ท่องเที่ยว
SUPscribe Chanthaburi พายซับไปหลงรักธรรมชาติ วิถีเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ที่คลองบางกะจะ
เสียงเพรียกแห่ง “คลองบางกะจะ” กระซิบกระซาบผู้มาเยือนให้รับรู้ว่า ภายในผืนน้ำที่โอบอิ่มไปด้วยป่าชายเลนโบราณอายุนับร้อยปีมีความงามซุกซ่อนให้ออกไปค้นหาอีกมากมาย
แต่วิธีที่ดีที่สุดจะเข้าไปสัมผัสความเร้นลับของธรรมชาติงามพิสุทธิ์ ก็ควรตระหนักด้วยการอนุรักษ์ที่ปราศจากการรบกวนสรรพสิ่งในพงไพร ซึ่งคนกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ก็ค้นพบวิถีการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน นั่นคือ “การพายซับบอร์ด” จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวพายซับแนะนำ โดย ททท.สำนักงานจันทบุรี
รู้จัก “บางกะจะ”
“บางกะจะ” เป็นชื่อตำบลในอำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ในเรื่องการท่องเที่ยวนั้นคนส่วนมากที่เดินทางมาเยือน นิยมปักหมุดหมายไปที่ “วัดพลับ บางกะจะ” วัดเก่าแก่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ราว พ.ศ. 2300 ซึ่งได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นสถานที่ที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ใช้พักไพร่พลก่อนจะเข้าตีเมืองจันท์ในสงครามกู้เอกราช, ชมค่ายเนินวง โบราณสถานอันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญครั้งเมื่อบางกะจะเป็นเมืองหลวงจันทบุรี, แวะจับจ่ายตลาดเล็กๆร้านค้าในชุมชนที่มีอาหารถิ่นราคาย่อมเยา หรือไปทำกิจกรรมขุดพลอย เรียนรู้เรื่องพลอย
แต่นอกจากการเที่ยวทางบกแล้ว ยังมี “คลองบางกะจะ” แหล่งน้ำสำคัญที่มีระบบนิเวศแบบป่าชายเลน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผืนป่าผสม เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และประมงพื้นบ้าน ซึ่งหากย้อนกลับไปราวสิบปีก่อน ก็ยังไม่มีใครรู้หรือเข้าไปสำรวจ นอกจากชาวประมงในท้องถิ่น
“พายซับ” ท่องเที่ยวคลองบางกะจะ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ชาวชุมชนบางกะจะ” กลุ่มหนึ่งที่หลงใหลการพายซับบอร์ด (SUP - Stand up Paddle board) โดยพายเป็นกีฬา และงานอดิเรก ได้ใช้อุปกรณ์กีฬาโปรดพายซอกแซกสำรวจไปในลำคลองที่คุ้นเคยตั้งแต่วัยเด็ก
“นุศรา กีรติโภฌานันท์” ผู้ก่อตั้ง และผู้จัดการทั่วไป SUPscribe Chanthaburi เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนที่เล่นกีฬาซับบอร์ด ซึ่งนอกจากที่บางกะจะแล้ว ยังมี ที่ตำบลหนองบัว กลุ่มที่พายในแม่น้ำจันทบุรีในตัวเมือง ที่อำเภอขลุง และพื้นที่ทะเลจันทบุรี ส่วนตนเองก็จัดกิจกรรมพายซับท่องเที่ยวที่คลองบางกะจะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง ทำให้ค้นพบว่า คลองบางกะจะยังมีความงามที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมาก
นำมาสู่การตัดสินใจเปิดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบสร้างสรรค์-ยั่งยืน ในนาม "SUPscribe Chanthaburi” ที่ออกไปสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สัมผัสธรรมชาติ และสายน้ำในท้องถิ่น ด้วยการพายซับไปพร้อมๆกับการสร้างแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์
ความโดดเด่นของเส้นทาง
“คลองบางกะจะ ยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นป่าแสม บางต้นมีอายุร้อยกว่าปี ทำให้เรารู้ว่า ธรรมชาตินั้นอยู่ยาว ถ้ารักษาให้อยู่กับเราไปนานๆ” นักพายซับแห่งคลองบางกะจะ อธิบายจุดเด่นของพื้นที่ พร้อมชี้ให้เห็นว่าการท่องเที่ยวทางน้ำของบางกะจะนั้นแตกต่างจากทางบกโดยสิ้นเชิง เพราะมีความนิ่งเงียบ การพายซับเข้าไป เป็นวิธีที่พาตัวเราไปหาความสงบของธรรมชาติ ที่มีเพียงเสียงพายกระทบน้ำ เสียงลม เสียงนก และเสียงสนทนากันเบาๆของกลุ่มคนที่พายไปด้วยกัน
บรรยากาศรอบตัวของเส้นทางพายซับคลองบางกะจะ ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ป่าชายเลน บางช่วงให้ความรู้สึกได้ตัดขาดจากโลกภายนอก ราวกับเข้าไปอยู่ในผืนป่าเร้นลับเป็นส่วนตัว ขณะที่จุดหมายปลายทางของเส้นทางพายซับ นิยมพายไปยังเวิ้งน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตาที่โอบล้อมด้วยป่าชายเลน มีทัศนียภาพงดงามมากหากเลือกพายไปในช่วงพระอาทิตย์ตก แต่หากเลือกพายช่วงเช้ามืด ก็ได้รับพลังความสดชื่นเย็นสบายด้วยอากาศอันบริสุทธิ์ และแดดอ่อนๆยามเช้า
ข้อดีของซับบอร์ดกับการท่องเที่ยว
เมื่อ “ซับบอร์ด” เป็นอุปกรณ์กีฬาประเภทหนึ่ง ข้อดีอย่างแรกจึงเป็นกิจกรรมที่ผู้พายได้ออกกำลังกายไปในตัว แม้ไม่เคยพายมาก่อนก็ฝึกได้ไม่ยากภายในไม่กี่นาที มีความปลอดภัยเมื่อนำมาพายในพื้นที่ไม่มีคลื่นลม โดยมีสายรัดข้อเท้า และอุปกรณ์ก็มีคุณสมบัติลอยน้ำได้ โดยเมื่อนำมาใช้ในการท่องเที่ยว สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อได้เปรียบ คือ บางร่องน้ำที่เรือไม่สามารถเข้าได้ แต่ซับบอร์ดสามารถลัดเลาะเข้าไปได้ทุกเส้นทางในพื้นที่ของคลองบางกะจะ
อย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของการใช้ซับบอร์ดเพื่อการท่องเที่ยวคลองบางกะจะ อยู่ที่การเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่มีเครื่องยนต์ จึงไม่ต้องเอาสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไปในธรรมชาติ แม้กระทั่งการเข้าไปเที่ยวด้วยซับบอร์ด ก็ต้องให้ธรรมชาติเป็นตัวกำหนด ด้วยการดูระดับน้ำตามวันเวลาที่เหมาะสม
การท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
กระแสการท่องเที่ยวอย่างความยั่งยืน ถือเป็นเรื่องสำคัญระดับโลกของการท่องเที่ยวในยุคนี้ ซึ่งกิจกรรมพายซับบอร์ดเที่ยวคลองบางกะจะ ก็ถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นให้กับแขกผู้มาเยือนทุกคน “นุศรา" เล่าว่า ลูกค้าจำนวนไม่น้อยเป็นคนในสังคมเมืองไม่มีโอกาสได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติบ่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน เมื่อได้มาอยู่ในธรรมชาติต่างก็มีความสุข พ่อแม่ก็จะสอนลูกๆในเรื่องของการอนุรักษ์ไปด้วย เราก็สอดแทรกเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องไม่ทิ้งขยะ ไม่สร้างมลพิษ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่เรื่องครอบครัวแล้ว แต่กลายเป็นขยายไปถึงสังคม
โดยเฉพาะปัจจุบัน พื้นที่บางส่วนของป่าชายเลนบางกะจะ ถูกทำลายเปลี่ยนไปเป็นหมู่บ้านจัดสรร รวมทั้งเริ่มมีการขายพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อวัตถุประสงค์สร้างอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ การท่องเที่ยวของคนกลุ่มเล็กๆในชุมชน จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์ให้สังคมภายนอกได้รับรู้ ว่ายังมีผืนป่าชายเลนที่มีคุณค่าของเมืองจันทบุรีที่หลงเหลืออยู่ และคู่ควรกับการช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลาน
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นความใส่ใจของ SUPscribe Chanthaburi คือ ความพยายามเชื่อมโยงกิจกรรมท่องเที่ยวเข้ากับชุมชน แทรกลงไปในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น อาหาร-ของว่างต้อนรับแขก ที่เลือกซื้อมาจากพ่อค้าแม่ค้าในท้องถิ่น ภาชนะ ที่รองโต๊ะต่างๆก็ยังใช้งานคราฟต์ในชุมชนที่มีส่วนอนุรักษ์เสื่อจันทบูรของดีเมืองจันท์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษเพิ่มเติม คือ งานภาพสวยๆะดับมืออาชีพที่ถ่ายให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นชาวบางกะจะโดยกำเนิดอย่าง “รักษ์ชาติ โสดาบัน”ช่างภาพที่ผ่านประสบการณ์งานนิตยสารดังมามากมาย ที่กลับบ้านมาร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชน และทำหน้าที่เป็นผู้กดชัตเตอร์ด้วยตัวเองเพื่อให้ผู้มาเยือนมีภาพความทรงจำอันน่าประทับใจกับสายน้ำในบ้านเกิดของตน
“เราเปิดบริการเหมือนพาเพื่อนเที่ยวบ้านมากกว่าการทำธุรกิจ ดังนั้นถ้าใครมาที่นี่ก็จะไม่ได้รับการดูแลแบบนักธุรกิจ หรือกิจการท่องเที่ยวใหญ่ๆ ให้นึกภาพว่าเราเปิดประตูต้อนรับเพื่อนมาหา แล้วพาเพื่อนไปดูธรรมชาติรอบๆบ้าน หาขนมให้เพื่อนรับประทาน” นุศรา กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้สนใจ ติดต่อได้ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ
ไร่ตามฟาร์มสุข (facebook.com/raitamfarmsuk)
หรือ SUPscribe Chanthaburi (facebook.com/Supscrib)
X