ข่าวการเงิน
                    บทความโดย "ธีรวัตร์ นรอิงคสิทธิ์" 
ที่ปรึกษาการเงิน AFPT™ สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
คุณคิดว่าโต๊ะ 3 ขา ต่างจากโต๊ะ 4 ขาหรือเปล่า แล้วถ้าต้องตัดสินใจซื้อโต๊ะจะใช้เกณฑ์อะไร เช่น รูปทรง จำนวนขาโต๊ะ
คำว่า โต๊ะ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้คำนิยามไว้ว่า 
สิ่งที่ทําด้วยไม้เป็นต้น พื้นราบ เป็นรูปต่าง ๆ มีขา 
สําหรับเป็นที่เขียนหนังสือ ตั้งเครื่องบูชา หรือวางสิ่งของต่าง ๆ 
เรียกชื่อต่าง ๆ ตามวัตถุที่ทํา เช่น โต๊ะหิน โต๊ะมุก ตามรูปร่าง เช่น 
โต๊ะกลม โต๊ะสี่เหลี่ยม ตามวัตถุประสงค์ที่ใช้ เช่น โต๊ะเขียนหนังสือ 
โต๊ะกินข้าว ลักษณะนามว่า ตัว
หากซื้อโต๊ะมา 1 ตัว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมีอยู่ 3 สิ่งด้วยกันคือ 
ความมั่นคงของโต๊ะ, น้ำหนักของสิ่งของที่วางบนโต๊ะ 
และความเสี่ยงในการใช้งาน ซึ่งก็เปรียบเหมือนโอกาสและสถานการณ์ต่าง ๆ 
ที่เข้ามากระทบกับตัวเรา โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
เช่น หากใช้โต๊ะที่มีขาเดียว ก็ต้องระมัดระวังเรื่องสมดุลของโต๊ะ 
ไม่เช่นนั้นโต๊ะอาจล้มคว่ำลงได้ หรือของที่วางไว้อยู่บนโต๊ะ 
หากมีจำนวนที่มากเกินไป ของก็อาจหล่นจากโต๊ะ 
หรือหากวางของที่หนักเกินกว่าที่โต๊ะจะรับไหว โต๊ะก็อาจจะล้มลง
เช่นเดียวกันในด้านของความเสี่ยงอาจเดินสะดุด หรือชนโต๊ะ ทั้ง ๆ 
ที่คิดว่าหลบแล้ว หากชนเบา ๆ โต๊ะอาจจะเคลื่อนไปบ้าง 
แต่หากชนแรงโต๊ะก็อาจจะล้มลง
หากเปรียบโต๊ะ 1 ขากับชีวิตผู้คน ขาโต๊ะ เปรียบเสมือนรายได้ที่เข้ามา 
ทำให้โต๊ะตัวนั้นตั้งอยู่ได้ 
ส่วนสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะเปรียบเสมือนภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ 
บางคนอาจมีภาระต้องเลี้ยงดูบิดามารดา 
บางคนเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องเลี้ยงดูครอบครัว 
หรือบางคนมีสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแล เป็นต้น
หากวันใดวันหนึ่งมีวัตถุพุ่งเข้ามาชนโต๊ะตัวนี้ 
สิ่งที่เกิดขึ้นคือโต๊ะอาจจะล้มลง 
เนื่องด้วยการที่มีขาเดียวทำให้การเสียสมดุลง่าย 
และของที่วางไว้อยู่บนโต๊ะก็จะร่วงลงไป
โดยปกติมักจะเห็นโต๊ะที่มีจำนวน 4 ขา เมื่อดูแล้วมีความมั่นคง 
เพราะถึงแม้จะผลักโต๊ะ ก็ไม่โน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง 
ดังนั้นโต๊ะที่ดูมั่นคงก็ควรจะมีจำนวนขาที่มาก ขั้นต่ำคือ 4 ขา 
เพราะแต่ละขาจะรับน้ำหนักและทำให้โต๊ะตัวนั้นมีสมดุลที่ดี
ในหนึ่งช่วงชีวิตคน หลังจากเรียนจบ ก็ต้องทำงาน หารายได้ มีครอบครัว มีบ้าน
 มีรถ มีภาระหน้าที่ที่มากขึ้น และด้วยอายุที่มากขึ้น 
สุขภาพร่างกายก็ไม่ได้แข็งแรงเหมือนตอนหนุ่มสาว 
หากมีเหตุการณ์อะไรเข้ามากระทบก็อาจจะส่งผลกระทบต่อฐานะการเงิน
เช่น อุบัติเหตุ เจ็บป่วยไม่สบาย แต่หากมีการวางแผนในมิติอื่น ๆ เข้ามา 
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์อะไร ร้ายแรงแค่ไหน ก็พร้อมที่จะรับมือได้เสมอ 
ก็เปรียบกับการที่เพิ่มขาโต๊ะให้มากขึ้น 
ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงในด้านของชีวิต 
หากวันใดวันหนึ่งเสียชีวิตจากไปก่อนวัยอันควร
คนในครอบครัวก็จะไม่ต้องรับภาระใด ๆ 
ต่อความเสี่ยงด้านการเจ็บป่วยและโรคร้ายแรง 
ที่มักจะดึงเงินก้อนที่เราเก็บไว้เพื่อนำไปใช้รักษาตัว, 
ความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและทุพพลภาพ ที่อาจจะทำให้ไม่สามารถทำงานได้ 
แต่ยังต้องดำรงชีพอยู่ และความเสี่ยงจากการเกษียณอายุ 
ซึ่งหากเราไม่เตรียมเงินไว้ก็อาจจะทำให้คุณภาพชีวิตลดลงไปจากเดิม
หากต้องการใช้ชีวิตแบบโต๊ะที่มั่นคง 
ให้เริ่มจากดูว่าตอนนี้โต๊ะของตัวเองมีกี่ขา บางคนมีขาเดียว คือ ขารายได้ 
บางคนอาจจะมี 2 หรือ 3 แล้ว และเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน 
หลังจากนั้นก็มาพิจารณาว่าขาไหนสำคัญกับชีวิตมากที่สุดแล้วก็ควรไปเพิ่มขานั้นก่อน
เช่น ขับขี่มอเตอร์ไซค์ มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง ก็ไปเพิ่มขาในส่วนของอุบัติเหตุ ทุพพลภาพและชีวิต
ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า ลักษณะของโต๊ะที่มั่นคงคือ โต๊ะที่มี 4 ขา 
แต่หากเปรียบเทียบกับชีวิตมนุษย์แล้ว 
จะต้องมีขาหนึ่งโฟกัสในเรื่องของการหารายได้ และขาที่เหลือ 
โฟกัสในส่วนของการปกป้องความเสี่ยง
ซึ่งจะประกอบด้วย การประกันชีวิต การประกันสุขภาพ การประกันอุบัติเหตุ การประกันโรคร้ายแรง และการประกันทุพพลภาพ
ดังนั้น ทุกคนควรจะเป็นโต๊ะที่มี 6 ขา หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับขาใดขาหนึ่ง ขาที่เหลือก็ยังคอยพยุงไม่ให้โต๊ะตัวนั้นล้มลง
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/finance/news-1440618
                                    29/04/2024
                                    30/04/2024
                                    30/04/2024
                                    30/04/2024
                                    30/04/2024