คอลัมน์ : Smart SMEs
ผู้เขียน : ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ กรุงศรี SME
ที่ผ่านมาดิฉันมักจะถูกถามความคิดเห็นจากสื่อมวลชน
ในฐานะผู้มีโอกาสพบปะพูดคุยและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs
โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตต่าง ๆ ที่ผ่านมา ว่าอะไรทำให้ผู้ประกอบการหลาย ๆ
คนพร้อมที่จะสู้ต่อจนสามารถผ่านพ้นวิกฤตเหล่านั้นมาได้
และยังนำพาธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
ขณะที่บางคนกลับถอดใจ
ซึ่งสิ่งที่ดิฉันได้สังเกตและพบเห็นจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
นั่นก็คือ การคงไว้ซึ่ง “ทัศนคติที่ดี” ต่อสิ่งที่ต้องเผชิญ
โดยเฉพาะต้องเจอกับเรื่องที่ยาก ๆ และกินเวลายาวนาน
ทำให้ดิฉันนึกถึงประโยคที่กล่าวว่า “Attitude is Everything!” (ทัศนคติ คือ ทุกสิ่ง)
ประโยคสั้น ๆ แต่กลับมีความหมายทรงพลัง ที่สื่อว่า มุมมอง ความคิด
และทัศนคติของเรา ต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และต่อโลกใบนี้
ส่งผลอย่างมากต่อทุกอย่างในชีวิตของเรา ทัศนคติส่งผลต่อความคิด
โดยทัศนคติที่ดีจะช่วยให้เราคิดบวก มองเห็นโอกาสในทุกสถานการณ์
ทัศนคติยังส่งผลต่อการกระทำ โดยเมื่อเรามีทัศนคติที่ดี
เรามีแนวโน้มที่จะลงมือทำ กล้าที่จะเผชิญกับความท้าทาย
และทัศนคติส่งผลต่อผลลัพธ์ โดยงานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า
คนที่มีทัศนคติที่ดีมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่มีทัศนคติแย่
สำหรับผู้ประกอบการ ทัศนคติมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ ประโยคที่ว่า “Attitude is Everything” นั้นเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้
ทัศนคติส่งผลต่อการตัดสินใจ
โดยผู้ประกอบการต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากอยู่เสมอ
ทัศนคติที่ดีจะช่วยให้พวกเขามองเห็นภาพรวม ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
และรับมือกับความเสี่ยงได้ ดั่งเช่น
ผู้ประกอบการสองคนที่เผชิญกับวิกฤตทางธุรกิจ คนแรกมีทัศนคติที่ดี
มองวิกฤตเป็นโอกาส พยายามหาทางแก้ไข
ในขณะที่ผู้ประกอบการอีกคนมีทัศนคติที่แย่ รู้สึกท้อแท้
คิดว่าธุรกิจของเขาจะล้มละลาย ผลลัพธ์ก็คือ ผู้ประกอบการที่มีทัศนคติที่ดี
มีโอกาสที่จะผ่านพ้นวิกฤต และประสบความสำเร็จในธุรกิจ เพราะเขามีความมั่นใจ
กล้าที่จะเสี่ยง และหาทางออกได้
ทัศนคติส่งผลต่อแรงจูงใจ โดยการประกอบธุรกิจนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย
อุปสรรค และความยากลำบาก ทัศนคติที่ดีจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีแรงจูงใจ
มุ่งมั่น อดทน และไม่ยอมแพ้ เช่น ผู้ประกอบการสองคนที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่
คนแรกมีทัศนคติที่ดี มุ่งมั่น อดทน เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ในขณะที่ผู้ประกอบการอีกคนมีทัศนคติที่แย่ รู้สึกท้อแท้
คิดว่าธุรกิจของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ ผลลัพธ์ก็คือ
ผู้ประกอบการที่มีทัศนคติที่ดีมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ
เพราะเขามีความมุ่งมั่น อดทน และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ทัศนคติส่งผลต่อความสัมพันธ์
โดยผู้ประกอบการต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พนักงาน คู่ค้า
และนักลงทุน ทัศนคติที่ดีจะช่วยให้พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ได้รับความไว้วางใจ และสร้างความร่วมมือ ตัวอย่าง เช่น
ผู้ประกอบการสองคนที่ต้องติดต่อกับลูกค้า คนแรกมีทัศนคติที่ดี
ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการลูกค้าด้วยความประทับใจ
ในขณะที่ผู้ประกอบการอีกคนมีทัศนคติที่แย่ หน้าบึ้งตึง บริการลูกค้าไม่ดี
ผลลัพธ์ก็คือ ผู้ประกอบการที่มีทัศนคติที่ดีมีโอกาสที่จะมีลูกค้าประจำ
และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน เพราะเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
ทั้งนี้ การมีทัศนคติที่ดี เราสามารถฝึกฝนและปรับเปลี่ยนกันได้ค่ะ
โดยการฝึกคิดบวกในการมองหาโอกาสในทุกวิกฤต คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้
ให้คิดว่าทุกประสบการณ์คือการเรียนรู้ ทั้งที่สำเร็จและที่ล้มเหลว
นำมาปรับปรุงแก้ไขพัฒนาตัวเองและธุรกิจ
พยายามล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่มีทัศนคติที่ดี โดยหาเพื่อน คนรอบตัว หา
Mentor หาแรงบันดาลใจจากผู้คน หนังสือ บทความความรู้
และรู้สึกขอบคุณในสิ่งดี ๆ ที่มี มองโลกในแง่ดี มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
ทัศนคติที่ดี เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้ผู้ประกอบการไปสู่ความสำเร็จ
หมั่นฝึกฝน พัฒนา และปรับเปลี่ยนทัศนคติ
เพื่อให้การคิดบวกเป็นดั่งกิจวัตรประจำวันของคุณกันนะคะ – Change Your
Attitude, Change Your Business and Change Your Life
ปล. อ่านบทความ ความรู้และมุมมองธุรกิจดี ๆ สร้างแรงบันดาลใจ ได้ที่ FB Page : Krungsri Business Empowerment
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์