ข่าวการเงิน

เท่าทันกลเม็ดฉ้อฉล วงจรธุรกิจชวนลงทุนเข้าข่าย "แชร์ลูกโซ่"



ตลอดปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามักจะมีข่าวความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวง โดยเฉพาะในรูปแบบแชร์ลูกโซ่กิดขึ้นมากมาย และได้สร้างความเสียหายในวงกว้างเป็นจำนวนมาก และเหล่านั้นมักจะมีการใช้เครื่องมืออย่างการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็จะมีการหลอกลวงที่อัปเกรดไปตามยุคสมัยในอดีตอาจจะเป็นในรูปแบบของการเล่นแชร์ ต่อมาเป็น Forex จนปัจจุบันที่พบเห็นกันบ่อยครั้ง คือ Cryptocurrency

ซึ่งต้องบอกว่าการเกิดขึ้นของสินทรัพย์ใดๆ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะถือเป็นทางเลือกใหม่ๆ ของการลงทุนให้กับผู้คน แต่ที่ต้องระวังคือ คนที่นำไปใช้ในทางที่ผิด และสรรหาวิธีการมาหลอกลวง

Thairath Money จึงได้พูดคุยกับคุณณัฐ เหลืองนฤมิตรชัย ผู้ช่วยผู้จัดการหัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนถึงลักษณะของรูปแบบธุรกิจที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เพื่อเป็นการสร้าง Financial Literacy ขั้นพื้นฐานให้รู้เท่าทันกลโกงก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อลงทุน

คุณณัฐ อธิบายว่า คอนเซปต์ของแชร์ลูกโซ่จริงๆ เลยคือ คนที่เข้าไปใหม่ไปจ่ายเงินให้คนเก่า กล่าวคือ เงินใดๆ ก็ตามที ที่คนใหม่ใส่เข้าไป มันจะถูกนำไปจ่ายให้คนเก่า

แต่ในทางกลับกันหากเป็นการลงทุนอย่าง การซื้อหุ้น สมมติว่า มีคนซื้อที่ราคา 10 บาท และวันต่อมาขายได้ 20 บาท เพราะคิดว่าจะได้ปันผลเท่านี้ ต่อมาผลการดำเนินงานดีขึ้น คนคาดหวังว่าผลตอบแทนในอนาคตดีขึ้น เขาเลยยอมซื้อ แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งราคาลดลง อาจเป็นเพราะพื้นฐานเปลี่ยน แต่ถ้าซื้อมาแล้วคนอื่นถือต่อไม่ได้ อาจเพราะไม่มีสภาพคล่อง ต้องเทขายจนกระทั่งราคามันถูก แต่ถ้าผลประกอบการออกมาเป็นอย่างที่เขาคาดหวัง เขาก็สามารถรอเงินปันผลได้ ตรงนี้เขาไม่ได้เจ๊ง แต่เขาอาจจะขาดทุนกำไร ขาดช่องทางว่าไม่สามารถออกได้ แต่ว่าจริงๆ เขาไม่ได้เสียเงินไป เพราะจริงๆ เขาสามารถรอผลตอบแทนในอนาคตได้ เหล่านี้เรียกว่าเป็นพื้นฐานของการลงทุน

ขณะที่อีกคอนเซปต์ คือ การพนัน ซึ่งเป็นการมาตกลงกันว่าจะพนันกัน (bet on) เรื่องอะไร ถ้าทายถูกก็ได้เงิน ทายผิดก็เสียเงิน

ส่วนการปั่นหุ้น ก็คือ การปั่นราคาของบางอย่างให้สูงเกินจริง หรือต่ำเกินจริง เพื่อที่จะทำกำไรในรูปแบบบางอย่าง

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า การเก็งกำไร ซึ่งเป็นรูปแบบที่อยู่ตรงกลางระหว่างการลงทุน และการพนัน คือ การที่เราเข้าไปซื้อบางอย่าง เพราะมองว่าจะมีคนอื่นมาซื้อจากเราในราคาที่สูงกว่า โดยที่ไม่สนใจพื้นฐานใดๆ

ขณะที่ความแตกต่างของการพนัน และการเก็งกำไรนั้น ความน่าสนใจ คือ เมื่อไหร่ที่พนันมีคนหนึ่งได้คนหนึ่งเสีย ส่วนการเก็งกำไร มันดูเหมือนบางช่วงว่าทุกคนได้ เช่น ถ้าหากเราซื้อหุ้น 10 บาท โดนปั่นไปขายในราคา 20 บาท เราได้กำไร 10 บาท แต่ละคนซื้อไป เขายังคิดว่ามูลค่าของเขายัง 20 บาทอยู่ เพราะฉะนั้นตราบใดที่มีการปั่นราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ดูเหมือนทุกคนได้ คนใหม่อยากเข้ามาทันที เพราะอยากเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นทุกคนในนั้น

แต่สำหรับแชร์ลูกโซ่ เป็นอีกคอนเซปต์ที่อยู่นอกกรอบตรงนี้ เพราะคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับวงจรตรงนี้

หนึ่ง คนจะไม่สนว่าของที่เราจะซื้อคืออะไร ไม่สนใจพื้นฐาน ไม่สนใจว่าจ่ายเงินกับอะไรลงไป แต่สนใจอย่างเดียวคือ ทำอย่างไรฉันถึงจะรวย

สอง มันมีช่องทางรวย โดยหนึ่งในคาแรกเตอร์ คือ การชักชวนคนอื่นมาร่วมกิจการด้วย ไม่ว่าจะได้ผลตอบแทนทางตรง คือ ค่าคอมมิชชั่น หรือทางอ้อม โดยของที่ถืออยู่มูลค่าสูงขึ้น ดังนั้นมีแรงจูงใจ (incentive) ทันทีว่าให้คนอื่นมาร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนอยากจะชวนคนรอบข้างเข้ามานั้น มีดังนี้

  •  ข้อแรก ไม่รู้ว่าของนี้ดีจริงหรือไม่ แต่คนอื่นบอกมันดี เลยเข้าไปด้วย เชื่อมั่นจากคนที่เล่าให้ฟัง เลยชวนคนรอบข้างมาทำด้วย เพราะหวังดี
  •  สอง ลงทุนแล้ว รวยแล้ว อยากแบ่งปันความรวยให้กับคนรู้จักบ้าง
  •  สาม รู้ทั้งรู้ว่าผิดกฎหมาย หลอกลวง แต่อยากชวนคนอื่นมาลงทุน เพราะยิ่งชวนคนมาลงทุนเยอะ ตัวเองยิ่งรวย

ลักษณะเฉพาะของแชร์ลูกโซ่ที่เลวร้ายที่สุด คือ ยิ่งจ่ายผลตอบแทนสูง ที่จะคุ้มทุนเร็วที่สุด ซึ่งจะทำให้คนกระหายที่จะหาคนใหม่เข้ามาในระบบอย่างรวดเร็ว และยิ่งเร็วเท่าไหร่ ยิ่งอันตราย มีความเสี่ยงมาก และจะระเบิดเร็ว




สำหรับวิธีการแยกแยะ (identify) ว่าลักษณะแบบไหนที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่นั้น ที่สหรัฐอเมริกาได้มีการเรียกว่าเป็น Pyramid Scheme ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ที่มีการหลอกลวงให้ลงทุน และสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง โดยมีลักษณะดังนี้

  •  หนึ่ง ให้ความสนใจกับการหาคนเป็นอย่างมาก เป็นการหาลูกข่ายเข้ามาร่วม และเมื่อเข้ามาแล้วจะต้องมีการเสียเงินเกิดขึ้นให้ได้ อาจจะเป็นในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเป็นอย่างน้อย เพื่อที่เงินนั้นจะนำไปแจกจ่ายให้กับต้นสายคนอื่นๆ
  •  สอง ไม่มีสินค้าและบริการที่มีมูลค่าจริงๆ ซึ่งอาจมาให้ของที่มีลักษณะเหมือนมีค่า แต่ไม่มีมูลค่าจริง และไม่สามารถตีมูลค่าได้
  •  สาม มีการสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น
  •  สี่ มีจะมีการพูดถึงการได้เงินมาอย่างง่ายๆ เมื่อทำไปถึงจุดหนึ่งจะได้เงินมาง่าย ที่เป็นไปตามบรรทัดฐานเลยคือ การมี Passive Income ซึ่งเป็นรายได้ที่เข้ามาโดยไม่ต้องทำงานแลกเงิน
  •  ห้า ไม่มีรายได้ชัดเจนที่มาจากการขายเลย โมเดลธุรกิจที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนั้น
  •  หก มักจะมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่ซับซ้อน มักจะมีต้นสายหลายสาย มีการจ่ายผลตอบแทนในลักษณะที่เป็น Complex Structure

และสิ่งที่น่าสนใจของ Pyramid Scheme นี้คือ ถ้าหากในคนหนึ่งคนจะต้องหาลูกข่ายให้ได้ 6 คน ทำลงไป 13 ลำดับชั้น ธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะมันเกินจำนวนประชากรทั้งโลก

นอกจากนี้ คุณณัฐยังได้ยกตัวอย่าง และตั้งข้อสงสัยถึงกรณีของโปรเจกต์ MetFi ที่อาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ใช้วิธีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาเกี่ยวแล้วไปหลอกคน โดยมีการกล่าวอ้างถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคต ให้กับประชาชนที่ไม่ได้มีพื้นฐานความรู้ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องระมัดระวัง รวมถึงประชาชนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะลงทุน มิเช่นนั้นจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ไม่ช้าก็เร็วในอนาคต


แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/business/feature/2590520
X