Everyday knowledge for you
การดำเนินชีวิต
06/01/2025
หลายคนรู้จักปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ในนามนักลงทุนระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จด้านการเงินเท่านั้น แต่ตัวปู่เองยังเป็นแหล่งแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต ใช้ปรัชญานำทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนและนี่คือ 3 บทเรียนสำคัญที่ปู่ฝากไว้เลือกคบคนที่ดีกว่าตัวเองบัฟเฟตต์มองว่าการคบหาคนที่มีคุณสมบัติและพฤติกรรมที่ดี สามารถช่วยยกระดับตัวเราเอง ปู่เองเคยกล่าวว่า “เลือกคบหาคนที่มีพฤติกรรมดีกว่าคุณ แล้วคุณจะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางนั้น”การล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่เก่งกว่าและมีวิสัยทัศน์ จะช่วยพัฒนาตัวเรา ทั้งด้านความคิด ทักษะ และเครือข่าย เพราะคนรอบตัวคือภาพสะท้อนของตัวเราเองพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่องบัฟเฟตต์ย้ำว่า การป้องกันตัวเองจากความผันผวนของเศรษฐกิจคือการเก่งในสิ่งที่ทำ หรือในนิยามของปู่เองเรียกว่า Circle of Competence เป็นกรอบความเก่งที่ใช้ประเมินบริษัทและตัวบุคคล“สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณทำได้คือการเก่งในบางสิ่งอย่างโดดเด่น”ความสำเร็จมาจากการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างไม่หยุดยั้ง บัฟเฟตต์เป็นตัวอย่างที่ดี ด้วยการใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านและหาความรู้ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราปรับตัวและคว้าโอกาสใหม่ ๆ ได้เสมอให้ความรักเป็นตัวนำทางชีวิตบัฟเฟตต์เชื่อว่าความสำเร็จในชีวิตไม่ได้วัดจากเงินทอง แต่จากความรักที่เราได้รับ เพราะ “เมื่อถึงจุดหนึ่งในชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจำนวนคนที่รักคุณจริงๆ”อีกคำแนะนำที่ล้ำค่าคือ การได้รับความรักเริ่มต้นจากการเป็นคนที่น่ารัก โดยการมอบความรัก ความจริงใจ และการสนับสนุนแก่คนรอบข้าง สิ่งนี้จะสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าและเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์กล่าวโดยสรุปทั้ง 3 บทเรียนชีวิตจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ เน้นถึงการเลือกคบคนที่ดี การพัฒนาตัวเอง และการให้ความรักเป็นเส้นชัยในชีวิต สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวทางสู่ความสำเร็จทางการเงิน แต่ยังนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จที่ยั่งยืนในชีวิตส่วนตัวที่มา : incแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ beartaihttps://www.beartai.com/life/inspiration/1448583
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
06/01/2025
หินจากดวงจันทร์ เศษอุกกาบาต ชิ้นยานอวกาศ หรือแม้แต่แผงควบคุมต้นฉบับจากศูนย์บัญชาการภารกิจฮูสตัน ฯลฯ ถ้าคุณสนใจเรื่องอวกาศหรือเป็นเนิร์ดสายนี้ เราแนะนำให้คุณมาเช็กอินที่ BITEC BURI กับนิทรรศการใหม่ล่าสุดที่ตระเวนจัดมาแล้วถึง 5 ประเทศทั่วโลก SPACE JOURNEY BANGKOKนิทรรศการอวกาศระดับโลกที่นำเสนอเรื่องราวภารกิจสำรวจอวกาศของมนุษยชาติตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งแนวคิด ความฝัน และความทะเยอทะยาน โดยรวบรวมชิ้นส่วนยานอวกาศที่ผ่านการใช้จริงและแบบจำลองหาชมยาก ฯลฯ ทั้งที่เป็นของจริง (Original Objects), รุ่นพัฒนา (Prototypes), ของเสมือนจริง (Replica) และแบบจำลอง (Model) รวมถึงเอกสารต้นฉบับต่างๆ อีกมากมาย จากสหรัฐอเมริกา โซเวียต และอื่นๆ มาจัดแสดงในรูปแบบของห้องจัดแสดง การฉายวีดิทัศน์ในโรงหนัง รวมถึงเทคนิค Projection Mappingมาที่นี่คุณจะได้เห็นอาหารอวกาศที่นักบินอวกาศกินจริงๆ เห็นวิวัฒนาการชุดนักบินอวกาศในยุคต่างๆ เห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรวมถึงชิ้นส่วนเศษเสี้ยวความสำเร็จและความล้มเหลวทางประวัติศาสตร์ที่เราเคยพบเจอแต่เพียงในหนังสือเรียน!เชื่อเราเถอะว่า แม้ว่าคุณไม่เนิร์ดเรื่องอวกาศก็สนุกได้ เพราะทุกอย่างตรงหน้าคือหลักฐานความฝันและความหวังของมนุษยชาติในการสำรวจอวกาศSPACE JOURNEY BANGKOK เปิดให้ชมแล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 16 เมษายน 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ ES97 BITECT BURI บัตรราคา 650 บาทต่อคน, บัตรราคาพิเศษแบบกลุ่ม 4 คน ราคา 2,400 บาทซื้อได้ที่ www.icvticket.com/event_detail_space.aspx ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/spacejourneybkkแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ thestandardhttps://thestandard.co/life/space-journey-bangkok/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
06/01/2025
หนึ่งปีมีครั้ง “หาดทรายทองศรีโคตรบูร” อันซีนนครพนม โผล่แล้วกลางลำน้ำโขง ยามแสงแดดช่วงเช้าตรู่สาดส่องพื้นทรายจะเป็นริ้วละลอกคลื่นดูงดงาม จนหลายคนยกให้เป็น “เกล็ดพญานาค” ตามความเชื่อเรื่องพญานาคของชาวอีสานทุก ๆ ปีในช่วงฤดูแล้ง ในตัวเมืองนครพนมจะเกิด “หาดทรายทองศรีโคตรบูร” โผล่ขึ้นกลางลำน้ำโขง ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าทึ่ง จนได้ชื่อว่าเป็น “อันซีนนครพนม” ที่หนึ่งปีมีให้ชมเพียงครั้งเดียวพื้นทรายหาดทรายทองศรีโคตรบูรมีลักษณะเป็นริ้วละลอกคลื่นหาดทรายทองศรีโคตรบูร หรือ “หาดทรายท้ายเมือง” หรือที่หลายคนนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “หาดทรายทอง” เป็นปรากฏการณ์สันดอนทรายโผล่ขึ้นมาในฤดูแล้ง ช่วงที่แม่น้ำโขงลดระดับลงต่ำมาก ๆ มีพื้นที่กว้างใหญ่ ยาวหลายกิโลเมตร กินพื้นที่ในบริเวณท้ายเมืองในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เชื่อมต่อไปจนถึงบ้านหนองจันทร์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมืองนครพนมดวงตะวันสาดแสงส่องหาดทรายทองศรีโคตรบูรในยามเช้าตรู่บริเวณหาดทรายแห่งนี้สามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามได้ทั้ง 2 แผ่นดิน คือเมืองนครพนม ประเทศไทย และเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาวพื้นทรายที่นี่จะมีลักษณะพิเศษจากการกระทำของน้ำและลมจนเกิดเป็นริ้วละลอกคลื่น ดูงดงามคล้าย “เกล็ดพญานาค” ขนาดใหญ่ ตามความเชื่อเรื่องพญานาคของชาวอีสานวิถีชีวิตยามเช้าตรู่ที่หาดทรายทองศรีโคตรบูรในช่วงเช้าตรู่ยามที่แสงแดดส่องต้องกระทบจะเกิดเป็นริ้วสันดอนทรายสีทองอันงดงามสมชื่อหาดทรายทองศรีโคตรบูร จนถูกยกเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์อันลือลั่นทุก ๆ ปีในช่วงวันสงกรานต์ ทางจังหวัดนครพนมจะจัดงานสงกรานต์ขึ้นที่หาดทรายแห่งนี้ โดยจะมีทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นสงกรานต์บนหาดทรายทองศรีโคตรบูรกลางลำน้ำโขงกันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในวันสงกรานต์ที่ให้บรรยากาศที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ไม่น้อยเลยพื้นทรายหาดทรายทองศรีโคตรบูรมีลักษณะเป็นริ้วละลอกคลื่นสำหรับพื้นที่หลักในการชมทรายทองศรีโคตรบูรนั่นก็คือบริเวณถนนสวรรค์ชายโขง ที่เป็นถนนเลียบแม่น้ำโขงระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร มีวิวทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั้งฝั่งไทย-ลาว ถือเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ที่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน ออกกำลังกาย เดิน-วิ่ง ปั่นจักรยานในช่วงเช้าและเย็นกันเป็นจำนวนมากวิถีชีวิตยามเช้าตรู่ที่หาดทรายทองศรีโคตรบูรนอกจากนี้ถนนสวรรค์ชายโขงยังมีเส้นทางจากถนนลงสู่ชายหาดทรายทองศรีโคตรบูรให้ผู้สนใจได้ลงไปสัมผัสกับพื้นทรายอย่างใกล้ชิดเดิมหาดทรายทองศรีโคตรบูรที่เป็นปรากฏการณ์หาดทรายน้ำจืดโผล่กลางลำน้ำโขงตามธรรมชาติจะเกิดขึ้นในช่วงราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน แต่ปัจจุบันหลังจากมีการสร้างเขื่อนกั้นลำนำโขงในประเทศจีน ทำให้การเกิดหาดทรายทองศรีโคตรบูรในแต่ละปีไม่แน่นอน ตามระบบนิเวศของแม่น้ำโขงที่เริ่มเปลี่ยนไปออกกำลังกายวิ่งบนหาดทรายทองศรีโคตรบูรสำหรับฤดูแล้งนี้ (2567-2568) หาดทรายทองศรีโคตรบูร ปรากฏกลางลำน้ำโขงเร็วกว่าปกติ เริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2567 ต่อเนื่องข้ามปีมายังปี 2568 ใครที่สนใจสามารถไปเที่ยวชมกันได้เพราะถึงแม้ว่าวันนี้ระบบนิเวศของแม่น้ำโขงในประเทศท้ายน้ำจะเริ่มเปลี่ยนไปจากการสร้างเขื่อนของประเทศเหนือน้ำ แต่หาดทรายทองศรีโคตรบูรก็ยังคงปรากฏอวดโฉมให้เราได้ไปเที่ยวชมกันสามารถลงไปเดินเล่นบนหาดทรายทองศรีโคตรบูรได้ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครพนม โทร. 042 513 490ปั่นจักรยานบนถนนสวรรค์ชายโขงปั่นจักรยานบนถนนสวรรค์ชายโขงแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000001489
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
06/01/2025
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ ร่วมด้วย นายปกป้อง ยินดีผล (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์และงานบริการ และ นายเบญจพล อิงคนินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายบริหารเชิงกลยุทธ์ด้านสุขภาพ ได้มอบเงินบริจาคจำนวน 400,000 บาท จากกิจกรรม “AIA Vitality Virtual Challenge 2024” ให้แก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อนำไปสมทบทุนสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของมูลนิธิ โดยมี นางสาวพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ สำนักงานมูลนิธิรามาธิบดีฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้สำหรับเงินบริจาคดังกล่าวมาจากการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมและเงินบริจาคสมทบของผู้เข้าร่วมกิจกรรม “AIA Vitality Virtual Challenge 2024” ซึ่งเป็นกิจกรรมเดิน-วิ่งสะสมระยะทางในรูปแบบออนไลน์ ทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีม จัดขึ้นโดยเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา กิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ และประชาชนทั่วไปได้ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองในรูปแบบที่ง่ายและสนุกสนาน สอดคล้องกับแนวคิด “Rethink Healthy ปรับความคิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 คนทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ และในปี 2568 นี้ เอไอเอ ยังคงเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย รวมถึงผู้คนกว่าพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives - เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
04/01/2025
“เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ปี 2025 ด้วยพัฒนาการทางเทคโนโลยี ตลอดจนเรื่องของเศรษฐกิจล้วนส่งผลต่อสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามความก้าวหน้าของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว อีกทั้งยังส่งผลให้มีความท้าทายที่ทั้งนายจ้างและพนักงานต้องเผชิญ“เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ปี 2025 ด้วยพัฒนาการทางเทคโนโลยี ตลอดจนเรื่องของเศรษฐกิจล้วนส่งผลต่อสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามความก้าวหน้าของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว อีกทั้งยังส่งผลให้มีความท้าทายที่ทั้งนายจ้างและพนักงานต้องเผชิญโดย 77% ของคนทำงานกำลังเผชิญกับความเครียดจากการจัดการระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว ในขณะที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานอย่างรวดเร็วจนหลายคนแทบตั้งตัวไม่ทัน การเตรียมพร้อมสำหรับปี 2025 จึงไม่ใช่แค่การรู้เท่าทันเทรนด์ แต่รวมถึงการปรับตัวและใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ให้ฉลาดขึ้นJon Cooper, ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Overalls แพลตฟอร์มสวัสดิการสำหรับพนักงาน ได้แบ่งปัน 8 แนวโน้มสำคัญที่เขาเชื่อว่าจะเปลี่ยนโฉมสถานที่ทำงานในปี 2025 ดังนี้1. เศรษฐกิจจะเติบโต ทำตลาดแรงงานแข่งขันสูงขึ้น เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ จะเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือด มีการแข่งขันกันจ้างงานคนเก่ง ซึ่งสิ่งนี้ผลักดันให้นายจ้างต้องปรับปรุงสวัสดิการ เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน และให้ความสำคัญกับนโยบายต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในหลายด้าน เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ2. ออกสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงานทุกคน รูปแบบสวัสดิการแบบ “One Size Fits All” กำลังกลายเป็นอดีต บริษัทจะต้องออกแบบสวัสดิการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของทีมงานที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้พนักงานทุกคนรู้สึกว่าตนได้รับการสนับสนุนและมีคุณค่าในองค์กร3. AI จะมาช่วยงาน ไม่ใช่มาแทนที่ องค์กรต่าง ๆ จะมองหาและปรับใช้งานเทคโนโลยี AI ในแง่มุมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยจะนำมาใช้เพื่อเสริมศักยภาพของพนักงานในองค์กรมากกว่าที่จะนำมาใช้งานแทนที่มนุษย์ ซึ่ง AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสนับสนุนการตัดสินใจโดยไม่ลดทอนความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ลง4. ปรับปรุงสวัสดิการด้านสุขภาพ โฟกัสเรื่องสุขภาพจิต ในหลายประเทศมีการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายด้านสุขภาพ ส่งผลให้บริษัทต้องปรับปรุงรูปแบบสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ออกแบบแนวทางใหม่ อย่างเช่น แผนสุขภาพส่วนบุคคล การให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพ5. การทำงานระยะไกลจะยังคงเป็นที่นิยม การเติบโตของเศรษฐกิจและการแข่งขันในการจ้างงานจะทำให้การทำงานระยะไกลกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยบริษัทที่เปิดรับการทำงานแบบยืดหยุ่นจะมีความได้เปรียบในการดึงดูดผู้มีความสามารถจากทั่วโลก6. บริษัทจะมีดีลควบรวมกิจการและ IPO มากขึ้น ด้วยเศรษฐกิจที่ถูกมองว่าจะดีขึ้น จะส่งผลให้องค์กรมีสถานการณ์ทางการเงินมีเสถียรภาพ และสิ่งที่ตามมาคือ M&A หรือการควบรวมกิจการและการ IPO จะกลับมาบูมอีกครั้ง และสิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นการลงทุนและสร้างโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ7. องค์กรจะมีโปรแกรมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเพิ่มขึ้น ในโลกที่ไม่แน่นอน องค์กรจะมองหาวิธีรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะกระทบต่อธุรกิจ โดยจะมีการลงทุนในระบบสนับสนุนพนักงาน อย่างเช่น ระบบการจัดการวิกฤติ โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ ตลอดจนแนวทางการรับมือและจัดการกับสุขภาพจิตของพนักงานในองค์กร8. การเพิ่มทักษะใหม่เพื่อรับมือกับ AI การพัฒนา AI จะผลักดันให้องค์กรหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มทักษะใหม่ให้พนักงานในองค์กร เพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงและรักษาความยืดหยุ่นขององค์กรไว้ได้ภาพรวมการทำงานในปี 2025 นี้จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และความคาดหวังของพนักงาน การปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรและพนักงานมีความพร้อมต่อความเปลี่ยนแปลง สามารถพัฒนาตัวเองและองค์กรได้อย่างมั่นคงในอนาคตที่มา: Forbesแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ thairath moneyhttps://www.thairath.co.th/money/business_marketing/leadership_culture/2834319
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
04/01/2025
บทความโดย "สมาคมนักวางแผนการเงินไทย"“อุบัติเหตุ” เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่บางครั้งก็มาเยี่ยมเยียนโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นหกล้มธรรมดาหรือเรื่องใหญ่อย่างรถชน พูดง่าย ๆ ชีวิตผู้คนก็พลิกผันได้ในพริบตา จะดีกว่าไหม ถ้ามี “กันชน” ไว้รับมือด้วยการทำประกันภัยอุบัติเหตุ เป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุประกันภัยอุบัติเหตุ คือ เกราะคุ้มครองทางการเงินเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่พร้อมดูแลผู้ทำประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมงดังนั้น วัตถุประสงค์หลักของประกันภัยอุบัติเหตุ คือ การบรรเทาภาระทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุไม่คาดคิด ทำให้ผู้ทำประกันภัยสามารถมุ่งเน้นการฟื้นฟูสุขภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นหลักประกันที่สำคัญสำหรับตัวเองและครอบครัวอาจสงสัยว่าประกันอุบัติเหตุที่จ่ายเงินซื้อไว้นั้น จริง ๆ แล้วคุ้มครองอะไรบ้าง คำตอบคือ เมื่อผู้ทำประกันบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ พิการ ไปจนกระทั่งเสียชีวิต โดยคุ้มครองตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมงทุกแห่งทั่วโลก ไม่ว่าจะซื้อออนไลน์หรือผ่านตัวแทน ความคุ้มครองจะเริ่มทันทีที่กรมธรรม์มีผล โดยความคุ้มครองภายใต้การประกันภัยจะแบ่งเป็น 2 แบบ • แบบ อบ. 1 คุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า และสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง • แบบ อบ. 2 คุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า และสายตา นิ้ว หูหนวกและเป็นใบ้ หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ทุพพลภาพถาวรบางส่วนส่วนแบบความคุ้มครองเลือกซื้อเพิ่มเติมนั้น สามารถเลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกันก็ได้ เช่น จ่ายค่ารักษาพยาบาล ชดเชยรายได้ระหว่างพักฟื้น ดูแลค่าทำศพ คุ้มครองอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยเหลือกรณีถูกทำร้ายหรือฆาตกรรม ดูแลเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการจลาจล หรือจ่ายค่ารักษาฟันที่เสียหายจากอุบัติเหตุปฏิเสธไม่ได้ว่าประกันอุบัติเหตุมีประโยชน์มากมาย แต่ก่อนตัดสินใจซื้อประกันก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม เพราะรูปแบบของกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุมี 3 รูปแบบหลัก ๆประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA : Personal Accident Insurance) ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุต่าง ๆ แก่ผู้ทำประกันภัย หรือบางกรมธรรม์อาจระบุความคุ้มครองครอบคลุมไปถึงบุคคลในครอบครัวได้ด้วย เป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ส่วนตัวที่คอยปกป้องตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบไหน ตั้งแต่รถชน ตกบันได ไปจนถึงโดนแมวข่วน ประกัน PA ก็พร้อมเข้ามาช่วยเหลือ ถ้าเกิดบาดเจ็บ พิการ หรือแย่ที่สุด คือ เสียชีวิต ประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ทำประกันหรือครอบครัว ช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือค่าใช้จ่ายที่จะตามมา โดยประกัน PA มี 2 แบบ • แบบความคุ้มครองทั่วไป เหมาะสำหรับคนทำงานออฟฟิศ ข้าราชการ หรือใครที่ชีวิตประจำวันไม่ค่อยเสี่ยงอันตราย เบี้ยประกันก็ไม่แพง แต่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่อุบัติเหตุใหญ่อย่างรถชน ไปจนถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้นอนรักษาที่โรงพยาบาล เช่น มีดบาด • แบบความคุ้มครองขั้นสูง สำหรับคนที่งานเสี่ยงสูงกว่าแบบคุ้มครองทั่วไป เช่น วิศวกร นักกีฬาผาดโผน เบี้ยประกันจะแพงขึ้น แต่ให้ความคุ้มครองสูงกว่า โดยเฉพาะถ้าเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม หากเปรียบเทียบประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มเป็นเหมือนร่มใบใหญ่ที่คลุมคนทั้งกลุ่มเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือสมาชิกสมาคมต่าง ๆ ทุกคนในกลุ่มจะได้รับความคุ้มครองภายใต้ร่มเดียวกัน แต่ที่พิเศษคือ แต่ละองค์กรสามารถเลือกความคุ้มครอง และเงื่อนไขที่เหมาะกับกลุ่มของตัวเองได้ข้อดี1. ประหยัด เพราะซื้อยกกลุ่ม ราคาจึงถูกกว่าซื้อแยกทีละคน2. ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อนทำประกัน3. ครอบคลุมทุกคน แม้แต่คนที่อาจมีปัญหาสุขภาพบางอย่างก็ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกัน4. สร้างขวัญกำลังใจ พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจดูแล ทำงานได้อุ่นใจขึ้นประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน นิสิต และนักศึกษา เป็นประกันที่ออกแบบมาเพื่อวัยเรียนโดยเฉพาะ เนื่องจากเด็ก ๆ ชอบวิ่งเล่น กระโดดโลดเต้น บางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ประกันแบบนี้เลยเข้ามาช่วยอุ่นใจทั้งเด็กและผู้ปกครอง เปรียบเสมือนมีซูเปอร์ฮีโร่คอยปกป้องลูก ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทั้งในและนอกสถานศึกษา รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียน โดยประกันจะคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือสายตา ทุพพลภาพถาวรข้อดี1. ราคาไม่แพง เทียบกับความคุ้มครองที่ได้ ถือว่าคุ้มมาก2. ครอบคลุมทั้งในและนอกโรงเรียน ไม่ว่าลูก ๆ จะอยู่ที่ไหน ก็ได้รับการดูแล3. ขั้นตอนเคลมง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารยุ่งยาก4. สบายใจทั้งครอบครัว พ่อแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดฝันเรื่องควรรู้ก่อนทำประกันเริ่มต้นด้วยการดูเงินในกระเป๋าก่อน ด้วยการนำรายได้ลบรายจ่ายว่าเหลือเงินเท่าไร จากนั้นลองเติมค่าเบี้ยประกันเข้าไปแล้วดูว่าเงินเหลือหรือไม่ หากเหลือก็ถือว่าผ่านด่านแรก จากนั้นเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับปัจจัยของผู้ทำประกัน เช่น ทำงานอะไร ชอบเล่นกิจกรรมเสี่ยง ๆ แค่ไหน ไปจนถึงเงื่อนไขการจ่ายเงินทดแทนของบริษัทประกันภัย โดยเฉพาะการที่ต้องสำรองจ่ายไปก่อนในกรณีที่มีอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผลกับสภาพคล่องทางการเงินด้วยตัวอย่าง สมมุติมีอาชีพเป็นฟรีแลนซ์ ทำงานวันต่อวัน ถ้าหยุดงานวันเดียวก็เสียรายได้ ควรเลือกประกันที่มีเงินชดเชยรายวันถ้าต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ต้องสำรองจ่าย และคุ้มครองการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทั่วไปก่อนจะเซ็นชื่อซื้อประกัน อย่าลืมอ่านรายละเอียดให้ถี่ถ้วน เลือกแผนที่ใช่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุด เพราะไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น การมีประกันอุบัติเหตุทำให้คุณอุ่นใจลดความกังวลใจได้ ได้เตรียมรับมือเป็นอย่างดีแล้วแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1715070
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
04/01/2025
เซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์ ศูนย์รวมวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ใจกลางย่านเจริญกรุง ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งคริสต์มาสและปีใหม่รูปแบบใหม่ ในงาน “CENTRAL: THE ORIGINAL STORE HOLIDAY SPECIALS 2025” ซึ่งได้เนรมิตพื้นที่ทุกชั้นของอาคารให้กลายเป็นโลกแห่งการเฉลิมฉลองสุดพิเศษ ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยผ่านศิลปะ ดนตรี หนังสือ อาหาร และของขวัญที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบช่วงเวลาแห่งความสุขที่อบอุ่นและน่าจดจำ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยอย่างลงตัวงานนี้ เซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์ แต่งเติมพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจและเติมเต็มชีวิตชีวาให้กับเทศกาลอย่างเต็มที่ ด้วยไฮไลต์ที่หลากหลาย ตลอดทั้ง 5 ชั้นของอาคาร ได้แก่ The Village of Gnomes ชั้น 1 พบ “หมู่บ้านโนมส์” ที่รวบรวมอาร์ตทอยกว่า 1,000 ชิ้น จากฝีมือศิลปินไทยชั้นนำที่ออกแบบผลงานโดยได้แรงบันดาลใจจาก “โนมส์” (Gnome) ภูติจิ๋วแห่งเทพนิยาย The Library of Joy ชั้น 2 เพลิดเพลินมายังพื้นที่แห่งความรู้และแรงบันดาลใจ ในบรรยากาศโปร่งสบายของ เดอะ โคโลฟอน รีเทล ไลบรารี่ (The Kolophon Retail Library) ห้องสมุดธุรกิจค้าปลีกแห่งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งรวบรวมหนังสือหลากหลายแขนง Gnome Sweet Gnome the Exhibition ชั้น 3 พบโลกแห่งศิลปะในนิทรรศการ “Gnome Sweet Gnome” ผลงานสุดพิเศษจาก 3 ศิลปินอย่าง Sibeclop, Daisies Day Dreams และ ศิริก้อย ชุตาทวีสวัสดิ์ ที่สร้างสรรค์ผลงานสุดประณีตและมีเอกลักษณ์แปลกตา Whims of Culture the Exhi bition ชั้น 4 ความลึกซึ้งของศิลปะยังคงดำเนินต่อใน “Whims of Culture” นิทรรศการที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และจิตวิญญาณ ผ่านผลงานของสองศิลปินไทย สิขเรศ ศิริไพบูลย์ และ อิทธิพล พัฒรชนม์ และ Sip the Taste of Thainess at Aksorn ชั้น 5 สัมผัสรสชาติอาหารไทยที่เปี่ยมด้วยความประณีต ณ ชั้นบนสุดของเซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์ ที่ร้านอักษร ร้านอาหารระดับมิชลิน 1 ดาว โดยเชฟเดวิด ทอมป์สัน ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารไทย ที่นำเสนอสำรับอาหารไทยจากตำรับโบราณในยุค 50s-70s ผ่านเมนูที่คัดสรรและปรับแต่งอย่างพิถีพิถันร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขใจกลางเจริญกรุง ใน งาน “CENTRAL: THE ORIGINAL STORE HOLIDAY SPECIALS 2025” ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 ม.ค.68 ที่เซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์ เปิดให้บริการวันอังคารถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/2832948
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
04/01/2025
อช. ภูหินร่องกล้า ชวนชมใบก่วมแดง (เมเปิล) ที่โรงเรียนการเมืองการทหาร ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมชมแล้ว คาดชมได้ 1 อาทิตย์ก่อนร่วงลงพื้นภาพถ่าย วันที่ 2 มกราคม 2568 (ภาพจาก อช. ภูหินร่องกล้า)เฟซบุ๊กเพจ "อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า - Phu Hin Rong Kla National Park" อัพเดตสถานการณ์ของใบเมเปิล หรือ ใบก่วมแดง ที่โรงเรียนการเมืองการทหารว่าภาพถ่าย วันที่ 2 มกราคม 2568 (ภาพจาก อช. ภูหินร่องกล้า)อัปเดต❗️❗️❗️ ...สถานการณ์ ต้นก่วมแดง (เมเปิ้ล)🍁🍁🍁🍁🍁 ณ วันที่ 2 มกราคม 2568 บริเวณโรงเรียนการเมืองการทหาร ต้นแรกแดงทั้งต้น และกำลังหล่นลงพื้น ส่วนต้นที่สองตรงบ้านพักสหายปลายกิ่งบนยอดเริ่มแดงแล้วนะครับ...🚗🚙🚶🚶♀️🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁📷 ภาพถ่าย วันที่ 2 มกราคม 2568👉สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า... 📞 096-020 0992👉 อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เปิดบริการให้ท่องเที่ยว และพักค้างแรมทุกวันนะ📍📍👉จองบ้านพักอุทยานฯ https://nps.dnp.go.th/#อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าภาพถ่าย วันที่ 2 มกราคม 2568 (ภาพจาก อช. ภูหินร่องกล้า)จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รายงานว่า วันนี้ (2 ม.ค. 68) ใบเมเปิลแดงเปลี่ยนสีสวยพร้อมชมแล้ว คาดว่าจะสามารถชมได้อีก 1 สัปดาห์ ก่อนที่ใบเมเปิลจะร่วงลงพื้นภาพถ่าย วันที่ 2 มกราคม 2568 (ภาพจาก อช. ภูหินร่องกล้า)สำหรับโรงเรียนการเมืองการทหาร ในอดีตเป็นสถานที่ให้การศึกษาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีทั้งห้องเรียน บ้านพัก สถานพยาบาล ครัว ประมาณ 30 หลังกระจายตัวอยู่ใต้แมกไม้ใหญ่อันร่มรื่นแน่นหนา อยู่ห่างจากตัวที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าออกไปประมาณ 6 กิโลเมตรภาพถ่าย วันที่ 2 มกราคม 2568 (ภาพจาก อช. ภูหินร่องกล้า)แหล่งที่มาข่าวและภาพต้รฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000000346
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ธุรกิจ
25/12/2024
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดโผ 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง และธุรกิจดาวร่วง ปี 2568 เช็กลิสต์กันว่า กิจการไหนรอด - ใครต้องลุ้นจากสภาพเศรษกิฐตอนนี้ดูเหมือนว่าการลงทุนทำธุรกิจต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้านั้นมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละปีจึงได้เห็นเทรนด์ธุรกิจน่าสนใจเกิดขึ้นมาใหม่มากมาย ในขณะที่ธุรกิจดั้งเดิมบางประเภทกลับต้องปิดตัวลงไปตามวัฏจักร ขณะที่ธุรกิจในปี 2568 จะเป็นยังไงนั้น ล่าสุด ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยผลจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง และ 10 อันดับธุรกิจดาวร่วงประจำปี 2568 ซึ่งเราสามารถนำไปใช้วางแผนในการเลือกทำธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่อได้ในอนาคต10 อับดับธุรกิจดาวรุ่ง มีแววปัง หาเงินเข้าไม่หยุด • อันดับ 1 1. ธุรกิจการแพทย์และความงาม เป็นผลมาจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพของไทย 2. ธุรกิจ Cloud Service โดยในอนาคตจะมีการใช้เทคโนโลยี AI และ IoT (Internet of Things) มากขึ้น 3. ธุรกิจบริการ Cyber Security เนื่องจากเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การโจรกรรมข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน • อันดับ 2 1. ธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 2. ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์, ธุรกิจ YouTube, การรีวิวสินค้า และ Influencer เนื่องจากคนใช้สื่อดิจิทัลกันมากขึ้น • อันดับ 3 1. ธุรกิจ E-commerce (ธุรกิจที่ทำการซื้อ-ขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์) 2. ธุรกิจ Soft Power ไทย โดยเฉพาะซีรีส์ ภาพยนตร์ ที่ภาครัฐกำลังผลักดันให้เกิดกระแสความนิยมของวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ 3. ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์ เป็นสื่อที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ แต่สามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง • อันดับ 4 1. งานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ Event จากแคมเปญ "Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025" ของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว 2. ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากการจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ • อันดับ 5 1. ธุรกิจความเชื่อ (สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย) เป็นที่พึ่งทางใจ ตามมาด้วยวิวัฒนาการใหม่ ๆ ของบริการ เช่น วอลเปเปอร์มือถือรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์, เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของวัตถุมงคล เป็นต้น 2. ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจำนำ เป็นผลจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 3. ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต จากการเข้าสู่สังคมผู้อายุ • อันดับ 6 1. ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้านรายวัน การซ่อมแซมอุปกรณ์ เป็นต้น ตอบโจทย์คนในสังคมที่มีความเร่งรีบ ต้องการประหยัดเวลา 2. ธุรกิจผับ บาร์ คาราโอเกะ เป็นผลมาจากได้รับการผ่อนปรนกฎระเบียบจากภาครัฐ • อันดับ 7 1. คลินิกกายภาพ เติบโตขึ้นจากปัญหาออฟฟิศซินโดรมของคนวัยทำงาน 2. ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (ธุรกิจ EV Charging Station) และติดตั้งระบบ เนื่องจากคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น เพื่อประหยัดพลังงาน 3. ธุรกิจรถยนต์ EV ค่ายรถ EV ต่างแข่งขันด้านราคา ทำให้รถมีราคาถูกลง 4. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ขายอาหาร อุปกรณ์และแฟชั่น และดูแลสัตว์ เกิดขึ้นจากเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เป็นสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization) ขยายตัวสูงขึ้น • อันดับ 8 1. ธุรกิจด้านการเงินธนาคาร Fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี จากการใช้จ่ายผ่านการทำธุรกรรมออนไลน์ 2. ธุรกิจตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่ม อาหาร และธุรกิจเครื่องสะดวกซัก เป็นระบบที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนได้ สามารถเปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง 3. ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งภาครัฐเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง • อันดับ 9 1. ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณสื่อสารต่าง ๆ เติบโตขึ้นตามความต้องการการใช้งานของคนไทย 2. ธุรกิจโลจิสติกส์ (Delivery) และคลังสินค้า จากพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ รวมถึงการสั่งอาหาร, รับ-ส่งเอกสารที่มีความต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้น 3. ทนายความและตรวจสอบบัญชี โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจระหว่างประเทศ การลงทุน และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งการให้คำปรึกษากฎหมายต่าง ๆ 4. ธุรกิจ Street Food และตลาดนัดกลางคืน ได้รับปัจจัยหนุนจากกระแส Soft Power ในด้านอาหาร อีกทั้งการมีรีวิวจาก Influencer ทำให้คนออกไปท่องเที่ยวตาม • อันดับ 10 1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (ที่ไม่มีแอลกอฮอล์) มาตามเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ เช่น Plant based, เครื่องดื่ม Functional Drink รวมถึงการออกไปรับประทานอาหารตามรีวิว 2. ธุรกิจพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์ เพื่อทดแทนพลังงานทั้งก๊าซและน้ำมันที่ราคาค่อนข้างผันผวน 3. โรงพยาบาล คลินิกเกี่ยวกับสัตว์ เป็นผลมาจากคนโสดและผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น จึงมีความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นส่วน 10 อันดับธุรกิจดาวร่วง มีดังนี้ • อันดับ 1 1. ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่า CD และ VDO • อันดับ 2 1. ธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ • อันดับ 3 1. ธุรกิจผลิต-จำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น Thumb Drive • อันดับ 4 1. บริการส่งหนังสือพิมพ์ • อันดับ 5 1. ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม • อันดับ 6 1. ธุรกิจถ่ายเอกสาร • อันดับ 7 1. ธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิมที่ไม่มีการดีไซน์ใหม่ • อันดับ 8 1. ธุรกิจรถยนต์มือสอง • อันดับ 9 1. ธุรกิจร้านขายเครื่องเล่นเกม • อันดับ 10 1. ธุรกิจผลิตกระดาษ 2. ธุรกิจร้านโชห่วยอีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567 จะพบว่ามีธุรกิจดาวรุ่งในปี 2567 ที่ไม่ติด 10 อันดับแรกของปี 2568 อยู่หลายประเภท ได้แก่ ธุรกิจ E-Sports เกม, ธุรกิจตลาดเพื่อการท่องเที่ยว, ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างอย่างไรก็ตาม ในปี 2568 ยังมีธุรกิจใหม่ๆ ติดอันดับเข้ามาแทน เช่น ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม , ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า , คลินิกกายภาพ , โรงพยาบาล คลินิกรักษาสัตว์ เป็นต้น ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเพื่อตอบโต้กับไลฟ์สไตล์ของผู้คนข้อมูลจาก ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.thainewsonline.co/news/879163
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
สุขภาพ
24/12/2024
เหตุผล 5 ประการ ทำไมคนอายุน้อยถึงป่วยเป็น “โรคมะเร็ง” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี หลังเกิดปรากฏการณ์ “การเป็นมะเร็งในผู้ป่วยอายุน้อย” ทั่วโลก“มะเร็ง” โรคร้ายที่คร่าชีวิตคนมากมายทั่วโลก และเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งจากสถิติในปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วยมะเร็ง มีอายุน้อยลงจากเมื่อก่อนข้อมูลจากโรงพยาบาล K และโรงพยาบาล Bạch Mai ในกรุงฮานอยเผยให้เห็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ มะเร็งไม่ใช่โรคที่พบในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่กำลังเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 30 ปี หรือแม้กระทั่ง 20 ปีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้ชี้ให้เห็นถึงสาเหตุหลักของปรากฏการณ์ “การเป็นมะเร็งในผู้ป่วยอายุน้อย”พฤติกรรมการรับประทานอาหารปัจจัยหลักประการหนึ่งให้เกิดมะเร็งในคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นคือ นิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ชีวิตสมัยใหม่ทำให้ผู้คนจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะบริโภคอาหารแปรรูป อาหารจานด่วน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นจำนวนมาก อาหารเหล่านี้มีไขมันทรานส์ สารกันบูด สีสังเคราะห์เป็นจำนวนมากแต่ไม่ได้ให้วิตามินและแร่ธาตุเพียงพอทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร การรับประทานอาหารแบบนี้เป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งหลอดอาหารผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมลพิษสิ่งแวดล้อมแย่ลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ทั้ง คุณภาพอากาศ แหล่งน้ำ และปัจจัยมลพิษ เช่น ฝุ่น สารเคมี ยาฆ่าแมลง และสารกัมมันตรังสีสามารถส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการสัมผัสกับมลพิษในระยะยาว เช่น ฝุ่นในอากาศหรือสารเคมีในสภาพแวดล้อมการทำงาน เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งลำไส้ใหญ่ขาดการออกกำลังกายและภาวะน้ำหนักเกิน – โรคอ้วนการใช้ชีวิตที่ขาดการออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้มะเร็งเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาว การทำงานในออฟฟิศ, การใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้หลายคนไม่ค่อยมีโอกาสออกกำลังกายไม่เพียงทำให้สุขภาพหัวใจแย่ลง แต่ยังเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เมื่อร่างกายขาดการเคลื่อนไหว ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง และสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกายอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสูบบุหรี่ – ดื่มสุราบุหรี่มีสารเคมีที่เป็นพิษหลายพันชนิด ซึ่งหลายชนิดมีศักยภาพในการก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด มะเร็งลำคอ มะเร็งในช่องปาก และมะเร็งหลอดอาหารการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นสาเหตุของมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งตับ มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ปัจจัยทางพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมในครอบครัวผลการศึกษาพบว่ามะเร็งหลายชนิดเป็นกรรมพันธุ์ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับอ่อน คนหนุ่มสาวที่มีญาติเป็นมะเร็งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้มากขึ้นอย่างไรก็ตาม พันธุกรรมเป็นเพียงส่วนหนึ่ง นิสัยการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพัฒนาการของโรคการเพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งในหนุ่มสาวเป็นปัญหาที่น่ากังวลและเป็นสัญญาณเตือนให้กับสังคม การตระหนักรู้และการเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดี ควบคู่ไปกับการรักษาวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคได้ขณะเดียวกัน การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจหาสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็ง ช่วยให้การรักษาทันท่วงทีและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยที่มา: sohaแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับข่าวสดออนไลน์https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9557951
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม