทำงานร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนและมูลนิธิการกุศล รวมถึงมูลนิธิสติ ผลงานบางส่วนของเขาจะแสดงและขายที่โรงแรมอาศัย กรุงเทพ ไชน่าทาวน์ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้มูลนิธิสติสามารถเข้าชมนิทรรศการได้โดยไม่เสียค่าเข้าชม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานได้ที่: https://fb.me/e/1hSesAzadโรงแรมอาศัย กรุงเทพ ไชน่าทาวน์ ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง ใกล้ MRT สถานีวัดมังกร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ asaihotels.com หรือโทร 02 220 8999แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000000381

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

'ภูหินร่องกล้า' คึกคัก! นทท.แห่เช็กอิน ชม 'ใบเมเปิล' เปลี่ยนสีแดงสดสวยงาม

29/04/2024

สุดฟิน! หนาวนี้นักท่องเที่ยวแห่ชม 'ใบเมเปิล' เปลี่ยนเป็นสีแดงสดสวยงาม ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลกวันที่ 4 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้นเมเปิล หรือ ต้นก่วมแดง ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ขณะนี้กำลังผลัดใบจากสีเขียวเป็นสีแดงสดสวยงาม บนเส้นทางจากที่ทำการอุทยานฯไปยัง บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมันแดง โดยตลอดสายทางอุทยานฯได้ทำป้ายจุดชมเมเปิลไว้ตลอดสาย การเดินทางไม่ลำบาก จอดรถและสามารถเดินลงไปชมได้เลยโดยวันนี้ได้พาไปชมต้นเมเปิลในป่าธรรมชาติหลายร้อยต้น สูงใหญ่ บางต้นอายุนับร้อยปี กำลังผลัดใบเป็นสีแดงและร่วงหล่นเต็มพื้น นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เดินทางมาเที่ยวชมใบเมเปิล ที่กำลังผลัดใบเป็นสีแดงสดแล้วร่วงหล่นลงพื้นจนเป็นสีแดงสวยงามเหมือนพรมแดง ทำให้นักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวต่างพาครอบครัวและเพื่อนมาเที่ยวชมและถ่ายภาพกันจำนวนมาก โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์แล้วจะแห้งเหี่ยวไปตามธรรมชาติส่วนจุดไฮไลท์บริเวณโรงเรียนการเมืองการทหาร ต้นเมเปิลยังไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง คาดว่าในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้จะเริ่มเปลี่ยนสี สามารถขึ้นไปถ่ายภาพเมเปิลเปลี่ยนสีกันได้ และหมดฤดูของเมเปิลก็สามารถไปต่อเนื่องกับการชมซากุระบานที่ยอดเขาภูลมโลนายลำยอง ศรีเสวต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กล่าวว่า ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทางกระทรวงเองได้มีการดำเนินงานเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวในห้วงฤดูหนาว ซึ่งอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเองก็เป็นอีก 1 เป้าหมายในการท่องเที่ยวในฤดูหนาว เพราะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นสบายตลอดทั้งปีโดยไฮไลน์สำคัญคือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ณ ขณะนี้ต้นเมเปิลของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าใบเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดงส้มอย่างสวยงามแล้ว ช่วงพีคสุดของใบเมเปิลคาดว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นก็คาดว่าจะเป็นฤดูกาลของการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง บนยอดเขาภูลมโล ซึ่งเป็นยอดเขามีมีต้นนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่เกือบ 2,000 ไร่ คาดว่าจะเริ่มผลิบานและสามารถให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมเป็นต้นไปจึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ด้วยศักยภาพของเราค่อนข้างพร้อม เรามีทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านอาหาร ที่รายล้อมได้ด้วยสภาพธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งต้นเมเปิลและทุ่งนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแนวนี้ก็สามารถเดินทางมาได้ทุกวัน ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าสำหรับ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีพื้นที่ครอบคลุมรอยต่อ 3 จังหวัด คือ เลย , เพชรบูรณ์ และ พิษณุโลก ภูหินร่องกล้าเป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนานเป็นวีรกรรมของนักรบไทย ความขัดแย้งของลัทธิและแนวความคิดที่นำไปสู่ความสูญเสียเลือด ชีวิตและน้ำตา ภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตจะถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ หรือ 307 ตารางกิโลเมตร มีจุดท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผาชูธง ลานหินปุ่ม ลานหินแตก โรงเรียนการเมืองการทหาร น้ำตกหมันแดง เป็นต้น โดยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าแต่ละปีไม่ต่ำกว่าหมื่นคนแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1106793

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X