คลังความรู้

Everyday knowledge for you

การวางแผนทางการเงิน

แผนการเงินที่ดีต้องมีการทบทวน

03/10/2024

บทความโดย “สมาคมนักวางแผนการเงินไทย”วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ในการวางแผนการเงินไม่ว่าจะเพื่อเป้าหมายใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะทำให้สำเร็จนั้นคือการมีวินัยและทำให้ได้ตามแผน และมีสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการทำตามแผนคือการ “ทบทวน” และ “ปรับปรุง” แผนการเงินของตัวเองด้วย เพราะเมื่อเวลาผ่านไปสถานการณ์ชีวิตหรือเป้าหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่ทำให้จำเป็นต้องทบทวนและปรับปรุงแผนการเงิน แบ่งได้เป็น 2 สถานการณ์ คือ– การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ส่วนตัว เช่น ช่วงชีวิตที่เปลี่ยนไปอาจมีความต้องการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นจากแผนที่เคยวางไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง รถ บ้าน หรือแม้กระทั่ง การแต่งงานมีครอบครัว การมีบุตร การลาออกจากงาน การเจ็บป่วย ในบางครั้งการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ส่วนตัวอาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมาย เช่น เปลี่ยนเวลาเกษียณจากเดิมตอนอายุ 60 ปีเป็นอายุ 50 ปี ซึ่งทำให้ต้องมีการทบทวนแผนเดิม– การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ภายนอก ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของเรา เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลถึงการลงทุน การปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ได้ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น หลักเกณฑ์เกี่ยวข้องกับภาษี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับตราสารการเงินการทบทวนแผนจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง โดยทบทวนเป้าหมายเดิมว่ายังคงเป็นไปตามแผนที่เคยวางไว้หรือไม่ หรือเราอาจจะมีเป้าหมายใหม่ขึ้นมา ก็พิจารณาทบทวนกับแผนเก่าว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องตามสถานการณ์ต่าง ๆ โดยสิ่งที่ควรทบทวน ได้แก่– ความเป็นไปของชีวิตและข้อมูลทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการงาน เรื่องสุขภาพ และเรื่องครอบครัวก็เช่นกัน ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะจะส่งผลต่อการใช้เงินทั้งหมด ส่วนเรื่องข้อมูลทางการเงิน เช่น สินทรัพย์ หนี้สิน ก็ควรอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันที่สุด– ผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นการทบทวนผลตอบแทนในการลงทุนต่าง ๆ ว่าเป็นอย่างไร ต้องมีการปรับสัดส่วนการลงทุน (Portfolio Rebalancing) หรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้– การคุ้มครองความเสี่ยง ประเมินว่าการคุ้มครองต่าง ๆ นั้นเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่หรือไม่ มีภาระการเงิน หรือความเสี่ยงอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ หากประเมินแล้วว่าไม่เพียงพอ ก็อาจจะต้องพิจารณาทำประกันเพิ่ม หรือในทางตรงกันข้าม หากภาระการเงินลดลงมากแล้ว ก็อาจจะพิจารณาลดหรือหยุดความคุ้มครองของบางกรมธรรม์ เพื่อประหยัดรายจ่ายค่าเบี้ยประกันการทบทวนและปรับแผนการเงินจะทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อสถานการณ์ในชีวิตเปลี่ยนแปลงไป จะยังคงสามารถทำให้เป้าหมายและความต้องการเป็นจริงได้ในที่สุดแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1663445

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

สมาคมประกันชีวิตไทยแนะมีกรมธรรม์ประกันชีวิตช่วยแบ่งเบาความทุกข์ได้

03/10/2024

นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในหลายจังหวัด ในการนี้ สมาคมประกันชีวิตไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมทั้งขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยและครอบครัวมีพลังและความหวังให้ผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย และเกิดความเสียหายน้อยที่สุด ทั้งนี้ ภาคธุรกิจประกันชีวิตได้มีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีความประสงค์ในการใช้บริการต่าง ๆ เช่น การเรียกร้องสินไหมทดแทนจากกรณีต่างๆ และบริการอื่น ๆที่จะช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยให้ได้รับความสะดวกภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เพียงเตรียมเอกสารการเคลมประกอบการเรียกร้องสินไหมให้ครบถ้วน และสามารถดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมผ่านช่องทางในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในส่วนของบริษัท สาขา ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์ แชตบอท เฟสบุ๊ค ไลน์ออฟฟิศเชียล รวมถึงแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง  สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ประสบภัยพิบัติหากมีกรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันสุขภาพ กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุอยู่ บริษัทประกันชีวิตจะยังคงให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีความจำเป็นต้องการใช้เงินเพื่อนำมาซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หากขาดสภาพคล่องทางการเงินไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนจากที่อื่นที่จะนำมาใช้จ่าย ท่านสามารถนำกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีมาใช้เป็นหลักประกันกู้ยืมเงินจากบริษัทประกันชีวิตได้ โดยที่ความคุ้มครองชีวิตยังอยู่เหมือนเดิมตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ทั้งนี้ สามารถสอบถามได้โดยตรงจาก Contact Center หรือศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทที่รับประกันชีวิตโดยตรงก็จะได้จำนวนตัวเลขการเงินที่แน่นอน เพราะแต่ละบริษัทอาจมีเงื่อนไขหรือสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมฯ กล่าวในตอนท้ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดต่าง ๆ ได้จากบริษัทที่ท่านได้ทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือที่สมาคมประกันชีวิตไทย โทร. 02-6798080  หรือ e-mail : tlaa@tlaa.orgแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://siamrath.co.th/n/570734

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ศิลปะผ่านมุมมอง 10 ศิลปินไทย ล่องลอยในมหาสมุทรแห่งจินตนาการ

03/10/2024

ผลงาน BlueBlurryMondayเอ็ม ดิสทริค จัดนิทรรศการศิลปะสุดล้ำ "IMMERSE ภวังค์วารี" โดย มูนเทล นำเสนอผลงานศิลปะจาก 10 ศิลปินชั้นนำของไทย ที่บอกเล่าเรื่องราวสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสายน้ำ เปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ 1-21 ต.ค. 67 ณ Q Stadium ชั้น M เอ็มควอเทียร์ ชมฟรี!.นิทรรศกาลศิลปะ "IMMERSE ภวังค์วารี" จะพาคุณดำดิ่งเรื่องราวของ น้ำ ชีวิต และธรรมชาติ สัมผัสกับความผ่อนคลายและพลังแห่งการเยียวยารักษาของสายน้ำ ผ่านมุมมองของ 10 ศิลปินชื่อดังของไทย อย่าง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ, อรนลิน โลจนะโกสินทร์, เศณวี ชาตะเมธีวงศ์, นาวิน ตันธนะเดชา, เอมิ ไคยะ, มนัสวี โรจนพรรณ (Manasawii), อิสริยาภรณ์ หวันมะรัตน์ (BlueBlurryMonday), ฐิตินันท์ พงษ์จารุวัฒน์, สุนิษา จันทรานนท์ (TsukuneCraft) และ Vanillin Studio ด้วยผลงานศิลปะในรูปแบบสื่อที่หลากหลาย อาทิ จิตรกรรม สื่อผสม ประติมากรรม และ แฟชั่น ทั้งหมดกว่า 20 ชิ้น ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในทะเลแห่งสีสันและจินตนาการ พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของชิ้นงานศิลปะที่ชื่นชอบ ด้วยการร่วมผ่านการประมูล ในวันที่ 20 ต.ค. 67 เวลา 14.00 น.ผลงาน อรนลิน โลจนะโกสินทร์ & ปรีชา เถาทองผลาน อรนลิน โลจนะโกสินทร์ผลงาน เศณวี ชาตะเมธีวงศ์ & ปรีชา เถาทองผลงาน Manasawiiแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000092794

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

ไหลเรือไฟนครพนม 2567 แสงแห่งศรัทธาสู่เวทีโลก

03/10/2024

นับถอยหลังสู่เทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของจังหวัดนครพนม สำหรับ “เทศกาลไหลเรือไฟ นครพนม” ปีนี้ ททท. มุ่งหน้าผลักดันสู่เทศกาลระดับโลกภาพ: ททท.นครพนม“เทศกาลไหลเรือไฟ” ของจังหวัดนครพนม ไม่ได้เป็นเพียงแค่ประเพณีท้องถิ่น แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวลุ่มน้ำโขงนครพนม มายาวนานในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ยกระดับเทศกาลนี้ให้ก้าวไกลสู่สายตาชาวโลก ด้วยการนำเสนอ "8 เรือไฟพระธาตุประจำวันเกิด" ผสมผสานนวัตกรรมแสง สี เสียง และความร่วมสมัย สร้างความตื่นตาตื่นใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ททท. เล็งเห็นถึงศักยภาพของเทศกาลไหลเรือไฟในการเป็น Soft Power ของประเทศไทย จึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอคุณค่าทางวัฒนธรรมและความเชื่อผ่านงานเทศกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ที่มีการนำแนวคิด "เรือประดับไฟ พระธาตุประจำวันเกิด" มาใช้ในการออกแบบเรือไฟโชว์ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างศาสนาพุทธกับประเพณีท้องถิ่นได้อย่างลงตัวภาพ: ททท.นครพนม“8 เรือไฟ สิริมงคล 8 วันเกิด”ได้รับการออกแบบอย่างประณีตและมีความหมายแฝงถึงความเป็นมงคล ตั้งแต่ชื่อของเรือไฟไล่มาจาก "รุ่งสุริยัน" ที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ไปจนถึง "มิ่งเมืองนคร" ที่เป็นตัวแทนของความรุ่งเรืองของจังหวัดนครพนม การจัดแสดงแสง สี เสียง พลุ ที่สวยงามตระการตา จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกท่านภาพ: ททท.นครพนมภาพ: ททท.นครพนมนอกจากการชมเรือไฟโชว์แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมสักการะองค์พระธาตุจำลองทั้ง 8 พระธาตุประจำวันเกิด ที่ตั้งอยู่บริเวณจุดจอดเรือไฟโชว์ ตลอดระยะเวลา 11 วันในระหว่างเทศกาล นับเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกด้วย และเพื่อให้เทศกาลไหลเรือไฟเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ททท. ยังได้เชิญสื่อต่างประเทศและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง Nas Daily, Getty Image และ Reuters มาร่วมงาน เพื่อนำเสนอเรื่องราวและภาพความงดงามของเทศกาลนี้ไปเผยแพร่สู่สายตาชาวโลกภาพ: ททท.นครพนมเทศกาลไหลเรือไฟ นครพนม ปีนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การสืบสานประเพณี แต่ยังเป็นการนำเสนอคุณค่าทางวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก เป็นการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่น่าจดจำ และเป็นการยกระดับงานเทศกาลท้องถิ่นสู่เวทีสากลอย่างแท้จริงงานเทศกาลประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประจำปี พ.ศ. 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-18 ตุลาคม 2567ชมความวิจิตรตระการตาได้ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร อ.เมือง จ.นครพนมภาพ: ททท.นครพนมแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000093025

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

สรุป สินทรัพย์เสี่ยงที่มือใหม่ต้องรู้

27/09/2024

สินทรัพย์เสี่ยง มักจะถูกจัดประเภทตามความเสี่ยงถ้าให้แยกย่อยออกมา เราสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ1. สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ (แต่ก็ยังเสี่ยงนะ)เช่น เงินฝาก พันธบัตร หุ้นกู้ สินทรัพย์เหล่านี้ ความเสี่ยงไม่เสี่ยง เน้นรักษาเงินต้น แต่ข้อเสีย คือ ผลตอบแทนที่ได้ก็จะต่ำ ไปด้วย2. สินทรัพย์เสี่ยงปานกลาง (เน้น Balance)เช่น  กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ กอง REIT ทองคำหรือแม้แต่บางตำรา ก็จะรวมถึง "หุ้น" ที่จ่ายปันผลสูง ก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงปานกลางด้วยเหมือนกันสินทรัพย์เหล่านี้ ราคาจะไม่ผันผวนมาก เน้นผลตอบแทนที่พอเหมาะแต่ข้อเสีย คือ เราอาจจะต้องใช้เวลาในการถือครองเพื่อให้เห็นการเติบโตสักระยะหนึ่ง3. สินทรัพย์เสี่ยงสูง (ผลตอบแทนสูง แต่โอกาสจะเสียเงินต้นก็สูงตามไปด้วย)เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กอง ETF ตราสารอนุพันธ์ ฟิวเจอร์ ออปชันและปัจจุบันเหรียญคริปโตฯ และ สินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ก็รวมอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงด้วยสินทรัพย์เหล่านี้ จะสร้างพอร์ตการเติบโตให้กับนักลงทุน เปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงแต่ข้อเสีย คือ นักลงทุนต้องศึกษาอย่างละเอียด จับตาอย่างใกล้ชิดเพราะราคาอาจจะผันผวน จนแทบไม่เหลือมูลค่าได้ภายในชั่วข้ามคืนพูดง่ายๆ คือ การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง โอกาสจะสร้างผลตอบแทนก็สูงแต่โอกาสที่เงินต้นจะสูญ ก็มีมากตามไปด้วยเหมือนกันแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ stock2morrowhttps://stock2morrow.com/article/5993

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

บทเพลงผ่านนิทรรศการ ‘PUN ALBUM EXHIBITION INSTALLATION VISUAL & SOUND’

27/09/2024

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลงนี้ “จำได้ไหมในวัน ที่รักของเรานั้นหอมหวาน นึกถึงคราที่เราสองคนได้เคยตกหลุมรัก Feeling like DAY ONE ฉันยังคงนึกถึง DAY ONE วันที่เราทั้งสองมีกัน…” อยากแนะนำให้มานิทรรศการนี้เลย กับ นิทรรศการ 'PUN ALBUM EXHIBITION INSTALLATION VISUAL & SOUND' นิทรรศการที่จะพาทุกคนไปดื่มด่ำไปกับบทเพลงในอัลบั้มแรกจาก “PUN” ที่จะบอกเล่าตัวตนผ่านช่วงโมเม้นท์ต่างๆของเด็กหนุ่มวัย 21 ที่เขียนเนื้อร้องและแต่งท่วงทำนองทั้ง 14 บทเพลงด้วยตัวเองสำหรับคอนเซ็ปต์อัลบั้มแรกของ “PUN” เขาพูดถึงการตามหาใครสักคนที่เขาเชื่อว่าคนๆนั้นอาจจะรออยู่ที่ไหนสักแห่ง นั่นจึงเป็นไอเดียการต่อจิ๊กซอว์ที่ “PUN” ได้หยิบมาใช้ในการครีเอท MV Series ที่หลายคนได้ติดตามเรื่องราวความต่อเนื่องจากเพลง DAY ONE, BF ft.URBOYTJ , Goodbye และ I Just Wanna Know ซึ่ง “PUN” หวังเอาไว้ว่าอยากให้ทุกคนได้ร่วมเดินทางเพื่อค้นหา “ใครคนนั้น” ไปพร้อมๆ กับเขา โดย “PUN” ได้นำคอนเซ็ปต์ไอเดียในครั้งนี้ ต่อยอดเป็นนิทรรศการแสดงภาพถ่ายและวิดีโอสุดเจ๋ง ผ่านงาน “PUN ALBUM EXHIBITION INSTALLATION VISUAL & SOUND”  PUN collabs johnnonlens & BOSE Professional by Asavasopon ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Discover ‘The One’ Through Your Lens”  (ค้นหาใครคนนั้น ผ่านดวงตาของคุณ)โดยนิทรรศการนี้ จะพาทุกคนดื่มด่ำไปกับโลกแห่งเสียงเพลงของ “PUN” ที่ถูกแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1  Believe บอกเล่าเรื่องราวความรัก 4 เพลง ที่มีมุมมองความเชื่อเข้ามาเกี่ยว เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะนำพาทุกคนไปสู่ความหวังว่าจะมีใครสักคนรอเราอยู่ตรงนั้นเสมอ กับ 4 บทเพลงแห่งความหวัง  เค้าว่า, รอที่เส้นขอบฟ้า, นิทานในฝัน (2024) และ Skitโซนที่ 2  Fall in Love พื้นที่แห่งความรักที่เต็มไปด้วยความสุขกับ 5 เพลง  I Just Wanna Know, BF ft. URBOYTJ, Therapist, Obsessed ft. JAONAAY และ Stay หากใครได้ฟังเพลงโซนนี้จะสัมผัสได้ถึงพลังงานบวก ที่อาจจะทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงโซนที่ 3 Heartache พื้นที่หมองหม่น ที่จะนำพาทุกคนให้ดำดิ่งไปกับ 5 บทเพลง DAY ONE ,ที่เดิม, After the party’s over, Goodbye และ Lonely In The City เราเชื่อว่าหากใครเดินเข้ามาในห้องนี้ ความเศร้า ความอ้างว้างอาจจะถาโถมจนคุณรู้สึกใจแตกสลายได้สำหรับงาน “PUN ALBUM EXHIBITION INSTALLATION VISUAL & SOUND” เปิดให้ทุกคนเข้ามาเช็กอิน ถ่ายรูป ทำคอนเทนต์ ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2567 ณ ICS Lifestyle Complex ชั้น 1 ตรงข้าม ICONSIAM เชื่อว่าใครที่ชื่นชอบผลงานเพลงของ “PUN” และหลงใหลในงานอาร์ตต้องถูกใจแน่นอน อย่าลืมแวะไปเช็กอินกันนะขอขอบคุณข้อมูล :Jirapron Phoominแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1449295/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

หาดแดง ภูมิทัศน์สีแดงอันงดงาม แลนด์มาร์กแห่งเหลียวหนิง

27/09/2024

ใครไปจีนต้องสัมผัส หาดแดง ภูมิทัศน์สีแดงอันงดงาม แลนด์มาร์กแห่งเหลียวหนิงสำนักข่าวซินหัวไทย ได้เผยภาพสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจิ่นโจวและเมืองผานจิ่น มณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวปักเป็นจุดแลนด์มาร์ก คือภูมิทัศน์สีแดงจากต้นซูเอดา ซัลซา ที่มีชื่อว่า หาดแดง วิวงดงามและอลังการ จนนักท่องเที่ยวแห่ถ่ายรูปให้พรึ่บภาพจากเว็บไซต์ Xinhuathaiแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกระปุก.คอมhttps://travel.kapook.com/view284687.html

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จับมือพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก จัดงานเสวนา AIA Wealth Forum 2024: Higher for Longer vs Longer for Higher ก้าวข้าม…ความผันผวน มุ่งสู่ศักยภาพการเงินที่ยั่งยืน

27/09/2024

(จากซ้าย) คุณโยฮัน ทีดอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน เอไอเอ ประเทศไทย คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย สายองค์กรสัมพันธ์ คุณอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย คุณสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) คุณนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย Mr. Shrikant Bhat, CEO, Investments-Linked and Pensions Business, AIA Group คุณเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย Mr. Navin Saigal, Managing Director, Head of Asia Macro for Fundamental Fixed Income, BlackRock และ Mr. Andy Burden, Investment Director, Capital Groupกรุงเทพฯ 27 กันยายน 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย จับมือกับพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก BlackRock และ Capital Group จัดงานเสวนา AIA Wealth Forum 2024: Higher for Longer vs Longer for Higher ก้าวข้าม…ความผันผวน มุ่งสู่ศักยภาพการเงินที่ยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดโลก ได้แก่ คุณนาวิน ไซกอล (Mr. Navin Saigal) Managing Director, Head of Asia Macro for Fundamental Fixed Income, BlackRock สถาบันที่ขึ้นชื่อด้านความเชี่ยวชาญในด้านตราสารหนี้ระดับโลก และคุณแอนดี้ เบอเด็น (Mr. Andy Burden) Investment Director, Capital Group สถาบันที่ขึ้นชื่อด้านการบริหารสินทรัพย์ด้วยกลยุทธ์ All Weather ร่วมด้วยวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ในตลาดประเทศไทย อย่าง คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ และคุณสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ ประเทศไทย ซึ่งวิทยากรทั้ง 4 ท่านได้มาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับภาพรวมตลาด เศรษฐกิจ รวมถึงแนะแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว โดยมีผู้เข้าร่วมงานเสวนากว่า 250 ท่าน ณ โรงแรม วอดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณนาวิน ไซกอล, Managing Director, Head of Asia Macro for Fundamental Fixed Income, BlackRock กล่าวว่า “ปัจจุบัน ธนาคารกลางทั่วโลกใช้นโยบายการเงินที่เพิ่มสภาพคล่องในระบบ เพื่อควบคุมให้เกิดสภาพเศรษฐกิจที่ลื่นไหล ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เพิ่มเงินสกุลดอลลาร์ในระบบมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการลดสภาพคล่องที่เร็วเกินไป อาจทำให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ รวมถึงความผันผวนในตลาดทุนที่ยังต้องจับตามอง นักลงทุนจึงควรเน้นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพี่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีจากผลลัพธ์ของดอกเบี้ยทบต้นในระยะยาว ซึ่งหมายความว่า ยิ่งลงทุนนานเท่าไหร่ โอกาสของการได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าจากการลงทุนจะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น”คุณแอนดี้ เบอเด็น, Investment Director, Capital Group กล่าวว่า “นักลงทุนควรลงทุนอย่างต่อเนื่อง และไม่ควรพยายามจับจังหวะการลงทุน เพราะการลงทุนระยะสั้นนั้นยาก และมักผิดพลาดได้ง่าย นอกจากนี้ การอยู่ในตลาดเป็นระยะเวลายาวนานจะช่วยให้เราอยู่ในวันที่ตลาดให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดได้ด้วย สำหรับสถิติที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า ในช่วงขาลงของตลาด แม้นักลงทุนอาจจะเสียผลตอบแทนไปบ้าง แต่มักมีระยะเวลาสั้นและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่าช่วงตลาดขาขึ้นที่ถึงจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้สูงกว่ามากก็ตาม เพราะฉะนั้น การปล่อยให้เงินลงทุนได้ทำงาน โดยไม่ไปกับแรงกดดันจากสื่อรอบตัว จึงเป็นวิธีการลงทุนระยะยาวที่ดีที่สุด”ทางด้านตลาดในประเทศไทย มุมมองของ คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย สายองค์กรสัมพันธ์ ให้ความเห็นว่า “อัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมมหภาค อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แต่ประเทศไทยยังคงประสบปัญหาเชิงโครงสร้าง และยังต้องพึ่งพาภาคการส่งออก ซึ่งที่ผ่านมามีการชะลอตัว ทำให้สภาพตลาดไทยโดยรวมยังต้องรอดูเสถียรภาพทั้งทางการเมือง รวมถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯ”ด้าน คุณสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “สำหรับนักลงทุนที่มุ่งหวังความมั่งคงและสร้างความมั่งคั่งนั้น การลงทุนในประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิต ลิงค์ ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและตอบโจทย์สำหรับการลงทุนระยะยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน นอกจากนี้ การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลกผ่านกองทุน AIA Allocation Funds ที่ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) และ AIA Investments ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสถาบันการลงทุนระดับโลก อย่าง BlackRock, Capital Group และ Wellington Management เพื่อเพิ่มศักยภาพการลงทุนให้ก้าวสู่ระดับสากล และสามารถตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินอย่างมั่งคงในอนาคต”สำหรับผู้ที่สนใจประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) (aia.co.th) หรือติดต่อที่ปรึกษาทางการเงิน เอไอเอ ประเทศไทย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ครั้งแรกในไทย 'นิทรรศการ' ศิลปะดิจิทัลสื่อผสม A Golden Kiss 'กุสตาฟ คลิมต์'

25/09/2024

ภาพเขียนสีทองและผลงานอันลือลั่นของ 'กุสตาฟ คลิมต์' เดินทางมาให้คนไทยสัมผัสเป็นครั้งแรกใน 'นิทรรศการ' ศิลปะดิจิทัลสื่อผสม 'A Golden Kiss by Klimt in Bangkok' วันนี้ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567 ที่ M Tower เอ็มสเฟียร์ศิลปินชาวออสเตรียน กุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) ผู้สร้างภาพวาดโลกตะลึงด้วยสีทองอร่ามตา บนภาพเขียนสีน้ำมันปิดทอง The Kiss และภาพคนเหมือน Adele Bloch-Bauer I (อเดล บลอค-เบาเวอร์) เศรษฐีชาวยิวในเสื้อผ้าที่หรูหราและเครื่องประดับทองปีนี้ ภาพเขียนของคลิมต์ เดินทางมาให้คนไทยชื่นชมในงาน นิทรรศการศิลปะดิจิทัลสื่อผสม A Golden Kiss by Klimt in Bangkok นั่งชม The Kissมีอะไรให้ชมใน A Golden Kissนิทรรศการศิลปะดิจิทัลสื่อผสม ของ กุสตาฟ คลิมต์ แบ่งเป็น 10 ห้องห้องแรกชมผลงานรีโปรดักท์ Museum of Klimt ที่วาดเหมือนจริงราวกับเข้าไปชมงานภาพเขียนของคลิมต์ในมิวเซียมต่างประเทศ ประกอบด้วยภาพเขียนผลงานมาสเตอร์พีซของคลิมต์ ที่นอกจากวาดภาพคนเหมือน (portrait) คลิมต์ได้วาดภาพดอกไม้ ทิวทัศน์ และภาพพอร์ตเทรตชนชั้นสูงในยุคนั้นห้องแรก Museum of Klimtต่อด้วย Trip to Vienna & Chronicle ห้องต่อไป Beauty of Flower, Malcesine on Lake Carda & Kiss, Infinity Color, Life & Art of Klimt, The Tree of Life, Road of Art, Wave 9 และ Goods Shopตื่นตาเร้าอารมณ์กับจอภาพดิจิทัลรอบทิศทาง ประกอบดนตรีคลาสสิก แนะนำให้นั่งชื่นชมนาน ๆ (อย่ามัวแต่ถ่ายรูป)ภาพคนเหมือนชนชั้นสูงศิลปินหัวก้าวหน้า กุสตาฟ คลิมต์คลิมต์ ศิลปินชาวออสเตรียน (ค.ศ.1862-1918) เกิดในครอบครัวศิลปินฐานะยากจน ณ ชานกรุงเวียนนา ปี 1876 คลิมต์ได้รับทุนเข้าเรียนในโรงเรียนศิลปะ Vienna School of Arts and Crafts ขณะเรียนก็ได้รับว่าจ้างให้เขียนภาพคนเหมือนศิลปะในยุคสมัยนั้นเป็นแนวคลาสสิกตามขนบดั้งเดิมที่สอนกันในโรงเรียน ผลงานยุคแรก ๆ ของคลิมต์คือวาดภาพเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ต่อมาในปี 1877 คลิมต์กับน้องชายและเพื่อนอีกคนร่วมก่อตั้งสตูดิโอ ตอนนั้นรับวาดภาพบนผนังในโบสถ์ วิหาร โรงละคร พิพิธภัณฑ์ไม่นานคลิมต์เริ่มฉายแวว มีผลงานโดดเด่นจนได้รับเหรียญรางวัลจากจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิออสเตรีย ผลงานหลายชิ้นฉบับออริจินัลยังหาชมได้ในปัจจุบันคลิมต์มีชื่อเสียงด้านวาดภาพพอร์ตเทรตให้กับชนชั้นสูง อย่างไรก็ดี เขาเริ่มหันเหแนวทางสู่ศิลปะอาร์ตนูโว (Art Noveau) ต่อมาเกิดจุดหักเห เมื่อพ่อและน้องชายของเขาเสียชีวิต ส่งผลกระทบต่อจิตใจของศิลปินที่กำลังมีชื่อเสียง ทำให้คลิมต์เปลี่ยนสไตล์งานของตัวเองอีกครั้งเหมือนเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายดี คลิมต์แสวงหาแนวทางของตัวเอง จากการศึกษาวิวัฒนาการศิลปะในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น อียิปต์โบราณ และศิลปะไมเซเนียน (Mycenaean art – ศิลปะยุคสำริด กรีกโบราณ) และสร้างงานที่มีชื่อเสียงขึ้นอีกหลายชิ้นก่อตั้ง Vienna Secessionคลิมต์สร้างสรรค์ศิลปะที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม ๆ ในยุคสมัยที่ ภาพนู้ด เป็นเรื่องต้องห้าม เขาก่อตั้ง Vienna Secession หรือ Union of Austrian Painters เพื่อจัดแสดงนิทรรศการ (สมัยนั้นศิลปินต้องสังกัดสมาคมจึงมีโอกาสแสดงผลงาน) หลายผลงานเป็นที่ชื่นชอบแต่ก็ต้องยอมรับคำวิจารณ์จากยุคสมัยว่าเป็น “ภาพอนาจาร”ยุคทองของคลิมต์สัญลักษณ์ภาพพอร์ตเทรตของคลิมต์ คือแผ่นทองคำเปลวบนภาพเขียน แรงบันดาลใจจากงานศิลปะโมเสกของอิตาลี และงานตกแต่งในยุคไบเซนไทน์ปี 1900 – 1908 เรียกว่าเป็น ยุคทอง (Golden Phase) ของคลิมต์ ได้แก่ภาพ Pallas Athena, The Hydra, Water Serpents II, Judith and the Head of Holofernes, The Three Ages of Woman ฯลฯAdele Block-Bauer Iที่โด่งดังที่สุดคือ Portrait of Adele Block-Bauer I (1907) ภาพพอร์ตเทรตภรรยาของเศรษฐีชาวยิวในออสเตรีย ตกแต่งด้วยแผ่นทองคำอร่ามตา ได้ชื่อว่าเป็น โมนาลิซาแห่งออสเตรียผลงานที่ทุกคนตรึงใจ รู้สึกถึงความเย้ายวนคือภาพ จูบ The Kiss (1907-1908) ยังมีภาพหญิงสาวเปลือยอกใน Judith and the Head of Holofernes (1901) และ Danae (1907) และภาพเชิงนามธรรม The Tree of Life (1905)Adele Block-Bauer IIคลิมต์ผ่าน “ยุคทอง” เคลื่อนสู่งานศิลปะแนวใหม่ ใช้สีสันอย่างอื่นและวาดภาพนู้ด จนถึงภาพเชิงปรัชญานามธรรม ซึ่งอาจตีความถึงสัจธรรมแห่งชีวิต ทำให้คลิมต์ เป็นศิลปินที่สร้างผลงานหลากหลาย นอกจากภาพพอร์ตเทรต คลิมต์ยังสร้างงานอิมเพรสชั่นนิสต์ ภาพทิวทัศน์และดอกไม้กุสตาฟ คลิมต์ (Cr.gustav-klimt.com)กุสตาฟ คลิมต์ ศิลปินผู้แหกขนบ แต่ตัวจริงค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบออกงานสังคม ไม่ไปสภากาแฟ มักอยู่กับบ้านใส่รองเท้าแตะ สวมเสื้อคลุมตัวเดียวผมเผ้ายุ่งเหยิงLady with Fan 1908 อิทธิพลจากศิลปะญี่ปุ่นDeath and Life 1918คลิมต์จากโลกนี้ไปด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดหนักในยุโรปช่วงนั้น แต่ผลงานของเขาจารึกไว้ในหัวใจของคนรักศิลปะ หลายผลงานถูกประมูลในราคาสูงลิ่ว หลายภาพยังตราตรึงในห้วงจำ...หมายเหตุ : ชมและสัมผัสตัวตนของ กุสตาฟ คลิมต์ ในงาน นิทรรศการศิลปะดิจิทัลสื่อผสม A Golden Kiss by Klimt in Bangkok ที่ชั้น 6 EM Tower, Emsphere วันนี้ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567บุคคลทั่วไป บัตรราคา 950 บาท วันเสาร์-อาทิตย์ / จันทร์-ศุกร์ 850 บาท / นักเรียน-นักศึกษาและผู้สูงอายุ 550 บาท เสาร์-อาทิตย์ / จันทร์-ศุกร์ 490 บาทซื้อบัตรที่ www.thaiticketmajor.com/goldenkiss หรือที่จุดจำหน่ายหน้างานMaria Altmann ชนะคดีได้ภาพเขียนคืนเมื่อภาพเขียน The Woman in Gold กลับคืนสู่เจ้าของภาพยนตร์เรื่อง The Woman in Gold (2015) สร้างจากเรื่องจริง เมื่อภาพพอร์ตเทรตที่วาดโดย กุสตาฟ คลิมต์ ถูกนาซียึดครองในปี 1941 ต่อมาก็ตกเป็นสมบัติของรัฐบาลออสเตรียปี 2000 Maria Altmann วัย 88 ปี หลานของสตรีชั้นสูงในภาพ Adele Block-Bauer I ซึ่งหนีภัยสงครามจากออสเตรียไปอยู่ในอเมริกา ได้ฟ้องร้องทวงคืนภาพนี้ต่อศาลสูงของอเมริกาMaria ร่วมกับทนายความ Randol Schoenberg ต่อสู้ด้วยเอกสารทางกฎหมายนานถึง 7 ปีภาพยนตร์เรื่อง The Woman in Goldเรื่องราวการต่อสู้ชิงภาพเขียนล้ำค่านำเสนอบนแผ่นฟิล์ม นำแสดงโดย Helen Mirren รับบท Maria ในวัย 84 ปี ทนายความรับบทโดย Ryan Reynolds ยังมีนักข่าวจากออสเตรีย รับบทโดย Hubertus Czerninหนังสนุก ตื่นเต้น ลุ้นว่าภาพเขียนจะคืนสู่เจ้าของหรือไม่ การต่อสู้ยาวนาน 7 ปี จนหลายครั้ง Maria เกือบถอดใจ หนัง flashback สู่สมัยสงครามโลกเมื่อนาซี บุกบ้านเศรษฐีชาวยิว ลุงกับป้าวัยหนุ่มผู้ชื่นชอบศิลปะ และคลิมต์ วัยหนุ่มตัดสินใจวาดพอร์ตเทรตให้ Adeleฉากหนึ่งในหนัง ภาพเขียนที่อยู่ในบ้านของเศรษฐีชาวยิวสู้กันยังไง รัฐบาลออสเตรียไม่ยอมคืนภาพ อ้างว่าเป็นสมบัติของชาติ และตรงตามประสงค์ของ Adele ป้าของ Maria ว่าเมื่อลุงตาย (ผู้จ่ายค่าจ้างให้ คลิมต์) ให้ยกภาพเขียนนี้ให้พิพิธภัณฑ์ในที่สุด Maria ชนะ ภาพเขียนคืนสู่ทายาท เธอขายภาพให้แก่ Ronold Lauder ในราคา 135 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาปัจจุบัน = 204 ล้านดอลลาร์) ซึ่งมหาเศรษฐีผู้ซื้อภาพนี้ได้ยกภาพเขียนให้พิพิธภัณฑ์ Neue Galeria ในนิวยอร์ก เมื่อปี 2006Adele ตัวจริงกับภาพเขียนสีทองเพื่อให้ทุกคนได้ชื่นชมความงามของ The Woman in Goldหมายเหตุภาพจาก: Neue Galerie New Yorkแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1143246

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

15 ประเทศปลอดภัยที่สุดในโลก น่าไปเที่ยว และใช้ชีวิตอยู่ยาว

25/09/2024

กำลังมองหาที่พักผ่อนสุดสัปดาห์ หรือวางแผนจะย้ายบ้านไปอยู่ที่ใหม่? สิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยใช่ไหมล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก หรือแค่ไปเที่ยวประเทศใกล้เคียง การได้เดินทางอย่างสบายใจไร้กังวล ก็ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีและการเลือกสถานที่ที่ปลอดภัย หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางใหม่ในปีนี้ ลองมาดู 15 ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยกันเลย15 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก15 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกตาม Global Peace Index 2024 จากสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ1. ไอซ์แลนด์ ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลก แม้ว่าคะแนนความปลอดภัยจะลดลงเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่น่าอยู่และทำงานอย่างยิ่ง ด้วยอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ต่ำและความมั่นคงทางสังคมที่สูง ไอซ์แลนด์จึงเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่มองหาความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต2. ไอร์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ใครๆ ก็หลงรัก ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสงบสุขเป็นอันดับสองของโลกในปีนี้! ด้วยอัตราการเกิดความขัดแย้งภายในที่ต่ำมาก และความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ไอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกเลยทีเดียว3. ออสเตรียเป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยสูง ด้วยอัตราการเกิดความขัดแย้งทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศที่ต่ำมาก พร้อมทั้งมีความมั่นคงทางสังคมและความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ทำให้ออสเตรียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก4. นิวซีแลนด์: เป็นประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคยังคงเป็นภูมิภาคที่มีความสงบสุขเป็นอันดับสองของโลกต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2017 แม้ว่านิวซีแลนด์จะอยู่ในอันดับที่ 4 แต่คะแนนความสงบสุขก็ลดลงเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการนำเข้าและส่งออกอาวุธเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของงบประมาณทางทหาร อย่างไรก็ตาม ประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงในด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของสังคม5. สิงคโปร์: แม้จะอยู่อันดับที่ 5 ในดัชนีความสงบสุขโลก แต่สิงคโปร์กลับครองอันดับหนึ่งของโลกในด้านความปลอดภัยและความมั่นคง สูงกว่าไอซ์แลนด์เสียอีก นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่ปลอดภัยเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากนิวซีแลนด์ ความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายของประเทศมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้สิงคโปร์มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัย6. สวิตเซอร์แลนด์ ในยุโรปสวิตเซอร์แลนด์ติดอันดับประเทศที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับที่ 4 และอันดับที่ 6 ของโลก เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในรายชื่อนี้ สวิตเซอร์แลนด์มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้สวิตเซอร์แลนด์โดดเด่นคือระบบยุติธรรมที่เน้นการฟื้นฟูมากกว่าการลงโทษผู้กระทำผิด7. โปรตุเกส ในปี 2024 โปรตุเกสติดอันดับประเทศที่มีความสงบสุขและปลอดภัยเป็นอันดับที่ 7 ของโลก และอันดับที่ 5 ของยุโรป โปรตุเกสมีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ ระบบการเมืองที่ค่อนข้างเสถียร และความสามัคคีในสังคมสูง ประเทศยังจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการใช้กำลังทหารน้อยที่สุดในโลก รองจากไอซ์แลนด์8. เดนมาร์ก ครองอันดับที่ 8 ของโลก เดนมาร์กเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพชีวิตสูง สถาบันต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และระบบการเมืองที่มั่นคง ชื่อเสียงด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศเกิดจากสถาบันต่างๆ ที่บริหารจัดการได้ดี อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ และการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เดนมาร์กยังติดอันดับหนึ่งในสามประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศที่มีความสงบสุขเป็นอันดับที่ 6 ในยุโรป พร้อมด้วยระดับความปลอดภัยและความมั่นคงของสังคมที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก9. สโลวีเนีย ตามมาติดๆ จากเดนมาร์ก คือ สโลวีเนีย ประเทศในยุโรปอีกแห่งที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมากและมีเสถียรภาพทางการเมืองสูง ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและสถาปัตยกรรมยุคกลาง10. มาเลเซีย เป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เนื่องจากมีระดับความขัดแย้งต่ำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเลเซียเป็นประเทศที่ปลอดภัยเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากนิวซีแลนด์และสิงคโปร์11. แคนาดา นอกจากจะติดอันดับหนึ่งใน 15 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกแล้ว แคนาดายังครองอันดับหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย แม้ว่าภูมิภาคนี้จะมีสภาพการณ์ความสงบสุขลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก แต่ก็ยังคงเป็นภูมิภาคที่มีความสงบสุขเป็นอันดับสามรองจากยุโรปและเอเชียแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม ความสงบสุขโดยรวมของแคนาดาลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 โดยมีการลดลงในทุกด้าน ได้แก่ ความปลอดภัยและความมั่นคง การทหาร และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง12. สาธารณรัฐเช็ก อีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่ติดอันดับหนึ่งใน 15 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก คือ สาธารณรัฐเช็ก ประเทศนี้ติดอันดับที่ 12 ของโลก และอันดับที่ 8 ของยุโรป ในดัชนีสันติภาพโลก ทำให้สาธารณรัฐเช็กเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ด้วยอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ และมีความขัดแย้งภายในประเทศและระหว่างประเทศน้อยมาก13. ฟินแลนด์ นอกจากจะเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว ฟินแลนด์ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรป โดยติดอันดับที่ 9 ของภูมิภาคและอันดับที่ 13 ของโลก ประเทศนี้มีชื่อเสียงในเรื่องอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟินแลนด์ติดอันดับที่ 5 ของโลกในด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของสังคม14. ฮังการี ฮังการีเป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปกลางที่ติดอันดับหนึ่งใน 15 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดยอยู่ในอันดับที่ 14 ของโลก และอันดับที่ 10 ของยุโรป ตามดัชนีสันติภาพโลก ฮังการีมีคะแนนด้านการทหารต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีคะแนนด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของสังคมสูงที่สุด ทำให้ฮังการีเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับการอยู่อาศัยและการท่องเที่ยว15. โครเอเชีย ประเทศที่ติดอันดับความปลอดภัยเป็นอันดับ 15 ของโลก และอันดับ 11 ของยุโรป คือโครเอเชีย สาเหตุที่โครเอเชียมีความปลอดภัยสูงนั้นเนื่องจากแทบไม่มีความขัดแย้งภายในประเทศหรือระหว่างประเทศเลย นอกจากนี้โครเอเชียยังมีคะแนนสูงมากในดัชนีความปลอดภัยและความมั่นคงของสังคม อัตราการเกิดอาชญากรรมที่ต่ำและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ทำให้โครเอเชียเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแหล่งที่มาข่าวต้รฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1449271/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X