ข่าวการเงิน
โรเบิร์ต คิโยซากิ นักแนะนำการลงทุน เจ้าของหนังสือขายดี "Rich Dad Poor Dad หรือ พ่อรวยสอนลูก" ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานได้ออกมาเตือนนักลงทุนว่าตลาดหุ้นกำลังตกต่ำเข้าสู่วัฏจักรขาลง
โดยกลุ่มคนรุ่น Baby Boomer ซึ่งมีบทบาทมากในสังคมปัจจุบันนี้
จะกลายเป็นเหยื่อที่เสียหายมากที่สุดจากหายนะครั้งนี้
finbold กล่าวถึงบทวิจารณ์ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ
โดยเขาชี้ให้เห็นว่าผลพวงของสัญญาณล่มสลายของตลาดหุ้น
เริ่มมีสัญญาณสะท้อนออกมาแล้ว “ธนาคารยักษ์ใหญ่อีกแห่งในจีนล้มละลาย”
และสิ่งเดียวกันนี้กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา
“เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์
โดยเฉพาะอาคารสำนักงานหลายแห่งกำลังล้มละลาย และมันคือวิกฤติครั้งสำคัญ”
ตามโพสต์ใน X ที่เขาเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 เดือนมีนาคม
เงินบำนาญคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ กับความหวังหลังเกษียณ แต่สลายหายไปในตลาดหุ้น
นอกจากนี้ เขาชี้ให้เห็นว่าคนรุ่น Baby Boomer
มีความเสี่ยงเป็นพิเศษเนื่องจากแผนการเกษียณอายุของพวกเขาที่มี
"สินทรัพย์ปลอม" ผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
หรือที่เรียกว่า Mutual Fund ETFs สำหรับอสังหาริมทรัพย์ และ
"การเกษียณอายุของ Baby Boomer กำลังจะทยอยพังทลายลงอย่างช้าๆ
เมื่อทรัพย์สินเสมือนในรูปสัญญากระดาษพังทลายลง”
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
เขาแนะนำให้ผู้ติดตามของเขาว่า “ออกไปจากสินทรัพย์ปลอม
รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ และซื้อทองคำ โลหะเงิน และบิทคอยน์ Bitcoins
โดยไม่ต้องรอวันเกษียณอายุและเอาเงินบำนาญมาลงทุน
"ผมไม่เชื่อว่าสินทรัพย์อะไรก็ตามที่พิมพ์ออกมาในรูปของกระดาษได้
(ดอลล่าร์ พันธบัตร สัญญาการถือครอง หรือสินทรัพย์ในรูปแบบกระดาษ)
จะเชื่อถือได้ พวกคุณต้องไปสัมผัสของจริง
เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเอง"
โรเบิร์ต คิโยซากิ อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ว่าคนรุ่นของเขา
กำลังจะเสียหายอย่างมากจากผลกระทบของ
“การล่มสลายของตลาดหุ้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
ที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากแบงก์ชาติสหรัฐ ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศ
มีการพิมพ์ธนบัตรหรือเงินกระดาษมากเกินไป
โดยไม่มีสินทรัพย์หลักใดเป็นเครื่องการันตีค้ำประกันหนุนหลังดอลล่าร์
นอกจากนี้ โรเบิร์ต คิโยซากิ
ยังคงย้ำจุดยืนมาอย่างต่อเนื่องว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองจากผลกระทบจากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ครั้งนี้
คือการมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์และทรัพยากรเป็นการลงทุนที่เหนือกว่าในปี
2567 รวมถึงการเลือกลงทุนประเภทความเสี่ยงต่ำ ที่เป็นหลุมหลบภัยเช่น
โลหะมีค่า เช่น ทองคำและโลหะเงิน หรือแม้กระทั่งวัวเนื้อวากิว ที่มีราคาสูง
และสกุลเงินดิจิทัลเช่นบิทคอยน์เป็นต้น
ขณะที่ดังที่กล่าวไว้ ไมค์ แมคโกลน ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
และนักวิเคราะห์อาวุโสของ Bloomberg ได้ออกมาเตือนเมื่อเร็ว ๆ นี้
ว่าสินค้าโภคภัณฑ์อาจประสบปัญหา
โดยนักลงทุนควรต้องเตรียมพร้อมสำหรับความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้น
โดยมีความเสี่ยงถึง 30%
อย่างไรก็ดีภายใต้อิทธิพลของหุ้นที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลงในประเทศจีน
ซึ่งเป็นผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์อันดับต้น ๆ ของโลก
ทำให้เกิดผลกระทบเป็นระลอกคลื่นในห่วงโซ่อุปทาน
ทั้งนี้คนรุ่น Baby Boomer คือคนรุ่นที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489 - 2507
(ค.ศ. 1946 - 1964) และจัดเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก
และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจและทิศทางสังคมในปัจจุบัน
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดออนไลน์
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000027877?tbref=hp