คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ท่องเที่ยว

ตื่นตา “ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์” ม.เกษตรฯ กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 คาดบานชุดสุดท้ายของปีนี้

08/05/2025

ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน บานชมพูสะพรั่งอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 คาดบานเป็นชุดสุดท้ายของปีนี้ (2568) และน่าจะทยอยร่วงโรยตั้งแต่ราววันที่ 18 มี.ค.68 เป็นต้นไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ชวนเที่ยวชมความสวยงามของ “ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์” ที่กำลังออกดอกบานสวยงามชมพูสะพรั่งอีกครั้ง ถือเป็นการบานในรอบที่ 3 ของปี และคาดว่าน่าจะบานเป็นชุดสุดท้ายของปีนี้ (2568) โดยช่วงเวลาที่ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานเต็มที่ในรอบที่ 3 อยู่ในช่วงวันที่ 16-18 มีนาคม 2568 หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ ทยอยร่วงโรยไปดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)สำหรับจุดที่ดอกชมพูพันธ์ทิพย์ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน บานรอบที่ 3 เยอะเป็นพิเศษ คือบริเวณ ถนนหน้าโรงเรียนสาธิต ม.เกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน) โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาถ่ายรูปดอกชมพูพันธ์ทิพย์คือ ช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.30-ถึงไม่เกิน 10.30 น. และช่วงเย็น เวลาประมาณ 16.30-ไม่เกิน18.30 น. ซึ่งจะได้ภาพที่มีแสงสวย และไม่ร้อนจนเกินไปนอกจากนี้ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน ยังขอความกรุณานักท่องเที่ยวที่จะไปชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานรอบที่ 3 ของปี ให้จอดรถในที่ที่กำหนดไว้ให้, ไม่โน้มดึงหักกิ่งเพราะกิ่งเปราะบางและหักง่าย และทิ้งขยะในจุดที่กำหนดไว้ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)“ชมพูพันธุ์ทิพย์” เป็นไม้ขนาดใหญ่มีดอกสีชมพูอ่อน ชมพูสด และขาว มีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก อย่างเช่น ชมพูอินเดีย ธรรมบูชา ตาเบบูยาในเมืองไทยชมพูพันธุ์ทิพย์จะออกดอกในช่วงกลางเดือนมกราคมไปจนถึงเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยใช้ระยะเวลาบานประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนที่ดอกจะร่วงโรยไป ความงดงามของพรรณไม้ชนิดนี้อยู่ตรงที่เมื่อผลัดใบทั้งหมด จะเหลือแต่กิ่งก้าน ให้ดอกสีชมพูได้ชูช่อเป็นจำนวนมากอยู่บริเวณปลายกิ่งดูอ่อนหวานงดงามยิ่งนักดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)สำหรับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นแหล่งชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานแหล่งใหญ่ ซึ่งต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือ ตาเบบูยานี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้ปลูกขึ้นมากว่า 30 ปี และมีจำนวนมากกว่า 200 ต้น โดยปลูกอยู่ทั้งสองข้างทางเป็นฝั่งแนวยาว บริเวณริมถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์(ถนนหลังมอ) เมื่อถึงเวลาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคมของทุกปี ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์จะผลัดใบและออกดอกสีชมพูเป็นทางยาวดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)และนอกจากที่ริมถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์ แล้ว บริเวณถนนหน้าโรงเรียนสาธิต ม.เกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน) บริเวณรอบๆ สระน้ำพระพิรุณถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ใน ม.เกษตรฯ กำแพงแสน ซึ่งก็มีความงดงามไม่แพ้กัน ผู้ที่สัญจรไปมาและนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาถ่ายรูปได้ กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของนครปฐมแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000025533

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

กลุ่มบริษัทเอไอเอ แถลงผลประกอบการอันดีเยี่ยมประจำปี 2567

08/05/2025

มูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 18; กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี เพิ่มขึ้นร้อยละ 12; ส่วนที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกินต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 10; ส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัย เพิ่มขึ้นร้อยละ 9; เงินปันผลประจำปีต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 10; โครงการซื้อหุ้นคืน มูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฮ่องกง, 14 มีนาคม 2568 – คณะกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเอไอเอ (“บริษัท”) มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศผลประกอบการของกลุ่มบริษัทเอไอเอ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อัตราการเติบโตรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่: ผลประกอบการของธุรกิจใหม่  •  มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 4,712 ล้านเหรียญสหรัฐ  •  ทุกภาคส่วนธุรกิจ มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก  •  เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เป็น 8,606 ล้านเหรียญสหรัฐ   •  กำไรของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น โดยมีอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 1.9 จุด เป็นร้อยละ 54.5 มูลค่าพื้นฐานของกิจการ  •  ส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัย (EV Equity) อยู่ที่ 71.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังการคืนทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ต่อหุ้น  •  กำไรจากการดำเนินงานบนมูลค่าพื้นฐานของกิจการ (EV operating profit) อยู่ที่ 10,025 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 ต่อหุ้น  •  อัตราผลตอบแทนจากการดำเนินงานบนมูลค่าธุรกิจประกันภัย อยู่ที่ร้อยละ 14.9 โดยเพิ่มขึ้น 200 จุด จากร้อยละ 12.9 ในปี 2566รายงานทางการเงิน (IFRS)  •  กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) อยู่ที่ 6,605 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ต่อหุ้น  •  กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้นตามเป้าหมายอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) จากร้อยละ 9 เป็นร้อยละ 11 ตั้งแต่ปี 2566 ถึงปี 2569  •  อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ร้อยละ 14.8 เพิ่มขึ้นมา 130 จุด จากร้อยละ 13.5 ในปี 2566เงินกองทุนส่วนเกิน  •  มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน (UFSG) อยู่ที่ 6,327 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อหุ้น  •  เงินกองทุนส่วนเกินสุทธิ (Net FSG)(3) อยู่ที่ 4,020 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังการลงทุนซ้ำในกรณีการเติบโตภายในของธุรกิจใหม่  •  อัตราส่วนทุนของผู้ถือหุ้น(4) อยู่ที่ร้อยละ 236 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567เงินปันผลและโครงการซื้อหุ้นคืน  •  เงินปันผลประจำปีเเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 คิดเป็น 130.98 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น  •  โครงการซื้อหุ้นคืนใหม่มูลค่า 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ(5) เป็นไปตามนโยบายการจัดการทุนที่ปรับปรุงใหม่ของเรา  •  ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมูลค่า 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 ผ่านเงินปันผลและโครงการซื้อหุ้นคืนนายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า: “เอไอเอมีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมมากในปี 2567 จากผลกำไรของธุรกิจใหม่ การเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง และเงินกองทุนส่วนเกิน เรายังคงมุ่งสร้างมูลค่าผลตอบแทนผู้ถือหุ้นจากการดำเนินงานและอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันเราได้คืนผลตอบแทนจำนวนมากให้แก่ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 เป็นมูลค่ากว่า 4,712 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทุกภาคส่วนธุรกิจมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและความแข็งแกร่งของธุรกิจของเรา ธุรกิจใหม่ที่สร้างผลกำไรต่อเนื่องส่งผลให้รายได้และกระแสเงินสดเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีต่อหุ้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12 และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกินต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัยต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 หลังจากการจ่ายคืนผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมูลค่า 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐผ่านเงินปันผลและโครงการซื้อหุ้นคืน“ตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่รอบคอบ ยั่งยืน และก้าวหน้าของเอไอเอ คณะกรรมการได้แนะนำให้เพิ่มเงินปันผลประจำปีร้อยละ 10 คิดเป็น 130.98 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดเงินปันผลรวมต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ในปี 2567 นอกจากนี้ ตามนโยบายการจัดการทุนที่ปรับปรุงใหม่ของเรา คณะกรรมการได้ประกาศการซื้อหุ้นคืนใหม่มูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกด้วย ซึ่งประกอบด้วยเงินจำนวน 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราส่วนการจ่ายปันผลร้อยละ 75 ของเงินกองทุนส่วนเกินสุทธิประจำปี (Net FSG) และเพิ่มอีก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามการตรวจสอบสถานะเงินทุนของกลุ่มบริษัทเป็นประจำ เมื่อรวมกันแล้ว การจ่ายเงินปันผลและโครงการซื้อหุ้นคืนจะทำให้เกิดอัตราผลตอบแทนรวม(6) อยู่ที่ประมาณร้อยละ 6 สำหรับผู้ถือหุ้น“เอไอเอ อยู่ในตำแหน่งที่ดีและแตกต่างอย่างโดดเด่น ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพการเติบโตเชิงโครงสร้างระยะยาวในตลาดที่มีความน่าสนใจที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ ผ่านการดำเนินการตามกลยุทธ์ที่ชัดเจนและมีเป้าหมายอันแน่วแน่ของเรา ผมมั่นใจว่าโอกาสทางธุรกิจในระยะยาวของเอไอเอยังคงยอดเยี่ยม เราจะยังคงเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของเราได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อคว้าโอกาสที่อยู่ข้างหน้าและสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นทุกคนของเรา”

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

อลิซาเบธ รอมฮิลด์ จากคนชอบวาดรูปสลัม สู่ศิลปินและนักออกแบบระดับนานาชาติ

08/05/2025

ทำความรู้จักกับ อลิซาเบธ รอมฮิลด์ ศิลปินเชื้อสายเดนมาร์ก-อาร์เมเนียน ผ่านการผจญภัยบนเส้นทางสายศิลปะ 40 ปี ท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสีสันของกรุงเทพฯ เมืองที่เธอพำนักอยู่นานกว่า 37 ปี ในหนังสือ Elizabeth Romhild's Odysseyเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ แปซิฟิค ซิตี้คลับ สำหรับหนังสือรวบรวมผลงานตลอดระยะเวลา 40 ปี ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ของ อลิซาเบธ รอมฮิลด์ (Elizabeth Romhild) ศิลปินเชื้อสายเดนมาร์ก-อาร์เมเนียนที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติอลิซาเบธ รอมฮิลด์ กับผลงานจิตรกรรม Untold Stories และประติมากรรม Freedomก่อนงานเลี้ยงค็อกเทลในช่วงค่ำ ซึ่งจะมีการจัดประมูลผลงานจิตรกรรม Untold Stories และประติมากรรม Freedom เพื่อนำรายได้ไปสมทบทุนให้แก่ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านม (QSCBC) เรามีโอกาสได้สนทนากับคุณอลิซาเบธพอสังเขปคุณอลิซาเบธเล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเองว่าเธอเกิดที่เดนมาร์ก แต่ชีวิตศิลปินนั้นเริ่มต้นที่อินโดนีเซียในขณะที่มีอายุ 26 ปี ( พ.ศ.2528) ความสนใจในการวาดรูปสีน้ำสะท้อนบ้านเรือนของชุมชนแออัดที่ดึงดูดเธอด้วยสีของสนิมและไม้ในเฉดต่าง ๆ ทำให้เธอได้รับการเรียกขานว่าเป็น Slum Painterภาพเขียนสีน้ำชิ้นแรกในชีวิตที่ขายได้ ขณะจัดแสดงในแกลลอรีที่อินโดนีเซีย (ภาพจากหนังสือ Elizabeth Romhild's Odyssey)วาดสีน้ำอยู่ได้ราว 3 ปี คุณอลิซาเบธมีอันต้องย้ายตามคุณปีเตอร์สามีผู้ทำงานให้กับบริษัท อีสต์ เอเชียติก มาอยู่ที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ.2531 และพำนักอยู่จนถึงปัจจุบัน“กรุงเทพฯเป็นมากกว่าบ้าน และเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะ ลูกของฉันเกิดที่นี่ และการค้นพบสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฉันก็เกิดขึ้นที่นี่เช่นกัน”ผู้คนและวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสันของกรุงเทพฯ ทำให้คุณอลิซาเบธเปลี่ยนเทคนิคจากสีน้ำมาเป็นสีน้ำมันที่สามารถสะท้อนความสดใสของเมืองได้อย่างตรงใจ ประกอบกับความรู้สึกและอารมณ์ที่ลึกซึ้งหลังจากการได้เป็น “แม่” เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการค้นหาตัวตนบนเส้นทางศิลปะกรุงเทพฯจากผลส้มในชามแก้วสีน้ำเงินที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นสไตล์ของตนเอง“วันหนึ่งไปโรงแรมโอเรียนเต็ลไปเห็นผลส้มวางอยู่ในชามแก้วสีน้ำเงิน  ไม่น่าเชื่อว่ารูปทรงกลมธรรมดากับสีน้ำเงินจะจุดประกายสร้างสรรค์ทำให้เราได้ค้นพบสไตล์การทำงานที่เป็นของตัวเองได้ในที่สุด”ผลส้มทรงกลม นำไปสู่รูปทรงที่สื่อความหมายถึงความเป็นผู้หญิง และความรักอันเป็นนิรันดร์ ในขณะที่สีน้ำเงินของชามแก้วบรรจุผลส้มได้เข้ามาอยู่ในจานสี กลายเป็นสีที่ขาดไม่ได้บนผืนผ้าใบในงานศิลปะของเธอFEAST ผลงานที่นำรูปทรงของหน้ากากและเครื่องดนตรีเข้ามาในการสื่อสารอารมณ์หลังจากชัดเจนในสไตล์แล้ว คุณอลิซาเบธเริ่มนำเอารูปทรงของเปียโนเข้ามาสร้างความเคลื่อนไหวด้วยเส้นและสีที่มีความพลิ้วไหวราวกับบทเพลง ร่วมด้วยหน้ากากเพิ่มความหลากหลายของสีสันและความเป็นปริศนาที่ชวนให้รู้สึกถึงความน่าค้นหาจากผลงานจิตรกรรมสู่งานออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องถ้วยชามกระเบื้อง รูปทรงเปียโนในภาพเขียนพัฒนาสู่งานเครื่องประดับนอกจากงานจิตรกรรมสีน้ำมันแล้ว อลิซาเบธยังได้สร้างสรรค์งานประติมากรรม และงานออกแบบควบคู่กันไปด้วย เช่น งานออกแบบเครื่องประดับ จานกระเบื้อง ถ้วยกาแฟ กระเบื้องโมเซกประดับผนัง ล่าสุดร่วมมือกับ Skiniplay นำเสนองานศิลปะฝาครอบลำโพง Helix บนลำโพง Bang & Olufsen อีกด้วยงานออกแบบศิลปะให้กับลำโพง Bang & Olufsen40 ปีบนถนนสายศิลปะที่เรียนรู้ศิลปะด้วยตนเอง กว่าจะมาถึงวันที่ผลงานได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบของนักสะสมในทวีปยุโรป อเมริกา และ เอเชีย คุณอลิซาเบธ กล่าวว่า“ฝึกฝน ฝึกฝน อย่ายอมแพ้ แม้ว่าจะเหงาบ้างในบางตอน แต่เชื่อเถอะเมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง เราจะพบประตูบานใหม่ที่เปิดอยู่เสมอสุดท้ายนี้ฉันหวังว่าหนังสือของฉันจะเป็นแรงบันดาลใจ สร้างความท้าทาย สร้างความประทับใจในหัวใจของผู้อ่านทุกท่าน เช่นเดียวกับที่การสร้างสรรค์มันได้ประทับตราตรึงอยู่ในหัวใจของฉัน”ขอบคุณศิลปินที่ทำให้บ่ายวันธรรมดาของฉันกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำหนังสือ Elizabeth Romhild's Odyssey มีจำหน่ายที่ร้านเอเชียบุ๊คส์และร้านคิโนะคุนิยะติดตามชมผลงานของ อลิซาเบธ รอมฮิลด์ ได้ทาง  •  https://elizabethromhild.com/  •  เฟซบุ๊ก Elizabeth Romhildแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1169922

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

หอคอยแห่งเมืองโบราณคดี “ซามาร์รา” มรดกโลกในดินแดน “อิรัก”

08/05/2025

ชมความงามเป็นเอกลักษณ์ของหอคอยสูง ขดเป็นเกลียวดังก้นหอยโดดเด่น บริเวณมัสยิดอาบู ดูลาฟ ย่านชานเมืองโบราณคดีซามาร์รา (Samarra) ในจังหวัดซาลาห์แอดดินของอิรักเมืองโบราณคดีซามาร์รา ตั้งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางเหนือราว 130 กิโลเมตร ประกอบด้วยซากเมืองอิสลามที่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอับบาสิดในศตวรรษที่ 9เมืองโบราณแห่งซามาร์รา(Samarra Archaeological City) มีอายุระหว่างปี ค.ศ. 836-892 เป็นหลักฐานอันโดดเด่นของอาณาจักรอิสลามที่ยิ่งใหญ่ในยุคนั้น ครอบคลุมพื้นที่ยาวจากตูนิเซียไปจนถึงเอเชียกลาง นับเป็นเมืองหลวงอิสลามแห่งเดียวที่ยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรม และศิลปะดั้งเดิม เช่น โมเสกและงานแกะสลักไว้ได้ภาพ: สำนักข่าวซินหัวซามาร์รา นับเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากถูกทิ้งร้างตั้งแต่เริ่มแรก จึงหลีกเลี่ยงการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นภาพ: สำนักข่าวซินหัวเมืองโบราณแห่งนี้ยังคงรักษามัสยิดที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่ง (อัลมาลวียาและอาบูดูลาฟ) และหออะซานที่แปลกตาที่สุดไว้ นั่นคือ หอคอยสูง 52 เมตร ขดเป็นเกลียวดังก้นหอย รวมถึงพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม (พระราชวังคาลิฟาล คัสร์ อัล-คาลิฟา อัล-จาฟารี อัล-มาชูก และอื่นๆ)หอคอยได้รับความเสียหายในปี ค.ศ. 2005 เมื่อยอดหอคอยถูกทำลายจากการระเบิด จากกลุ่มกบฏในอิรัก หลังจากนั้นรัฐบาลอิรักจึงมีโครงการฟื้นฟู และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตรายขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.2007ภาพ: สำนักข่าวซินหัวภาพ: สำนักข่าวซินหัวภาพ: สำนักข่าวซินหัวแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000023282

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันสุขภาพ

นับถอยหลัง ประกันสุขภาพ เพิ่มเงื่อนไข Copayment

08/05/2025

Prachachat BITE SIZEโดย พฤฒินันท์ สุดประเสริฐประกันสุขภาพ กลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตใครหลาย ๆ คน ที่อาจจะกังวลว่าความป่วยจะเข้ามาเยือนในชีวิตเมื่อไหร่ รวมถึงเป็นหลักประกันที่ทำให้สบายใจ เมื่อต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนแต่หลังจากวันที่ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ประกันสุขภาพฉบับใหม่ เพิ่มเงื่อนไขร่วมจ่าย หรือ Copayment หวังลดการเคลมค่ารักษาที่จุกจิก เกินจำเป็นPrachachat BITE SIZE รวบรวมรายละเอียดการเพิ่มเงื่อนไข Copayment ในประกันสุขภาพฉบับใหม่ ว่าเงื่อนไขจะเป็นอย่างไร แล้วเคลมแบบไหนถึงต้องร่วมจ่ายด้วยมองสถานการณ์ “ค่ารักษา-ประกันสุขภาพ”ช่วงหลายปีมานี้ ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ผลการสำรวจแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลทั่วโลกจาก วิลลิส ทาวเวอร์ส วัตสัน ซึ่งเปิดเผยเมื่อพฤศจิกายน 2567 ระบุว่า ค่ารักษาพยาบาลในไทยและเอเชีย ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ต้ังแต่ปี 2563 และคาดการณ์ว่าค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น 14.2% ในปี 2568 ลดลงเล็กน้อยจาก 15.2% ในปี 2567 แต่ยังคงสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ 1.2%ปัจจัยหลัก ๆ ที่ดันค่ารักษาพยาบาลให้สูงขึ้นต่อเนื่อง มีทั้งการเพิ่มสูงขึ้นของการเข้ารับการรักษาพยาบาล ที่ถูกเลื่อนออกมาในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งอาจทำให้แพทย์ต้องใช้เทคนิคการรักษาโรคที่เข้มข้น และการพัฒนาและนวัตกรรมการรักษาพยาบาลล้ำสมัยขึ้นเรื่องนี้กระทบทุกส่วนทั้งคนไข้ ผู้ให้บริการ และบริษัทประกัน ที่ต้องปรับเบี้ยประกันใหม่ให้สะท้อนภาพความเป็นจริงในการเคลมสินไหมในจำนวนนี้ เป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.78 แสนคน และไม่เคยทำงานมาก่อน 1.80 แสนคน แต่ในช่วงที่ผ่านมา เบี้ยประกันภัยสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยประมาณ 3-5% ต่อปี เนื่องมาจากหลายปัจจัย อาทิ อัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนการรับประกันภัยที่สูงขึ้น หรือแม้แต่การเคลม การเก็บรวบรวมสถิติคนที่มีการเคลมสูงเกินความจำเป็นทางการแพทย์นั้น พบว่ามีอยู่ไม่เกิน 5% แต่สถิติ Loss Ratio เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่องทั้ง 2 ประเด็นหลักนี้ กระทบหลายส่วน บริษัทประกันแบกรับค่าใช้จ่าย แบกรับการเคลมเกินความจำเป็น คนอยากทำประกันก็เข้าถึงประกันได้ยากอีก เพราะค่าเบี้ยที่สูงขึ้นจนเกินเอื้อมอีก คนที่มีประกันอยู่แล้วก็อาจต้องถอย จากเบี้ยประกันที่สูงเกินไปนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้บริษัทประกัน ตัดสินใจร่วมกัน เพิ่มเงื่อนไข Copayment ในประกันสุขภาพฉบับใหม่ หรือกำหนดให้ผู้ป่วย ผู้ทำประกัน ร่วมรับผิดชอบค่ารักษาด้วยส่วนหนึ่ง โดยจะมีผลกับกรมธรรม์ใหม่ที่เริ่มคุ้มครองตั้งแต่ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไปเคลมค่ารักษาแบบไหน เข้าข่ายต้อง Copayment ?สำหรับเงื่อนไข Copayment ที่กำลังจะเริ่มขึ้นนี้ ไม่ได้มีผลในทันที และมีผลเฉพาะประกันฉบับใหม่ที่เริ่มคุ้มครองตั้งแต่ 20 มีนาคมนี้เงื่อนไขที่เข้าข่ายต้องร่วมจ่าย จะมี 3 เงื่อนไขเงื่อนไขที่ 1 การเคลมสำหรับโรคที่ไม่รุนแรง หรืออาการที่ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล การเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) หรืออาการที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล โดยเบิกเคลมเข้ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) มากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์ และเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจาก IPD มากกว่าหรือเท่ากับ 200% ของเบี้ยประกันภัยสุขภาพ จะต้องร่วมจ่าย 30% ทุกค่ารักษาในปีถัดไปการเจ็บป่วยที่เข้าข่ายเป็น Simple Diseases คือ  •  อาการไม่รุนแรง อาการมักไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในระยะยาว  •  รักษาง่าย การรักษาไม่ซับซ้อน เช่น การใช้ยาสามัญประจำบ้าน หรือวิธีการธรรมชาติ  •  หายได้เอง ในบางกรณีร่างกายสามารถฟื้นตัวเองได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการรักษา  •  พบได้บ่อย เป็นโรคหรืออาการที่พบได้ทั่วไปในทุกเพศทุกวัยเงื่อนไขที่ 2 การเคลมสำหรับโรคทั่วไป (ไม่นับรวมการผ่าตัดใหญ่และโรคร้ายแรง) โดยเบิกเคลมเข้ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) มากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์ และเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจาก IPD มากกว่าหรือเท่ากับ 400% ของเบี้ยประกันสุขภาพ จะต้องร่วมจ่าย 30% ทุกค่ารักษาในปีถัดไปเงื่อนไขที่ 3 หากเข้าเงื่อนไข ทั้งกรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 จะต้องร่วมจ่าย 50% ทุกค่ารักษาในปีถัดไปถ้าทำประกันแล้ว ปีแรกมีการเคลมจนเข้าเกณฑ์ต้องร่วมจ่าย จะมีผลในปีที่ 2 หรือปีต่ออายุถัดไป ถ้าปีต่ออายุ เข้าเงื่อนไขอีก ก็ต้องร่วมจ่ายต่อไปทุกค่ารักษา แต่ถ้าปีต่ออายุ เคลมน้อยลง เคลมน้อยกว่าเงื่อนไขกำหนด ก็กลับมาคุ้มครองเต็ม และจะพิจารณาปีต่อปีโดยกรณี Copayment จะเกิดขึ้นกับกรณีเคลม IPD เท่านั้น ครอบคลุมทั้งประกันแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) และประกันเหมาจ่าย และถ้ากรณีเข้าเงื่อนไขต้อง Copayment ด้วย ไม่ว่าจะเหมาจ่ายหรือ Deductible ต้องจ่ายเบี้ยเต็มเท่าเดิม ไม่มีการลดเบี้ยทั้งนี้ กรณีมีประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) และเข้าเงื่อนไขต้องร่วมจ่าย (Copayment) นั้น จะคำนวณค่ารักษาส่วนที่ต้องร่วมจ่าย คือ ผู้เอาประกัน จ่ายส่วน Deductible ก่อน แล้วนำค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เหลือ หลัง Deductible แล้ว มาคำนวณส่วนที่ต้อง Copayment ตามเงื่อนไขส่วนการเคลมแบบ OPD ไม่รวมในเงื่อนไขนี้ เพราะประกันสุขภาพที่มีวงเงิน OPD ส่วนใหญ่จะระบุ วงเงินเคลมและจำนวนครั้งการเคลมต่อปี และกรณีมีประกันสุขภาพเล่มเดิม ที่มีผลคุ้มครองก่อน 20 มีนาคม 2568 และยังไม่ขาดอายุ จะยังไม่มีเงื่อนไข Copayment เพิ่มเติมแต่อย่างใจส่วนวิธีการแจ้งว่าประกันที่มี เข้าเงื่อนไข Copayment นั้น บริษัทประกันภัยจะมีหนังสือแจ้งล่วงหน้าก่อนครบชำระเบี้ยประกันภัยไม่น้อยกว่า 15 วัน หากเกิดการเคลมภายหลังจากที่บริษัทได้ออกหนังสือแจ้งชำระเบี้ยประกันภัย และเข้าเงื่อนไข Copayment บริษัทจะออกเอกสาร บันทึกสลักหลัง (Endorsement) เพื่อแจ้งรายละเอียด การเปลี่ยนแปลงและเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ผู้เอาประกันภัยทราบหวังลด ‘เคลมไม่จำเป็น’อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่า เงินเฟ้อทางการแพทย์ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น และมีผลกระทบต่อเนื่องถึงการรับประกันภัยที่อาจทำให้กระทบต่อการเงินของบริษัทประกันนางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ระบุว่า การพิจารณา Copayment เพื่อให้บริษัทประกันสามารถอยู่ได้ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่สูง โดยไม่ปรับเบี้ยประกันมากเกินไป และเชื่อว่า Copayment จะทำให้คนเกิดความตระหนักมากขึ้น และไม่เคลมโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะทำให้บริษัทประกันอยู่ได้แบบยั่งยืนแต่การปรับเบี้ยตามอายุ ตามปัจจัยต่าง ๆ เงินเฟ้อเอย โรคอุบัติใหม่เอย หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ ยังคงมีอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องผ่านการเห็นชอบจาก คปภ. ก่อนนายกสมาคมประกันชีวิตไทย ระบุเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้คงต้องมอนิเตอร์การใช้มาตรการดังกล่าวราว 2-3 ปี ว่าจะช่วยได้มากแค่ไหน ส่วนตัวเชื่อว่าพอร์ตประกันสุขภาพกลุ่ม ก็คงจะใช้แนวทางนี้ในการจัดการปัญหาด้วย เพราะหลายบริษัทเจอปัญหาการบริหารค่าใช้จ่ายของบริษัทที่ให้สวัสดิการพนักงานเช่นเดียวกันแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1764072

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันภัย

เจ้าหนี้ 300 ราย ถูกหลอก! คนอ้างช่วยเร่งรัดเบิกเงินกองทุนประกัน

08/05/2025

เจ้าหนี้ประกัน 300 ราย ถูกหลอก! คนอ้างช่วยเร่งรัดเบิกเงินกองทุนประกัน กปว. ยันไม่มีค่าใช้จ่าย อย่าหลงเชื่อ ดำเนินการตามกระบวนการโปร่งใสและเป็นไปตามกฎหมายเท่านั้นนายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) ในฐานะผู้ชำระบัญชีให้กับบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต เพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย เปิดเผยว่า กองทุนประกันวินาศภัยขอชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่าเจ้าหนี้กว่า 300 ราย รวมตัวที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หลังถูกหลอกให้จ่ายเงินรวมกว่า 2 ล้านบาท โดยอ้างว่าสามารถช่วยเร่งรัดการจ่ายเงินจากกองทุนประกันวินาศภัยได้ซึ่งทางกองทุนประกันวินาศภัยขอยืนยันว่า ไม่มีการเรียกรับเงินจากประชาชน และไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่แอบอ้างดังกล่าว การดำเนินการจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายที่กำหนดไว้ชัดเจนโดยประชาชนสามารถดำเนินการเองได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้กองทุนประกันวินาศภัยยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดสามารถแทรกแซงกระบวนการ หรือเรียกรับเงินเพื่อเร่งรัดการดำเนินการให้เร็วขึ้นได้“ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างว่ารู้จัก หรือมีช่องทางพิเศษในการช่วยเหลือเรื่องการจ่ายเงินจากกองทุนประกันวินาศภัย เพราะกองทุนประกันวินาศภัยดำเนินการตามกระบวนการที่โปร่งใสและเป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น”ปัจจุบันกองทุนประกันวินาศภัย ดำเนินการจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ตามระยะเวลาที่กองทุนประกันวินาศภัยได้รับเงินนำส่งจากบริษัทประกันวินาศภัย ตาม พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย มาตรา 80/3 โดยมีรอบการนำส่งเงินปีละ 2 ครั้ง ดังนี้  •  ครั้งที่หนึ่ง ให้บริษัทนำส่งเงินภายในเดือนมกราคม ในอัตราร้อยละ 0.5 ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับเดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา โดยกองทุนประกันวินาศภัย จะนำเงินที่ได้รับมาจ่ายให้กับเจ้าหนี้ในเดือนกุมภาพันธ์  •  ครั้งที่สอง ให้บริษัทนำส่งเงินภายในเดือนกรกฎาคม ในอัตราร้อยละ 0.5 ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนของปีนั้น ดังนั้น เจ้าหนี้จะได้รับเงินคืนตามกระบวนการที่กำหนดไว้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้บุคคลใดเพื่อเร่งรัดการดำเนินงานกองทุนประกันวินาศภัยย้ำเตือนประชาชนว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพบางรายอาศัยช่องโหว่ทางข้อมูล หลอกลวงประชาชนโดยอ้างว่าสามารถช่วยเร่งรัดการจ่ายเงินจากกองทุนประกันวินาศภัยได้ ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนดำเนินการใด ๆทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย หรือได้รับการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่าสามารถช่วยเหลือเรื่องเงินจากกองทุนประกันวินาศภัยได้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองทุนประกันวินาศภัยโดยตรงขอย้ำว่าประชาชนสามารถดำเนินการขอรับเงินคืนได้เองฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องผ่านบุคคลใดทั้งสิ้น สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือสงสัยว่าอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สามารถติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อแจ้งเบาะแสโดยเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1766826

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ผจญภัยไปกับเจ้าชายน้อย “The Little Prince Universe” สร้างแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมระดับโลก

08/05/2025

ออกเดินทางผจญภัย พร้อมปลุกความเป็นเด็กที่ซ่อนอยู่ในตัวทุกคน ไปกับ นิทรรศการเจ้าชายน้อย “The Little Prince Universe – An Immersive Journey” งานศิลปะแบบดิจิตัลที่จะพาทุกคนก้าวเข้าไปสู่โลกของ “เจ้าชายน้อย” วรรณกรรมชื่อดังระดับโลก ตั้งแต่วันนี้ - 11 พ.ค. 68 ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยามทางเข้างานใครที่เป็นหนอนหนังสือ เชื่อว่าคงต้องเคยได้ยินชื่อของวรรณกรรมระดับโลก “The Little Prince” (Le Petit Prince) หรือ "เจ้าชายน้อย" และบางคนก็ยกให้หนังสือเรื่องนี้เป็นเล่มในดวงใจกันเลยทีเดียว“The Little Prince” หรือ "เจ้าชายน้อย" เรื่องราวอันงดงามเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และมิตรภาพ ผลงานการประพันธ์ของ “อ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี” (Antoine de Saint-Exupéry) นักเขียนและนักบินชาวฝรั่งเศส ซึ่งกลายเป็นวรรณกรรมระดับโลกที่ก้าวข้ามกาลเวลาและผสมผสานอยู่ในทุกวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ด้วยยอดขายกว่า 800 ล้านเล่มทั่วโลก และถูกแปลไปแล้วมากกว่า 600 ภาษา ทำให้วรรณกรรมชิ้นนี้ถูกจัดเป็นวรรณกรรมคลาสสิคสำหรับเยาวชนที่ทั่วโลกยกย่องว่าเป็นผลงานที่มีความเปล่งประกายที่สุดเรื่องหนึ่งว่ากันว่า ความพิเศษในการอ่านเจ้าชายน้อย อยู่ที่การอ่านในแต่ละช่วงวัย ก็จะมีการตีความกันคนละแบบ ตามความรู้สึก และประสบการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนไปThe Entranceและในวันนี้ โลกของเจ้าชายน้อย ได้เปิดประตูต้อนรับทุกคนแล้วใน นิทรรศการเจ้าชายน้อย “The Little Prince Universe – An Immersive Journey” พื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม โดยเปิดให้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2568“The Little Prince Universe - An Immersive Journey” จะพาทุกคนก้าวเข้าสู่โลกแห่ง Immersive งานศิลปะแบบดิจิทัลเพื่อไปพบกับประสบการณ์อันหลากหลายในทุกโสตสัมผัสแบบ 360 องศา กับเรื่องราวของเจ้าชายน้อย สัมผัสความสวยงาม ความสนุกสนาน และแรงบันดาลใจ พร้อมปลุกความเป็นเด็กที่ซ่อนอยู่ในตัวของทุกคน ดังที่ “อ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี” ผู้ประพันธ์เรื่องเจ้าชายน้อย ได้กล่าวไว้ว่า “ผู้ใหญ่ทุกคนล้วนเคยเป็นเด็กมาก่อน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จำได้”Story Book TheatreMeet The Little Princeสาวกเจ้าชายน้อย เตรียมตัวออกเดินทางผจญภัยไปพร้อมๆ กัน กับ ไฮไลต์ 15 โซน ดังนี้1. The Entrance : ได้แรงบันดาลใจมาจากร้าน The Little Prince ในกรุงปารีส โดยมีการเพิ่มความสนุกสนานตั้งแต่บริเวณด้านหน้า โดยงานแอนิเมชั่นเลเซอร์ของเจ้าชายน้อย จุดเริ่มต้นที่สวยงามสำหรับเรื่องราวที่น่าประทับใจ2. Story Book Theatre : ที่นี่คุณสามารถนั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินกับเรื่องราวฉบับย่อของเจ้าชายน้อยในโรงละครแบบ Mini Theatre ซึ่งจะพาคุณได้กลับมาทบทวนเรื่องราวอันทรงพลังของเจ้าชายน้อยอีกครั้ง ก่อนที่จะพาคุณเริ่มต้นการเดินทาง3. Meet The Little Prince : การพบกันครั้งแรกกับเจ้าชายน้อยได้เริ่มต้นขึ้น โดยจะมีการจำลองเหตุการณ์เครื่องบินตกในทะเลทราย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยAsteroid B612Travel The Planets4. Asteroid B612 : ยินดีต้อนรับสู่ดาว B612 บ้านของเจ้าชายน้อย สถานที่ที่เขาดูแลกุหลาบของเขาด้วยความรัก สามารถเพลิดเพลินไปกับการชมวิวบนดาวเคราะห์ B612 ได้อย่างเต็มที่ และพบกับดวงอาทิตย์ขึ้นและตก 44 ครั้งในหนึ่งวัน! อย่างน่าอัศจรรย์5. Travel The Planets : เมื่อเจ้าชายน้อยเริ่มต้นการเดินทาง เขาเดินทางผ่านดาวเคราะห์ต่างๆ ที่สว่างไสวด้วยอุโมงค์แสงที่งดงาม ระหว่างทางเขาได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตจากมุมมองต่างๆ ในการค้นหาสิ่งที่เขายังไม่เคยเรียนรู้มากก่อน6. Hello Earth : ในที่สุดก็มาถึงโลกแล้ว พื้นที่นี้จะเน้นไปที่ต้นบาวบาบ (พืชในสกุล Adansonia) และสุนัขจิ้งจอก มาสนุกกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลบนโลก โดยพูดว่า Hello! กับสุนัขจิ้งจอก เพื่อดูเขาปรากฏตัวเมื่อคุณทักทาย หรือสนุกไปกับการเล่นบนไม้กระดกเรืองแสง!Hello EarthWalk with the Roses - An infinity room7. Walk with the Roses - An infinity room : อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด เมื่อเจ้าชายน้อยค้นพบว่าบนโลกนี้มีดอกกุหลาบนับพัน และกุหลาบของเขาก็ไม่ใช่กุหลาบเดียวที่มีอยู่ ในห้องนี้คุณจะได้พบกับมุมมองอินฟินิตี้ของดอกกุหลาบที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นเมื่อคุณเดินผ่าน เป็นห้องที่เหมาะสำหรับคนที่มีหัวใจโรแมนติกอย่างแท้จริง8. The Farewell and Star Gazing Hall : เมื่อการเดินทางของเจ้าชายน้อยใกล้จะสิ้นสุดลง พื้นที่นี้เป็นโอกาสสุดท้ายในการอำลาก่อนที่เขาจะกลับไปยัง B6129. The Little Prince Playroom : โซนเล่น แบบ Interactive ที่มีกิจกรรมสนุกๆ เช่น เกมส์ “Knock out the Baobabs” และ “Come play with me” กระจกที่เจ้าชายน้อยจะสะท้อนทุกการเคลื่อนไหวของคุณThe Farewell and Star Gazing HallKnock out the Baobabs10. Hello Bangkok : มุมพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเดินทางของเจ้าชายน้อย ที่ได้มาถึงกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก เป็นมุมที่น่ารักจนไม่ควรพลาด!11. The Love Wall : ฝากข้อความแห่งความรัก ความหวัง และแรงบันดาลใจบนกำแพงนี้ เพื่อเตือนตัวเองว่าเราทุกคนล้วนเคยเป็นเด็กมาก่อน12. Take a Shot : จุดถ่ายรูปสุดท้ายเพื่อเก็บประสบการณ์นี้ไว้เป็นความทรงจำที่ยาวนาน13. Paint with The Prince : กิจกรรมสุดพิเศษที่คุณสามารถระบายสีบนผ้าใบขนาดเล็กและนำไปเป็นของที่ระลึกกลับบ้านCome play with meHello Bangkok14. The STORE by Mad Motion Studio : ร้านขายสินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่น จาก The Little Prince Universe เช่น เสื้อผ้าจาก Mc JEANS กระเป๋าผ้า เครื่องเขียน โปสการ์ด และอื่นๆ จาก Sunday Morning by Somjai และอย่าลืมไปลองไอศกรีมซีรี่ส์แรกของ The Little Prince Universe จาก Guss Damn Good ได้ที่นี่!15. The Little Prince Universe Pop-up by BEARHOUSE : ประสบการณ์พิเศษกับเครื่องดื่มและของสะสมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าชายน้อยชวนมาสัมผัสโลกของเจ้าชายน้อย ที่นิทรรศการ “The Little Prince Universe – An Immersive Journey” ตั้งแต่วันนี้ - 11 พฤษภาคม 2568 ที่ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 - 20.30 น.สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: Mad Motion - The Little Prince Universeและจองบัตรได้แล้ววันนี้ที่ https://www.ticketmelon.com/.../the-little-prince-universeThe Love WallTake a ShotPaint with The PrinceThe STORE by Mad Motion StudioThe Little Prince Universe Pop-up by BEARHOUSEแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000013691

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

อัปเดต บัตรประชาชนหมดอายุ บัตรประชาชนหาย ขึ้นเครื่องบินได้ไหม

08/05/2025

อย่างที่ทราบกันว่า บัตรประชาชน เป็นเอกสารราชการสำคัญในการยืนยันตัวตนในการดำเนินการหลายอย่าง รวมไปถึงเวลาจะเดินทางขึ้นเครื่องบิน หลายคนสงสัยว่าหากบัตรประชาชนหมดอายุ หรือบัตรประชาชนหายจะเดินทางได้หรือเปล่า และต้องทำอย่างไรบัตรประชาชนหมดอายุ บัตรประชาชนหาย ขึ้นเครื่องบินได้ไหม ?การเดินทางด้วยเครื่องบินเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ และการยืนยันตัวตนก็เป็นหนึ่งในขั้นตอนนั้น ดังนั้นทุกสายการบินจะต้องมีการตรวจเช็กให้แน่ใจว่าผู้โดยสารขึ้นเครื่องกับผู้ถือบัตรคือบุคคลเดียวกัน ดังนั้นบัตรประชาชนจึงเป็นเอกสารสำคัญ ดังนั้นบัตรประชาชนหมดอายุไม่สามารถใช้แสดงตัวตนเพื่อขึ้นเครื่องได้ เพราะบัตรประชาชนหมดอายุถือเป็นเอกสารที่หมดอายุตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526 และไม่สามารถนำมาใช้ยืนยันตัวตนได้ตามกฎหมายเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตอนเช็กอิน นอกเหนือจากบัตรประชาชน มีดังนี้สำหรับการเดินทางในประเทศ สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตให้ใช้เอกสารอื่นๆ แทนบัตรประชาชนได้  •  หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต  •  บัตรนักเรียน นักศึกษาหรือบัตรข้าราชการ  •  บัตรประจำตัวพนักงานรัฐวิสาหกิจ  •  บัตรประจำตัวผู้พิการ  •  ใบอนุญาตขับขี่  •  บัตรประจำตัวคนไร้ที่พึ่ง  •  บัตรประจำตัวคนพิการทางสติปัญญา  •  บัตรประจำตัวคนพิการทางหูหรือทางการได้ยิน  •  เอกสารใบแจ้งความ หากบัตรประชาชนหายก่อนการเดินทางหลายวัน สามารถแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อความปลอดภัยป้องกันมิจฉาชีพแอบอ้างใช้บัตรประชาชนของคุณ และนำเอกสารใบแจ้งความนี้มาใช้แทนบัตรประชาชนที่สูญหายในการยืนยันตัวตนก่อนขึ้นเครื่องได้อย่างไรก็ตามทุกบัตรที่ใช้แทนต้องออกโดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ระบุชื่อ นามสกุล รูปถ่าย และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน  13 หลักชัดเจนสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ผู้โดยสารจะต้องใช้หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อนวันหมดอายุทั้งนี้หากทำบัตรประชาชนหายระหว่างกำลังจะเดินทาง (ภายในประเทศ) สามารถแจ้งความภายในสนามบินดอนเมือง บริเวณอาคาร 1 ประตู 8 (เป็นของสน.ดอนเมือง) หรือภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 1 (เป็นของสภ.สุวรรณภูมิ)แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446647/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จัดการแข่งขันฟุตบอล AIA Thailand Championship 2025 ณ สนามฟิวเจอร์ อารีน่า รังสิต

07/05/2025

เอไอเอ ประเทศไทย จัดการแข่งขันฟุตบอลในโครงการ “เอไอเอ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ 2025” (AIA THAILAND CHAMPIONSHIP 2025) ประเภททีมชาย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมฟุตบอลในการแข่งขันฟุตบอล 5 คน (5-a-Side Football) ซึ่งเอไอเอได้เชิญชวนเพื่อนพนักงาน รวมถึงพนักงานบริษัทในเครือ คู่ค้าและพันธมิตร ตัวแทนและนายหน้าประกันชีวิตเอไอเอ ร่วมแข่งขันคว้าแชมป์ระดับประเทศ โดยมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันประเภททีมชายจำนวน 15 ทีม แบ่งเป็นทีมจากตัวแทนเอไอเอ 12 ทีม และทีมพนักงานเอไอเอ 3 ทีม โดยผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ทีมที่ชนะได้เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-3 ซึ่งได้แก่ ทีม The Forward United ได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ - ลอนดอน พร้อมที่พัก และทีมรองชนะเลิศได้แก่ ทีม หนูดี FC ซึ่งเป็นทีมตัวแทนเอไอเอจากภาคใต้ นอกจากนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ยังได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพันธมิตร ทั้งจากบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด ที่เป็นสปอนเซอร์หลักในการสนับสนุนเครื่องดื่มตราสิงห์ รวมถึงโรงพยาบาล บีเอ็นเอช ที่ได้สนับสนุนรถพยาบาล และทีมพยาบาลฉุกเฉินสำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้อีกด้วย โดยการแข่งขันฟุตบอล ‘เอไอเอ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ 2025’ จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สนามฟุตบอล ฟิวเจอร์ อารีน่า รังสิตทั้งนี้ ‘เอไอเอ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ 2025’ (AIA Thailand Championship 2025) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับประเทศที่จัดในกลุ่มบริษัทเอไอเอ โดยมีพนักงานเอไอเอ พนักงานบริษัทในเครือ คู่ค้าและพันธมิตร ตัวแทนและนายหน้าประกันชีวิตเอไอเอเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อมุ่งสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นดูแลสุขภาพ พร้อมส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ตอกย้ำคำมั่นสัญญาของเอไอเอ "Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันภัย

หลอกทิ้งกธ.เดิมทำใหม่ยังหลอน! นายกสมาคมฯชีวิตไทยเตือนอย่าหาทำ เสียทั้งสิทธิหักลดหย่อนภาษี ประกันอาจไม่รับหากตรวจสุขภาพใหม่เแล้วพบโรค

07/05/2025

สมาคมประกันชีวิตไทย เตือนผู้เอาประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ก่อนครบสัญญาเสียประโยชน์มากกว่าได้ รวมถึงอาจเสียสิทธิทางภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร และจะต้องคืนเงินภาษีในส่วนที่ได้รับการยกเว้นและอาจโดยค่าปรับร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องจ่ายนางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ในปัจจุบันผู้เอาประกันภัยบางรายถูกแนะนำให้ยกเลิกกรมธรรม์เดิมเพื่อไปทำกรมธรรม์ใหม่ (Twisting policy) ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีการนำข้อมูลมาเปรียบเทียบพร้อมแนะนำกรมธรรม์ใหม่ อ้างผลประโยชน์ตอบแทนหรือความคุ้มครองที่มากกว่าเพื่อเป็นการชักจูงใจ หากผู้เอาประกันภัยหลงเชื่อยกเลิกกรมธรรม์ จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัย แต่จะทำให้ผู้เอาประกันภัยสูญเสียสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย อาทิ ความคุ้มครองต่อเนื่อง กรมธรรม์บางแบบมีมูลค่าเวนคืน และหากทำกรมธรรม์ฉบับใหม่การจ่ายเบี้ยประกันชีวิตก็จะแพงขึ้นตามอายุของผู้เอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงหากจะทำประกันสุขภาพฉบับใหม่ จะต้องแถลงข้อความจริงเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นสุขภาพอาจมีปัญหา บริษัทมีสิทธิปฏิเสธไม่รับประกันภัย หรือถ้ารับก็อาจต้องชำระเบี้ยประกันภัยในอัตราที่สูงขึ้น และต้องเริ่มนับระยะเวลารอคอย (Waiting period) ใหม่อีกด้วยนอกจากนี้ ผู้เอาประกันภัยที่เคยใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปแล้ว หากมีการยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ประกันภัยสุขภาพ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่ใช้ลดหย่อนภาษีก่อนเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด จะถือว่าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายผู้เอาประกันภัยจะต้องเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติมของปีภาษีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิตไปแล้ว รวมถึงเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องจ่ายให้กับกรมสรรพากรนายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสนี้ ขอย้ำเตือนประชาชนทุกท่านว่า ก่อนยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ควรพิจารณาหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตามแต่ละกรมธรรม์ก่อนว่าจะเสียสิทธิประโยชน์อะไรไปบ้าง หรือหากท่านประสบปัญหาทางการเงิน บริษัทอาจแนะนำให้ท่านกู้ยืมเงินจากกรมธรรม์หรือใช้มูลค่าขยายเวลา โดยยังคงได้รับความคุ้มครองอยู่ตามเจตนารมณ์เดิมของการเริ่มต้นทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพเพื่อบริหารความเสี่ยงไม่ให้ตนเองต้องล้มละลาย หรือกลายเป็นภาระของคนในครอบครัวหากเกิดเหตุไม่คาดคิดแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ สยามรัฐออนไลน์https://siamrath.co.th/n/604805

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X