ข่าวการเงิน

10 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนซื้อขายทองคำ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ-


ไขข้อสงสัย? 10 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนซื้อขายทองคำ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ




1. ช่วงเกร็งกำไรซื้อขายทอง (ทองขึ้น-ทองลง)

ทองคำมักมีราคาขึ้นตอนช่วงต้นเดือนมกราคมและเดือนกรกฏาคม และราคาจะเริ่มลงมาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงมีนาคม  ดังนั้นหากนักลงทุนมือใหม่ต้องการเกร็งกำไรกับราคาทอง ช่วงที่ดีที่สุดในการซื้อขายทองคำนั่นก็คือช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม

2. อัพเดทราคาทองคำตลอดทั้งวัน

สมาคมค้าทองคำไม่ได้อัปเดตราคาทองคำตลอดเวลา จะเป็นการอัปเดตช่วงเช้าและช่วงบ่ายเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเกร็งกำไรกับราคาทองคำถือว่ามีความเสี่ยงมาก หากพลาดไปแค่ชั่วโมงเดียวก็มีโอกาสขาดทุนได้หลายหมื่นบาทได้

3. ทองคำคือสินทรัพย์ผันผวนและกำไรดี

ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวน ที่ให้การตอบรับที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะใกล้เคียงกับหุ้นในระยะยาว ยกตัวอย่างหากถือทองคำเป็นเวลา 10-20 ปี จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนต่อปี 5-10%

4. ทองแท่งหรือทองรูปพรรณดี?

ควรซื้อทองแท่งมากกว่าทองคำที่แปรรูปแล้วเช่นทองรูปพรรณ เพราะการซื้อทองแท่งจะเสียค่ากำเหน็จต่ำกว่า นอกจากนี้ทองแท่งยังเก็บรักษาง่ายกว่าอีกด้วย

5. ทองแท่งมีมูลค่ามากกว่าก็จริง แต่ก็มีข้อเสีย

ยิ่งซื้อทองที่มีมูลค่ามาก ค่ากำเหน็จจะยิ่งต่ำลง แต่ข้อเสียก็คือ หาคนซื้อต่อได้ยากเพราะไม่สามารถแบ่งขายได้ ที่สำคัญมีโอกาสเจอทองปลอมสูง เนื่องจากทองปลอมนิยมผลิตออกมาเป็นรูปแบบของทองคำแท่งเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้มีมูลค่ามากขึ้นนั่นเอง

6. ทองคำไม่สามารถขายได้ราคาเท่ากันทั่วโลก

การนำทองคำของไทยไปขายที่ต่างประเทศนั้นจะโดนกดราคา เพราะทองคำของประเทศเรานั้นมีมาตราฐานที่แตกต่างจากต่างประเทศ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการนำออกไปขายที่ต่างประเทศ  ยังมีการนำออกไปขายต่างประเทศอยู่บ้าง โดยส่วนมากแล้วจะแนะนำให้ไปขายกันที่ China Town ของประเทศนั้นๆ เพราะเป็นที่ที่ขายง่ายที่สุด หรือถ้าอยากนำไปขายต่างประเทศต้องเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรองรับจาก LBMA หรือสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน

7. ทำไมทองคำของไทยโดนกดราคาที่ต่างประเทศ

อย่างที่ได้กล่าวไปที่ข้อที่แล้วว่า เมื่อนำทองคำของไทยไปขายต่างประเทศจะโดนกดราคา นั่นก็เพราะว่า ทองของไทยมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 96.5% แต่ทองคำของต่างประเทศความบริสุทธิ์อยู่ที่ 99.99% แต่หากใครที่ต้องการนำทองคำไปขายต่างประเทศต้องเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก LBMA หรือสมาคมค้าทองคำแห่งลอนดอน

8. ศึกษาหาลู่ทางใหม่ของการลงทุนทอง

เราสามารถลงทุนทองคำดิจิทัลได้แล้ว จะคล้ายๆ กับการซื้อ-ขายสัญญาส่งมอบทองคำ จะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าค่ากำเหน็จเยอะ และสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง และที่สำคัญสามารถมั่นใจได้เลยว่าทองคำที่เราลงทุนนั้นเป็นทองคำแท้แน่นอน

9. ซื้อร้านไหนขายร้านนั้น

ข้อนี้สำคัญมาก แนะนำเลยว่าเมื่อเราซื้อทองจากร้านไหนก็ควรขายที่ร้านนั้น เพื่อไม่ให้เจอปัญหาการกดราคา

10. มาตรวัดน้ำหนักทองคำ

ประเทศไทยใช้มาตรวัดหน่วยเป็น “บาท” 1 บาท เท่ากับน้ำหนักทองคำ 15.244 กรัม ส่วนทองคำซื้อขายกันในตลาดโลกใช้หน่วยเป็น “ออนซ์” 1 ออนซ์ เท่ากับน้ำหนักทองคำ 31.103 กรัม การแปลงหน่วยวัดที่แตกต่างกัน ใช้วิธีคำนวณตามสัดส่วนและอิงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

ข้อมูลอ้างอิงจาก : gcap, finnomena, aurora


แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintv
https://www.amarintv.com/news/detail/201164

X