Everyday knowledge for you
ห้องแสดงนิทรรศการ
20/05/2025
• โด่ง - พงษธัช อ่วยกลาง เป็นประติมากรชาวไทยผู้มีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผลงานของเขาจัดแสดงอยู่ที่ The PARQ, ไอคอนสยาม, Cheval Blanc Randheli โรงแรมลักชัวรี่ของเครือธุรกิจ LVMH ที่มัลดีฟส์ เป็นอาทิ • ล่าสุด พงษธัช อ่วยกลาง จัดแสดงผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผืนผ้าใบเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อนิทรรศการ Shiny Airy Freely • ภาพจิตรกรรมที่บันทึกความทรงจำของ 'บ้านเกิด' โคราช เลือกมุมวาดจากความรู้สึกที่มองไปแล้วสุขใจ เป็นอิสระโด่ง - พงษธัช อ่วยกลาง ศิลปินเจ้าของผลงานประติมากรรมร่วมสมัยสุดสร้างสรรค์ผู้ทลายกำแพงระหว่างงานศิลปะกับพื้นที่สาธารณะและสถาปัตยกรรมของอาคารทุกรูปแบบหากคุณเคยไป The PARQ, สยามพรีเมียมเอาท์เล็ต, ไอคอนสยาม, โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ, ยูโอบี พลาซา กรุงเทพ, โรงแรมฮิลตัน พัทยา ฯลฯ แม้กระทั่ง Cheval Blanc Randheli โรงแรมลักชัวรี่ของเครือธุรกิจ LVMH ที่มัลดีฟส์ และโรงแรม W Muscat ประเทศโอมาน คุณอาจเดินผ่านผลงานประติมากรรมของ โด่ง - พงษธัช แล้วก็ได้พงษธัช อ่วยกลาง กับนิทรรศการ Shiny Airy Freelyล่าสุด โด่ง -พงษธัช จัดแสดงผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ นิทรรศการ Shiny Airy Freely ภาพวาดทิวทัศน์ที่ดูเหมือนลดทอนรายละเอียดชุดนี้ซ่อนความรู้สึกบางอย่างของประติมากรซึ่งงานประติมากรรมของเขาเป็นที่ยอมรับในระดับสากลภาพวาดสีน้ำมันในนิทรรศการ Shiny Airy Freely“ผมเรียนศิลปะ ต้องถามว่าแยกกันที่ไหนว่าจะเขียนรูปไม่ได้ เราเรียนศิลปะ เรารู้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพพิมพ์ ภาพวาด งานประติมากรรม งานเทคนิค อะไรก็ตามที่เราทำแล้วเป็นศิลปะ ผมเชื่อว่าเราทำได้” โด่ง พงษธัช ตอบคำถามที่ว่า ปกติทำงานประติมากรรม แต่ทำไมครั้งนี้แสดงงานภาพวาดหลังสำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ด้านศิลปกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา พงษธัช อ่วยกลาง ได้เข้าศึกษาต่อที่คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (พ.ศ.2545)ทิวทัศน์ ‘โคราช’ บ้านเกิด โด่ง - พงษธัช อ่วยกลางภาพวาดในนิทรรศการ Shiny Airy Freely เป็นการรวมภาพวาดที่พงษธัชเขียนตั้งแต่เรียน ปวช. ปี 3 จนกระทั่งเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ต่อเนื่องถึงปัจจุบันที่เปิดบริษัท Dong Dong Company Limited ในการรับงานด้านประติมากรรม“เราก็เป็นนักศึกษาศิลปะคนหนึ่งที่รู้จักโมเนต์ แวนโก๊ะ โกแกง ความเป็นอิมเพรสชั่นนิสม์กลายเป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาเรื่อยๆ แม้กระทั่งเขียนแลนด์สเคปส่งอาจารย์ วิชาทิวทัศน์ เราก็เขียนประมาณนั้น”ทิวทัศน์จากความคิดถึงบ้านภาพวาดทิวทัศน์ของ โด่ง พงษธัช มีความเป็นอิมเพรสชั่นนิสม์แบบลดทอนรายละเอียด แต่ได้บันทึกธรรมชาติ ณ ช่วงเวลานั้นตามจริง รวมทั้งอารมณ์-ความรู้สึกของเขาที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นด้วยเช่นกัน“พอผมเริ่มทำงาน มันก็เหนื่อยกับชีวิตในกรุงเทพฯ ปีใหม่กับสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุด ถ้าไม่ไปต่างประเทศ เราก็กลับบ้าน ช่วงเวลาที่เรากลับบ้าน 10-15 วัน ทำให้เราอยากมีช่วงเวลาคิดถึงบ้าน อยากมีรูปเกี่ยวกับบ้านเราไว้”บ้านที่คิดถึงของพงษธัช หมายถึง ‘บ้านเกิด’ ของเขาที่ โคราช พร้อมกับบอกว่ามุมทั้งหมดที่เขาวาดเกี่ยวกับบ้านเกิด ไม่พยายามทำให้ซับซ้อน แต่เลือกมุมวาดจากความรู้สึกที่มองไปแล้วสุขใจ เป็นอิสระ ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล“ชิ้นนี้เป็นงานที่ผมเขียนสมัยไปช่วยอาจารย์ทำสวนที่วังน้ำเขียว เกิดไฟป่า พื้นทั้งหมดถูกไฟไหม้เป็นสีดำ หญ้าคาแตกหน่อออกมามีดอกสีแดง" : โด่ง พงษธัช“ภาพวาดชุดนี้ที่เกิดขึ้น กลายเป็นสิ่งที่ผมเริ่มบันทึกประสบการณ์ บันทึกมุมหลังบ้าน ทุ่งนา เกิดการบันทึกความทรงจำของตัวเอง พร้อมกับเยียวยาตัวเองพอเราเข้าใจว่าเราทำงานศิลปะ การวาดรูปโดยมีเงื่อนไขของอะไร เราไม่มีอิสระ ผมก็พยายามไม่ทำ แค่รู้สึกอยากวาดให้เหมือนมุมที่ผมเห็น โดยไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องพยายามมาก ให้มันออกมาจากสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ เหลือแต่เงื่อนไขของความรู้สึกเรา ไม่มีเงื่อนไขของอะไรอื่นทั้งนั้นผมขับรถขึ้นไป จอดรถ เห็นมุมที่เรารู้สึกชอบ เราก็วาดขึ้นมา ขับรถเข้าไปกลางทุ่งนา มองกลับมาที่บ้านตัวเอง แล้วก็วาด แค่นั้นเลยครับ”พงษธัชกล่าวว่า ภาพวาดของเขาไม่มีนิยามเป็นงานสไตล์ใด แต่ธรรมชาติในแต่ละช่วงเวลาจะบอกเราเองว่าลักษณะภาพวาดเป็นแบบไหน“ทำไมชิ้นนี้สีเขียวๆ เพราะเป็นช่วงที่มีฝน ใบไม้สีเขียว แต่เส้น ฟอร์ม เชฟ จะไม่ชัด เส้นสายท้องฟ้าดูเบลอๆ ฉ่ำๆ เมฆมีมวลตามธรรมชาติของมันเอง ผมลดทอนรายละเอียดลง เห็นแต่ความรู้สึก เห็นสิ่งที่เรารู้สึกกับภาพตรงหน้า ณ ตอนนั้นจริงๆ เป็นสีสันของช่วงเวลานั้นจริงๆ”พงษธัช อ่วยกลาง กับภาพวาดแปลงผักที่แม่ปลูกรอลูกชายทุกสิ้นปีถ้าขอให้เลือกภาพวาดในดวงใจมาสัก 1 ภาพ พงษธัชเลือก ภาพแปลงผักแม่ โดยเล่าเรื่องราวความรักเบื้องหลังภาพวาดนี้ว่า“ถ้าแม่รู้ว่าผมจะกลับบ้านปีใหม่ แม่จะเริ่มปลูกผักไว้รอ พอกลับบ้าน ผักพวกนี้กินได้พอดี กินกับน้ำพริกปลาทู น้ำพริกหมูที่แม่ทำ ผักของแม่ไม่ใส่ปุ๋ย มีแต่รดน้ำ ถ้ากินไม่ทัน แม่ก็ปล่อยให้ผักแก่แล้วเก็บเมล็ดไว้ ปีหน้าก็ปลูกใหม่ ภาพวาดมุมนี้ผมรู้สึกอยากเก็บแปลงผักแม่ไว้ในความทรงจำ ก็เขียนเลย เห็นอย่างไรก็เขียนอย่างนั้น ไม่ต้องหามุมหาองค์ประกอบให้ดูสวย”พงษธัชกล่าวด้วยว่า เขานำภาพวาดบ้านเกิดกลับมาแขวนไว้ที่ออฟฟิศในกรุงเทพฯ เพื่อเยียวยาจิตใจในวันที่รู้สึกเหนื่อยกับชีวิต“เวลาอยู่ในออฟฟิศ ผมจะนั่งดูมัน วันหนึ่งเราเหนื่อย เราคิดถึงบ้าน พลังลดลง เราก็จะวาร์ปเข้าไปในช่วงเวลาขณะที่เราเขียนรูปนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีกติกา เป็นอิสระ ไม่มีอะไรกดดัน ความรู้สึกดีๆ ก็กลับมาใหม่”ภาพวาดแปลงผักที่แม่ปลูกรอลูกชายทุกสิ้นปีแฟชั่น แกลเลอรี่ ชั้น1 สยามพารากอนสุธี คุณาวิชยานนท์ กล่าวเปิดนิทรรศการฯ ให้ พงษธัช อ่วยกลางด้วยเหตุนี้ นิทรรศการจึงใช้ชื่อว่า Shiny (สีสันที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา) Airy (สายลมที่สร้างบรรยากาศให้ทิวทัศน์ และอารมณ์ที่ไหลเวียนขณะเขียนภาพ) Freely (ตัวแทนอิสระในการมองเห็นและการแสดงออก)Shiny Airy Freely นิทรรศการภาพวาดแสดงเดี่ยวโดยประติมากร โด่ง - พงษธัช อ่วยกลาง จำนวน 31 ชิ้น จัดแสดงที่ แฟชั่น แกลเลอรี่ ชั้น1 สยามพารากอน 3-31 มี.ค.2568 ภายในงานเปิดโอกาสให้ผู้สนใจและนักสะสมเป็นเจ้าของภาพวาดไปร่วมชมภาพวาดที่เต็มไปด้วยความสุขและเป็นอิสระแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับบกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1172381
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
19/05/2025
“จุดชมวิวเสม็ดนางชี” หรือที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ ว่า “เสม็ดนางชี” ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา ที่นี่เป็นจุดชมวิวและจุดเช็กอินต้องห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ล่องใต้ไปเที่ยวพังงาในปัจจุบันคำว่า “เสม็ดนางชี” มาจากเดิมบริเวณนี้เรียกว่าบ้าน “เหม็ดนางชี” ซึ่งมาจากตำนานเรื่องเล่า ว่า ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้ มีพระภิกษุชรารูปหนึ่งอาศัยอยู่ที่ “เขาพระอาดเฒ่า” และพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง อาศัยอยู่ที่ “เขาพระอาดหนุ่ม” โดยมีแม่ชีอาศัยอยู่ที่ใกล้ ๆ กับบริเวณจุดชมวิวแห่งนี้ ซึ่งมักจะเดินไปมาหาสู่กัน แต่จะต้องเดินผ่านลำคลองที่กั้นขวางในบริเวณนี้ทิวทัศน์บริเวณเสม็ดนางชี (ภาพ : ททท.)เมื่อแม่ชีเดินผ่านในลำคลองจะต้องพับชายผ้าขึ้นหรือถลกชายผ้าขึ้น ซึ่งภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “เหม็ดผ้า” ขึ้น เพื่อให้พ้นจากระดับน้ำ ไม่เช่นนั้นชายผ้าก็จะเปียกหมด นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า “เหม็ดนางชี” และเพี้ยนมาเป็น “เสม็ดนางชี” ดังในปัจจุบันส่วนเขาพระอาดนั้นมาจากพระภิกษุเมื่อเห็นแม่ชีถลกผ้าข้ามคลองแล้วมีอาการกำหนัด ซึ่งภาษาถิ่นเรียกว่า “อาด” จึงเป็นที่มาของ "เขาพระอาด" ด้วยเช่นกัน“บียอนด์ สกายวอล์ก” แห่งเสม็ดนางชี สกายวอล์กริมทะเลสูง-ยาวที่สุดในเมืองไทย (ภาพ : อโนทัย งานดี)เสม็ดนางชี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านท่าหินร่ม ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา จุดชมวิวแห่งนี้ได้แจ้งเกิดเป็นที่รู้จักตั้งแต่เมื่อราวปี พ.ศ. 2559หลังจากนั้นเสม็ดนางชีก็ได้รับความนิยมโด่งดังกลายเป็นจุดชมวิวยอดฮิตของจังหวัดพังงา ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากที่นี่สามารถชมวิวทิวทัศน์อันสุดอเมซิ่งของอ่าวพังงาได้แบบพาโนรามา 180 องศา โดยมีป่าเกาะเป็นภูเขาหินปูนน้อย-ใหญ่ หลากหลายรูปแบบ ตั้งตระหง่านเรียงรายในน้ำทะเลริมชายฝั่งอย่างสวยงามกว้างไกล ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี“บียอนด์ สกายวอล์ก” แห่งเสม็ดนางชี สกายวอล์กริมทะเลสูง-ยาวที่สุดในเมืองไทย (ภาพ : อโนทัย งานดี)ปัจจุบันเสม็ดนางชีนอกจากจะเป็นจุดชมวิวและจุดเช็กอินสำคัญสำหรับผู้ที่ล่องใต้ไปเที่ยวพังงาแล้ว บริเวณนี้ยังมีที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ ๆ รวมไปถึงไฮไลต์จุดใหม่คือ “บียอนด์ สกายวอล์ก” ของ “บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี” รีสอร์ตหรูบริเวณเสม็ดนางชี แห่งเครือ “กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย”“บียอนด์ สกายวอล์ก” แห่งเสม็ดนางชี เป็นสะพานทางเดินชมวิวพื้นกระจกใสลอยฟ้าริมทะเลที่สูงที่สุดและยาวที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2566“บียอนด์ สกายวอล์ก” แห่งเสม็ดนางชี สกายวอล์กริมทะเลสูง-ยาวที่สุดในเมืองไทย (ภาพ : อโนทัย งานดี)สะพานทางเดินกระจกแห่งนี้ สูงจากระดับน้ำทะเล 80 เมตร มีความยาว 180 เมตร เป็นพื้นกระจกสามชั้นหนา 30 มิลลิเมตร สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 500 กิโลกรัมต่อตารางเมตร รองรับนักท่องเที่ยวได้สูงสุด 1,500 คนต่อรอบบียอนด์ สกายวอล์ก เป็นไฮไลต์ไม่ควรพลาดแห่งใหม่ของจังหวัดพังงาควบคู่ไปกับจุดชมวิวเสม็ดนางชี ซึ่งนักท่องเที่ยวนอกจากจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์หลักล้านอันงดงามของอ่าวพังงาแล้ว ยังได้ร่วมสนุกตื่นเต้นยามเมื่อเดินชมวิวอยู่บนสะพานชมวิวพื้นกระจกใสแห่งนี้อีกด้วยนายกฤษณกร เงินเปียนายกฤษณกร เงินเปีย ผู้จัดการทั่วไป บียอนด์ สกายวอล์ก นางชี กล่าวว่า ที่นี่มีห้องพักจำนวน 58 ห้อง หลากหลายแบบ มีทั้ง เต็นท์วิวทะเล (Seaview Tent), เต็นท์กลางป่า (Forest Tent) ที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบกับวิวพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลแบบพาโนราม่าหรือขุนเขาเขียวขจี, พาวิลเลี่ยนวิวทะเล (Seaview Pavilion) ห้องพักขนาด 30-31 ตารางเมตรตั้งอยู่ในอาคาร 2 ชั้นนอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ความหรูหราเหนือระดับที่มองเห็นความงดงามของวิวทิวทัศน์เสม็ดนางชีอย่างชัดเจน ในที่พักแบบ วิลล่า (Villa) และ พูลวิลล่า (Pool Villa)“บียอนด์ สกายวอล์ก” แห่งเสม็ดนางชี สกายวอล์กริมทะเลสูง-ยาวที่สุดในเมืองไทย (ภาพ : อโนทัย งานดี)รวมถึงมีห้องอาหารรับตะวันและห้องอาหาร Horizon และกานดาคาเฟ่ ในส่วนของราคาค่าบริการเที่ยวชมสกายวอล์ก ตั๋วราคา 700 บาทต่อคน ซึ่งสามารถนำเครดิต 200 บาทมารับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ได้ หรือนำไปเป็นส่วนลดในร้านอาหารและคาเฟ่ได้อีกด้วยแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000027630
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
สกู๊ปพืช
19/05/2025
รวมสายพันธุ์ต้นไม้ที่มีคำว่า “พฤกษ์” ต้นไม้มงคล ความหมายดี เสริมโชคลาภและการงาน เหมาะปลูกจัดสวนประดับบ้าน อยากรู้ว่ามีต้นไหนน่าปลูกบ้าง มาดูกันใครกำลังมองหาต้นไม้มงคลที่ลงท้ายด้วย “พฤกษ์” เพื่อมาปลูกจัดสวน วันนี้เรารวมต้นไม้ที่มีคำว่าพฤกษ์มาฝาก เชื่อกันว่าเป็นต้นไม้มงคล ช่วยเสริมด้านชื่อเสียง โชคลาภ หน้าที่การงาน มาดูกันว่ามีต้นไหนน่าสนใจบ้าง1. ราชพฤกษ์ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน (Golden Shower) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula L. เป็นต้นไม้ประจำชาติไทย และยังเป็นไม้มงคลที่นำมาใช้ประกอบพิธีตั้งเสาหลักเมือง ในปัจจุบันก็ยังคงใช้ในพิธีลงเสาเอกบ้านอีกด้วย อีกทั้งยังถือเป็นต้นไม้ยืนต้นมงคล ปลูกไว้เสริมยศบารมี หรือหากนำไปปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน ยังช่วยให้คนในครอบครัวมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นเท่าทวีคูนตามชื่อของต้นด้วย ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 5-15 เมตร ใบมีสีเขียวเป็นมัน ออกดอกเป็นพวงยาวระย้าลงมาจากกิ่ง โดยจะบานสะพรั่งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน นิยมปลูกและขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยให้เลือกเมล็ดจากฝักแก่ ๆ แล้วนำไปปลูกลงดินได้ทุกชนิด ชอบน้ำน้อย แต่ต้องการแสงแดดจัด ๆ2. กัลปพฤกษ์กัลปพฤกษ์ (Pink Shower) ต้นไม้ที่ได้รับฉายาว่าซากุระเมืองไทย จัดเป็นไม้มงคลแห่งความสำเร็จ ในอดีตเชื่อว่าเป็นไม้สารพัดนึก หากใครไปยืนอธิษฐานใต้ต้นกัลปพฤกษ์จะช่วยให้สมปรารถนา ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ มีความสูงประมาณ 5-15 เมตร ใบออกเป็นแผง มีลักษณะบางเรียบ ปลายแหลม ส่วนดอกสีชมพูออกเป็นช่อตามกิ่งก้าน มีกลิ่นค่อนข้างหอม มักออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ผลเป็นฝักกลมยาว ซึ่งมีเมล็ดอยู่ด้านใน นิยมปลูกและขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ควรปลูกในดินร่วนซุยหรือดินปนทราย ชอบแสงแดดจัด ต้องการน้ำน้อยถึงปานกลาง รดน้ำประมาณ 7-10 วันต่อครั้ง และควรปลูกให้ห่างจากบริเวณบ้าน เนื่องจากมีการแตกกิ่งก้านแผ่กว้าง3. กาฬพฤกษ์ภาพจาก : Angela_Macario / shutterstock.comกาฬพฤกษ์ (Horse Cassia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia grandis L.f. เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ถือเป็นต้นไม้ยืนต้นมงคล หากปลูกในบ้านจะช่วยให้เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ มีความสูงประมาณ 20 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มหรือแผ่กว้าง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใต้ท้องใบมีขนอ่อน ๆ ดอกมีลักษณะคล้ายดอกต้นเชอร์รี มี 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปไข่กลับถึงค่อนข้างกลม ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง เมื่อเริ่มบานจะมีสีแดงคล้ำ แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม มีกลิ่นหอม จะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดหรือการตอนกิ่ง ชอบแสงแดด ควรปลูกในดินร่วน ชอบน้ำปานกลาง ทนแล้งได้ดี ควรปลูกห่างจากบริเวณตัวบ้านประมาณ 8 เมตร ไม่ควรปลูกแถวลานจอดรถ เพราะฝักมีขนาดใหญ่อาจสร้างความเสียหาย4. รัตนพฤกษ์ต้นรัตนพฤกษ์ (Rainbow Shower) หรือ ต้นคูนสายรุ้ง เป็นลูกผสมที่มีลักษณะและสีคล้ายทั้งราชพฤกษ์ (ดอกสีเหลือง) กัลปพฤกษ์ (ดอกสีชมพู) และกาฬพฤกษ์ (ดอกสีชมพูอมส้ม) จึงเป็นที่มาของชื่อ รัตน ที่แปลว่าสามนั่นเอง ถือเป็นต้นไม้ยืนต้นมงคล หากปลูกในบ้านจะช่วยให้มีความเจริญก้าวหน้าในทุกด้านลักษณะเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ มีความสูงประมาณ 10 เมตร ใบด่างสีเขียวสลับเหลือง ไม่ค่อยติดฝัก ดอกเป็นรูปรีแกมไข่ มี 5 กลีบ ดอกสีเหลืองแกมชมพูออกเป็นช่อใหญ่ตามซอกใบและปลายกิ่ง ช่อเป็นพวงห้อยลง จะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดตลอดวัน รดน้ำเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ5. วชิรพฤกษ์ต้นวชิรพฤกษ์ หรือ คูนขาว (White Shower) เป็นต้นไม้ยืนต้นมงคล หากปลูกในบ้านจะช่วยเสริมโชคลาภ มีความมั่งคั่งร่ำรวยลักษณะเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ เป็นลูกผสมระหว่างต้นราชพฤกษ์กับต้นกัลปพฤกษ์ มีความสูงประมาณ 10 เมตร ใบสีเขียวเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ใบย่อย 3-8 คู่ รูปไข่ปลายแหลม ดอกเป็นรูปรีแกมรูปไข่หรือรูปไข่กลับ กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อออกใหม่เป็นสีเหลืองอ่อนแล้วจึงเปลี่ยนเป็นสีขาว มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นดอกบัวหลวง จะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ทาบกิ่ง หรือตอนกิ่ง ควรปลูกในดินร่วยซุย พื้นที่ที่มีแสงแดดจัดตลอดวัน ต้องการน้ำน้อยถึงปานกลางหากใครสนใจอยากจะปลูกต้นไม้ที่มีคำว่าพฤกษ์สักต้น ลองนำไปพิจารณากันดูนะคะ ดูแลรักษาง่าย ความหมายดี เสริมมงคลแก่ผู้ปลูกรวมถึงคนในบ้านด้วยขอบคุณข้อมูลจาก : royalparkrajapruek.org, library.wu.ac.th, forprod.forest.go.th, redcross.or.th และ agri.kps.ku.ac.thแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ กระปุก.คอม https://home.kapook.com/view289822.html
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
19/05/2025
“ซากุระที่บานเร็ว” มาแล้ว! นักท่องเที่ยวแห่ชมแน่นสวนอูเอโนะ ในกรุงโตเกียว ก่อนที่ซากุระจะบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมนักท่องเที่ยวแห่ชม “ซากุระที่บานเร็ว” หรือที่เรียกว่า “Ookanzakura” ในสวนสวนอูเอโนะ สวนสาธารณะ ในกรุงโตเกียว โดยซากุระจะบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมตามข้อมูลพยากรณ์ซากุระประจำปี 2025 ครั้งที่ 8 ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ที่เพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ระบุว่า ซากุระทั่วญี่ปุ่นจะบานในช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ๆ แต่อาจจะต้องระวังสภาพอากาศ ที่สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อการบานของซากุระ อย่างเช่นในปี 2023 อุณหภูมิที่เย็นลงในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้ซากุระบานช้ากว่าปกติสองสามสัปดาห์ซากุระที่สวนอูเอโนะ ในกรุงโตเกียว เริ่มบานแล้วเครดิตภาพ:REUTERS/Issei Katoสำหรับโตเกียว คาดว่าดอกซากุระจะเริ่มบานช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ไม่กี่วัน โดยกำหนดวันที่ออกดอกคือวันที่ 26 มีนาคม และอาจบานเต็มที่ในวันที่ 2 เมษายน ขณะที่ในเกียวโต คาดว่าดอกซากุระจะบานในวันที่ 30 มีนาคม และบานเต็มที่ในวันที่ 7 เมษายนส่วนโอซาก้า คาดว่าดอกซากุระจะบานในวันที่ 30 มีนาคม และบานเต็มที่ในวันที่ 6 เมษายนเช่นกันนักท่องเที่ยวออกมาชมดอกซากุระที่สวนอูเอโนะ ในกรุงโตเกียวเครดิตภาพ:REUTERS/Issei Katoทางด้านซัปโปโร ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศจะเป็นเมืองสุดท้ายที่ดอกซากุระจะบาน โดยกำหนดวันที่ออกดอกคือวันที่ 27 เมษายน และบานเต็มที่ในวันที่ 1 พฤษภาคมอย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะอัปเดตข้อมูลการพยากรณ์ซากุระอีกครั้งในวันที่ 21 มีนาคมที่มา: Time Outนักท่องเที่ยวออกมาชมดอกซากุระที่สวนอูเอโนะ ในกรุงโตเกียวเครดิตภาพ:REUTERS/Issei Katoแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1171060
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
15/05/2025
บุคคลในภาพ: นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (กลาง) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภิมุข สิมะโรจน์ (ที่ 9 จากขวา) เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.เกศี จันทราประภาวัฒน์ (ที่ 10 จากขวา) ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางพรพัน วัฒนสินธุ์ (ที่ 8 จากขวา) ผู้อำนวยการเขตบางรัก คณะผู้บริหารเขตบางรัก พร้อมด้วยผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย โดยนางศรัณยา เทียนถาวร (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล นางสาวชลิดา นครชัย (ที่ 10 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด นางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ (ที่ 6 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ และคณะผู้บริหาร เอไอเอ ประเทศไทยกรุงเทพฯ, 15 พฤษภาคม 2568 - เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางศรัณยา เทียนถาวร (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล นางสาวชลิดา นครชัย (ที่ 10 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และ นางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ (ที่ 6 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ พร้อมคณะผู้บริหาร ให้เกียรติต้อนรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภิมุข สิมะโรจน์ (ที่ 9 จากขวา) เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.เกศี จันทราประภาวัฒน์ (ที่ 10 จากขวา) ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางพรพัน วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก พร้อมคณะ ในงานเปิดตัว “AIA x BKK Food Bank” โครงการความร่วมมือระหว่างเอไอเอ ประเทศไทย และ กรุงเทพมหานคร ร่วมด้วยเขตบางรัก เพื่อแบ่งปันและแจกจ่ายอาหารแห้งและของใช้จำเป็นให้แก่กลุ่มผู้เปราะบาง โดยตั้งจุดรับบริจาคผ่านรถ Goodie Foodie Truck ณ อาคารเอไอเอ สำนักงานใหญ่ เขตบางรัก ด้วยเป้าหมายในการช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และลดปริมาณขยะอาหารที่ก่อให้เกิดมลภาวะอันเป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ESG ของเอไอเอ ซึ่งโครงการ AIA x BKK Food Bank นับเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ AIA One Billion ที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนในเอเชียแปซิฟิกมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา 'Healthier, Longer, Better Lives'ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย พร้อมต่อยอดและเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ลดปัญหาอาหารล้นซึ่งอาจกลายเป็นขยะ ในขณะเดียวกันยังต้องการมีส่วนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้สามารถเข้าถึงสิ่งดำรงชีพขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมและสร้างสังคมที่ยั่งยืน โดยตลอดทั้งปีนี้ เอไอเอ ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์และสร้างการตระหนักรู้เรื่องการลดปัญหาขยะอาหารอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “AIA Food Fighters” เชิญชวนให้พนักงานเอไอเอร่วมแบ่งปันอาหารที่รับประทานไม่หมดให้เพื่อนพนักงานด้วยกัน และล่าสุดกับแคมเปญ “Yellow Label I Love” ด้วยความร่วมมือจากร้านอาหารและแบรนด์ชั้นนำกว่า 20 แห่ง มอบความอร่อยจากสินค้าป้ายเหลืองในราคาคุ้มค่า ให้ทุกคนสามารถร่วมช่วยกันรักษ์โลกได้แบบง่าย ๆ และมีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมน่าอยู่อีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
14/05/2025
กรุงเทพฯ 14 พฤษภาคม 2568 – เอไอเอ ประเทศไทย จับมือ ฟันเตอร์เทนเมนท์ จัดการแข่งขันวิ่งมินิมาราธอนในชื่อ Snoopy Run Thailand 2025 Presented by AIA Vitality ครั้งแรกในประเทศไทย ณ ชายหาดปากน้ำปราน อ.ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เอาใจแฟนคลับสนูปปี้ แอนด์ เดอะ แก๊งค์ คาแรคเตอร์ขวัญใจคนไทย พร้อมร่วมฉลองในโอกาสครบรอบ 75 ปีตัวการ์ตูนสนูปปี้ รวมถึงเปิดให้แฟนคลับชาวไทยร่วมสนุกกับกิจกรรม Fun Run วิ่งกับน้องหมาแสนรัก ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร โดยเอไอเอ ประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมส่งเสริมให้คนไทยได้เริ่มต้นดูแลสุขภาพ และสนุกไปกับครอบครัว รวมถึงสัตว์เลี้ยงคู่ใจ ให้ทุกคนได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นในแบบที่เป็นตัวเอง ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives’นางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามของ เอไอเอ ประเทศไทย เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของงาน Snoopy Run Thailand 2025 Presented By AIA Vitality ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าตามพันธกิจ AIA One Billion ที่เอไอเอ ต้องการสนับสนุนผู้คนกว่าพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ เพราะเราเชื่อมั่นว่าการมีสุขภาพที่ดีคือกุญแจสำคัญสู่การมีชีวิตที่ยืนยาว เอไอเอจึงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของคนไทยอย่างยั่งยืนผ่านโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) ซึ่งเป็นโครงการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ด้วยจำนวนสมาชิกกว่า 800,000 ราย* โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เรามีการพัฒนาโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสมาชิกเฉพาะบุคคล (Personalization) มากขึ้น ทั้งในด้านสิทธิประโยชน์และกิจกรรมเพื่อให้สมาชิกได้สนุกกับการดูแลสุขภาพ รวมถึงการออกกำลังกายในแบบของแต่ละคน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด ‘Rethink Healthy ปรับความคิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น’ ที่เอไอเอต้องการส่งเสริมให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในแบบของตัวเอง โดยเริ่มจากการขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน อย่างการออกมาวิ่งกับตัวการ์ตูน Snoopy ในดวงใจไปกับลูกหลาน หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะทำให้การออกกำลังเป็นเรื่องสนุกและไม่ไกลตัวจนเกินไป เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”นายฤทธิชัย สายสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟันเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ได้รับลิขสิทธิ์จาก Peanuts Worldwide LLC และ Wild Brain CPLG ในฐานะผู้ดำเนินงานโครงการจัดการแขงขันวิ่งมินิมาราธอน Snoopy Run Thailand 2025-2027 เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้ร่วมกับเอไอเอ ประเทศไทย จัดการแข่งขันวิ่งมินิมาราธอน Snoopy Run Thailand 2025 Presented by AIA Vitality ครั้งแรกในประเทศไทย ณ ชายหาดปากน้ำปราน อ.ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเอาใจแฟนคลับสนูปปี้ แอนด์ เดอะ แก๊งค์ คาแรคเตอร์ขวัญใจคนไทย รวมทั้งเป็นการร่วมฉลองในโอกาสครบรอบ 75 ปีตัวการ์ตูน Snoopy และสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการวิ่งของประเทศไทย“Snoopy Run เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว และมีจัดในหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย สำหรับในประเทศไทยคาดว่ามีแฟนคลับทั่วประเทศประมาณ 300,000-500,000 คน เราจึงคิดว่าถ้าจะทำอะไรให้คนที่รักสนูปปี้ก็น่าจะต้องเป็น Snoopy Run ซึ่งเราได้ศึกษาข้อมูลจากประเทศอื่น ๆ หลายประเทศ เพื่อนำสิ่งที่ยังไม่ได้ทำในต่างประเทศมาทำในประเทศไทย เพื่อทำให้รูปแบบการจัดของเรามีความแตกต่าง ตรงใจแฟนคลับ และมีสีสันมากยิ่งขึ้น“สำหรับสนามแรกคือ ถนนเลียบชายหาดปากน้ำปราน อ.ปราณบุรี นั้นถือเป็นที่ที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลกในเวลานี้รองจากบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับรวมร่วมมือจาก อบต.ปากน้ำปราณ และนายกเทศบาลปากน้ำปราณ และทางตำรวจที่จะมาดูแลกิจกรรมการวิ่ง นอกจากนี้ในวันงานผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็จะมาร่วมวิ่งด้วย ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการเริ่มสนามแรก ซึ่งเราคาดว่าจะมีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 1,000 คน” นายฤทธิชัยกล่าว สำหรับ Snoopy Run Thailand 2025 Presented by AIA Vitality มีแผนจัดใหญ่จำนวน 5 ครั้ง 5 สนาม แบ่งเป็น Physical Run จำนวน 3 สนาม ได้แก่ 1) Snoopy Run 2025 Paknampran Beach Park ณ ชายหาดปากน้ำปราน อ.ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ หรือ Snoopy Run Hua Hin วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 2) Snoopy Run Bangkok 2025 วันที่ 30 สิงหาคม 2568 ณ กรุงเทพฯ และ 3) Snoopy Run Kao Yai 2025 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของงาน AOB Day 2025 และ Virtual Run 2 สนาม ได้แก่ 1) Snoopy Virtual Run 2025 part1 เดือนกรกฎาคม 2568 และ 2) Snoopy Virtual Run 2025 part2 เดือนตุลาคม 2568โดย Snoopy Run 2025 Paknampran Beach Park หรือ Snoopy Run Hua Hin ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ ได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย Snoopy Fun Run (Pet Run) วิ่งกับน้องหมาแสนรัก ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร Snoopy Fun Run ระยะทาง 3 กิโลเมตร และประเภท Snoopy 75th anniversary (75 Years of peanuts) ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร ไม่เพียงเท่านี้นักวิ่งยังจะรับของที่ระลึกสำหรับ Snoopy Run 2025 ซึ่งเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น โดยแต่ละสนามเหรียญรางวัลจะแตกต่างไม่ซ้ำกัน ที่สำคัญตลอดระยะทางการแข่งขันทุกคนจะได้สัมผัสกับ Snoopy ตลอดเส้นทางด้วยหมายเหตุ:*ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2568
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
14/05/2025
กรุงเทพฯ, 7 พฤษภาคม 2568 - เอไอเอ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งที่ลูกค้าทั่วประเทศกว่า 5 ล้านรายไว้วางใจ ปักธงดูแลลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth) ให้ครอบคลุมและครบวงจรยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวเอกสิทธิ์ใหม่สำหรับลูกค้า AIA Prestige Club กับบริการ “Legal Advisory” ที่จะมอบคำปรึกษาเบื้องต้นแก่ลูกค้า เพื่อช่วยบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างรอบด้านจากพันธมิตรของเอไอเอ โดยมาพร้อมภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุด ที่บอกเล่าถึงเอกสิทธิ์เหนือระดับที่ลูกค้าจะได้รับจากบริการ Legal Advisory ช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้า ให้สามารถบริหารทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการส่งต่อสู่ทายาทได้อย่างมั่นคงและราบรื่น อีกทั้งยังช่วยให้ทรัพย์สินที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ถูกต่อยอดความสำเร็จไปได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจของเอไอเอ ที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพการเงินที่แข็งแรงขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’นางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันลูกค้าที่อยู่ในโครงการ AIA Prestige Club มีจำนวนกว่า 100,000 ราย[1] และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอไอเอ ได้มีการออกแบบเอกสิทธิ์ในด้านต่าง ๆ ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ค่อนข้างครอบคลุม ทั้งในด้านสุขภาพ ด้านการเดินทางท่องเที่ยว ด้านไลฟ์สไตล์ และด้านบริการพิเศษอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และได้รับประสบการณ์เหนือระดับในทุกช่วงของชีวิต อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่ผ่านมา ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเรียกว่า ธุรกิจกงสี ซึ่งมีเพียงร้อยละ 13 ของธุรกิจกงสีเท่านั้น[2] ที่อยู่รอดอย่างมั่นคงไปจนถึงรุ่นที่ 3 นี่ถือเป็น Pain point หรือปัญหาหลักของการดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืน เอไอเอ จึงเล็งเห็นถึงปัญหา และอยากมีส่วนช่วยสนับสนุนลูกค้ากลุ่มนี้ให้เริ่มต้นวางแผนบริหารทรัพย์สินอย่างถูกต้อง โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านกฎหมายและภาษีชั้นนำของประเทศ ในการมอบบริการ Legal Advisory ให้แก่ลูกค้า เพื่อเข้ารับคำปรึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพย์สิน รวมถึงคำแนะนำด้านการจัดทำพินัยกรรม สำหรับการส่งต่อทรัพย์สินและธุรกิจไปสู่ทายาทได้อย่างมั่นคง ยั่งยืนและช่วยลดความขัดแย้งภายในครอบครัว“นอกจากนี้ เอไอเอ ยังได้สร้างภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่นี้ขึ้นมา ซึ่งมีแนวคิดมาจาก Pain point ที่เราเจอ เพื่อช่วยให้ทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไม่ได้เตรียมความพร้อมในการจัดการทรัพย์สิน ตลอดจนทำให้เข้าใจถึงความสำคัญของการวางแผนบริหารทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการจัดการด้านภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อให้ลูกค้าของเราคลายความกังวลเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องดำเนินการส่งต่อทรัพย์สินที่ได้สร้างมาไปสู่ลูกหลาน โดยเราเชื่อมั่นว่าบริการ Legal Advisory จะเป็นอีกหนึ่งบริการที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังจะสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับไปอีกขั้นให้กับลูกค้า AIA Prestige Club ของเรา”สำหรับลูกค้าที่สนใจใช้บริการ Legal Advisory ภายใต้โครงการ AIA Prestige Club สามารถรับเอกสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน AIA+ หรือหากต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ AIA Prestige Club สามารถดูข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ aia.co.th และติดตามภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่นี้ได้ทางสื่อออนไลน์ของเอไอเอ ประเทศไทย ทุกช่องทาง หรือคลิก https://youtu.be/zHL3MeDQpeo เพื่อรับชมโฆษณาหมายเหตุ:[1] ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2567[2] แหล่งข้อมูลจาก Harvard Business Review บทความเรื่อง Do Most Family Businesses Really Fail by the Third Generation? by Josh Baron and Rob Lachenauer • การให้คำปรึกษาเป็นเพียงการให้คำปรึกษาเบื้องต้นเท่านั้น ไม่มีผลทางกฏหมาย • เอกสิทธิ์นี้เป็นการบริการจากพันธมิตร เอไอเอจะไม่รับผิดชอบต่อการบริการ ผลิตภัณฑ์ หรือข้อเสนอใด ๆ ที่นำเสนอโดยพันธมิตรผู้ให้บริการ • รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่เอไอเอกำหนด ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมในแอปพลิเคชัน AIA+ • ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก แก้ไข รายละเอียดหรือเงื่อนไขต่าง ๆ โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านช่องทางสื่อสารของบริษัทนางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันลูกค้าที่อยู่ในโครงการ AIA Prestige Club มีจำนวนกว่า 100,000 ราย[1] และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอไอเอ ได้มีการออกแบบเอกสิทธิ์ในด้านต่าง ๆ ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ค่อนข้างครอบคลุม ทั้งในด้านสุขภาพ ด้านการเดินทางท่องเที่ยว ด้านไลฟ์สไตล์ และด้านบริการพิเศษอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และได้รับประสบการณ์เหนือระดับในทุกช่วงของชีวิต อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่ผ่านมา ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเรียกว่า ธุรกิจกงสี ซึ่งมีเพียงร้อยละ 13 ของธุรกิจกงสีเท่านั้น[2] ที่อยู่รอดอย่างมั่นคงไปจนถึงรุ่นที่ 3 นี่ถือเป็น Pain point หรือปัญหาหลักของการดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืน เอไอเอ จึงเล็งเห็นถึงปัญหา และอยากมีส่วนช่วยสนับสนุนลูกค้ากลุ่มนี้ให้เริ่มต้นวางแผนบริหารทรัพย์สินอย่างถูกต้อง โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านกฎหมายและภาษีชั้นนำของประเทศ ในการมอบบริการ Legal Advisory ให้แก่ลูกค้า เพื่อเข้ารับคำปรึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพย์สิน รวมถึงคำแนะนำด้านการจัดทำพินัยกรรม สำหรับการส่งต่อทรัพย์สินและธุรกิจไปสู่ทายาทได้อย่างมั่นคง ยั่งยืนและช่วยลดความขัดแย้งภายในครอบครัว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
14/05/2025
เอไอเอ ประเทศไทย จัดงาน AIA Annual Agency Awards Presentation 2024 เพื่อมอบรางวัลเกียรติยศให้แก่ผู้บริหารหน่วยและตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอที่มีผลงานยอดเยี่ยมเป็น “ที่สุดแห่งปี 2567” หรือ “Of the Year 2024” รวมถึงยังได้มีการมอบคุณวุฒิต่าง ๆ เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ตัวแทน โดยในปีนี้มีผู้บริหารหน่วยและตัวแทนเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 4,000 ท่าน นอกจากนี้ ผู้พิชิตคุณวุฒิ MDRT 2024 มีจำนวนมากถึง 3,535 ท่าน ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้เอไอเอ สามารถรักษาแชมป์อันดับ 1 บริษัทที่มีจำนวน MDRT มากที่สุดในประเทศไทยและระดับโลก สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ความสามารถ และความมุ่งมั่นของพลังตัวแทนเอไอเอ ประเทศไทย ที่ต้องการส่งมอบความคุ้มครองและความมั่นคงทางด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางการเงินให้แก่คนไทยทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา 'Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ในงาน AIA Annual Agency Awards Presentation 2024 ได้รับเกียรติจาก คุณวสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานในพิธี พร้อมขึ้นกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้บริหารหน่วยและพลังตัวแทนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก คุณหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ ที่ได้ร่วมส่งข้อความแสดงความยินดีและยกย่องถึงความสามารถของพลังตัวแทนทุกท่าน นอกจากนี้ คณะผู้บริหารจากกลุ่มบริษัทเอไอเอ และเอไอเอ ประเทศไทย นำโดย คุณตัน ฮาค เลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาค ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี กรรมการอิสระ กลุ่มบริษัทเอไอเอ และประธานที่ปรึกษากรรมการ เอไอเอ ประเทศไทย คุณไช เวย บิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต กลุ่มบริษัทเอไอเอ คุณนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย คุณอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย และคุณประกิตติ บุณยเกียรติ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย ยังได้ขึ้นกล่าวยินดีและร่วมมอบรางวัล “Of the Year 2024” แก่ผู้บริหารหน่วยและพลังตัวแทน ทั้งนี้ งาน AIA Annual Agency Awards Presentation 2024 ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้แก่พลังตัวแทนเอไอเอ ประเทศไทย ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชัน ฮอลล์ 5-7 เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาสำหรับตัวแทนผู้พิชิตคุณวุฒิซึ่งได้รับตำแหน่ง “ที่สุดแห่งปี 2567” หรือ “Top Of the Year 2024” ทั้งสิ้น 9 ท่าน ได้แก่ • Top District Manager Up of the Year 2024 – นพ. โสภณ นันทาภรณ์ศักดิ์ ผู้จัดการภาค ทริปเปิ้ล เอ • Top Unit Manager Up (Direct Team & IO1) of the Year - คุณศิวพงษ์ สุขใส ผู้จัดการภาคอาวุโส เพชรอันดามัน 97 • Top Unit Manager of the Year - คุณสิทธิชัย กัลยาศิริ ผู้จัดการหน่วย นำทอง 1199 • Top New Unit Manager of the Year 2024 – คุณอิทธิพร วิเศษวงศ์ ผู้จัดการภาค เพชรอันดามัน 107 • Top Assistant Unit Manager of the Year 2024 – คุณเกียรติศักดิ์ มีศรี ผู้จัดการหน่วย เพชรอันดามัน 108 • Top New Assistant Unit Manager of the Year 2024 – คุณนภาพร ผิวสลับ ผู้จัดการหน่วย เพชรอันดามัน 118 • Top Agent of the Year 2024 - คุณเพชรรัตน์ รงค์บัญฑิต หน่วย เนอวานา • Top Agent (Cases) of the Year 2024 - คุณสุดารัตน์ ปิยขจรโรจน์ หน่วย แม็กซ์เวลท์ 1 • Top Agency Leader (Individual) Of the Year 2024 - คุณสุพร มณีหยก ผู้จัดการภาคอาวุโส เวลธ์พาทธ์ 2คุณนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามของเอไอเอ ประเทศไทย ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับสุดยอดพลังตัวแทนทั้ง 4,000 ท่าน ที่สามารถพิชิตรางวัลไปได้ในปีนี้ ความมุ่งมั่นตั้งใจที่ได้แสดงให้เห็นตลอดปีที่ผ่านมา นำมาซึ่งความสำเร็จที่ได้รับในวันนี้ ทุกท่านเปรียบเสมือนฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ความสำเร็จ ทั้งในด้านการเติบโต และด้านการสร้างตัวแทนใหม่ พร้อมทั้งเป็นพลังขับเคลื่อนให้เอไอเอ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในปี 2567 ที่ผ่านมา ในปีนี้เรายังมีเป้าหมายร่วมกัน คือสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนมุ่งสร้างตัวแทนใหม่ที่มีคุณภาพ เพื่อร่วมกันส่งต่อคุณค่าและความมั่นคงทางด้านชีวิต สุขภาพ และการเงินให้แก่ลูกค้าของเรา ตามพันธกิจของเอไอเอ ที่ต้องการสนับสนุนผู้คนกว่าพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ที่สำคัญผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาพแห่งความสำเร็จในวันนี้ จะส่งต่อแรงบันดาลใจไปสู่พลังตัวแทนเอไอเอ ประเทศไทย ทั้งหมดกว่า 55,000 คน ซึ่งเราเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ให้ยังคงรักษาความเป็นที่หนึ่ง และพร้อมเดินหน้าส่งมอบความคุ้มครองผ่านการวางแผนชีวิต สุขภาพ และการเงิน เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน”
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
14/05/2025
ฮ่องกง, 30 เมษายน 2568 – กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสหลักทรัพย์: 1299) ประกาศผลประกอบการมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้นร้อยละ 13 คิดบนอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) สำหรับไตรมาสที่ 1 สิ้นสุด ณ วันที่ 31มีนาคม 2568อัตราการเติบโตรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่: • มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตร้อยละ 13 อยู่ที่ 1,497 ล้านเหรียญสหรัฐ • เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 อยู่ที่ 2,617 ล้านเหรียญสหรัฐ • อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 3.0 จุด เป็นร้อยละ 57.5 • กำไรจากการให้บริการตามสัญญาเนื่องจากธุรกิจใหม่ (NB CSM) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 • อัตราส่วนเงินทุนของผู้ถือหุ้นยังคงแข็งแกร่งอย่างไร้กังวลอยู่ที่เกินกว่าร้อยละ 200นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า เอไอเอยังคงรักษาผลงานและการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในปี 2567 ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับผลงานไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ความสามารถของเราในการคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่สร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนในระดับขนาดใหญ่เป็นผลโดยตรงมาจากรูปแบบธุรกิจที่หลากหลายและความยืดหยุ่นสูงในธุรกิจของเรา รวมถึงความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการของเอไอเอที่เพิ่มมากขึ้นโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราถือเป็นเสาหลักสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตของเราโดยส่งมอบมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) มากกว่าร้อยละ 75 ของกลุ่มบริษัททั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2568 เรายังคงขยายการเข้าถึงของเราอย่างต่อเนื่องด้วยการสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพสูงและแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยทำให้มีจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานเพิ่มขึ้นโดยรวม ร้อยละ 8 อีกทั้งรูปแบบโปรแกรม พรีเมียร์ เอเจนซี่ ที่แตกต่างของเรา ที่ได้มุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำได้ส่งผลให้ตัวแทนสร้างผลงานได้เพิ่มขึ้น และยังคงรักษาส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน“ความมุ่งมั่นของทีมผู้บริหารที่พิสูจน์แล้วของเราในการสร้างมูลค่าธุรกิจที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืนในระยะยาว และเรายังมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องในการดำเนินงานตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเรา ที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการส่งมอบผลงานที่ดีท่ามกลางตลาดทุนที่มีความผันผวนทั่วโลก และเข้าถึงปัจจัยกระตุ้นการเติบโตพื้นฐานที่แข็งแกร่งในเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของเราจะยังคงส่งมอบคุณค่าระยะยาวที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของเราทุกฝ่ายต่อไป” บทสรุปไตรมาสที่ 1เอไอเอมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 คิดเป็นมูลค่า 1,497 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 โดยมีผลมาจากทั้งช่องทางตัวแทนและช่องทางพันธมิตรธุรกิจของเราโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ที่เหนือชั้นและไม่มีใครเทียบได้ของเราทำให้มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตขึ้นร้อยละ 21 คิดเป็น 1,218 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งจากความคุ้มครองแบบดั้งเดิมและผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ การดำเนินการตามกลยุทธ์อย่างมีเป้าหมายของเราส่งผลให้ประสิทธิภาพของตัวแทนสูงขึ้น รวมถึงจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และจำนวนผู้สมัครตัวแทนใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 โดยช่องทางตัวแทนของเราคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าธุรกิจใหม่ทั้งหมดของกลุ่มบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2568มูลค่าธุรกิจใหม่จากช่องทางพันธมิตรธุรกิจของเราเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 คิดเป็นมูลค่า 397 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเรายังคงรักษาวินัยทางการเงินในช่องทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) และช่องทางโบรกเกอร์ของเอไอเอ ฮ่องกง รวมถึงการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านช่องทางธนาคารของเอไอเอ ประเทศจีน สำหรับนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ การขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านช่องทางธนาคารของเรามีอัตราการเติบโตร้อยละ 21 ของมูลค่าธุรกิจใหม่เอไอเอ ฮ่องกง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเรา มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งมากอีกไตรมาสหนึ่ง โดยมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตในกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่และลูกค้าในประเทศ เราประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในช่องทางพรีเมียร์ เอเจนซี่ และช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคาร โปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราเป็นผู้นำตลาดในฮ่องกงและมาเก๊า และกลยุทธ์ของเรายังคงผลักดันให้ตัวแทนที่สร้างผลงานเพิ่มขึ้น รวมถึงการสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพสูงและแข็งแกร่งมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ของ เอไอเอ ประเทศจีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ก่อนที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานทางเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับผลงานอันแข็งแกร่งที่เราได้รายงานในไตรมาสแรกของปี 2567 มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่ได้รวมอยู่ในรายงานผลประกอบการของกลุ่มบริษัทไตรมาสแรกของปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลจีน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 รวมถึงการปรับลดสมมติฐานผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวของเราลง 80 จุด ในช่วงสิ้นปี 2567 อีกด้วย เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบจะเห็นได้ว่ามูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2567 ในขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB Margin) สูงกว่าร้อยละ 50 ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้โปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเราผสมผสานคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณภาพสูงรวมเข้ากับการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่มลูกค้าชนชั้นกลางและลูกค้าที่มีฐานะดี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีฐานะมั่นคงทางเศรษฐกิจของเรา การฝึกอบรมเชิงรุกและความเป็นมืออาชีพของตัวแทนของเราเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของเราประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และผสมผสานผลิตภัณฑ์โดยรวมของเราได้อย่างสมดุล การสรรหาตัวแทนใหม่ยังคงแข็งแกร่ง โดยจำนวนตัวแทนใหม่ที่สร้างผลงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ส่งผลให้จำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานโดยรวม เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 6 ซึ่งส่งผลให้มีแรงผลักดันในการขายต่อไปมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) จากตัวแทนขายในภูมิภาคใหม่ที่เราก่อตั้งขึ้นในระหว่างปี 2562 ถึง 2566 เติบโตขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ในเดือนมีนาคมและเมษายนเราประสบความสำเร็จในการเปิดตัวการดำเนินงานใน 4 ภูมิภาคใหม่ ได้แก่ อานฮุย ซานตง ฉงชิ่ง และเจ้อเจียง ช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพกว่า 100 ล้านรายในกลุ่มเป้าหมายของเราเอไอเอ ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่โดดเด่นมาก โดยเราได้รับประโยชน์จากการขายแบบครั้งเดียวผ่านช่องทางตัวแทนก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพรายบุคคลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 นอกจากนี้ เรายังเห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งมากของมูลค่าธุรกิจใหม่ จากการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านช่องทางธนาคาร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเรากับธนาคารกรุงเทพในสิงคโปร์ เราประสบความสำเร็จด้วยการเติบโตอย่างยอดเยี่ยมของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) และยังคงเห็นยอดขายที่แข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) เพื่อการออมเงินระยะยาว ที่สามารถเข้าถึงผู้จัดการกองทุนระดับโลกผ่านแพลตฟอร์มกองทุนรวมระดับภูมิภาคของเอไอเอ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราซึ่งถือเป็นผู้นำตลาด ยังได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตที่เข้มแข็งอย่างมากในผลงานของตัวแทนเอไอเอ มาเลเซีย รายงานมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่สูงขึ้นจากการเติบโตที่ยอดเยี่ยมผ่านความร่วมมือทางกลยุทธ์กับ Public Bank ซึ่งบางส่วนถูกหักลบจากการลดลงของช่องทางตัวแทน ซึ่งเรายังคงมุ่งเน้นไปที่การสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพ ตลาดอื่น ๆ มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเพิ่มขึ้นของตลาดส่วนใหญ่ในกลุ่มธุรกิจนี้ บริษัทร่วมทุนของเราในอินเดียอย่าง Tata AIA Life ประสบความสำเร็จในการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่ยอดเยี่ยมด้วยประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งในแพลตฟอร์มการขายหลายช่องทาง และรักษาอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมในด้านการส่งมอบความคุ้มครองให้กับลูกค้าบุคคล คิดตามจำนวนเงินเอาประกันภัยในไตรมาสแรกของปี 2568โดยรวมแล้ว มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เป็น 1,497 ล้านเหรียญสหรัฐ เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เติบโตร้อยละ 7 เป็น 2,617 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 57.5 ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ ซึ่งถูกหักลบบางส่วนจากการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานทางเศรษฐกิจ อัตรากำไรที่รายงานตามมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) ยังคงเท่าเดิม ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เป็น 12,680 ล้านเหรียญสหรัฐกำไรจากการให้บริการตามสัญญาเนื่องจากธุรกิจใหม่ (NB CSM) สำหรับไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เติบโตเร็วกว่ามูลค่าของธุรกิจใหม่ (VONB) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ธุรกิจใหม่ที่มีกำไรเพิ่มเข้ามาเสริมรายได้ที่เกิดขึ้นประจำจากธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ทำให้เรามั่นใจในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้นที่ร้อยละ 9-11 จากปี 2566 ถึง 2569ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมมหภาคทั่วโลกและตลาดทุนจะยังคงผันผวน แต่ความแข็งแกร่งทางการเงินและความยืดหยุ่นของเอไอเอ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่มบริษัทมีความแตกต่าง อัตราส่วนเงินทุนของผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักของเราในการวัดเงินทุนโดยรวมและสถานะส่วนเกินของผู้ถือหุ้น ยังคงแข็งแกร่งและอยู่ที่ระดับสูงกว่าร้อยละ 200 อย่างไร้กังวล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 โปรแกรมซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐที่เราประกาศไปเมื่อไม่นานนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาสามเดือนจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้ว ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับวันที่ 31 มีนาคม 2567ภาพรวมแม้จะมีความผันผวนของตลาดทุนและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่การออมส่วนบุคคลในระดับสูง ประชากรสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น การเจาะตลาดประกันชีวิตที่ต่ำ และความคุ้มครองจากสวัสดิการที่จำกัด ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตเชิงโครงสร้างในเอเชีย และสร้างความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก การเติบโตที่แข็งแกร่งของเอไอเอในไตรมาสแรกของปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของเรา ความครอบคลุมและหลากหลายของตลาด ความแข็งแกร่งทางการเงิน และคุณภาพของบุคลากรของเรา นับเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของโอกาสทางธุรกิจในระยะยาวที่ยอดเยี่ยมของเอไอเอ ยิ่งไปกว่านั้น การจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเราได้เอื้อให้เราได้รับโอกาสสำคัญที่รออยู่ข้างหน้า เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่มีกำไร ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้ในอนาคตเพิ่มขึ้น รวมถึงการสร้างผลกำไรส่วนเกิน และมูลค่าผู้ถือหุ้นที่มากขึ้นด้วยรายงานพอร์ตโฟลิโอการลงทุนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นของเอไอเอ ถือเป็นตัวสร้างความแตกต่างและข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการบริหารพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและแนวทางการลงทุนที่ขับเคลื่อนโดยภาระผูกพันอันดับเครดิตเฉลี่ยของพอร์ตโฟลิโอตราสารหนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่ถือครองในส่วนของผู้ถือกรมธรรม์และผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ที่ระดับ A เมื่อเทียบกับสถานะ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 พอร์ตโฟลิโอหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี โดยมีผู้ออกหุ้นกู้มากกว่า 1,700 ราย และมีขนาดการถือครองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 39 ล้านเหรียญสหรัฐณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ตราสารหนี้ ทั้งหมดร้อยละ 2 ของพอร์ตโฟลิโอได้รับการจัดอันดับต่ำกว่าระดับลงทุนหรือไม่ได้รับการจัดอันดับ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับมูลค่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตราสารหนี้มูลค่าประมาณ 34 ล้านเหรียญหรัฐ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.02 ของพอร์ตโฟลิโอตราสารหนี้ทั้งหมดของเรา ได้รับการปรับลดระดับลงมาต่ำกว่าระดับลงทุนในไตรมาสแรกของปี 2568ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) สำหรับพอร์ตโฟลิโอตราสารหนี้ของเราลดลง 2 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2568 ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 463 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็นร้อยละ 0.5 ของพอร์ตโฟลิโอตราสารหนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ซึ่งสะท้อนถึงพอร์ตโฟลิโอการลงทุนคุณภาพสูงโดยรวมของเอไอเอณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ความเสี่ยงด้านการลงทุนของกลุ่มในจีนแผ่นดินใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือกรมธรรม์รายอื่นและผู้ถือหุ้น ได้แก่ เครื่องมือทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่น (LGFV) มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตราสารหนี้และตราสารทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่รวม LGFV)ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 พอร์ตโฟลิโอการลงทุนของเอไอเอ ประเทศจีน ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือกรมธรรม์รายอื่นและผู้ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 80 ถืออยู่ในตราสารหนี้ ในจำนวนนี้มากกว่าร้อยละ 90 เป็นพันธบัตรรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ อันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศโดยเฉลี่ยของพอร์ตโฟลิโอการลงทุนพันธบัตรผู้ถือกรมธรรม์รายอื่นและผู้ถือหุ้นของเอไอเอ ประเทศจีน ซึ่งยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับสถานะ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่ A+เราได้ให้รายละเอียดพอร์ตการลงทุนของกลุ่ม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ไว้ในภาคผนวก หน้า 9 -11อัปเดต BEPS 2.0 – ภาษีขั้นต่ำทั่วโลกภาษีเงินได้เสาหลักที่สอง ซึ่งเป็นเสาหลักที่สองของโครงการปฏิรูปภาษีนิติบุคคลระหว่างประเทศที่พัฒนาโดยองค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และมักเรียกกันว่า การโยกย้ายฐานภาษีและผลกำไรของกลุ่มบริษัทข้ามชาติ (BEPS) 2.0 มุ่งมั่นที่จะกำหนดอัตราภาษีที่แท้จริงขั้นต่ำที่มีผลบังคับใช้กับบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ในเขตอำนาจศาลแต่ละแห่งที่บริษัทดำเนินงานอยู่เขตอำนาจศาลหลายแห่งที่กลุ่มบริษัทดำเนินงานอยู่ รวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่และซึ่งกฎหมายภาษีเงินได้เสาหลักที่สองยังไม่ได้มีผลบังคับใช้เนื่องจากความไม่แน่นอนอย่างมากที่เกิดขึ้น ตัวเลขในประกาศนี้จึงไม่รวมผลกระทบใด ๆ จาก BEPS 2.0ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเอไอเอ ได้รับเบี้ยประกันส่วนใหญ่ในสกุลเงินท้องถิ่น และเราจับคู่สินทรัพย์และหนี้สินในประเทศอย่างใกล้ชิดเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อรายงานตัวเลขรวมของกลุ่ม จะมีผลกระทบต่อการแปลงสกุลเงินเนื่องจากเรารายงานเป็นดอลลาร์สหรัฐ เราได้ให้รายละเอียดอัตราการเติบโตและความคิดเห็นบนอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวช่วยให้เห็นภาพผลการดำเนินงานพื้นฐานของธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
14/05/2025
เอไอเอ ประเทศไทย โดย นายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก เป็นตัวแทนรับโล่ประกาศเกียรติคุณจาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี และนายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ในโอกาสที่เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ให้แก่เยาวชน 440 กรมธรรม์ และครูพี่เลี้ยงจำนวน 30 กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 470 กรมธรรม์ที่ร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 44 ซึ่งเยาวชนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา ให้เยาวชนได้เดินทางมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การอยู่ร่วมกันในกรุงเทพมหานคร และ 9 จังหวัดภาคกลางสำหรับนักเรียนจำนวน 320 คน และพื้นที่จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน จำนวน 120 คน ตลอดจนเพิ่มทักษะประสบการณ์ในการเรียนรู้ความเป็นผู้นำและผู้ตาม ในการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายของเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมที่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยกรมธรรม์มีระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุโดยในครั้งนี้เอไอเอได้มอบต่อเนื่องมาเป็นรุ่นที่ 4 เพื่อช่วยให้เยาวชน และครอบครัวของเยาวชนคลายความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในขณะที่เดินทางมาทำกิจกรรมและใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในพื้นที่ต่างภูมิลำเนา ซึ่งการมอบความคุ้มครองดังกล่าวยังตอกย้ำนโยบายด้านความยั่งยืน (ESG) ของเอไอเอ ที่เรามุ่งมั่นในการสนับสนุนให้คนไทยและผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ โดยพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณดังกล่าว จัดขึ้น ณ สโมสรทหารบก (ส่วนกลาง) วิภาวดี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
17/10/2024
30/04/2024
21/02/2025
30/07/2024
25/06/2024