ภาษี
6 กลยุทธ์ในการวางแผนภาษี
ทุกคนทำงานหนักก็อยากจะได้ผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่สิ่งที่หลีกหนี้ไม่ได้นั่นก็คือการที่จะต้องเสียภาษี
การวางแผนเรื่องภาษีจึงเป็นเรื่องสำคัญ เรามาทำความเข้าใจกับ 6
กลยุทธ์ในการการวางแผนภาษี เพื่อช่วยประหยัดภาษีกัน มีอะไรบ้าง
กว่าจะได้รายได้มา มักจะต้องลงทุนลงแรงไปพอสมควร ครั้นเมื่อได้มาแล้ว
ก็ใช่ว่าเงินนั้นจะเข้ากระเป๋าเราทั้งหมด
เพราะมีบางส่วนที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย แต่จะทำอย่างไร ที่จะเสียภาษีน้อยๆ
โดยไม่ผิดกฎหมาย
วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับ 6 กลยุทธ์ในการวางแผนภาษี ตามหลักการของการวางแผนการเงิน แต่ก่อนที่จะไปดูว่ามีกลยุทธ์อะไรบ้างที่ช่วยประหยัดภาษีได้ มาดูกันก่อนว่าภาษีคำนวณมาจากอะไร
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คำนวณมาจาก รายได้หรือเงินได้พึงประเมิน
หักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน เงินบริจาค เหลือเป็น เงินได้สุทธิ
แล้วนำเงินได้สุทธิมาคำนวณภาษีตามอัตราภาษีก้าวหน้าของเงินได้บุคคลธรรมดา
ถ้าเรามีตัวเลขที่เป็นเงินได้พึงประเมินน้อย หรือ หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนได้มาก เงินได้สุทธิจะลดลง เราก็จะเสียภาษีน้อยลง
กลยุทธ์ในการวางแผนภาษี มีดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1 : การกระจายหน่วยภาษี และ การกระจายรายได้
ถ้าเราสามารถกระจายหน่วยภาษี หรือกระจายรายได้ ฐานเงินได้ที่นำไปคำนวณภาษีก็จะลดลง ภาษีก็จะน้อยลง
กลยุทธ์ที่ 2: การแปลงประเภทเงินได้ เพื่อหักค่าใช้จ่าย
รายได้บางประเภทอาจจะมีเพดานของการหักค่าใช้จ่าย ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
บางประเภทอาจจะหักค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 30% หรือ 60% โดยไม่มีเพดานกำหนด
ถ้าเราเลือกรับเงินได้เป็นประเภทที่หักค่าใช้จ่ายได้มาก
เราก็จะเสียภาษีน้อยลง
กลยุทธ์ที่ 3: การลดเงินได้สุทธิ
เราสามารถทำให้เงินได้สุทธิลดลง โดยการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี
ซึ่งปัจจุบันมีรายการลดหย่อนมากมาย บางรายการเป็นสิทธิ์ที่ได้รับอยู่แล้ว
บางรายการสามารถทำได้โดยการย้ายเงินจากแหล่งอื่นมาออมหรือลงทุน
เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น การลงทุนในกองทุนรวม SSF RMF
การทำประกันชีวิต ประกันบำนาญ ฯลฯ ถ้าเราใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ตามความเหมาะสม
ก็จะทำให้เงินได้สุทธิลดลง และประหยัดภาษีได้
กลยุทธ์ที่ 4: การบริหารเงินได้จากแหล่งนอกประเทศ
กรณีมีการรับเงินได้จากแหล่งภายนอกประเทศในปีภาษีใด
ถ้าเราไม่นำเงินที่ได้รับเข้ามาในประเทศในปีเดียวกัน
หรืออยู่ในเมืองไทยน้อยกว่า 180 วัน ในปีนั้น
เงินได้ส่วนนั้นก็ไม่ต้องเสียภาษีในประเทศไทย
กลยุทธ์ที่ 5: การกำหนดเวลาการรับเงินได้
หากจะมีรายได้ก้อนใหญ่เข้ามาในปีใดปีหนึ่ง หรือมีรายได้ช่วงปลายปีจำนวนมาก
เราอาจจะขอทยอยการรับรายได้เป็นปีถัดไป หรือทยอยการรับเงินได้เป็นงวดๆ
เพื่อให้ฐานเงินได้ที่นำไปคำนวณภาษีลดลง ภาษีก็จะน้อยลง
กลยุทธ์ที่ 6: การเลือกรวม หรือไม่รวมภาษีปลายปี
เงินได้บางประเภท เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล
สามารถเลือกที่จะนำมารวมหรือไม่รวมคำนวณภาษีปลายปี โดยใช้สิทธิ์ภาษีสุดท้าย
(Final Tax) หรือ หักภาษี ณ ที่จ่าย ตอนที่ได้รับเงินแล้วจบ
ไม่ต้องนำเงินได้นั้นมารวมคำนวณในการยื่นภาษีปลายปีก็ได้
เราอาจจะต้องลองคำนวณเปรียบเทียบดูว่า
ระหว่างการนำเงินได้นั้นมารวมคำนวณยื่นภาษีปลายปี
แล้วนำภาษีที่ถูกหักไปมาเครดิตภาษีออก
เทียบกับการไม่นำเงินได้นั้นมารวมคำนวณตอนปลายปี
อย่างไหนจะทำให้เสียภาษีน้อยกว่ากัน ก็เลือกวิธีนั้น
ถ้าเราเลือกกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้ให้เหมาะสม
เราก็จะเสียภาษีอย่างประหยัดและถูกต้อง ทำให้เหลือเงินเข้ากระเป๋ามากขึ้น
หรือสามารถนำเงินไปออมหรือลงทุน
เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งในอนาคตได้มากขึ้น
ที่มา: หลักสูตร CFP Module 5 การวางแผนภาษีและมรดก
สมาคมนักวางแผนการเงินไทย www.tfpa.or.th
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับฐานเศรษฐกิจ
https://www.thansettakij.com/finance/financial-banking/572134
X