Everyday knowledge for you
ข่าวการเงิน
16/05/2024
เยอะสุด หลังไตรมาส 1/2567 มีจำนวนบัญชีบ้านใหม่ 5.9 หมื่นบัญชี ชี้ Gen Y มียอดบัญชีหนี้เสีย 8.3 หมื่นสัญญา คิดเป็นเงิน 1.24 แสนล้านบาท และ SM อยู่ 7.6 หมื่นสัญญา คิดเป็นเงิน 1.18 แสนล้านบาท เทียบ Gen X มีหนี้เสีย 4.9 หมื่นสัญญา มูลหนี้ 6.1 หมื่นล้านบาทวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานสินเชื่อบ้านในไตรมาส 1/2567 จากข้อมูลสถิติของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร พบว่าในไตรมาส 1/67 มียอดเปิดบัญชีบ้านอยู่ที่ 59,848 บัญชี จากปี 2566 มียอดเปิดบัญชีบ้านใหม่ทั้งสิ้น 329,382 บัญชี สอดคล้องกับภาพโดยรวมที่สถาบันการเงินให้ความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อทั้งนี้ หากดูไส้ในสินเชื่อบ้าน พบว่ายอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 2 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโต 18% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) หรือคิดเป็นประมาณ 20% ของหนี้เสียทั้งหมดที่อยู่ 1.09 ล้านล้านบาท และสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) มียอดค้างชำระแต่ไม่เกิน 90 วัน ปัจจุบันอยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 15% YOYอย่างไรก็ดี หากแยกดูว่ากลุ่มไหนมีหนี้เสีย และกำลังจะเสีย (SM) เยอะที่สุด พบว่า Gen Y มีสัญญาสินเชื่อบ้านที่เป็น NPLs อยู่ที่ 83,281 สัญญา คิดเป็นเงิน 1.24 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/66 ที่มีจำนวนบัญชีอยู่ที่ 76,196 บัญชี คิดเป็นเงิน 109,445 ล้านบาทในกรณีของ SM บ้านที่อยู่ในมือคน Gen Y ช่วงเวลาเดียวกันนี้มีจำนวน 76,276 สัญญา คิดเป็นเงิน 1.18 แสนล้านบาท จากไตรมาส 4/66 จำนวนบัญชีอยู่ที่ 73,704 บัญชี คิดเป็นเงิน 113,321 ล้านบาท สะท้อนว่า Gen Y สัดส่วนการเป็นหนี้เสีย และหนี้กำลังจะเสีย SM มากกว่า 50% ของจำนวนทั้งหมดส่วน Gen X สัญญาสินเชื่อบ้านที่เป็น NPLs อยู่ที่ 49,980 สัญญา คิดเป็นเงิน 61,831 ล้านบาท จากไตรมาส 4/66 มีจำนวนบัญชีหนี้เสียอยู่ที่ 49,670 บัญชี คิดเป็นมูลหนี้ 59,289 ล้านบาท และมีจำนวนบัญชี SM อยู่ที่ 46,258 บัญชี และคิดเป็นมูลค่า 54,049 ล้านบาท เมื่อเทียบไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 45,049 บัญชี คิดเป็นมูลค่า 51,608 ล้านบาทแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1565605#google_vignette
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
16/05/2024
ได้พิกัดสวยๆ ให้ทุกคนมาเช็กอินตามกันแล้ว ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เลยค่า เพียงแค่ไม่กี่ชม.เท่านั้น เพราะอยู่แค่ ชลบุรี นี่เอง นั่นก็คือ อ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร เป็นพิกัดที่มีธรรมชาติสวยๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนสุดๆ งานนี้ใครอยากชิล ตามมาเลยจ้าที่เที่ยวชลบุรี พิกัดสุดชิล ใกล้กรุงเทพอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรไฮไลท์ ของ อ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาน 44,000 ไร่ ซึ่งเป็นโครงการหลวงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ค่ะ โดยทรงพระราชดำริให้ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ในปี พ.ศ.2508 แล้ว จนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ในปีพ.ศ.2559 ซึ่งสาเหตุในการสร้างคือหากเกิดปัญหาน้ำท่วม หรือน้ำแล้งจะได้มีพื้นที่ไว้กักเก็บน้ำไว้ใช้ได้อย่างเพียงพอนั่นเองค่ะโดยที่นี่จะเป็นเขื่อนดินสูง 21.85 เมตร กว้าง 8 เมตร สันเขื่อนยาว 3,829 เมตร รวมเก็บกักน้ำได้กว่า 98 ล้านลูกบาศก์เมตรเลยทีเดียว ส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานได้ครอบคลุมมากถึง 11 ตำบลใน อำเภอเกาะจันทร์และอำเภอพนัสนิคม นอกจากนี้ยังป็น แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ อีกด้วย ทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ มากมายแน่นอนว่าวิวสวยๆ ของที่ อ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร ก็งดงามไปด้วยธรรมชาติอย่างที่สุด เหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างมาก ยิ่งถ้าใครได้มาในช่วงเย็นๆ วิวจะสวยที่สุด แดดไม่แรงมาก เที่ยวเพลินสบายๆ สุดๆ เห็นได้จากที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในบริเวณนี้ มาปั่นจักรยาน ออกกำลังกาย นั่งเล่น กันค่ะk_non78 / Shutterstock.comไปจ้าาา ใครอยากแชะภาพธรรมชาติสวยๆ วิวปังๆ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แวะมาที่ อ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร ของ ชลบุรี แห่งนี้กันได้เลยค่า อย่าให้สุดสัปดาห์นี้ เงียบเหงาอยู่บ้านกันแบบเศร้าๆ น้า ออกมาเที่ยวกันดีกว่าค่ะ วิวสวยๆ รอเราอยู่น้าข้อมูล อ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร ชลบุรี • ที่อยู่ : บ้านคลอง ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Z6fsGpRepwbaoXmVA • เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน • เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/ratchalothonแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ trueidhttps://travel.trueid.net/detail/VJRgP3N0gpe6
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
16/05/2024
กรุงเทพฯ 16 พฤษภาคม 2567 - กองทุนเปิด เอไอเอ อินคัม ฟันด์ (AIA-IC) ซึ่งบริหารจัดการโดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar Thailand ประเภทกองทุน Mid/Long Term Bond ทั้งในส่วนของผลตอบแทนโดยรวม (Performance Overall) และ ผลตอบแทน 3 ปี (3-Y Performance) แสดงให้เห็นถึงความสามารถของทีมผู้จัดการกองทุน บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ สามารถไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ โดยสำหรับกองทุนเปิด เอไอเอ อินคัม ฟันด์ มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออกโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือ ภาคเอกชน ทั้งใน และ/หรือต่างประเทศ ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารที่อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยกองทุนจะลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่า 80% ของ NAVทั้งนี้ สำหรับกองทุนเปิด เอไอเอ อินคัม ฟันด์ (AIA-IC) เป็นหนึ่งในกองทุนที่ผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ให้ความนิยมและมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการกองทุนเพื่อให้ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้ามีสุขภาพชีวิตและการเงินที่มั่นคง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
15/05/2024
10 อันดับทำเลที่ดินถูกสุด-แพงสุด ในกรุงเทพฯและปริมณฑลปี 2567วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาประเมินที่ดินทั่วประเทศในรอบปี 2566-2569 พบว่ากรุงเทพฯยังคงราคาแพงสุด โดยทำเลที่คว้าแชมป์ได้แก่ “สยาม-เพลินจิต-ชิดลม” เหตุผลเพราะเป็นแหล่งค้าปลีกสำคัญของกรุงเทพฯ และธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้สูงสุด เมื่อเทียบกับการสร้างเป็นอาคารชุดพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือโรงแรม ซึ่งได้ค่าเช่าต่ำกว่า10 อันดับที่ดินราคาแพงสุด1. สยาม-ชิดลม-เพลินจิต : 3,750,000 บาท/ตารางวา2. วิทยุ : 3,100,000 บาท/ตารางวา3. สุขุมวิท-ไทม์สแควร์ : 2,940,000 บาท/ตารางวา4. สุขุมวิท 21 อโศก : 2,730,000 บาท/ตารางวา5. สีลม : 2,700,000 บาท/ตารางวา6. สาทร : 2,400,000 บาท/ตารางวา7. สุขุมวิท เอกมัย : 1,950,000 บาท/ตารางวา8. เยาวราช : 1,900,000 บาท/ตารางวา9. พญาไท : 1,850,000 บาท/ตารางวา10. พหลโยธินตอนต้น : 1,800,000 บาท/ตารางวา10 อันดับที่ดินราคาถูกสุด1. เลียบคลอง 13 กม. : 4,200 บาท/ตารางวา2. ตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพบางไทร : 8,000 บาท/ตารางวา3. กาญจนาภิเษก กม.34 : 9,000 บาท/ตารางวา4. กาญจนาภิเษก กม.8 บางปะอิน : 9,400 บาท/ตารางวา5. เลียบคลองรพีพัฒน์ : 9,800 บาท/ตารางวา6. สุขุมวิท กม.46 บางบ่อ : 9,800 บาท/ตารางวา7. รังสิต-วังน้อย : 10,500 บาท/ตารางวา8. ลำต้อยติ่ง : 11,000 บาท/ตารางวา9. ประชาสำราญ : 12,000 บาท/ตารางวา10. กาญจนาภิเษก กม.23 หลวงแพ่ง : 13,500 บาท/ตารางวาแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจhttps://www.prachachat.net/general/news-1563817
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
15/05/2024
มิตรแท้ประกันภัยผุดไอเดีย ศึกษาออกกรมธรรม์ประกันภัย “ดารา-นักร้อง-นางงาม” ยุคเปิดเสรี หลัง คปภ.หนุนผลักดันภาคธุรกิจกำกับดูแลด้วยตนเองได้วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 นายสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.มิตรแท้ประกันภัย ในฐานะอุปนายกและกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ถือว่า คปภ.ได้มีความเห็นตรงกันในเรื่องการผลักดันให้ภาคธุรกิจประกันวินาศภัยกำกับดูแลด้วยตนเอง ในเรื่องการเปิดเสรีในหลาย ๆ มิติโดยเฉพาะเรื่องของผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ ที่ต่อไปภาคธุรกิจสามารถที่จะออกกรมธรรม์ประกันภัยแบบอัตโนมัติ (file & use) ได้ ซึ่งตอนนี้สำนักงาน คปภ.กำลังดำเนินการอยู่ โดย คปภ.จะดูแค่เรื่องคำพูด (Wording) เอกสารที่เกี่ยวกับกฎหมายให้มีความถูกต้อง ขณะที่ภาคธุรกิจจะต้องให้นักคณิตศาสตร์ประกันภัยพิจารณาร่วมลงนาม เพื่อระมัดระวังการออกกรมธรรม์ที่ไม่ได้มีการวิเคราะห์ ป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเหมือนประกันภัยโควิดส่วนเรื่องของเบี้ยประกันภัย คปภ.จะพิจารณาโดยรวม จะไม่แบ่งแยกว่าต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเท่าไร เพราะฉะนั้นภาคธุรกิจก็สามารถที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือคำนวณเบี้ยออกมาได้ว่าแต่ละผลิตภัณฑ์ เรื่องของผลประโยชน์ผู้เอาประกันภัย ค่าใช้จ่าย กำไร ควรจะเป็นเท่าไร ซึ่งเรื่องนี้นักคณิตศาสตร์ประกันภัยจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง“ผมเชื่อว่าทางผู้บริหารบริษัทประกันวินาศภัยคงจะระมัดระวังขึ้นในการจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ เพราะที่ผ่านมาเราได้รับการอนุมัติจาก คปภ. ผลิตภัณฑ์ทุกคนเหมือนกันหมด ซึ่งบริษัทใหญ่ ๆ จะมี Fix Cost ต่ำกว่าบริษัทเล็ก ทำให้บริษัทเล็กอาจจะไปจ่ายผลประโยชน์เกินกว่าที่จะจ่าย และมี Fix Cost ที่สูง ดังนั้น ต่อไปมองว่าทุกบริษัทจะสามารถบริหารด้วยตัวเองได้ ซึ่งก็แฟร์กับการที่จะทำ อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในขั้นตอน คปภ.กำลังดำเนินการอยู่ คิดว่าคงไม่นาน เพราะ คปภ.ยุคนี้ทำงานเร็ว”ต่อไปในอนาคตอาจจะเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ในต่างประเทศมีมานานแล้ว แต่ในประเทศไทยยังไม่มี ดังนั้น น่าจะทำให้คนไทยสามารถที่จะเลือกประกันที่เหมาะสมและคุ้มครองความเสี่ยงในสิ่งที่ต้องการของแต่ละคนได้ดีมากยิ่งขึ้นนายสุขเทพกล่าวต่อว่า สำหรับบริษัทมิตรแท้ประกันภัย สิ่งที่กำลังศึกษาในการออกกรมธรรม์ประกันภัยใหม่ ๆ อาทิ การประกันภัย “ดารา-นักแสดง” คุ้มครองกรณีป่วยไม่สามารถไปกองถ่ายได้, การประกันภัย “นักร้อง” คุ้มครองกรณีกล่องเสียงมีปัญหาไม่สามารถขึ้นแสดงโชว์ได้ และการประกันภัย “นางงาม” คุ้มครองกรณีน่องได้รับอุบัติเหตุ“การออกกรมธรรม์ใหม่ ๆ ต่อไปจะง่ายขึ้น เพราะว่าเราสามารถที่จะเอาข้อมูลจากทั่วโลกที่มี และก็นำเสนอให้นักคณิตศาสตร์ประกันภัยคำนวณเรื่องความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกัน และส่งให้ คปภ. เพื่อนำไปพิจารณาเรื่องเงื่อนไข ข้อกฎหมายว่าการเขียนถูกต้องหรือไม่ ถ้าผ่านหมดก็สามารถจะออกขายได้เลย และหากผ่านไป 6 เดือนก็สามารถจะรีวิวกรมธรรม์ได้” นายสุขเทพกล่าวแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1561977
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
สกู๊ปพืช
15/05/2024
บอนไซ ต้นไม้ขนาดเล็กน่ารักปลูกในกระถาง สามารถตัดแต่งกิ่งก้านให้สวยงาม เหมาะตกแต่งภายในบ้านหรือโต๊ะทำงาน ว่าแต่มีบอนไซอะไรที่น่าสนใจบ้างตามมาส่องกันการจัดสวนภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องทำงาน หรือห้องนอน ต้องเลือกต้นไม้ขนาดเล็กและอยู่ในกระถาง วันนี้ขอแนะนำ บอนไซ พร้อมลักษณะและการดูแลมาฝากกัน บอนไซ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยบอนไซ คือบอนไซ (Bonsai) เป็นศิลปะแขนงหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มาจากการผสมระหว่างคำว่า บอน (Bon) ที่แปลว่า กระถาง และคำว่า ไซ (Sai) ที่แปลว่า การเพาะปลูก เมื่อนำสองคำนี้มารวมกันจึงหมายถึง การปลูกต้นไม้ในกระถาง มีจุดประสงค์เพื่อเป็นงานอดิเรกและช่วยสร้างสมาธิ รวมทั้งยังสามารถนำมาขายเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วยโดยต้นไม้ที่นำมาปลูกนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ทั้งไม้ใบ ไม้ดอก ไม้ผล และเป็นต้นที่มีกิ่งก้านสวยงาม เช่น ต้นสน ต้นไทร เฟื่องฟ้า ทับทิม เป็นต้นต้นไม้บอนไซ1. ว่านหางจระเข้แคระว่านหางจระเข้แคระ เป็นพืชอวบน้ำ ไม่มีลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงซ้อนกันเป็นกอ ลักษณะใบและสีจะแตกต่างตามสายพันธุ์ บางพันธุ์มีหนามตรงขอบใบ บางพันธุ์มีใบสีเขียว บางพันธุ์มีใบสีแดง ควรปลูกในที่ที่มีแสงรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ ชอบดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี รดน้ำเมื่อดินแห้ง ไม่ต้องรดบ่อย เพราะรากอาจเน่าได้2. ลิ้นมังกรแคระลิ้นมังกรแคระ เป็นไม้ฟอกอากาศ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว สีและลายต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่มีความเด่นตรงที่ใบเรียวยาวคล้ายหอก มีทั้งชนิดใบสั้นและใบยาว ส่วนปลายใบมีทั้งแบบปลายใบแหลมมีหนาม ปลายใบแหลมไม่มีหนาม และปลายใบมน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อและปักชำ ปลูกในที่ที่มีแดดจัดหรือในบ้านก็ได้ แต่ควรได้รับแสงแดดรำไร ชอบดินร่วนปนทราย รดน้ำแค่พอให้ดินชุ่ม3. แก้วแคระต้นแก้วแคระ ต้นไม้มงคลส่งเสริมด้านโชคลาภ มีลักษณะเป็นพุ่มขนาดเล็ก ใบสีเขียวเป็นใบประกอบแบบขนนก ทรงรี ปลายมน ขอบเรียบ ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบสีขาว มีกลิ่นหอม ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและปักชำ ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี ชอบแดด ควรรดน้ำวันละ 1 ครั้ง ไม่ควรรดน้ำมากเพราะจะทำให้รากเน่า4. ไทรใบสักแคระไทรใบสักแคระ เป็นต้นไม้ฟอกอากาศและไม้มงคล ช่วยเสริมโชคลาภและความรัก ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ใบหยักพลิ้วสีเขียวเข้มหนาเป็นมัน มองเห็นเส้นกลางใบและเส้นใบย่อยชัดเจน ควรใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าเช็ดใบเพื่อความสวยงาม เปลือกลำต้นสีน้ำตาล ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่งและตอนกิ่ง ปลูกในดินร่วนหรือดินขุยไผ่ ผสมดินมูลไส้เดือน ชอบแดดรำไร อากาศถ่ายเท ปลูกในดินร่วนระบายน้ำ ควรรดน้ำทุก 2-3 วัน หรือรดเมื่อดินแห้ง5. พรมออสเตรเลียพรมออสเตรเลีย หรือลายเงิน ไม้มงคลเสริมความมั่งคั่ง และเป็นไม้ฟอกอากาศ ลักษณะเป็นพืชคลุมดิน ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปรีปลายแหลม ใบสีเขียวเข้ม เส้นใบสีขาว ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามปลายยอดและซอกใบ ดอกย่อยสีขาวหรือสีเหลือง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบดินร่วนปนทราย รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ชอบแดดรำไรถึงแดดปานกลาง6. ซากุระแคระซากุระแคระ หรือข้าวตอกพระร่วง เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กแตกกิ่งก้าน ใบเป็นใบเดี่ยวมีขนาดเล็กสีเขียว รูปไข่ปลายแหลม ดอกสีขาวออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีกลิ่นหอม ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบดินร่วน ต้องการน้ำมาก และชอบแดดจัด7. สนแคระสนแคระ สนบอนไซ หรือสนดำญี่ปุ่น ใบสีเขียวเป็นเส้นเรียวเล็กคล้ายเข็ม เนื้อไม้ค่อนข้างแข็ง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือปักชำกิ่ง รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หรือเมื่อดินแห้ง ดินปลูกระบายน้ำดี ชอบแดดรำไรถึงแดดจัด8. สนเลื้อยสนเลื้อย เป็นไม้พุ่มเตี้ยที่เลื้อยเอน ใบเป็นรูปเข็ม ปลายใบเรียวแหลมสีเขียวอ่อน แผ่นใบโค้งนูน ใบออกเป็นกระจุกสั้นและแน่น ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและตอนกิ่ง ชอบดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ชอบแสงแดดรำไรถึงเต็มวัน ทนแล้ง รดน้ำเมื่อดินแห้ง9. สายรุ้งด่างสายรุ้งด่าง เป็นไม้อวบน้ำ และไม้เนื้ออ่อน ลำต้นสีเขียวอ่อนทอดยาว ใบเป็นใบเดี่ยวทรงกลม ปลายมน โคนสอบ มีลายด่างสีเหลือง ดอกออกเป็นช่อกระจุกสีขาวอมชมพู ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำต้น รดน้ำวันเว้นวัน ชอบดินร่วนปนทราย ชอบแดดจัด ทนแล้ง10. บ็อกซ์วูดบ็อกซ์วูด เป็นไม้พุ่ม ลำต้นแตกกิ่งก้าน เปลือกสีน้ำตาลเทามีลาย ใบรูปไข่สีเขียวเข้ม ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือปักชำ ชอบแสงแดด ดินร่วนระบายน้ำ รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หรือรดน้ำเมื่อดินแห้ง ทนแล้ง11. เอมจีนเอมจีน หรือเอมแคระญี่ปุ่น เป็นไม้ยืนต้น ใบสีเขียวรูปไข่ ขอบใบหยักปลายแหลม ดอกออกเป็นกระจุกตามก้านใบ ดอกสีขาวขนาดเล็ก พอแห้งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ปลูกในดินร่วน ชอบแสงแดด ทนแล้งใครอยากปลูกบอนไซจัดสวน ลองเลือกต้นไม้ที่ชอบมาทำบอนไซในกระถางน่ารัก ๆ ได้เลย แล้วมองหามุมเพื่อจัดวางตกแต่งในบ้านเพิ่มความสดชื่นกันขอบคุณข้อมูลจาก : jnto.or.th, directgardening.com, nparks.gov.sg, data.addrun.org (1), (2), (3) และ thespruce.comแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกระปุก.คอมhttps://home.kapook.com/view271649.html
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
15/05/2024
“ฟู้โกว๊ก” (Phu Quoc) จุดหมายปลายทางอันโด่งดังของประเทศเวียดนาม ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ไปเยือนมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะนักเดินทางชาวไทยที่เคยเดินทางไปเกาะไข่มุกแห่งนี้มากมาย และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นจุดหมายปลายทางในฝันที่มีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันน่าทึ่ง เดินทางสะดวก มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติฟูโกว๊ก ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 50 นาที นักท่องเที่ยวสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 30 วัน ที่เที่ยวเยอะ อาหารอร่อย และราคาไม่แพง เรียกได้ว่าคุ้มค่าทุกย่างก้าวในปีนี้ “ฟูโกว๊ก” ได้ปลุกกระแสการท่องเที่ยวอีกครั้ง ด้วยกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกใหม่ ๆ ที่ยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้กลับมาเยือนเกาะไข่มุกแห่งนี้อีกครั้ง หากใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยวที่นี่ ลองมาอัพเดตที่เที่ยวใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกันก่อน แล้วจะอยากรีบแพ็คกระเป๋ากันทันที!ใหม่! การแสดงสดอันน่าตื่นตาตื่นใจและการแสดงทางวัฒนธรรมที่ฟู้โกว๊กการแสดง Kiss of the Sea สุดเร้าใจ และการแสดงพลุดอกไม้ไฟอันตระการตาในทุกค่ำคืนยามเย็นที่ฟูโกว๊ก ขอแนะนำให้รอชมการแสดง Sunset Jetski & Flyboard อันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยนักกีฬานานาชาติ 18 คน มีฉากหลังเป็น “สะพานจูบ” (Kiss Bridge) ที่เพิ่งเปิดใหม่ในปลายปี 2023 เป็นประติมากรรมแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีทางเดินยาว 400 เมตร 2 ทางเดินที่ทอดยาวไปในทะเลและมาบรรจบกันตรงกลาง โดยแยกจากกันด้วยระยะห่างเพียง 30 ซม. สื่อถึงความรักและความผูกพันส่วนตัวที่เป็นสากลต่อด้วยชมการแสดงสดอันตระการตา Kiss of the Sea ที่เปิดตัวใหม่ในปี 2024 เป็นการแสดงมัลติมีเดียอันน่าหลงใหล ซึ่งจัดแสดงในโรงละครริมทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยศิลปิน 60 คนจาก 20 ประเทศ และการผสมผสานระหว่างไฟ น้ำ เลเซอร์ แสง ดนตรี และศิลปะการแสดงที่น่าทึ่ง นับเป็นหนึ่งในการแสดงที่ห้ามพลาดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้! ปิดท้ายด้วยการแสดงดอกไม้ไฟอันตระการตา สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของเมือง Sunset Town ยังมี Vui-Fest Bazaar ตลาดกลางคืนริมทะเลอันมีชีวิตชีวาของเมือง Sunset Town ให้ไปเดินเที่ยว นำเสนอเสน่ห์ของ Loang Xoang และ Tinh Tuom (การแสดงขัดรองเท้า) และค้นพบประเพณีอันเก่าแก่ของการแสดงหุ่นกระบอกของเวียดนาม (Vietnamese Puppet Show) พร้อมการแสดงเต้นรำ 8 รายการและดนตรีท้องถิ่นที่รอให้ไปสัมผัสอีกด้วยดื่มด่ำธรรมชาติ ท้องทะเล และสวนสนุกHon Thom Cable Car ทำลายสถิติระยะทาง 7,899 เมตร เชื่อมต่อเกาะสวรรค์อย่าง Phu Quoc และ Hon Thomสุดว้าวกับ Hon Thom Cable Car เคเบิลคาร์ ที่มีความยาวถึง 7,899 เมตร ข้ามทะเลสีฟ้าครามจากทางใต้สุดของเกาะฟู้โกว๊กไปยัง Hon Thom หรือ "เกาะสับปะรด" อันงดงามนอกชายฝั่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโลกแห่งสิ่งมหัศจรรย์ ธรรมชาติ ชายหาดที่สวยงาม และทิวต้นมะพร้าวหลายเอเคอร์ รวมถึง Sun World Hon Thom โซนเครื่องเล่นแสนสนุกสำหรับทุกวัย สวนสนุก Exotica Village และสวนน้ำ Aquatopia นอกจากนั้น สายแอดเวนเจอร์ไม่ควรพลาด The Anger of the Wooden Snake รถไฟเหาะแสนสนุก แล้วจบด้วยเอนกายผ่อนคลายที่ Eco Beach Club ปิดทริปวันสุดฟินอย่างแท้จริงสัมผัสชายหาดที่ได้รับรางวัลระดับโลกหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลใสแจ๋ของ Bai Kem Beach จึงเป็นหนึ่งในแนวชายฝั่งที่ดีที่สุดในโลกฟู้โกว๊กมีหาดทรายที่ทอดยาวซึ่งได้รับการยอมรับจากสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกอย่างนิตยสาร DestinAsian ยกให้เกาะฟู้โกว๊กติด 1 ใน 10 “จุดหมายปลายทางชายหาดที่สวยที่สุด” ในเอเชีย ในขณะที่นิตยสารไลฟ์สไตล์ชั้นนำอื่น ๆ เช่น Tatler Asia และ Condé Nast ได้วางตำแหน่งเกาะแห่งนี้ควบคู่ไปกับจุดหมายปลายทางริมชายหาดอื่น ๆ เช่น กระบี่ในประเทศไทย หรือบาหลีในอินโดนีเซีย ด้าน Flight Network บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยมของแคนาดา ยังได้ยกให้ Bai Kem Beach เป็นหนึ่งใน 50 ชายหาดที่สวยที่สุดในโลกในปี 2018 ด้วยหาดทรายขาวเนียน ต้นมะพร้าวเขียวขจี ท้องฟ้าใส และน้ำทะเลสีฟ้าคราม ทำให้นักเดินทางทั่วโลกจึงหลงใหลเกาะฟูโกว๊กแห่งนี้ที่พักสำหรับทุกโอกาสPremier Village Phu Quoc Resort ล้อมรอบด้วยทะเลบนปลายคาบสมุทรที่บริสุทธิ์ปัจจุบัน ฟู้โกว๊ก เป็นที่ตั้งของแบรนด์โรงแรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกหลายแห่ง จึงสามารถตอบโจทย์การเข้าพักได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะสำหรับคู่รัก ครอบครัว และเพื่อนฝูง รวมถึงตัวเลือกสำหรับทุกงบประมาณอีกด้วย อาทิ • La Festa Phu Quoc, Curio Collection by Hilton โรงแรมหรูหราสำหรับคู่รักแห่งนี้เปิดในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของความรู้สึกที่แสดงออกถึงจินตนาการแห่งชายฝั่งอามาลฟีของอิตาลี ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีเยี่ยมในใจกลางเมือง Sunset Town คู่รักสามารถเพลิดเพลินไปกับพร้อมวิวพระอาทิตย์ตก ดอกไม้ไฟอันตระการตา และชมสะพาน Kiss Bridge ได้อย่างชัดเจนจากห้องพักสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนในทุกค่ำคืน • New World Phu Quoc Resort พูลวิลล่าสำหรับครอบครัว มีขนาดตั้งแต่ 124 - 414 ตารางเมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนภูมิทัศน์พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่น่าดึงดูดใจ และสโมสรสำหรับเด็กสีสันสดใส ทั้งหมดนี้อยู่ห่างจาก Kem Beach เพียงไม่กี่ก้าว • Premier Residences Phu Quoc Emerald Bay รีสอร์ตร่วมสมัยตั้งอยู่บน Bai Kem Beach เอาใจคนรักทะเล ด้วยตัวเลือกห้องพัก ห้องสวีท อะพาร์ตเมนต์ และพูลวิลล่า รวมถึงสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา และกิจกรรมต่างๆ บนหาดทรายอันอ่อนนุ่ม • Premier Village Phu Quoc Resort, managed by Accor ตั้งอยู่บนปลายคาบสมุทรอันเงียบสงบ ล้อมรอบด้วยป่าเขียวขจี หาดทรายขาว และทะเลสีฟ้าคราม นี่คือรีสอร์ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ช่วยให้แขกได้กลับคืนสู่ธรรมชาติ • JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort นำเสนอการออกแบบธีม "มหาวิทยาลัยในฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19" สุดแปลกตาของ Bill Bensley ประกอบด้วยห้องพัก ห้องสวีท และวิลล่าที่มีศิลปะครบครัน มีสระว่ายน้ำรูปเปลือกหอย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม เพื่อประสบการณ์หรูหราที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง • สำหรับนักเดินทางที่มองหาความคุ้มค่า มีงบประมาณจำกัดก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ที่พักที่สะดวกสบายมากมายได้ เช่น โรงแรม La Bonheur, De Stefano, Venice Hotel Phu Quoc, Rose Hotel และ Rova Hotel ราคาห้องพักตั้งแต่ 450,000 ดองเวียดนาม ถึง 1 ล้านเวียดนาม (ประมาณ 18-40 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อคืน ในขณะที่ Sun Grand City Hillside Residences ให้บริการอะพาร์ตเมนต์ราคาคุ้มค่าอีกด้วยแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1447679/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
14/05/2024
ฉลองครบรอบ 10 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี จัดงาน ‘BANGKOK 3024’ การแสดงผลงานศิลปะแบบอิมเมอร์ซีฟระดับโลกครั้งแรกในประเทศไทย โดย “แดเนียล อาร์แชม” ศิลปินชาวนิวยอร์กที่มีผลงานระดับไอคอนและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยในงานศิลปินคนดัง “แดเนียล อาร์แชม” ได้บินตรงจากนิวยอร์กมาร่วมงานพิเศษนี้โดยเฉพาะอีกด้วยผู้บริหารเซ็นทรัลกรุ๊ป นำโดย ยุวดี จิราธิวัฒน์, สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์, อธิศ จิราธิวัฒน์, ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี และ บรม พิจารณ์จิตร ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี.แดเนียล อาร์แชม และบรม พิจารณ์จิตรพ่องานคนสำคัญ “บรม พิจารณ์จิตร” กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดเผยว่า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี คือผู้นำด้านศิลปะ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์เหนือระดับใจกลางกรุงเทพมหานคร ผู้ให้การสนับสนุนวงการศิลปะอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นผู้จัดนิทรรศการศิลปะและการแสดงผลงานของศิลปินไทย และศิลปินระดับโลกมากมาย โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้จัดนิทรรศการศิลปะระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 1 ทศวรรษด้วยการจัดงาน ‘BANGKOK 3024’ ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลงานศิลปะแบบอิมเมอร์ซีฟจากศิลปินระดับโลกชาวนิวยอร์ก อย่างแดเนียล อาร์แชม โดยเนรมิตพื้นที่ภายในศูนย์การค้าฯ เพื่อนำเสนอผลงานโบราณคดีสมมติที่ฉีกกฎเกณฑ์เรื่องเวลาและการรับรู้ของผู้ชม โดยการแสดงผลงานศิลปะครั้งนี้ยังนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่นำผลงานระดับมาสเตอร์พีซ อย่าง Excavation Walls, Zen Garden และประติมากรรมที่มีรายละเอียดที่ผุกร่อนอันเป็นเอกลักษณ์ของแดเนียล อาร์แชม อีก 5 ชิ้น มาจัดแสดงและเปิดให้ทุกคนได้เข้ามารับชมในที่เดียวรวมถึง ‘The Passage’ ซึ่งได้รังสรรค์ขึ้นสำหรับเซ็นทรัล เอ็มบาสซีโดยเฉพาะการจัดแสดงผลงานนี้ได้จัดพื้นที่จัดแสดงผลงานมีลักษณะเหมือนสวนเซน (Zen Garden) ซึ่งเต็มไปด้วยหินกรวดสีขาวที่ถูกคราดลวดลายอันสวยงาม ทางเดินสีฟ้าที่ทอดยาวตัดผ่านกำแพงคอนกรีตที่เรียงซ้อนกันเล่นระดับสวยงามแปลกตา เพื่อพาผู้ชมเดินฝ่าเข้าไปพบกับประติมากรรมทั้ง 5 ชิ้นที่ผุกร่อนตามกาลเวลา อันเป็นเอกลักษณ์ของแดเนียล อาร์แชม ทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่หลายคนจดจำได้ทันที ได้แก่ Stormtrooper : Amethyst Cry stallized Figure (2023), Bronze Eroded Dog with Hat (2021), Bronze Eroded Delorean 1:3 (2021), Amalgamized Venus Italica (2022) และ Blue Calcite Crystallized Jumping Pikachu (2021) ผลงานประติมากรรมเหล่านี้มีรายละเอียดของความผุกร่อนที่บรรจุไว้ด้วยคริสตัล ควอตซ์ อเมทิสต์ และเหล็กขัดเงาภายใน ผลงานเหล่านี้เปรียบเสมือนหลักฐานแห่งอนาคต เชิญชวนให้ผู้ชมได้ไตร่ตรองถึงความเปราะบางของชีวิต และชวนตั้งคำถามว่าเราจะทิ้งอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังได้ค้นพบ นอกจากนี้ยังจะได้พบกับ ‘Artifacts’ หรือร้านป๊อปอัปสุดพิเศษที่รวบรวมสินค้าและของสะสมในรุ่นต่างๆที่ออกแบบโดยแดเนียล อาร์แชม และสินค้ารุ่นเอกซ์คลูซีฟที่รังสรรค์ขึ้นสำหรับงานนี้โดยเฉพาะสัมผัสประสบการณ์พิเศษจากการแสดงชุด ‘BANGKOK 3024’ ได้ที่ชั้น G และชั้น 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 ก.ค.67 และพบกับกิจกรรมและโปรโมชัน รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Promotion of The Decade” โปรโมชันเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้าตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย.67.แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/2785243
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
14/05/2024
จากความได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ของประเทศไทยในด้านของการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า เดินเขา (Trekking) หรือการปีนเขา (Hiking) ได้รับความนิยมอย่างมาก และสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับการท่องเที่ยวไทยอย่างมีนัยสำคัญในปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ยังคงให้ความสนใจการท่องเที่ยวในรูปแบบดังกล่าวในพื้นที่ป่าชุมชน และพื้นที่ป่าเขตอุทยาน หรือภูเขาและแนวสันเขา ซึ่งอยู่ภายใต้ความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเชิงของการบังคับใช้กฎหมายและบทบัญญัติต่างๆ อย่างต่อเนื่องเนื่องจากสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น ป่าฝนเขตร้อนหรือการเดินเขาสูงในฤดูหนาวนั่นเอง เพื่อให้สอดรับกับหลักการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจในยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยเอง สนับสนุนการเติบโตของการท่องเที่ยวในรูปแบบดังกล่าวเป็นอย่างมากตัวอย่างเช่นความร่วมมือกับ Youtuber หรือ Influencer ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในรูปแบบดังกล่าว นอกจากนี้เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ในการปกป้องทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และการเรียนรู้เพื่อการใช้ประโยชน์ที่ยั่งยืนในเวลาเดียวกัน อาจจำเป็นต้องกำหนดแนวนโยบายและมาตรการทางกฎหมายที่มีผลบังคับใช้เพิ่มขึ้น โดยให้ทันสมัยและครอบคลุมกิจกรรมท่องเที่ยวเดินป่าและปีนเขา ซึ่งอาจมีรูปแบบใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นกรอบในการพัฒนาก้าวต่อไปในที่นี้จะขอหยิบยกประเด็นทางกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจหรือการดำเนินกิจกรรมนำเที่ยวของมัคคุเทศก์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการเดินป่า เดินเขาและการปีนเขาในประเทศไทย โดยเปรียบเทียบและยกตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่เอเชียใต้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการท่องเที่ยวเดินเขากล่าวคือ ประเทศเนปาล แม้จะมีความเหมือนกันในด้านกิจกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ แต่ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่บ้างในด้านของสภาพภูมิประเทศของภูเขาสูง ความยากง่ายในการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางต่างๆ ของแหล่งท่องเที่ยวเดินเขา โดยส่วนใหญ่แล้วสามารถที่จะเลือกเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง หรือใช้บริการมัคคุเทศก์ที่มีความเชี่ยวชาญได้พื้นที่ป่าและแนวเขาในประเทศไทยนั้น จะพบบริการของมัคคุเทศก์หรือไกด์นำทาง ไม่ว่าจะเป็น ภายใต้การประกอบธุรกิจ การเป็นมัคคุเทศก์อาสา มัคคุเทศก์ท้องถิ่นในชุมชน มัคคุเทศก์เยาวชน หรือในบางกรณีเป็นการบริการประชาชนในการแนะนำเส้นทางโดยเจ้าหน้าที่อุทยานเมื่อพิจารณาระบบการทำงานของมัคคุเทศก์หรือไกด์นำทางการเดินป่า เดินเขาหรือปีนเขาในประเทศไทย ประการแรก ไม่พบว่ามีการกำหนดรูปแบบหรือบังคับไว้อย่างตายตัวด้วยแนวนโยบายหรือมาตรการทางกฎหมายตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันหากเป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบดังกล่าวเป็นหมู่คณะ เป็นกลุ่มใหญ่และเดินทางท่องเที่ยวเป็นระยะเวลาหลายวัน อาจนัดหมายและว่าจ้างล่วงหน้าเฉพาะกลุ่ม และยังสามารถว่าจ้างหรือติดต่อการนำเที่ยวโดยมัคคุเทศก์หรือไกด์ผู้นำทางในรูปแบบต่างๆ เมื่อเข้าสู่พื้นที่ท่องเที่ยวแล้วก็สามารถทำได้กิจกรรมนำเที่ยวของมัคคุเทศก์และไกด์นำทางในการเดินป่า เดินเขา และปีนเขา ในประเทศไทยถูกกำกับด้วย พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เป็นเขตอุทยาน อาจต้องมีการปรับใช้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ร่วมด้วยทั้งนี้ไม่มีการกำหนดในข้อบังคับทางกฎหมายใดว่าต้องมีการว่าจ้างมัคคุเทศก์หรือไกด์นำทาง จึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวเดินป่า เดินเขาและปีนเขาได้ในแง่ของความอิสระของนักท่องเที่ยวเป็นข้อที่มีความยืดหยุ่น เพราะสามารถชำระค่าอุทยานและเข้าสู่พื้นที่เดินป่า เดินเขาและปีนเขาสูงได้ด้วยตนเองเลย แต่หากมองในด้านของความปลอดภัย และมาตรการในการสนับสนุนมัคคุเทศก์ผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญเส้นทาง ธุรกิจและรายได้ในชุมชนท้องถิ่นอาจมีข้อที่ต้องพิจารณากันต่อไปประเทศเนปาลเองนั้นในอดีตนั้น ไม่มีมาตรการบังคับทางกฎหมายสำหรับนักเดินเขาหรือนักปีนเขาที่มีความต้องการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง (Solo/Independent Trekker) ในการว่าจ้างมัคคุเทศก์หรือไกด์นำทางในเส้นทางการเดินเขาและปีนเขาทั้ง 12 อุทยานแห่งชาติและ 6 พื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติ รวมถึงเส้นทาง Everest Base Camp Annapurna และ Manaslu circuits ที่ได้รับความนิยมอย่างมากแต่ภายหลังที่มีการตรากฎหมายในประเด็นดังกล่าวขึ้นมาในช่วงเดือน เม.ย.2566 นักท่องเที่ยวจะต้องว่าจ้างมัคคุเทศก์และไกด์นำทางเท่านั้นโดยมีรายละเอียดของหลักเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับ กล่าวคือ การให้ข้อมูลของนักท่องเที่ยวหรือระบบ Trekkers’ Information Management System (TIMS) จะต้องถูกดำเนินการโดยมัคคุเทศก์หรือไกด์นำทางเท่านั้นเช่นเดียวกับการซื้อบัตรและชำระราคาค่าเข้าอุทยาน (Permit Document) การติดต่อที่พัก (Tea House) อาหารและการกำหนดเส้นทางการเดินเขา (Trekking Route Management) เหตุผลเบื้องหลังที่รัฐบาลเนปาลกำหนดมาตรการบังคับเช่นนี้ เพื่อรับรองความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเดินเขาในด้านของสุขภาพและความคุ้นเคยในเส้นทาง รวมถึงป้องกันการหลงทาง อุบัติเหตุ และการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวเดินเขา อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนรายได้เข้าสู่ท้องถิ่นในการจำหน่ายอาหารและห้องพักอีกด้วยกฎหมาย ระเบียบ วิธีปฏิบัติและข้อบังคับในประเทศเนปาลจึงเปลี่ยนไป และอาจถือได้ว่าเป็นการจัดระเบียบธุรกิจการนำเที่ยวเดินเขาครั้งใหญ่หลังจากการท่องเที่ยวเดินเขากลับมาได้รับความนิยมอย่างมากอีกครั้งในประเทศเนปาลเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับการจัดการกิจกรรมนำเที่ยวเดินป่าในประเทศไทย ยังมีการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการทางกฎหมายที่มาสนับสนุนแตกต่างกันอยู่พอสมควร อาจเป็นประเด็นที่น่าสนใจนำมาพิจารณาว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นหรือความเหมาะสมที่จะต้องปรับใช้มาตรการดังกล่าวบ้างหรือไม่.แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1125871
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
14/05/2024
กรุงเทพฯ 14 พฤษภาคม 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย คว้ารางวัลอันดับ 1 คุณวุฒิตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ (National Agent Awards) หรือ NAA ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (THAIFA) ซึ่งในปีนี้มีพลังตัวแทนเอไอเอ พิชิตคุณวุฒิได้จำนวนมากถึง 204 ท่าน จากทั้งหมด 355 ท่าน ซึ่งมาจาก 15 บริษัททั่วประเทศ ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของพลังตัวแทนเอไอเอ และความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ โดยพิธีมอบรางวัลได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ผู้ได้รับรางวัล ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ ในธีมงาน “Gateway to Success”ในการนี้ ผู้ได้รับรางวัล 10 อันดับสูงสุดของตัวแทนประกันชีวิตจากทั่วประเทศ เป็นพลังตัวแทนจากเอไอเอ มากถึง 7 ท่าน ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานเปิดงานและให้เกียรติมอบถ้วยรางวัลให้แก่ 10 อันดับแรก ตลอดจนมีผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย นำโดย คุณดำรงศักดิ์ ขุนทอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารตัวแทนภูมิภาค 2 และคุณสลักจิต นิลประเสริฐศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนช่องทางการขาย เข้าร่วมแสดงความยินดีกับผู้พิชิตคุณวุฒิอีกด้วย โดยผู้ได้รับรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ที่มีรายชื่ออยู่ใน 10 อันดับแรกมีดังต่อไปนี้อันดับ 1 : คุณเพชรรัตน์ รงค์บัญฑิต เบี้ยประกัน 49,951,943 บาทอันดับ 2 : คุณวิศรุต วิโรจน์ไพศาลกุล เบี้ยประกัน 47,275,279 บาทอันดับ 4 : คุณรสริน โมคา เบี้ยประกัน 28,634,428 บาทอันดับ 5 : คุณรัญชิตา พลฤทธิ์ เบี้ยประกัน 27,623,067 บาทอันดับ 8 : คุณณัฐพล รุ่งเกียรติวงศ์ เบี้ยประกัน 22,184,817 บาทอันดับ 9 : คุณตรีนพภูรี ศุภวงศ์วริศ เบี้ยประกัน 20,097,923 บาทอันดับ 10 : คุณบดินทร์ รามศรี เบี้ยประกัน 19,350,388 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
30/04/2024
30/04/2024
30/04/2024
30/04/2024
30/04/2024