ข่าวการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศ แนะ 4 ข้อสังเกตก่อนกู้เงินออนไลน์
ก่อนตกเป็นเหยื่อ หวั่นมิจฉาชีพ-กู้นอกระบบคิดดอกเบี้ย/ตามหนี้โหด
หวังปิดช่องโหว่เพื่อป้องกันภัยการเงิน
วันที่ 11 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่า
การกู้เงินในยุคปัจจุบันทำได้ง่ายและรวดเร็วผ่านมือถือโดยไม่ต้องออกจากบ้านให้ยุ่งยาก
แต่สิ่งที่ยากสำหรับผู้กู้คือ
จะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือผู้ให้กู้ที่ไม่คิดดอกเบี้ยหรือทวงถามหนี้โหด
หรือไม่ใช่มิจฉาชีพที่จะมาหลอกเอาเงินเราไป
และยิ่งหากได้รับ “SMS” หรือมีคน “โทรศัพท์” หรือ “แอดไลน์” (add Line)
มาแล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือหน่วยงานภาครัฐ
หรือบริษัทที่จะให้เงินกู้หรือให้เงินช่วยเหลือ
อย่ารีบกดลิงก์หรือกรอกข้อมูล ควรเช็กให้ชัวร์ก่อน
จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบหรือหลอกลวง โดยมีวิธีสังเกต ดังนี้
1. แยกแยะผู้ให้เงินกู้
ลองมาดูว่าผู้ให้บริการ 3 แห่งด้านล่างนี้ ใครคือผู้ให้กู้ในระบบ ผู้ให้กู้นอกระบบ และมิจฉาชีพ
• ผู้ให้กู้ในระบบหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต (แอป A) จะให้เงินกู้เราเต็มจำนวน และอัตราดอกเบี้ยไม่เกินที่ทางการกำหนด
• ผู้ให้กู้นอกระบบ (แอป B) มักให้เงินกู้ไม่เต็มจำนวน
ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน
แต่เมื่อคืนเงินกู้ต้องจ่ายเต็มจำนวนบวกกับดอกเบี้ยหรือค่าปรับที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด
หากจ่ายช้าจะถูกข่มขู่
หรือไปทวงกับบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในโทรศัพท์ของผู้กู้ ทำให้อับอาย
เพราะผู้ให้กู้นอกระบบบางรายจะให้ผู้กู้ดาวน์โหลดแอปซึ่งให้คลิกอนุญาตเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ
• แอปเงินกู้ปลอม ที่ไม่ได้ให้เงินกู้ (แอป C) โดยจะใช้วิธีการต่าง ๆ
เช่น โฆษณาบนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ส่ง SMS หรือแม้แต่โทร.หาโดยตรง
หากผู้ที่ได้รับการติดต่อสนใจ มิจฉาชีพก็จะส่ง SMS
มาให้คลิกลิงก์เพื่อดาวน์โหลดแอป หรือให้แอดไลน์คุยกัน
จากนั้นจะสอบถามข้อมูลส่วนตัว ให้ทำสัญญาเงินกู้ และขอเอกสาร เช่น
สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีเงินฝาก คล้ายกับการขอกู้ที่ธนาคาร
ทำให้เหยื่อเริ่มเชื่อใจ
จากนั้นจะโน้มน้าวให้โอนเงินเป็นค่าค้ำประกัน
โดยบอกว่าจะคืนให้พร้อมกับเงินกู้ หากหลงกลก็จะหลอกล่อให้โอนเพิ่มอีกเรื่อย
ๆ เช่น อ้างว่าโอนเงินไม่ได้เพราะเหยื่อกรอกเลขที่บัญชีผิด
มีค่าใช้จ่ายในการแก้ไขเอกสารเพื่อปลดล็อก
หรือต้องจ่ายค่าลัดคิวจึงจะได้เงินเร็วขึ้น
หากเหยื่อเริ่มรู้ทันก็จะถูกบล็อก ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้อีก
2. ไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งคลิก
หากลองแยกแยะแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าจะใช่ผู้ให้กู้ในระบบหรือเปล่า ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนใช้บริการ ดังนี้
• ตรวจสอบรายชื่อแอปและชื่อผู้ให้บริการ
นำข้อมูลชื่อแอปและชื่อผู้ให้บริการไปเทียบกับรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต
โดยสามารถหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ
“เช็กแอปเงินกู้”
ที่รวบรวมรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตในส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแล
และยังมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์กระทรวงการคลัง
ซึ่งรวบรวมรายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ไว้ในที่เดียว
• ติดต่อสอบถามตามที่อยู่/เบอร์โทรศัพท์ที่ได้จากข้อ 1)
เพราะบางครั้งมิจฉาชีพหรือแอปเงินกู้นอกระบบจะตั้งชื่อแอปคล้ายคลึงกับผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต
หรือสวมรอยเป็นผู้ได้รับอนุญาต
เราจึงควรสอบถามหรือหาข้อมูลด้วยตัวเองจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
ว่าเป็นแอปของผู้ให้บริการจริงหรือไม่
3. เลือกแหล่งดาวน์โหลดแอปที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และไม่ใช้โทรศัพท์มือถือที่ถูก jail break ในการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อป้องกันภัยจากมัลแวร์
4. อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนกู้
ไม่รีบกู้จนลืมดูรายละเอียดที่จำเป็น เช่น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา
และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืน ที่สำคัญ
ต้องคำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระของเราโดยควรกู้เท่าที่จำเป็น
และรวมภาระผ่อนชำระหนี้ทุกก้อนของเราต่อเดือนไม่ควรเกิน 1 ใน 3
ของรายได้ต่อเดือน เพื่อไม่เกินกว่าที่เราจ่ายคืนได้
การปราบปรามและควบคุมดูแลเงินกู้นอกระบบและมิจฉาชีพเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการปิดช่องโหว่เพื่อป้องกันภัยการเงิน
ขณะเดียวกันการป้องกันตนเองที่ดีที่สุดคือการติดตามข่าวสารการเตือนภัยสม่ำเสมอเพื่อให้รู้เท่าทัน
เช่น เพจเตือนภัยออนไลน์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ที่สำคัญต้องไตร่ตรองด้วยเหตุและผล
หากไม่แน่ใจให้สอบถามข้อมูลจากหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้องก่อน
ก็จะช่วยให้เราใช้บริการออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย
หากโอนเงินไปให้มิจฉาชีพแล้ว ให้รีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจหรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com
08/05/2024
30/04/2024
05/09/2024
30/04/2024
30/04/2024