ข่าวการเงิน

ควรขายทองคำทำกำไรเมื่อไหร่ ?


บทความโดย "พัชรินธ์ อีริคสัน" 
นักวางแผนการเงิน CFP®สมาคมนักวางแผนการเงินไทย


วันที่ 12 กันยายน 2567 ทองคำไม่ได้เป็นแค่เครื่องประดับ แต่เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ ด้วยมูลค่าที่มั่นคงและมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีทางเลือกหลากหลายเพื่อเปิดโอกาสให้เป็นเจ้าของทองคำได้ง่าย ๆ


  •  ซื้อทองคำแท่ง วิธีนี้เราได้สินทรัพย์ที่จับต้องได้ แต่มีต้นทุนในการเก็บรักษา และต้องคำนึงถึงส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและขายด้วย
  •  ลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำ โดยปกติกองทุนรวมทองคำในประเทศไทยจะไปลงทุนต่อในกองทุนรวม หรือ ETF ต่างประเทศที่ลงทุนในทองคำ ทำให้ราคาของกองทุนเคลื่อนไหวตามราคาทองคำ ซึ่งอาจเป็นวิธีลงทุนที่ง่ายที่สุด เงินลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างต่ำ (เช่น เริ่มลงทุนได้ด้วยเงินเพียง 500) ซื้อขายง่าย และไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาทองคำ ควรระวังคือผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยกองทุนทองคำในไทยจะมี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ กองทุนที่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และกองทุนที่ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจให้ผลตอบแทนที่ต่างกันมากหากอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB มีการเปลี่ยนแปลง


ตัวอย่างเช่น ราคาทองคำในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 10% ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 5% เทียบเงินบาท (1 ดอลลาร์สหรัฐ แลกเป็นเงินบาทได้น้อยลง)


  •  ถ้าผู้ลงทุนซื้อกองทุนทองคำที่ป้องกันค่าเงิน ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงิน หรือได้รับผลกระทบน้อยมาก ฉะนั้น ผู้ลงทุนจะยังคงได้ผลตอบแทน 10%
  •  ถ้าผู้ลงทุนซื้อกองทุนทองคำที่ไม่ป้องกันค่าเงิน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนทองเพียง 5% เพราะผลตอบแทนลดลงจากผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ในทางกลับกัน หากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเทียบเงินบาท (1 ดอลลาร์สหรัฐ แลกเป็นเงินบาทได้มากขึ้น) นอกจากผู้ลงทุนจะได้กำไรจากมูลค่าของทองคำที่ปรับตัวขึ้น 10% แล้วยังได้รับผลกำไรจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอีกด้วย


ควรขายทองคำทำกำไรเมื่อไหร่


เมื่อราคาทองคำพุ่งตัวสูงขึ้น นักลงทุนคงมีคำถามในใจไม่ต่างกัน ว่าควรจะขายทำกำไรทั้งหมดเลย หรือถือต่อดี อย่างไรก็ตาม หากจะลงทุนในทองคำระยะยาวก็ควรจะมีทองคำติดไว้ในพอร์ตลงทุนตลอดเวลา ดังนั้น หากทองคำมีการปรับตัวขึ้นมากเทียบกับสินทรัพย์อื่น จนทำให้สัดส่วนทองคำในพอร์ตลงทุนเพิ่มขึ้นเกินสัดส่วนเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก็พิจารณาทยอยขายทำกำไรเพื่อให้สัดส่วนลงทุนกลับมาที่เดิม


อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่าปัจจัยตลาดยังสนับสนุนราคาทองคำอยู่ เช่น เศรษฐกิจเข้าใกล้สภาวะถดถอย (Recession) เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง เป็นต้น ก็อาจถือทองคำต่อไป


ทองคำมีบทบาทที่สำคัญมากต่อพอร์ตลงทุนในแง่การกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน ทั้งนี้ แม้ทองคำจะขึ้นชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) แต่ก็มีความผันผวนสูง


ดังนั้น เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการมีทองคำในพอร์ตลงทุน ควรลงทุนทองคำในสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ทุ่มเงินลงทุนในทองคำทั้งหมดเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น เพราะนอกจากจะทำให้พอร์ตลงทุนผันผวนสูงแล้ว อาจต้องเผชิญกับการขาดทุนมหาศาล หากคาดเดาทิศทางราคาทองคำผิดทาง


แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/finance/news-1649541
X