ข่าวการเงิน
คุณมีเงินล้านกันหรือยัง? หากยังไม่มีนี่คือทางลัดที่นำไปสู่การเป็นมหาเศรษฐี
คำถามของผู้ที่อยากจะมีความมั่งคั่งในชีวิต
คือทำไมการประสบความสำเร็จทางการเงินในชีวิตจึงเป็นเรื่องยาก?,
อะไรคือสิ่งที่คนรวยมักทำในทุกวัน?,
มีสูตรลับในการสะสมความมั่งคั่งหรือไม่?
ตามการศึกษาในหนังสือ Rich Habits ของผู้เขียน Tom Corley
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินที่ใช้เวลาถึง 5 ปี ในการสังเกต
และจดบันทึกกิจกรรมประจำวันของเหล่าผู้มั่งคั่งจำนวน 223 คน
โดยทั้งหมดมีรายได้รวมประจำปีอย่างน้อย 160,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.8
ล้านบาท) และมีทรัพย์สินสุทธิ 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 117 ล้านบาท)
ซึ่งผลการศึกษาสามารถสรุปออกมาเป็น 4 เส้นทางหลักในการเป็นมหาเศรษฐี
ดังต่อไปนี้
1. เส้นทางนักลงทุนผู้ประหยัด
ไม่ว่างานประจำของพวกเขาจะเป็นอย่างไร พฤติกรรมส่วนตัวคือการประหยัด
และนำเงินไปลงทุน เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำวันของพวกเขา
ไม่เพียงเท่านั้น
กลุ่มคนในลักษณะนี้จะหาวิธีเพิ่มความมั่งคั่งให้กับตัวเองอยู่เสมอ
2. เส้นทางไต่เต้าสายบริษัท
เส้นทางนี้เป็นของพนักงานที่เข้าไปทำงานในบริษัทขนาดใหญ่
พร้อมทั้งอุทิศเวลาและพลังงานทั้งหมดไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งระดับสูง
แน่นอนว่าด้วยตำแหน่งที่สูง เงินเดือนก็เยอะตามไปด้วย
3. เส้นทางอัจฉริยะ
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างเก่ง ทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ
และได้รับค่าตอบแทนสูงตามความรู้ และความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ เช่น
มีใบปริญญาระดับสูงด้านกฎหมาย หรือแพทยศาสตร์
4. เส้นทางนักฝัน
คนในกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็นนักแสวงหาความฝัน ไม่ว่าจะเป็น
การเริ่มต้นอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง, อยากเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ,
เป็นนักดนตรีหรือนักเขียนที่มีผลงานขายดี
พวกเขาเหล่านี้จะใช้ความรักที่มีอยู่ในความฝันเลี้ยงชีพ
และหลงใหลไปกับเงินที่เข้ามาในบัญชีธนาคาร
ในหนังสือระบุอีกว่า เส้นทางนักฝันเป็นเส้นทางที่จะทำให้รวยเร็วที่สุด
โดยประมาณ 28% จากการศึกษาเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มนี้
โดยพวกเขามีความมั่งคั่งเฉลี่ย 7.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 271 ล้านบาท)
มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ
และใช้เวลาในการสะสมความมั่งคั่งสู่การเป็นเศรษฐีไม่ถึง 12 ปี
นี่คือเส้นทางสู่การเป็นเศรษฐีที่ใช้เวลาเร็วที่สุด และคุ้มค่าที่สุด
รวมถึงเป็นเครื่องมือการันตีว่าจะได้รับเงินมากที่สุดด้วย พิจารณาจากลิสต์
Forbes 400 โดย 7 ใน 10 ของมหาเศรษฐีที่รวยสุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น Jeff
Bezos, Bill Gates, Mark Zuckerberg และ Michael Bloomberg
ล้วนเป็นพวกช่างฝันที่อยากจะร่ำรวยจากการมีบริษัทเป็นของตัวเอง
แม้จะมีผลลัพธ์ที่สวยหรู แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จ
เพราะกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านกับอุปสรรคมาอย่างโชกโชน
ผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วงเฉลี่ย 65-75 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
และแทบจะไม่มีวันหยุดเลย
ที่มา:cnbc
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับsmartsme
https://www.smartsme.co.th/content/248100
X