Everyday knowledge for you
ห้องแสดงนิทรรศการ
11/09/2024
เปิดความหมายพลังศรัทธา 6 ปาง พระโพธิสัตว์กวนอิม สุดยอดภาพวาดลายเส้นจากการนั่งสมาธิโดย อ.หวัง ฉางลี่ ศิลปินระดับหอเกียรติยศของประเทศจีน มูลค่านับพันล้านบาท จัดแสดงเป็นครั้งแรกในไทย เชิญกราบขอพร-ร่วมเชิดชูคุณธรรมอันสูงส่งของพระโพธิสัตว์กวนอิม ณ หอมนสิการ จ.สระบุรีครั้งแรกในประเทศไทยกับโอกาสที่จะได้ชมผลงานจิตรกรรมสุดวิจิตรและหาชมยากยิ่งแห่งทศวรรษกับ นิทรรศการภาพวาด พระโพธิสัตว์กวนอิม ผลงานการวาดภาพจากปลายพู่กันจีนของอาจารย์ หวัง ฉางลี่ (Master Wang Changli)อาจารย์หวัง ฉางลี่ เป็นจิตรกรชาวจีนระดับหอเกียรติยศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นับถือศาสนาพุทธ เกิดปี 1974 (พ.ศ.2517) ที่กรุงปักกิ่งตั้งแต่อายุ 6 ขวบก็ได้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ภาพวาดจีน ‘หวัง ซูฮุย’ และได้รับการถ่ายทอดความรู้จากปรมาจารย์อีกหลายท่าน อาทิ หลี่ คู๋เฉิน, หลิว จี้โย่ว และ หลิว หลิงชางอาจารย์หวัง ฉางลี่ กับภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิม ลายเส้นพู่กันจีนโบราณต่อมาได้ศึกษาศิลปะอย่างลึกซึ้งภายใต้การชี้แนะของปรมาจารย์ศิลปะชื่อดังระดับโลก Willem de Kooning (วิลเลิม เดอ โกนิง) 1 ใน 10 ศิลปินที่มีมูลค่าผลงานสูงสุดในโลกอาจารย์ฉางลี่ผสมผสานศิลปะของตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว สะท้อนถึงความงดงามสูงสุดในด้านจิตวิญญาณ อารมณ์ ความรู้สึก และความมีชีวิตชีวา จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “บุคคลแรกที่สร้างงานศิลปะให้ศักดิ์สิทธิ์ได้ทั้งแบบโบราณและสมัยใหม่”ประสบความสำเร็จในการจัดนิทรรศการภาพวาดส่วนตัวที่โรม ฟลอเรนซ์ ซิดนีย์ ลอนดอน และปารีสผลงานภาพเขียนลายเส้นแบบจีนโบราณสร้างความฮือฮาจนกระทั่งพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ แย่งกันสะสม ผลงานหลายชิ้นได้รับการคัดเลือกให้มอบเป็นของขวัญแห่งชาติ และเก็บรักษาโดยผู้นำของแต่ละประเทศผลงานภาพเขียนพระพุทธรูปขนาดใหญ่ยังได้รับการนำไปประดิษฐานถาวรในวัดชั้นนำหลายแห่ง เช่น วัดจิ้งอันในเซี่ยงไฮ้ วัดผู่จี้และวัดฝ่าหยูในภูเขาผู่โถว วัดหลิงกวงและวัดเต๋อโซ่วในแปดสถานที่สำคัญของปักกิ่ง วัดตงฮว่าในกวางตุ้ง วัดฮุ่ยจวีในภูเขาจิ่วหัว วัดผู่ฮว๋าในภูเขาอู่ไถ วัดจื้อเจ่อในจินหัว และวัดไป่หลินในเหอเป่ยอาจารย์หวัง ฉางลี่ อธิบายการวาดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิม ลายเส้นบนอาภรณ์ที่ลากต่อเนื่องโดยไม่ยกพู่กันปี 2014 (พ.ศ.2557) อาจารย์ฉางลี่ออกแบบมังกรและหงส์น่ารักคู่หนึ่งชื่อ “จ้วงจ้วงและเหม่ยเหม่ย” และได้รับเลือกเป็นสัญลักษณ์มงคลของ พระราชวังต้องห้าม นับตั้งแต่นั้นอาจารย์หวัง ฉางลี่ ตั้งปณิธานวาดภาพ พระโพธิสัตว์กวนอิม ขนาดใหญ่ทั้งหมด 33 ภาพ จาก 33 ปาง ที่ได้รับการบัญญัติไว้ใน ‘พระสูตรมหายาน’ คัมภีร์พุทธศาสนาจากอินเดียที่เผยแพร่ในประเทศจีนในการวาดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมแต่ละปาง อาจารย์หวังวาดโดยไม่มีต้นแบบว่านำมาจากสถานที่ใดหรือภาพวาดของใคร แต่วาดขึ้นจากนิมิตที่มองเห็นจากการนั่งสมาธิด้วยตนเอง ซึ่งการนั่งสมาธินี้อาจารย์หวังเริ่มปฏิบัติมาตั้งแต่วัยหนุ่ม “ก่อนวาดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิม ผมจะจุดธูปไหว้ก่อนนั่งทำสมาธิ จะมองเห็นตอนนั่งสมาธิ เป็นภาพลอยอยู่เบื้องหน้า เห็นได้ชัดเจน จึงถ่ายทอดมาเป็นภาพวาด” อาจารย์หวังตอบคำถามผ่านล่ามว่าภาพใบหน้าพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาพวาดมีต้นแบบจากที่ใดหรือไม่อย่างไรพระโพธิสัตว์กวนอิมทุกภาพวาดขึ้นตามภาพที่เห็นจากการนั่งสมาธิจากนั้นจึงลงมือวาดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมตามภาพที่มองเห็นจากการนั่งสมาธิ ไม่มีการวาดตกแต่งเพิ่มเติมจากภาพที่มองเห็น ไม่มีการนำจินตนาการอื่นใดมาใส่ในภาพวาด“ถ้าเราวาดไม่ใช่จากความเป็นจริงที่เรามองเห็นจากการนั่งสมาธิ ภาพนั้นก็จะไม่ใช่พระโพธิสัตว์กวนอิม” อาจารย์หวังกล่าวมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในจีนกล่าวว่า ที่ ‘อาจารย์หวัง’ วาดภาพทั้งหมดเหล่านี้ จริงๆ ไม่ใช่อาจารย์หวังเป็นคนวาดออกมาเอง แต่เป็น ‘พระโพธิสัตว์กวนอิม’ วาดออกมาผ่านมืออาจารย์หวัง ฉางลี่ถ้าสังเกต จะเห็นว่าอาจารย์หวัง ฉางลี่ ใช้คำว่า ‘พระโพธิสัตว์กวนอิม’ ทุกครั้ง, ไม่ใช้คำว่า ‘เจ้าแม่กวนอิม’ เนื่องจาก ‘อาจารย์หวัง’ ศึกษาและนับถือพุทธศาสนาที่เผยแพร่ในประเทศจีน ซึ่งกล่าวถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมทรงเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุนี้ภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมจึงมีภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งบนมุ่นมวยผมเสมอขณะที่ ‘เจ้าแม่กวนอิม’ เป็นคำที่ชาวจีนนำความเชื่อในองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมในพุทธศาสนามาประยุกต์เข้ากับ ‘ลัทธิเต๋า’ ลัทธิซึ่งให้ความสำคัญกับการนับถือเทพเจ้า พิธีกรรมและตำนานพื้นบ้านอ.วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์อ.วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญศิลปวัฒนธรรมและประเพณีจีน เคยให้สัมภาษณ์ว่า ‘ลัทธิเต๋า’เปรียบเสมือน ‘ลัทธิโอท็อป’ ของประเทศจีน ชาวจีนคิดเองและตั้งลัทธินี้ขึ้นมาเอง เช่นเดียวกับ ‘ลัทธิขงจื๊อ’ ต่างกันตรงที่ลัทธิขงจื๊อให้ความสำคัญกับคำสอนด้านจริยธรรมและปรัชญาต่างๆพระโพธิสัตว์กวนอิม ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา ตั้งพระทัยโปรดสัตว์ทั่วไตรภูมิให้พ้นห้วงทุกข์ กลับใจคนชั่วให้กลายเป็นคนดี ปัดเป่าทุกข์ภัย อ.วิโรจน์กล่าวว่า การขอพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิมมีเพียงประการเดียวคือ “ขอให้ท่านเมตตา”เนื่องจาก พระโพธิสัตว์กวนอิม มี 33 ปาง แต่ละปางมีความหมายแตกต่างกันไปในการโปรดสัตว์ เมื่อกราบขอพรจึงควรขอพรให้ท่านเมตตาให้เกิดมงคลตามความเชื่อของปางนั้นๆขณะนี้อาจารย์หวัง ฉางลี่ วาดภาพ พระโพธิสัตว์กวนอิม เสร็จสมบูรณ์แล้ว 11 ปาง (11 ภาพ) จากทั้งหมด 33 ปาง และได้นำมาจัดแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ จำนวน 6 ปาง (6 ภาพ) นับเป็นโอกาสสำคัญครั้งแรกของชาวไทยที่จะได้ชมผลงานศิลปะระดับจิตวิญญาณอันโด่งดั่งอย่างใกล้ชิด และกราบขอพร ดังนี้ • พระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่าพระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่า หรือ ‘ปางจ้งเป่า’ เป็นปางแสดงถึงการสรรเสริญพระโพธิสัตว์กวนอิมที่มีพลังอันไร้ขอบเขต และเปี่ยมด้วยคุณงามความดีที่นำมาซึ่งประโยชน์และความมั่งคั่งแก่โลกทรงสวมเครื่องแต่งกายด้วยชุดพลิ้วไหวงามสง่า สวมใส่เครื่องประดับล้ำค่า อาภรณ์ประดับด้วยอัญมณี บนศีรษะสวมมงกุฎรูปสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าพุทธศาสนาในประเทศจีน คำว่า ‘เป่า’ ใช้บรรยายถึง พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และพระธรรมอันสูงส่ง ส่วนคำว่า ‘จ้งเป่า’ หมายถึงสมบัติมหาศาลพระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่าทรงมีคุณลักษณะ 10 ประการ คือ ตระกูลสูงศักดิ์ ตำแหน่งสูงส่ง ร่ำรวยมั่งคั่ง แข็งแกร่งกล้าหาญ อายุยืนยาว ปัญญาเลิศล้ำ ประพฤติบริสุทธิ์ เพียบพร้อมจรรยา ได้รับความเคารพจากเบื้องบนและความนอบน้อมจากเบื้องล่างรายละเอียดภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่าอ.หวัง ฉางลี่ มอบภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่าภาพนี้ให้ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา และผู้ดำริสร้างหอมนสิการ ด้วยความศรัทธาในปณิธานการเผยแผ่คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของประธานมูลนิธิฯภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่าของ อ.หวัง ภาพนี้ วาดด้วยสีที่มาจากอัญมณีสีนั้นๆ ขนาดภาพ 2.76 x 1.55 เมตร มูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐความเชื่อ : กราบขอพรให้เมตตาประทานความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองแก่กิจการงานในครอบครัว • พระโพธิสัตว์กวนอิมเหลียนอั้วพระโพธิสัตว์กวนอิม ‘ปางเหลียนอั้ว’ ทรงประทับนอนอยู่บนใบบัว ล้อมรอบด้วยดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ พระพักตร์สง่างามสูงส่ง ท่าทีสบาย เปี่ยมด้วยความสุข ร่างกายผ่อนคลายและสงบ ท่ามกลางบรรยากาศงดงามและลึกลับ นำผู้ชมภาพวาดเข้าสู่สภาวะการทำสมาธิที่งดงามทรงปรากฏกายในร่าง "กษัตริย์น้อย" มีความหมายช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงอย่างไม่มีอุปสรรค เพราะทรงมีโพธิญาณแห่งการนำโชค สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งทางกายและใจ ด้วยมหาเมตตาของพระโพธิสัตว์กวนอิมอาจารย์หวังใช้เวลาวาดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมอิมเหลียนอั้ว นาน 6 เดือนความเชื่อ : กราบขอพรเมตตาให้เกิดความสำเร็จไร้อุปสรรค ครอบครัวมีความสุข-สามัคคี ชีวิตราบรื่น นอนหลับฝันดี สงบสุขยาวนาน • พระโพธิสัตว์กวนอิมหยางหลิ่วพระโพธิสัตว์กวนอิม ‘ปางหยางหลิ่ว’ ทรงเปี่ยมด้วยมหาเมตตา ทรงอุทิศตนขจัดความทุกข์ความโศกเศร้าเสียใจให้แก่โลกนี้ ปรากฏกายให้เห็นอย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์ เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากวัฏสงสารพระพักตร์อวบอิ่ม สง่างาม พระหัตถ์ขวาถือคนโทบริสุทธิ์ พระหัตถ์ซ้ายถือกิ่งหลิวหยาดน้ำอมฤตไปบนแผ่นดิน ทรงเสื้อคลุมสักหลาดอันปราณีตงดงาม ดำเนินด้วยเท้าเปล่า ภาพวาดลายเส้นอ่อนช้อยพลิ้วไหว มีทั้งบางและหนักผสมผสานทั้งความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน แสดงให้เห็นถึงความเมตตา ความสงบและความสง่างามของพระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อ : กราบขอพรเมตตาให้ราบรื่นในการงานและทุกสิ่ง ขจัดภัยพิบัติและโรคภัยทั้งปวง ลมฝนสม่ำเสมอตกต้องตามฤดูกาล ผลผลิตทางการเกษตรผลิดอกออกผล ประเทศชาติมั่งคั่ง ประชาชนผาสุข • พระโพธิสัตว์กวนอิมหยวนกวงพระโพธิสัตว์กวนอิม ปาง ‘หยวนกวง’ เปรียบแสงสว่างบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน ทรงขจัดปัดเป่าภัยพิบัติและความยากลำบากในชีวิตให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย นำพาซึ่งความสงบสุขและความยินดีมาให้ภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมหยวนกวงของอาจารย์หวัง ฉางลี่ เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและสง่างาม ลายเส้นอ่อนช้อยลื่นไหลเป็นธรรมชาติ สีสันสะอาดบริสุทธิ์และสูงส่ง พระพักตร์เปี่ยมด้วยความเมตตาและความสงบ ท่วงท่ามั่งคง สง่างามทรงพลัง ดูมีชีวิตชีวาเสมือนจริงความเชื่อ : กราบขอพรเมตตาให้ทุกสิ่งราบรื่น ความปรารถนาสำเร็จ ลูกหลานปลอดภัย สุขภาพแข็งแรงเติบโต • พระโพธิสัตว์กวนอิมเต๋อหวังพระโพธิสัตว์กวนอิม ปาง ‘เต๋อหวัง’ ทรงเปี่ยมด้วยคุณธรรม จิตใจบริสุทธิ์งดงาม แผ่แสงแห่งปัญญา เปิดปัญญาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ฝึกฝนและเฝ้าสังเกตตนจนหลุดพ้นจากสังสารวัฏ ปรากฏกายในร่างพรหมเพื่อช่วยเหลือเวไนยสัตว์ประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์บัว มือขวาถือกิ่งหลิว ปางนี้เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าในงานราชการ ซึ่งสอดคล้องกับบทมหาปณิธานในพระสูตรมหายานเล่มที่ 7 (บทที่ 9, หน้าที่ 57) ที่กล่าวว่า "หากควรปรากฏกายช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ท่านก็จะปรากฏกายด้วยร่างพรหมเพื่อมาแสดงธรรม"ชื่อของพระโพธิสัตว์กวนอิมปางเต๋อหวัง มาจากรูปแบบการจุติเป็นร่างของพระพรหมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรมอันล้ำเลิศ เจ้าแห่งอาณาจักรรูป จึงได้ชื่อว่า ‘เต๋อหวัง’ หรือ ‘ธรรมราชา’ ภาพที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก คือภาพที่ประทับอยู่บนโขดหิน มือซ้ายวางที่เข่า มือขวาถือกิ่งหลิวรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมเต๋อหวัง มีลักษณะท่วงท่าน่าเกรงขาม สง่างาม เปี่ยมด้วยมหาเมตตา มีความเสมือนจริง ทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพและศรัทธาเปิดภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางเต๋อหวังพิธีเปิดนิทรรศการภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิม ปาง 'เต๋อหวัง' ขนาด 4.32 x 2.43 เมตร มูลค่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐ อ.หวังวาดไว้ 2 ภาพ ภาพแรกอยู่ที่ประเทศจีน ภาพนี้คือภาพที่สอง ใช้เวลาวาด 1 ปี และนำมาจัดแสดงที่ประเทศไทยความเชื่อ : กราบขอพรเมตตาให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานราชการ มีตำแหน่งสูงส่งและอำนาจยิ่งใหญ่ ประชาชนเคารพนับถือ • พระโพธิสัตว์กวนอิมฉือเหลียนพระโพธิสัตว์กวนอิม ปาง ‘ฉือเหลียน’ งดงามทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในจิตใจ ศีรษะสวมมงกุฎ นุ่งห่มอาภรณ์สวรรค์ พระหัตถ์ถือดอกบัว ประทับยืนอยู่บนดอกบัว แสดงถึงกายที่บริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์และปราศจาคมลทินพระโพธิสัตว์ในภาพวาดของปรมาจารย์หวัง เป็นหญิงสาวสวย รูปลักษณ์งดงามไร้ที่ติ ปราศจากมลทินและสง่างามเป็นพิเศษ มงกุฏส่องประกายแวววาว อาภรณ์พลิ้วไสว รูปร่างสง่างาม อิริยาบถนุ่มนวล ใบหน้าใจดีมีเมตตา สีหน้าอ่อนโยน รอยยิ้มสดใสสวยงามราวดอกไม้ งดงามจนไม่สามารถบรรยายด้วยคำพูดได้ภาพวาดนี้มีขนาด 4.32 x 2.43 เมตร มูลค่าภาพ 4 ล้านเหรียญสหรัฐความเชื่อ : กราบขอพรเมตตาให้ลูกหลานมีสติปัญญา ความสามารถโดดเด่นเป็นเลิศ เมตตาให้สตรีมีใบหน้าสวยงาม อ่อนวัย ในใจสงบนิ่ง อายุยั่งยืนอาคารจัดแสดงนิทรรศการภาพวาด พระโพธิสัตว์กวนอิม โดย อ.หวัง ฉางลี่นิทรรศการภาพวาด พระโพธิสัตว์กวนอิม โดยอาจารย์หวัง ฉางลี่ จัดแสดงภายใต้ชื่อนิทรรศการ The Profound Beauty Art Exhibition ณ หอมนสิการ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 1 กันยายน-14 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 – 17.00 น. ปิดทำการทุกวันจันทร์ • บัตรเข้าชม คนไทย 250 บาท ชาวต่างชาติ 500 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ครึ่งราคา • ซื้อบัตรล่วงหน้าได้ที่ megatix.in.thแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1143266
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
11/09/2024
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก สานต่อพันธกิจ AIA One Billion ที่เอไอเอมุ่งสนับสนุนให้คนไทยและผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น โดยได้มอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กผู้มีความบกพร่องทางสมองและปัญญา ภายใต้โครงการ “คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย จับมือร่วมใจสานฝันน้อง” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและมอบความปลอดภัยบนท้องถนนให้แก่เด็กที่บกพร่องทางสมองฯ ซึ่งครอบครัวไม่สามารถให้การดูแลหรือถูกทอดทิ้ง และอยู่ในการดูแลของสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี (หญิง) และสถานคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการบ้านราชาวดี (ชาย) จังหวัดนนทบุรี โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล (กลาง) เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้เกียรติเป็นประธานพิธีส่งมอบแก่นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ (ที่ 3 จากขวา) รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พร้อมด้วยนางสาวจิรัชยา เข็มศิริ (ที่ 2 จากขวา) ผู้ปกครองสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี (ชาย) และคณะครู ผู้ปกครองสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี (หญิง) เป็นผู้แทนรับมอบเมื่อเร็ว ๆ นี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
11/09/2024
อโกด้า เผย พัทยาแชมป์ 5 จุดหมายยอดฮิตใกล้กรุงเทพฯ สำหรับทริปท่องเที่ยวพักผ่อนสุดสัปดาห์ง่าย ๆ สามารถไปเช้า-เย็น กลับได้สบายอโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการท่องเที่ยว เปิดเผย 5 จุดหมายยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งอ้างอิงจากจุดหมายปลายทางที่ถูกค้นหามากที่สุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสำหรับ 5 จุดหมายที่เที่ยวยอดนิยมใกล้กรุงฯ ที่ถูกค้นหามากที่สุดจาก อโกด้า มีดังนี้1. พัทยาเกาะล้าน พัทยาแม้พัทยา จ.ชลบุรี จะได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองชายหาดที่เต็มไปด้วยสีสัน แท้จริงแล้วพัทยาไม่ได้มีแค่ปาร์ตี้สนุก ๆ ริมทะเลเท่านั้น แต่นักเดินทางยังสามารถเพลิดเพลินไปกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืน ทำกิจกรรมสำหรับครอบครัว สัมผัสความหรูหราของสถาปัตยกรรม หรือพักผ่อนชิลล์ ๆ ในโรงแรมริมชายหาดสำหรับหนึ่งในไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของพัทยา ก็คือ "เกาะล้าน" ซึ่งสามารถนั่งเรือไปได้เพียงไม่กี่นาทีจากพัทยา เกาะล้านเหมาะสำหรับการอาบแดด ดำน้ำตื้น และพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะปาร์ตี้อย่างสนุกสุดเหวี่ยงหรือพักผ่อนหย่อนใจริมทะเล พัทยาก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทาง2. เขาใหญ่น้ำตกเหวนรก อช.เขาใหญ่เขาใหญ่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่สำหรับการหลบหนีจากความวุ่นวายสู่ธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัยและหลงใหลในธรรมชาติ เขาใหญ่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามเขียวขจี เส้นทางเดินป่าที่น่าสนใจ และวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามเขียวขจีนักเดินทางสามารถเพลิดเพลินไปกับคาเฟ่หลากหลายสไตล์ หรือชมความงดงามของน้ำตกเหวนรก น้ำตกสูงสามชั้นที่ตั้งอยู่ในอุทยาแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีความสูงกว่า 150 เมตร ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจอุทยานแห่งชาติหรือการพักผ่อนแบบสบาย ๆ เขาใหญ่พร้อมมอบประสบการณ์ที่ช่วยให้นักเดินทางหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองหลวงได้อย่างแท้จริง3. ชลบุรีหาดบางแสน ชลบุรีชายฝั่งทะเลชลบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนระยะสั้น นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นที่ชายหาดบางแสน ซึ่งผสมผสานชายฝั่งที่สวยงามเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ได้อย่างลงตัวหรือไปดำน้ำที่เกาะแสมสารใกล้ฐานทัพเรือสัตหีบ นอกจากนี้ยังมีอ่างศิลา ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้านงานหินอ่อน และอาหารทะเลสดใหม่จากร้านอาหารที่เรียงรายตามแนวชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี4. ระยองเกาะเสม็ด ระยองระยองวันนี้กำลังเป็นที่นิยมด้านกิจกรรมทางน้ำสำหรับนักเดินทางสายสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเซิร์ฟที่หาดแหลมหญ้าที่วันนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักโต้คลื่นทุกประเภท และยังสามารถพายเรือคายัคและแพดเดิลบอร์ดได้อีกด้วยขณะที่สถานที่ไฮไลต์ยอดนิยมของจังหวัดระยองก็คือ "เกาะเสม็ด" เกาะงามใกล้กรุงฯ ในตำนาน ที่มากไปด้วยชายหาดที่สวยงาม โดยสามารถไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือใครจะไปพักค้างคืนดื่มด่ำกับบรรยากาศท้องทะเลอย่างใกล้ชิด บนเกาะเสม็ดก็มีที่พักให้เลือกอย่างหลากหลาย5. กาญจนบุรีสกายวอล์คแม่กลอง-สองแคว กาญจนบุรีกาญจนบุรีเหมาะสำหรับสำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สะพานข้ามแม่น้ำแคว ทางรถไฟสายมรณะ ช่องเขาขาด ถ้ำกระแซ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ฯลฯนอกจากนี้ล่าสุดเมืองกาญจน์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่คือ "สกายวอล์คกาญจนบุรี" หรือ "สกายวอล์คสองแคว-แม่กลอง" ที่โดดเด่นไปด้วยทางเดินลอยฟ้าชมวิวพาโนรามาของจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำแควน้อย-แควใหญ่ ถือเป็นแลนด์มาร์กใหม่ในเมืองกาญจน์ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเช็กอินกันเป็นจำนวนมากและนี่ก็คือ 5 จุดหมายแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ จากอโกด้า ซึ่งนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปเที่ยวด้วยรถยนต์ได้ภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง และสามารถเที่ยวแบบไปเช้า-เย็น กลับได้ หรืออยากใครอยากสัมผัสกับสถานที่เหล่านั้นให้เต็มที่ก็สามารถเลือกหาที่พักที่มีอยู่หลากหลายในพื้นที่ของจุดหมายเหล่านั้นได้เอนริก คาซาลส์, Associate Vice President Southeast Asia, อโกด้า กล่าวว่า “แม้ว่าเดือนกันยายนจะไม่มีวันหยุดยาว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแผนการเดินทางของทุกคนจะต้องหยุดชะงัก สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ เหล่านี้เป็นทางเลือกให้นักเดินทางทั้งชาวไทย และต่างชาติไปเที่ยวพักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองได้โดยไม่ต้องรอวันหยุดยาว”ค้นพบจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ สำหรับการพักผ่อนสุดสัปดาห์เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย อโกด้ามีที่พักกว่า 4.5 ล้านแห่ง เส้นทางบินมากกว่า 130,000 เส้นทาง และกิจกรรมกว่า 300,000 รายการ ซึ่งนักเดินทางสามารถจองทั้งหมดด้วยกันได้ในครั้งเดียว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของอโกด้าแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000082797
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
10/09/2024
คอลัมน์ : คุยฟุ้งเรื่องการเงินผู้เขียน : Actuarial Business Solutions [ABS]เคยมีคนสงสัยว่า ทำไม Actuary ถึงมีความเกี่ยวข้องกับงบการเงิน (Financial Report) ด้วย เพราะส่วนใหญ่คนจะเข้าใจว่า Actuary มีหน้าที่คำนวณเบี้ยประกันภัยเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะนั่นเป็นเพียงแค่งานหน้าบ้านเท่านั้น ส่วนงานหลังบ้านที่หลายคนอาจยังไม่ทราบก็คือ การมีส่วนรับผิดชอบในงบการเงิน (Financial Report) ร่วมกับฝ่ายบัญชีด้วยโดยฝ่ายบัญชีจะเน้นการนำเอาตัวเลขที่เป็นเงินสด เช่น เบี้ยประกันภัยรับ หรือค่าสินไหมทดแทน มาลงในบัญชี ส่วน Actuary จะคำนวณเอาตัวเลขที่เป็นต้นทุนค่าใช้จ่าย หรือรายรับที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตมาประมาณการให้แม่นยำที่สุด แล้วบันทึกในงบการเงิน (Financial Report)ดังนั้นถ้าจะให้ถามหาความแตกต่างระหว่าง Actuary และนักบัญชี ก็คงจะได้คำตอบประมาณว่า นักบัญชีจะนำเอาตัวเลขที่เกิดขึ้นในอดีตมาใส่ในงบการเงิน (Financial Report) ให้ถูกต้องตามระบบมาตรฐานสากล หลังจากนั้น Actuary จึงจะประเมินบริษัทโดยสร้างสมมุติฐานต่าง ๆ เพื่อประมาณสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วจึงนำเอาตัวเลขมาใส่ในงบการเงิน (Financial Report) อีกทีหนึ่ง ส่วนความสามารถในการประเมินอนาคตของ Actuary นั้น คำทั่วไปที่ใช้ประจำคือ การนั่งเทียนอย่างมีเหตุผล (Educated Guess) นั่นเองตัวอย่างของตัวเลขที่เห็นได้ชัดว่าจะต้องมี Actuary เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนคือ การตั้งเงินสำรองกรมธรรม์เพื่อให้เพียงพอกับกรมธรรม์ในแต่ละกรมธรรม์ และก็ต้องมาทำให้เข้ากับระบบบัญชีในแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบที่กำหนดในประเทศ (Local Regulation) หรือแบบที่กำหนดตามมาตรฐานสากล (General Accepted Accounting Principle)โดยบางบริษัทก็มีระบบบัญชีที่ต้องทำให้ถูกต้องอยู่ประมาณ 4-5 แบบ เช่น แบบที่กำหนดในประเทศ แบบที่กำหนดเพื่อคำนวณภาษี แบบที่กำหนดตามผู้ถือหุ้นในออสเตรเลีย แคนาดา และอเมริกา เป็นต้นแล้วทำไมงบการเงิน (Financial Report) ของบริษัทประกันภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ นั่นเพราะว่างบการเงิน (Financial Report) จะบอกถึงสภาวะที่บริษัทมีกำไรหรือขาดทุน และมีเงินทุนที่เผื่อไว้ในยามฉุกเฉิน เหลืออยู่เท่าไหร่ที่จะสามารถนำไปชำระคืนให้กับผู้ถือกรมธรรม์ได้ ทำให้หน้าที่หลักของ Actuary อีกอย่างหนึ่งคือ การดูผลประกอบการ กำไรหรือขาดทุนของบริษัท รวมทั้งเงินทุน (Capital) ที่บริษัทมีเหลืออยู่แล้วการที่จะแสดงผลกำไรหรือขาดทุนได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับว่า Actuary จะประเมินการตั้งเงินสำรองกรมธรรม์ในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างไร ที่สำคัญก็คือ ถ้าปีไหน Actuary เปลี่ยนแปลงการตั้งเงินสำรองกรมธรรม์ให้ลดลง ก็จะทำให้บริษัทแสดงผลกำไร พุ่งปรี๊ดอย่างทันตาเห็นแต่การจะเปลี่ยนการตั้งค่าเงินสำรองกรมธรรม์ในแต่ละปีนั้น ต้องอาศัยความรู้ความสามารถในเชิงลึก และวิจารณญาณ (รวมไปถึงจรรยาบรรณ) ของคนที่เป็น Actuary อีกทั้งประเทศไทยก็มี Actuary ที่อยู่ในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คอยดูแล เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง สังเกตได้ดังนี้1. ทิศทางของกำไร/ขาดทุนของบริษัท (Trend of Profit) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย เพราะสภาพแวดล้อมในตลาดเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ2. แหล่งที่มาของกำไรของบริษัท (Source of Profit) ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ Actuary ควรจะวิเคราะห์3. การวางแผนอย่างเป็นระบบของบริษัท (Strategic Planning) ก็เป็นสิ่งที่ Actuary จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วยทุกครั้ง เป็นการวางแผนล่วงหน้า4. รู้อย่างลึกซึ้งว่า หนี้สิน (Liability) และสินทรัพย์ (Asset) รวมทั้งเงินทุน (Capital) นั้น คำนวณมาได้อย่างไรในระบบมาตรฐานต่าง ๆในการจะทำงบการเงินระบบมาตรฐาน (Financial Reporting Standard Framework) นั้น จะต้องเข้าใจวัตถุประสงค์และสภาพแวดล้อมที่ใช้อยู่ในประเทศนั้น ๆ ก่อน และการตีความจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อให้ผู้บริหารได้ใช้ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์มาตัดสินใจ อีกทั้ง Actuary จะต้องทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ด้าน ที่ต้องการใช้งบการเงิน (Financial Report) เหล่านี้“ไม่ใช่ทำงบการเงินมาแล้วไม่มีใครอ่าน” งบการเงินที่ดี ถ้าทำเสร็จแล้วต้องมีคนอ่าน และคนอ่านสามารถทำความเข้าใจกับมันได้ด้วยแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1641681
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
10/09/2024
การชมนิทรรศการศิลปะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้ผ่อนคลายความเครียดได้ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเสพงานศิลป์ ล่าสุดสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสมาคมเพื่อการพัฒนาศิลปะและหัตถศิลป์ไทย (TACDA) จัดนิทรรศการ "ภาพบันดาล Art Decoded" แสดงการถ่ายทอดสุนทรียะจากผลงานของศิลปินแห่งชาติและนานาชาติสู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของที่ระลึกเรียกได้ว่าเป็นการเปิดมิติสัมผัสใหม่จากเพียงแค่สายตาที่รับรู้ผลงาน ขยายเพิ่มสู่การสัมผัสเป็นผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานศิลปะของศิลปิน รวม 11 ท่าน ได้แก่ ศ. (เกียรติคุณ) ปรีชา เถาทอง, Prof. Emeritus Peter Pilgrim, ศ. (เกียรติคุณ) ปริญญา ตันติสุข, รศ. ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ, สมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์, ศ. สุธี คุณาวิชยานนท์, ชลิต นาคพะวัน, รศ. กันจณา ดำโสภี, ผศ. ชัยพร ระวีศิริ, Konstantin Ikonomidis และ ยุรี เกนสาคูนิทรรศการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการวิจัยการจัดนิทรรศการระดับนานาชาติและศึกษาต้นแบบสินค้า ที่ระลึกภายในพิพิธภัณฑ์ เพื่อต่อยอดสู่การจัดนิทรรศการและการจัดทำสินค้าเชิงพาณิชย์ จากฐานทุนวัฒนธรรมของไทย" มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและส่งเสริมองค์ความรู้ด้านศิลปะในสังคมไทย เกิดการต่อยอดในเชิงพาณิชย์สู่สากลเป็นการทำงานเชิงบูรณาการจากการออกแบบ การทำงานเชิงศิลปกรรม และการพัฒนาต่อยอดในเชิงอุตสาหกรรม โดยมีความตั้งใจหลักเพื่อส่งเสริมการพัฒนารูปแบบสินค้าที่ระลึกในร้านจำหน่ายสินค้าของพิพิธภัณฑ์ของไทย ผ่านการถ่ายทอดสุนทรียะจากผลงานของศิลปิน และนำองค์ความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบและยกระดับผลิตภัณฑ์ของไทย พัฒนาต่อยอดให้เป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากต้นทุนวัฒนธรรมของชาตินิทรรศการ ภาพบันดาล Art Decoded จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 4 - 27 กันยายน 2567 เวลา 09:00 – 16:00 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป (หอศิลป์เจ้าฟ้า) โดยปิดให้บริการทุกวันจันทร์-อังคารพิธีเปิดนิทรรศการในวันที่ 4 กันยายน 2567 ตั้งแต่ 14:00 น. เป็นต้นไป จะมีกิจกรรมบรรยายพิเศษโดย Véronique Delignette-Schilling ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสำหรับผู้บริหาร (Executive MBA) ด้านการจัดการแฟชั่นระดับโลก French Institute of Fashion (IFM) สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในหัวข้อเรื่อง “การยกระดับผลิตภัณฑ์ของไทยสู่ระดับนานาชาติ”สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-427-4998 หรือ Facebook page: สมาคมเพื่อการพัฒนาศิลปะและหัตถศิลป์ไทย (TACDA)แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2811509
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
10/09/2024
ใครก็ตามที่เป็นสายเดินทางท่องเที่ยว และมักจะต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินบ่อยๆ บางทริปอาจต้องรอเวลานาน และใช้เวลาอยู่ที่สนามบินหลายชั่วโมงก่อนจะออกเดินทาง โดยระหว่างนั้นเราอาจมีความจำเป็นต้องทำงาน หาข้อมูลต่างๆ รวมไปทั้งกิจกรรมอื่นๆ แล้วทราบกันหรือไม่ว่าทั้งสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมินั้นมีบริการฟรี ! ให้บริการแก่นักเดินทางและนักท่องเที่ยวหลากหลาย ว่าแต่บริการฟรีที่ว่านั้นมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย6 บริการฟรีที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ1. น้ำดื่มฟรี ทั้งที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิมีบริการน้ำดื่มฟรีจากตู้กดน้ำดื่มเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร สามารถเลือกเติมน้ำร้อนหรือน้ำเย็นได้ตามต้องการ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่มขวดใหม่ เพราะราคาอาหารและเครื่องดื่มภายในสนามบินมักจะสูงกว่าปกติมาก2. บริการ Wi-Fi ฟรี เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ในสนามบินเท่านั้น แต่ที่สนามบินจะมีให้เลือกหลากหลายเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi ฟรีของสนามบินเอง ค่ายมือถือ หรือร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ในสนามบินหากต้องการใช้งาน Wi-Fi ฟรีที่สนามบิน แนะนำให้เลือกใช้ของค่ายมือถือหรือของสนามบินโดยตรง จะปลอดภัยกว่าการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ฟรีที่ไม่รู้แหล่งที่มา เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวได้3. การอำนวยความสะดวกกิจกรรมด้านศาสนาฟรี สนามบินหลายแห่งมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกทางศาสนาฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารทุกศาสนา เช่น ห้องละหมาด ห้องรับรองสำหรับพระสงฆ์ เป็นต้น หากต้องการใช้บริการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่ภายในสนามบิน4. บริการรถรับ-ส่งฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการเดินทางภายในสนามบิน หรือระหว่างอาคารต่างๆ โดยเฉพาะสนามบินขนาดใหญ่ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ จะมีบริการรถ Shuttle Bus วิ่งให้บริการอยู่เป็นประจำ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร พนักงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องในการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ภายในสนามบิน5. Airport Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี ระหว่างสนามบิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการ Airport Shuttle Bus เพื่อเดินทางต่อเที่ยวบินระหว่างสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิสามารถใช้บริการได้โดยต้องมีBoarding Pass ของเที่ยวบินต่อไปเท่านั้น และต้องแสดง Boarding Pass แก่เจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นรถทุกครั้งผู้โดยสารที่ไม่ได้ต่อเที่ยวบิน และ ประชาชนทั่วไป ไม่สามารถใช้บริการได้6. จุดชาร์จมือถือฟรี ทั้งสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิมีจุดชาร์จมือถือให้บริการฟรี แต่ก็ต้องพิจารณาให้ดีในเรื่องของความปลอดภัยของการเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB หรืออะแดปเตอร์จ่ายไฟว่าจะเสี่ยงถูกขโมยข้อมูลหรือไม่ และไม่ควรชาร์จมือถือวางทิ้งไว้โดยไม่อยู่กับตัวเครื่องแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1449079/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
09/09/2024
เอไอเอ เพรสทีจ คลับ นำโดย นางสาวญดา วงศ์ทองคำ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษ และกิจกรรมลูกค้า เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับโรงพยาบาลกรุงเทพ จัดกิจกรรมทอล์คแอนด์เวิร์คช้อปให้กับลูกค้าเอไอเอ เพรสทีจ คลับ ในหัวข้อ “อย่าปล่อยให้เรื่องสุขภาพเป็นอนาคตที่คาดเดาไม่ได้” ภายใต้งาน The Future of Healthcare Discovery your genes Tailor your Life โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 200 คน ณ ห้องประชุม 7 อาคาร R โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมาภายในงานลูกค้าเอไอเอ เพรสทีจ คลับ ได้รับฟังความรู้สุขภาพ “มะเร็ง…ลดเสี่ยงได้ด้วยการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์” วางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม โดยนพ.ณัฏฐชัย สุวจิตตานนท์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน เฮลท์ดีไซน์เซ็นเตอร์ และ “โรคอัลไซเมอร์….รู้ไว ชะลอโรคได้” โดย นพ.ชาคร จันทรสกุล อายุรกรรมแพทย์สมองและระบบประสาทสำหรับกิจกรรมเวิร์คช้อป “ชวนทำอาหารต้านมะเร็ง” จากนักโภชนาการ และเวิร์คช้อป “Brain Gym” กิจกรรมฝึกสมองต้านอัลไซเมอร์ โดยวิทยากร คุณอกนิษฐา สีบุญเรือง Neuropsychology ซึ่งนอกจากกิจกรรมที่จัดให้กับลูกค้าเอไอเอ เพรสทีจ คลับ ณ โรงพยาบาลกรุงเทพแล้ว ยังได้มีการแนะนำแพคเกจ และมอบคูปองส่วนลดการซื้อแพ็กเกจให้กับลูกค้าเอไอเอ เพรสทีจ คลับ ที่เข้าร่วมงานอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
การวางแผนทางการเงิน
06/09/2024
บทความโดย "สมาคมนักวางแผนการเงินไทย"ปัจจุบันมีกองทุนรวมที่นำเสนอขายให้นักลงทุนมีจำนวนหลายพันกองทุน ที่สำคัญมีนโยบายการลงทุนหลากหลาย ทำให้เกิดคำถามว่า ควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตัวเองและสร้างความมั่นใจได้มากขึ้นดังนั้น การเลือกลงทุนในกองทุนถือเป็นกระบวนการที่สำคัญ ต้องมีความละเอียด รัดกุม พิจารณาหลาย ๆ ปัจจัย เช่น วัตถุประสงค์ของการลงทุน ระยะเวลาที่ต้องการลงทุน ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เข้าใจในการลงทุน เป็นต้น ในเบื้องต้นก่อนตัดสินใจลงทุนควรพิจารณา 5 เรื่อง ดังนี้1. นโยบายการลงทุน ก่อนตัดสินใจเลือกลงทุนกองทุนรวมสักกอง สิ่งที่ต้องพิจารณาที่ลืมไม่ได้ คือ นโยบายการลงทุนของกองทุนนั้น ๆ เพื่อให้รู้ว่ากองทุนที่สนใจเป็นกองทุนประเภทไหน นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อะไร เช่น หุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก หุ้นปันผล หุ้นเติบโต หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ หรือลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น อีกทั้ง นโยบายการลงทุนยังมีข้อมูลอื่น ๆ ให้พิจารณา โดยเฉพาะสัดส่วนการลงทุน ความเสี่ยง นโยบายจ่ายปันผล จำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป อายุกองทุน โดยควรศึกษาให้ละเอียด เพื่อให้เลือกกองทุนที่เหมาะกับเป้าหมายและสไตล์การลงทุนของตัวเอง2. เลือกประเภทกองทุนที่เหมาะสม ควรทำความเข้าใจก่อนว่ากองทุนนั้นเป็นกองทุนประเภทไหน ผู้จัดการกองทุนมีแนวทางในการบริหารกองทุนอย่างไร โดยหลัก ๆ แบ่งเป็นการบริหารแบบเชิงรับ (Passive Fund) เน้นการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงให้มากที่สุด ข้อดี คือ มีค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนและความเสี่ยงต่ำถัดมาเป็นกองทุนแบบเชิงรุก (Active Fund) มีเป้าหมายในการลงทุน คือ สร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิง (Benchmark) หรือการพยายามเอาชนะตลาด เป็นนโยบายลงทุนแบบเชิงรุก ผู้จัดการกองทุนจะหาจังหวะเหมาะสมในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ดีกว่าค่าเฉลี่ย จึงมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนแบบ Passive Fund แต่ก็มีโอกาสได้กำไรสูงกว่า3. วิเคราะห์ผลงานของกองทุน ก่อนพิจารณาลงทุนควรดูผลตอบแทนเพราะมีทั้งกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล หากกองทุนที่จ่ายปันผลต้องพิจารณา Total Return ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่รวมเงินปันผลเข้าไปแล้ว ขณะที่กองทุนที่ไม่จ่ายปันผล ให้พิจารณา Price Return ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ไม่รวมการจ่ายเงินปันผลนอกจากนี้ให้พิจาณาผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (Annualized Return) เป็นวิธีการหาแบบค่าเฉลี่ยต่อปี ด้วยการนำผลตอบแทนในแต่ละปีมาบวกกันแล้วก็หารจำนวนปีที่ต้องการดูค่าเฉลี่ย ถัดมาให้พิจารณาผลตอบแทนแบบสะสม (Cumulative Return) ซึ่งเป็นการนำผลตอบแทนปีแรกกับผลตอบแทนที่ต้องการคำนวณปีล่าสุดมาดูเมื่อพิจารณาผลตอบแทนแล้ว ไม่ควรลืมด้านความเสี่ยงของกองทุนนั้น ๆ ด้วยการพิจารณาค่าความผันผวน (Standard Deviation) หากค่าความผันผวนยิ่งต่ำยิ่งดี หมายความว่า ความผันผวนของผลตอบแทนต่ำ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) จะไม่เหวี่ยงมาก แต่หากค่าความผันผวนสูง หมายความว่า ผลตอบแทนจะมีความผันผวนมาก ส่งผลให้ NAV จะเหวี่ยงมากตามไปด้วยถัดมาให้พิจารณาค่าใช้จ่าย โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ค่าใช้จ่ายด้านค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-End Fee) ค่าธรรมเนียมการขาย (Back-End Fee) กับ Total Expense Ratio เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ค่าสอบบัญชี โดยค่าใช้จ่ายจะมีผลต่อผลตอบแทน หากต้นทุนต่ำ ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสุทธิในระยะยาวสูง ตรงกันข้ามหากค่าใช้จ่ายสูง ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสุทธิในระยะยาวลดลงตามไปด้วย4. วางแผนกลยุทธ์การลงทุน ข้อดีของกองทุนรวม คือ ลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทจึงช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์เพียงตัวเดียว มีผู้เชี่ยวชาญจัดการมืออาชีพคอยคัดเลือกสินทรัพย์และบริหารจัดการเงินลงทุนให้งอกเงย ลงทุนได้ง่ายผ่าน บลจ. ตัวแทน หรือเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น ดังนั้น กองทุนรวมจึงเหมาะกับการลงทุนระยะยาว โดยทางเลือกที่ดีในการลงทุนระยะยาว คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) เป็นการทยอยลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทุกงวด (เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน)โดยข้อดีการลงทุนรูปแบบนี้มีหลายประการ เช่น • การลดความเสี่ยงและบริหารเงินทุนได้ง่าย ช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน โดยการแบ่งเงินลงทุนออกเป็นรายงวด ตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด • การลงทุนต่อเนื่อง ช่วยสร้างนิสัยการลงทุนต่อเนื่อง ทำให้ง่ายต่อการลงทุนเป็นระยะ ๆ เป็นการตัดปัจจัยทางด้านอารมณ์ ความรู้สึกออกไป • การลงทุนในช่วงราคาต่ำ เมื่อตลาดตกต่ำ ช่วยให้ซื้อหน่วยลงทุนในราคาต่ำ ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนในระยะยาวเพิ่มสูงขึ้น • การเพิ่มมูลค่าในระยะยาว ช่วยให้มีโอกาสในการสะสมทรัพย์สินในระยะยาว โดยส่งผลให้มีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าของการลงทุนในระยะยาว5. ติดตามสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ เมื่อลงทุนกองทุนไปแล้วก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ปรับตัวได้ทันหากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ • การตรวจสอบผลการดำเนินงานของกองทุน ควรตรวจสอบผลการดำเนินงานของกองทุนรวมเป็นประจำ เช่น นโยบายการลงทุน ผลตอบแทนการลงทุนเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด (Benchmark) รวมถึงเทียบกับกองทุนกองอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน • การปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนกองทุน หากพบว่าผลการดำเนินงานของกองทุนไม่ได้ตรงตามคาดหวัง เช่น ผลตอบแทนปรับลดลงเรื่อย ๆ หรือขาดทุนต่อเนื่อง ควรพิจารณาขายเพื่อนำเงินไปลงทุนในกองทุนกองอื่น ๆ ที่ดีกว่า • ติดตามความเคลื่อนไหวในตลาด ติดตามและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ตลาดโดยรวม และเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อกองทุนรวมที่ลงทุนแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1641752
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
06/09/2024
บริษัทประกันภัยทั่วโลก ในครึ่งปีแรก 2567 จ่ายเคลมภัยพิบัติทางธรรมชาติ 2 ล้านล้านบาท “สหรัฐ” เพียงประเทศเดียว ประสบกับพายุรุนแรง 12 ลูก ความสูญเสียต่อครั้งมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ความสูญเสียที่บริษัทประกันภัยทั่วโลก ต้องจ่ายเคลมสินไหมจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีมูลค่าสูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2 ล้านล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงกดดันจากเหตุการณ์ขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มีความถี่สูง ตามการประมาณการของ Swiss Re InstituteBalz Grollimund หัวหน้าฝ่ายภัยพิบัติของ Swiss Re กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการสูญเสียที่เอาประกันภัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งเป็นเพราะประชากรที่เพิ่มขึ้นและมูลค่าทรัพย์สินที่สูงขึ้นในเขตเมือง ควบคู่ไปกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยมีความเสี่ยงต่อความเสียหายจากลูกเห็บมากขึ้นโดยผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงในสหรัฐอเมริกา คิดเป็น 70% ของการสูญเสียทั่วโลก หรือคิดเป็นมูลค่าราว 42,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากสหรัฐเพียงประเทศเดียวประสบกับพายุรุนแรง 12 ลูก ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งแต่ละครั้งทําให้เกิดความสูญเสียมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ทั้งนี้ตามรายงานของ Swiss Re Institute ความสูญเสียที่เอาประกันภัยจากพายุรุนแรงในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นในอัตราปีละประมาณ 8% นับตั้งแต่ปี 2008ขณะที่ภัยน้ำท่วมยังส่งผลให้เกิดความสูญเสียที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรก 2567 หรือคิดเป็น 14% ของการสูญเสียที่เอาประกันภัยทั่วโลก โดยเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งสําคัญในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี และบราซิล มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นพิเศษโดยในเดือน เม.ย. พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง นําไปสู่น้ำท่วมฉับพลันในคาบสมุทรอาหรับ ทําให้เกิดความสูญเสียที่ประกันไว้ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่แพงที่สุดของประเทศเป็นประวัติการณ์ซึ่งมาปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ระบบระบายน้ำที่ไม่เพียงพอ และดินแห้งทําให้ความรุนแรงของการสูญเสียเหล่านี้รุนแรงขึ้น“ความสูญเสียที่เอาประกันภัยจากพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้น ความเสี่ยงโดยรวมจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเหตุผลที่การลงทุนในมาตรการป้องกัน เช่น การปกป้องชุมชนที่เปราะบางจากน้ำท่วม หรือการปรับปรุงอาคารเพื่อปกป้องบ้านเรือนจากพายุลูกเห็บรุนแรง จึงมีความสําคัญ” Jérôme Jean Haegeli หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กลุ่มของ Swiss Re กล่าวเสริมแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1644037
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
06/09/2024
ไปดำดิ่งสู่ ‘หลุมดำ’ ของ Aldo Tambellini ศิลปินต้นแบบดิจิทัลอาร์ตอิมเมอร์ซีฟยุคนี้ และ ‘ขุมนรก’ ของ คามิน เลิศชัยประเสริฐ ผ่านงานดิจิทัลอาร์ตฝีมือ Topos Studio สตูดิโออิมเมอร์ซีฟจากเกาหลีใต้ชุด The Abyss Beyond ที่ทรู ดิจิทัล พาร์คต่อยอดความสำเร็จจากนิทรรศการศิลปะ “The Gate Immersive Theater” ในปีที่ผ่านมา ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมกับ Topos Studio ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการจัดแสดงจากประเทศเกาหลีใต้ กลับมาจัดงานแสดงงานอีกครั้งในปีนี้นิทรรศการ The Abyss Beyondกับนิทรรศการงานดิจิทัลอาร์ตสุดล้ำภายใต้ชื่อ The Abyss Beyond ที่จะพาทุกคนร่วมผจญภัยทางประสาทสัมผัสผสานกับผลงานสุดล้ำสมัย ผ่านเทคโนโลยีจอแสดงผลมีเดีย 250 องศา มาพร้อมระบบเสียงแอมบิโซนิก เพื่อประสบการณ์ภาพและเสียง Immersive อย่างเต็มที่ กับ 2 ผลงานศิลปะดิจิทัลสุดล้ำ ได้แก่ • "Abyss of Black and Light: We are the Primitives of a New Era" โดย Aldo Tambellini • “Abyss of the Unconscious: After Death Before the Birth” โดย คามิน เลิศชัยประเสริฐนิทรรศการศิลปะดิจิทัล อิมเมอร์ซีฟ ทั้ง 2 เรื่อง พาผู้ชมก้าวเข้าสู่ห้วงของจิตใต้สำนึก ค้นหาความฝัน และจักรวาลที่กว้างใหญ่ ผ่านผลงานศิลปะของ 2 ศิลปิน ซึ่งต่างก็มีแนวคิดและวิธีสร้างสรรค์ผลงานต่างกัน • Abyss of Black and Light: We are the Primitives of a New Era By Aldo Tambelliniอัลโด แทมเบลลินีAldo Tambellini (อัลโด แทมเบลลินี) เป็นศิลปินชายชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี ผู้บุกเบิกสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ผสมผสานการวาดภาพ ประติมากรรม วิดีโออาร์ต และคำประพันธ์ ตลอดการเป็นศิลปินอาชีพของเขาแทมเบลลินีเป็นผู้นำด้าน avant-garde โดยร่วมก่อตั้ง Gate Theatre ในมหานครนิวยอร์กตั้งแต่ปี 1967 และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาวิดีโออาร์ต ในช่วงเวลานั้นเขาใช้เครื่องโปรเจคเตอร์ 16 เครื่อง เพื่อสร้างงานศิลปะประเภทวิดีโออาร์ต ซึ่งเป็นต้นแบบดิจิทัลอาร์ตอิมเมอร์ซีฟในยุคนี้ดิจิทัลอาร์ต อิมเมอร์ซีฟ 'หลุมดำ' ของ Aldo Tambelliniผลงานศิลปะของแทมเบลลินีได้รับการจัดแสดงในระดับนานาชาติมากมาย เช่น Venice Biennale เทศกาลศิลปะยิ่งใหญ่และเก่าแก่ของโลก, Tate Modern พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษAbyss of Black and Light: We are the Primitives of a New Era By Aldo Tambellini เป็นผลงานศิลปะประเภทดิจิทัลอาร์ต สร้างสรรค์โดย Mr.Daegyeom Heo (แดคยูน ฮุ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Topos Studio ซึ่งเคยมีโอกาสพบและร่วมงานกับแทมเบลลินีที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ก่อนที่ศิลปินจะเสียชีวิต“บางส่วนของดิจิทัลอาร์ตชุดนี้ ผมสร้างภาพเคลื่อนไหวจากต้นฉบับภาพวาดของแทมเบลลินี โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารความหมายที่แท้จริงในภาพที่อัลโตต้องการสื่อในการสร้างงานศิลปะของเขา” มร.แดคยูน กล่าวดิจิทัลอาร์ต อิมเมอร์ซีฟ 'หลุมดำ' ของ Aldo Tambelliniเสียงที่ได้ยินในอิมเมอร์ซีฟชุดนี้บางช่วงเป็นเสียงของ มร.แทมเบลลินี ที่ออกเสียงอ่านบทกวีที่เขาประพันธ์ขึ้นด้วยตนเองใครที่รู้จัก อัลโด แทมเบลลินี และชื่นชอบผลงานของเขา การเข้าชม Abyss of Black and Light: We are the Primitives of a New Era จะได้รับสัมผัสและประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกรูปแบบ เป็นจักรวาลแห่งโลกสีขาว/ดำที่สร้างจากภาพนิ่งสู่ภาพเคลื่อนไหวด้วยเทคโนโลยีร่วมสมัยดิจิทัลอาร์ต อิมเมอร์ซีฟ 'หลุมดำ' ของ Aldo Tambelliniมร.แดคยูน สร้าง Abyss of Black and Light: We are the Primitives of a New Era จากผลงานชิ้นสุดท้ายของ Aldo Tambellini ผู้บุกเบิกศิลปะ Media Arts และนักสํารวจพื้นที่มืดตลอดชีวิต งานนี้ใช้ภาพ สื่อที่สมจริง ที่มาพร้อมเสียง Ambisonics เพื่อสร้าง ‘มิติ’ ของพื้นที่ • Abyss of the Unconscious: After Death Before the Birth โดย คามิน เลิศชัยประเสริฐThe Abyss Beyond ของ คามิน เลิศชัยประเสริฐดิจิทัลอาร์ต อิมเมอร์ซีฟ เรื่องนี้ เป็นผลงานของ คามิน เลิศชัยประเสริฐ ศิลปินไทยผู้มีชื่อเสียงในการผสมผสานศิลปะเข้ากับจิตวิญญาณ มักสะท้อนถึงปรัชญาพุทธศาสนา ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ยาวนานกว่าสามทศวรรษ เขาได้ร่วมก่อตั้ง 'มูลนิธิที่นา' ซึ่งเป็นพื้นที่ศิลปะทางเลือกในประเทศไทย สร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลายมีเนื้อหาที่เน้นเรื่องความไม่เที่ยง การมีสติ และความเชื่อมโยงระหว่างกันของชีวิตสำหรับผลงานชุด Abyss of the Unconscious: After Death Before the Birth คามินจะพาทุกท่านสํารวจเข้าสู่ส่วนลึกอันมืดมิดของจิตใจมนุษย์ ดำดิ่งลงไปสู่สภาวะระหว่างของช่วงชีวิต ท้าทายการรับรู้ความเป็นจริงของทุกคนผลงานนี้แสดงออกถึงภูมิทัศน์ของนรกผ่านโลกทัศน์ของศิลปิน และแสดงถึงสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ในฐานะสถานที่พํานักชั่วขณะหลังความตาย และก่อนการกลับชาติมาเกิดผู้ชมสามารถสัมผัสกับปรัชญาของศิลปินเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาลผ่าน ‘Golden Skull’ ซึ่งเป็นภาพสัญลักษณ์ ของศิลปินคามิน เลิศชัยประเสริฐดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ทรู ดิจิทัล พาร์ค จัดสรรพื้นที่สำหรับแสดงงานนิทรรศการดิจิทัลอาร์ตและงานแนวอิมเมอร์ซีฟเป็นสัดส่วน รวมทั้งนำนิทรรศการมาจัดแสดงหลายครั้งแล้ว ต่อไปมีนโยบายจะพัฒนาธุรกิจตนเองสู่การเป็นผู้ผลิตงานแนวนี้ด้วยหรือไม่ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้สัมภาษณ์กับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ว่า “ผมว่ายังเป็นคนละส่วนกับพื้นที่ตรงนี้ ทรูดิจิทัลพาร์คเป็นการโชว์พอสซิบิลิตี้ว่าเป็นแคมปัสที่คนเข้ามาใช้ชีวิตเข้ามาทำงาน และมามากกว่าทำงาน ดูว่าเขาสนใจอะไรบ้างการมีนิทรรศการลักษณะนี้ดึงความสนใจและพิสูจน์ได้ว่าลูกค้าสนใจด้านนี้จริงๆ ทรูเองหรือแม้แต่บริษัทในเครือมีการทำคอนเทนต์บิสซิเนสมากมาย เรามีทั้งทรูไอดี ทรูวิชั่น มีทั้งเรื่องสปอร์ต เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ผมเชื่อว่าจะมีการพยายามพัฒนาธุรกิจเหล่านี้ไปในทิศทางตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการเปลี่ยนไป เห็นโลกกว้างขึ้น เห็นประเทศอื่นมีอะไร ประเทศไทยมีอะไรถ้าจะมีการพัฒนาก้าวกระโดดหรือเปลี่ยนแปลงประเภทธุรกิจให้มีเรื่องนี้มากขึ้นก็น่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทเรามากกว่า แต่ ณ ขณะนี้ผมไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีแผนในการทำเรื่องนี้หรือไม่มี”ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวด้วยว่า “สำหรับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เราตั้งใจให้พื้นที่ของเราเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่เปิดกว้างพร้อมสนับสนุนงานอาร์ต และศิลปินรุ่นใหม่ เรานำศิลปะในรูปแบบของภาพและเสียง ที่ถ่ายทอดผ่านเทคโนโลยีมาแสดงในคอมมูนิตี้ของทรู ดิจิทัล พาร์ค เรามีแนวทางในการใช้พื้นที่ของเราเป็นเวทีให้กับสตูดิโอครีเอทีฟที่มีความสามารถ รวมทั้งสตาร์ทอัปต่างๆในการแสดงผลงาน ซึ่ง Topos Studio เป็นสตูดิโอที่สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างน่าสนใจ และเราหวังว่าทุกท่านที่ได้มาร่วมชมนิทรรศการงานดิจิทัลอาร์ต The Abyss Beyond จะชื่นชอบ และเข้าใจในพลังของเทคโนโลยี”แดคยูน ฮุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Topos Studioขณะที่ Mr. Daegyeom Heo กล่าวว่า "Topos Studio เราเป็นสตูดิโอจากประเทศเกาหลีใต้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างสรรค์เทคโนโลยีดิจิทัลที่ล้ำสมัย สำหรับนิทรรศการ The Abyss Beyond เราใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการนำเสนองานศิลปะพร้อมจะนำทุกท่านเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการของมนุษย์ที่ไร้ขอบเขต เป็นอีกข้อพิสูจน์ถึงพลังของสื่อ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ความท้าทาย และขยายความเข้าใจของเราเกี่ยวกับโลก และตัวตนของเราเอง”พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ The Abyss Beyondนิทรรศการ The Abyss Beyond ทั้ง 2 เรื่อง จัดแสดงระหว่างวันนี้ - 30 กันยายน 2567 ที่ Studio 1 ชั้น 2 ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ กรุงเทพฯ (สถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ทางออก 6) ตั้งแต่เวลา 11.30 - 19.00 น. ระยะเวลาการแสดง 30 นาที บัตรราคา 149 บาทแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1142534
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
30/04/2024
29/04/2024
29/04/2024
30/04/2024
05/09/2024